ประสบการณ์จริง... ไปศาลครั้งแรก

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19931 โดย prm_pang

ความหวัง เขียน:

prm_pang เขียน: สอบถามค่ะ พอดีว่าแป้งก็ติดของอีซี่บายอยู่ค่ะ แล้วเพิ่งหยุดจ่ายได้ 2 เดือน เลยอยากสอบถามเพื่อเป็นแนวทางค่ะ

1. คุณหยุดจ่ายนานแค่ไหนคะกว่าจะได้ขึ้นศาล
2. แล้วไม่มีการตกลงกับทางอีซี่บายเรื่องการขอส่วนลดก่อนหรอคะ

ขอบคุณค่ะ


คุณแป้งค่ะ มดหยุดจ่ายอีซี่บายตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วค่ะ หมายศาลมาเมื่อต้นเดือน กรกฎาคม ค่ะ ประมาณ 9 เดือน ได้ค่ะ
แต่มดไม่รู้ว่ายอดเงินมีผลต่อการยื่นฟ้องหรือป่าวนะค่ะ ยอดเงินมดอยู่ที่ 161,xxx ได้ค่ะ

ส่วนเรื่องการตกลงมีค่ะ อีซี่บายเป็นเจ้าที่ทวงบ่อยที่สุด แต่จะเริ่มประมาณเดือนที่ 3 นะค่ะ ที่จะจิกเรามากมาก อันนี้ที่มดเจอนะค่ะ
เวลารับโทรสับก็ใจเย็น มีสตินะค่ะ อย่ากลัว แต่ส่วนมากอีซี่บายไม่ยอมให้ส่วนลดปิด จะหลอกล่อให้เราจ่ายหยอดเข้าไป
ขอย้ำเลยนะค่ะ อย่าจ่ายหยอดเด็ดขาด จะจ่ายก็ต่อเมื่อตกลงกันชัดเจนว่ายอดเท่าไหร่ ผ่อนได้กี่งวด งวดละเท่าไหร่ ไม่คิดดอกเบี้ยใช่ไหม
หรือให้เป็นยอดที่เรามีกำลังจะจ่าย และไม่โดนเอาเปรียบนะค่ะ

ของมดหลังจากกลับมาจากศาลก็ยังไม่ติดต่อมานะค่ะ กำลังจะปรึกษาอยู่เลยว่าควรจะติดต่อกลับไปดีไหม



ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล มีอะไรมา update เพื่อเป็นแนวทางด้วยนะคะ สู้ๆค่ะ :สู้ๆ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19940 โดย samuraigirl
ขอบคุณมากคะสำหรับข้อมูล เป็นกำลังให้คุณมดและเพื่อนๆในบอร์ดทุกคนนะคะ เราต้องผ่านมันไปให้ได้คะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20259 โดย ความหวัง
มาแล้วค่ะ ขอ Update หน่อยนะค่ะ หลังจากหายไปหลายวันเพราะมัวแต่ยุ่งกับงานกีฬาของที่บริษัท

มดสอบถามเพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจค่ะ
คำถาม : สำหรับ HSBC ตกลงเจรจากันแล้วได้ยอดที่เห็นสมควร แต่ขอเป็นการจ่ายสองครั้ง ตามเอกสารแนบ

เท่าที่มดศึกษาจากระทู้ต่างๆ น่าจะใช้ได้นะค่ะ แต่เอามาลงเพื่อเป็นตัวอย่างแล้วก็เพื่อความแน่ใจของตัวเองอีกครั้งค่ะ

[attachment:1]HSBC copy.jpg[/attachment]

ส่วนของเจ้าแรก Citibank จัดการไปให้เรียบร้อยหลังจากทวงมานานมากแล้ว แล้วขอถามหน่อยนะค่ะ

คำถาม : ได้เอกสารยืนยันการขอปิดบัญชีพร้อมระบุยอด แล้วเราจ่ายเรียบร้อยเก็บใบเสร็จไว้เรียบร้อย
ต้องขอเอกสารยืนยันการหมดภาระหนี้ (ไม่รู้เรียกถูกไหมนะค่ะ) ด้วยไหมค่ะ

ขอบคุณค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20262 โดย Ploylyly
ต้องขอเอกสารการสิ้นสุดภาระหนี้ด้วยครับ
เค้าจะส่งให้ 3 - 4 สัปดาห์

แต่ถ้าไม่ได้ก็เก็บใบยืนยันส่วนลด และใบเสร็จให้ดี ถ้าเป็นแบบคาร์บอนด์ก็ไปถ่ายเอกสารเลยและแม็กรวมเอาไว้ แค่นี้ก็ใช้ได้แล้วครับ


เยี่ยมไปเลย หมดไปอีกเจ้าแล้ว ยินดีด้วยครับ


ไม่พบไฟล์ที่แนบ HYT93ZCA1X0SSQCAAB374GCA9QFVCKCAFLXGCECAGQOL51CAC85MXBCADAIKH5CAKI304XCAXVSV12CAITNJIICAHU5G5VCAE459V6CAJG7E9PCAIA2IG1CAONFTYFCAE0N2UUCAUK02ZVCAQXT4SK_2012-08-28.jpg อาจจะถูกลบไปแล้ว

ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20282 โดย ความหวัง
[attachment:1]HSBC copy.jpg[/attachment]

ขอบคุณคุณ GOKU มากมากเลยค่ะ

เมื่อกี้แนบไฟล์แล้วไม่ขึ้น ขอลองแนบใหม่นะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20314 โดย phinkdevil
ของ phinkdevil ก็มีทั้งซิตี้และ อีซี่เลย ตอนนี้เริ่มหยุดได้ 1 เดือน ของซิตี้กี่เดือนคะถึงยื่นข้อเสนอลดให้ แล้วซิตี้ทำไมเค้าให้ส่วนลดน้อยจังคะของ phinkdevil เองเป็นหนี้ 7 หมื่น สิ้นปีได้โบนัสกะว่าจะปิดที่ 3-4 หมื่น แบบนี้ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าเค้าจะยอมไหม แต่ก็จะคอยเข้ามาตามเรื่อยๆ นะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20315 โดย phinkdevil
ลืมบอกไปว่าเก่งมากเลยที่กล้าไปศาลเองคนเดียว นี่แค่คิดว่าต้องถึงศาลก็หน้าถอดสี ขาสั่นแล้วคะ :sweat:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20351 โดย ความหวัง

phinkdevil เขียน: ของ phinkdevil ก็มีทั้งซิตี้และ อีซี่เลย ตอนนี้เริ่มหยุดได้ 1 เดือน ของซิตี้กี่เดือนคะถึงยื่นข้อเสนอลดให้ แล้วซิตี้ทำไมเค้าให้ส่วนลดน้อยจังคะของ phinkdevil เองเป็นหนี้ 7 หมื่น สิ้นปีได้โบนัสกะว่าจะปิดที่ 3-4 หมื่น แบบนี้ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าเค้าจะยอมไหม แต่ก็จะคอยเข้ามาตามเรื่อยๆ นะคะ


ใจเย็นนะค่ะ อย่าเพิ่งใจร้อน พยายามกลับไปอ่านกระทู้เยอะๆ แต่ละบัตรมีระยะเวลาการฟ้องไม่เท่ากันเลย

เราไม่ต้องไปสนใจว่าจะฟ้องเมื่อไหร่ แค่สนใจว่าถ้าเลือกที่จะ Hair cut แล้วก็ต้องเก็บเงินตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่มีใครการันตีได้หรอกค่ะว่าจะลดได้เท่าไหร่ ขออนุญาติยกตัวอย่างของตัวเองแล้วกันนะค่ะ

- พอตัดสินใจเลือกวิธี Hair Cut แล้วก็หยุดแล้วเก็บเงิน ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นเก็บเงินให้เป็นก้อนได้เยอะที่สุด แล้วก็รอเวลา
- สำหรับยอดแต่ละหนี้ ตัวมดเองคิดง่ายๆ คือ ยอดเงินที่กู้คือเท่าไหร่ แล้วก่อนที่จะหยุดจ่ายเราใช้เต็มวงเงินไหม เพราะเวลาที่จะปิดยอดแต่ละครั้งก็จะได้ยอดไม่เท่ากันส่วนลดไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น
วงเงินบัตรมี 50,000 บาท ใช้ไป 40,000 บาท ณ วันหยุดจ่ายคือยอดเท่าไหร่ จำยอดนั้นให้ดี แล้วเวลาพวกเจ้าหนี้ทวง ก็จะบอกยอดซึ่งรวมโน้นนี้นั้น ไม่สนใจ เพราะเราจะจ่ายมากสุดต้องต่ำกว่า 40,000 แน่นอน ต่อรองให้ได้มากที่สุดเพราะอาจจะลดได้เหลือ 20,000 หรือ 30,000 แล้วแต่จริงๆค่ะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูด้วยว่าเราเก็บเงินได้มากพอขนาดนั้นไหม ถ้าไม่พอ ก็จบไปเลย ห้ามไปตกลงจ่ายหยอด ค่อยๆจ่าย อย่าเด็ดขาด เพราะมันจะไม่จบ จะเข้าวงจรเดิม

ไม่รู้ว่าจะงงไหมนะค่ะ พยายามตอบตามความเข้าใจของเราเองนะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20353 โดย ความหวัง

phinkdevil เขียน: ลืมบอกไปว่าเก่งมากเลยที่กล้าไปศาลเองคนเดียว นี่แค่คิดว่าต้องถึงศาลก็หน้าถอดสี ขาสั่นแล้วคะ :sweat:


ไม่เก่งหรอกค่ะ ยอมรับว่ากลัวนะ แต่กลัวแล้วยังไง กลัวแล้วก็ไม่หมดหนี้ ปัญหาก็แก้ไม่ได้ แล้วก็คิดว่าเราไม่ได้โกงนะ เราไม่มีจ่ายจิงๆ ไม่ใช่ไม่จ่าย เราไม่ได้ฆ่าคนตาย ไม่ได้ทำร้ายใครสักหน่อย ไม่ได้ขโมยด้วย

ทางแบงค์ปล่อยให้เรากู้เอง แล้วตลอดระยะเวลาที่เราผ่อนจ่าย เค้าก็คิดดอกเบี้ยรวมไปเรียบร้อยแล้ว ยิ่งใครที่ผ่อนมานานอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ว่าที่ผ่อนอยู่นะคือดอกเบี้ยที่จ่ายให้เค้าไปตลอด

ย้ำ!!!!!!!!!!!!!! อ่านกระทู้เยอะๆ ค่ะ ช่วยตัวเองก่อน อย่ามัวแต่รอความช่วยเหลือจากคนอื่นค่ะ

สู้สู้นะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20357 โดย ความหวัง
มีคำถามอยากรบกวนถามคณะกรรมการ หน่อยนะค่ะ

1. สำหรับ อีซี่บายที่ไปขึ้นศาลมาแล้ว 1 ครั้งมีนัดขึ้นศาลรอบสองวันที่ 24 กันยานี้ อยากถามดังนี้นะค่ะ ตอนแรกคิดว่าอีซี่บายจะติดต่อกลับมา แต่นี้จะเดือนแล้วยังเงียบเลยต้องคิดแผนการสำรอง ถ้ายังไม่ได้รับการติดต่อมาข้อถามดังนี้นะค่ะ
ยอดเงินที่กู้ 141,xxx ยอดที่รวมดอกเบี้ย ณ วันขึ้นศาลคือ 167,xxx ยอดที่วันไปศาลนัดแรกคือ 151,xxx ผ่อนได้ 36 เดือนหยุดคิดดอกเบี้ย จ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาท อันนี้คือข้อเสนอที่แบงก์ให้

- สิ่งที่ยอมรับได้ (ถ้าจำเป็น) ยอมจ่ายจากยอดเงินกู้ที่ไม่รวมดอกเบี้ย และปลอดดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่ระบุ ถ้าหากมีเงินก้อนสามารถปิดได้เมื่อไหร่ ขอส่วนลด ณ ช่วงเวลานั้นจะเกิดขึ้นได้ไหมค่ะ

- ถ้าวันที่ไปศาลนัดที่สอง จริงๆ อยากไปหาคณะกรรมการ เพื่อใ้ห้ช่วยเขียนคำให้การให้ และคิดว่าน่าจะไปหาวันอาทิตย์ที่ 8 กันยานี้ (เปลี่ยนงานใหม่หาวันหยุดลำบาก เนื่องจากช่วงนี้งานเยอะมากค่ะ) ถ้าหากว่าไม่มีคำให้การแล้วไปขึ้นศาลนัดที่สองเลย หมายความว่าจะยอมรับเงื่อนไขที่แบงก์เสนอมาใช้ไหมค่ะ

- ถ้าหากไปศาลนัดสองทางทนายจะเข้ามายื่นแจ้งยอดกับเราเหมือนกับครั้งที่หนึ่งไหมค่ะ

ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ พยา่ยา่มเขียนคำถามให้กระชับและไม่งงแล้วจริงๆ ค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20374 โดย Nok2865
นโยบายของอิสิตอนนี้ เป็นแบบที่คุณได้รับจริงๆคือ ให้ผ่อนแบบปลอดดอก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท 36 เดือน (มีมากจ่ายมาก จะได้เป็นต้น)
หากเกิน 3 ปี จะคิดดอก 15% ต่อปี หากมีเงินก็ขอแฮร์คัทได้ตลอด (แฮร์คัททำได้ตลอดชีพค่ะ)
ถ้าคุณพอใจ ไม่อยากยืดเยื้อ มีหนี้ไม่หลายตัว คำนวณดูแล้วผ่อนไหว ก็ไกล่เกลี่ยไป แต่ก่อนจะเซ็นขอให้อ่านหนังสือประนีประนอมยอมความให้ละเอียด ดูสิว่า เขาเขียนตามที่ตกลงกันหรือไม่
หากคำพูดในหนังสือไม่ตรง ให้ทักท้วง และให้เสมียนศาลพิมพ์ใหม่ ก่อนเซ็น
หากตกลงไปแล้ว ต้องทำให้ได้ มิฉะนั้นโจทก์จะถือหนังสือประนีประนอมไปบังคับคดีได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำ
และหากจะไกล่เกลี่ย ต้องคิดเผื่อหนี้ตัวอื่นๆ หากเข้ากระบวนการฟ้อง รวมๆแล้วหากไกล่เกลี่ยเกิน 30% ให้อายัดดีกว่า
-ถ้าหากไปศาลนัดที่สอง หลังจากเลื่อนมาแล้ว หากไม่มีคำให้การเพื่อสู้คดี ศาลจะต้องพิพากษาเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ยอมรับข้อเสนอของอิสิ
ทางทนายอิสิ จะคุยกับคุณเหมือนครั้งแรก คุณก็ไปฟังว่ารับได้ไหม ถ้ารับได้ ก็ทำตามที่กอบัวบอกไปในข้อแรก
-ถ้าคุณคิดว่า ยังไม่อยากทำตามข้อเสนอของอิสิ ก็ต้องรีบไปหาคุณอาที่สวนลุม เพื่อยื่นคำให้การสู้คดีในนัดที่สอง แล้วศาลจะเลื่อนไปอีกเป็นนัดที่สาม นัดที่สามจะพิพากษาค่ะ
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อเวลา หรือมีข้อกฎหมาย มีช่องที่จะสู้โจทก์จริงๆ
ไม่เข้าใจตรงไหน ถามมาอีกครั้งได้ค่ะ ทำการบ้านเยอะๆดีแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ความหวัง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20377 โดย Nok2865

นกกระจอกเทศ เขียน: ขออนุญาตย้อนกลับมาดูที่ตัวเอกสารของสำนักงานทวงหนี้รายหนี้หน่อยเถอะ

ชื่อบริษัทอะไรวะ "เชย " ชะมัด...

พวกที่นึกอะไรไม่ออกว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรดี
ส่วนมากมักจะตั้งคำนำหน้าชื่อว่า"กอ"ขึ้นต้น เช่น กอทอง , กอไผ่ , กอกล้วย , กอหญ้า...กอบั...อะไรประมาณเนี๊ย
นี่แหละครับ...พวกที่ชอบใช้ชื่อคำขึ้นต้นว่า "กอ " ก็มักจะทำอะไร โก๊ะๆ เฉิ่มๆ แบบนี้แหละครับ


หมั่นไส้จริงๆ ว่าจะไม่เข้ามาตอบตรงนี้แล้วเชียว...
กอบัวหวังว่า สิ่งที่กอบัวตอบคุณความหวังไป
คงไม่โก๊ะๆ เฉิ่มๆ แบบตาลุงหนังเหี่ยว ว่าไปหรอกเน๊อะ...
ชื่อเราไทยๆจะตาย...เฉิ่มตรงไหนเนี้ย
พูดมากๆ เดี๋ยวแม่จะเอากอกล้วย กะ กออ้อย ฟาดหน้าซ่ะให้เข็ด ฮึ่ม...

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ความหวัง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20378 โดย ชายกลาง
5555พี่บัวของขึ้น

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20379 โดย 1652

กอบัว เขียน: นโยบายของอิสิตอนนี้ เป็นแบบที่คุณได้รับจริงๆคือ ให้ผ่อนแบบปลอดดอก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท 36 เดือน (มีมากจ่ายมาก จะได้เป็นต้น)
หากเกิน 3 ปี จะคิดดอก 15% ต่อปี หากมีเงินก็ขอแฮร์คัทได้ตลอด (แฮร์คัททำได้ตลอดชีพค่ะ)
ถ้าคุณพอใจ ไม่อยากยืดเยื้อ มีหนี้ไม่หลายตัว คำนวณดูแล้วผ่อนไหว ก็ไกล่เกลี่ยไป แต่ก่อนจะเซ็นขอให้อ่านหนังสือประนีประนอมยอมความให้ละเอียด ดูสิว่า เขาเขียนตามที่ตกลงกันหรือไม่
หากคำพูดในหนังสือไม่ตรง ให้ทักท้วง และให้เสมียนศาลพิมพ์ใหม่ ก่อนเซ็น
หากตกลงไปแล้ว ต้องทำให้ได้ มิฉะนั้นโจทก์จะถือหนังสือประนีประนอมไปบังคับคดีได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำ
และหากจะไกล่เกลี่ย ต้องคิดเผื่อหนี้ตัวอื่นๆ หากเข้ากระบวนการฟ้อง รวมๆแล้วหากไกล่เกลี่ยเกิน 30% ให้อายัดดีกว่า
-ถ้าหากไปศาลนัดที่สอง หลังจากเลื่อนมาแล้ว หากไม่มีคำให้การเพื่อสู้คดี ศาลจะต้องพิพากษาเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ยอมรับข้อเสนอของอิสิ
ทางทนายอิสิ จะคุยกับคุณเหมือนครั้งแรก คุณก็ไปฟังว่ารับได้ไหม ถ้ารับได้ ก็ทำตามที่กอบัวบอกไปในข้อแรก
-ถ้าคุณคิดว่า ยังไม่อยากทำตามข้อเสนอของอิสิ ก็ต้องรีบไปหาคุณอาที่สวนลุม เพื่อยื่นคำให้การสู้คดีในนัดที่สอง แล้วศาลจะเลื่อนไปอีกเป็นนัดที่สาม นัดที่สามจะพิพากษาค่ะ
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อเวลา หรือมีข้อกฎหมาย มีช่องที่จะสู้โจทก์จริงๆ
ไม่เข้าใจตรงไหน ถามมาอีกครั้งได้ค่ะ ทำการบ้านเยอะๆดีแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

คุณกอบัวคะ ในกรณีที่เราตกงานแล้วเราก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย ถ้าเราไปศาล เราก็บอกให้ศาลตัดสินเลยหรือปล่าวคะ เพราะถ้าขอเลื่อนนัดยังไงเราก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว ศาลเค้าจะพิจารณากรมบังคับคดีเลยหรือปล่าวคะ เพราะไม่มีอะไรให้ยึดคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20382 โดย ชายกลาง
เมื่ออายัดทรัพย์สินก็ไม่ได้...อายัดเงินเดือนก็ไม่ได้ หนี้ต่างๆ ของลูกหนี้หรือจำเลยที่ถูกศาลพิพากษา ก็จะถูกแขวนลอยเอาไว้เฉยๆ (หรือที่เรียกว่าถูก"แขวนหนี้")...และถ้าหากระยะเวลาในการ"แขวนหนี้" ผ่านพ้น10 ปีไปแล้ว หนี้ตัวนี้ก็จะ"หมดอายุความ"ในการอายัดจากทางเจ้าหนี้

อายุความในการบังคับคดี (ยึดทรัพย์ + อายัดเงินเดือน)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1296&Itemid=29

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20387 โดย 1652

ชายกลาง เขียน: เมื่ออายัดทรัพย์สินก็ไม่ได้...อายัดเงินเดือนก็ไม่ได้ หนี้ต่างๆ ของลูกหนี้หรือจำเลยที่ถูกศาลพิพากษา ก็จะถูกแขวนลอยเอาไว้เฉยๆ (หรือที่เรียกว่าถูก"แขวนหนี้")...และถ้าหากระยะเวลาในการ"แขวนหนี้" ผ่านพ้น10 ปีไปแล้ว หนี้ตัวนี้ก็จะ"หมดอายุความ"ในการอายัดจากทางเจ้าหนี้

อายุความในการบังคับคดี (ยึดทรัพย์ + อายัดเงินเดือน)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1296&Itemid=29

ทราบคะ ว่าจะมีอายุ 10 ปีความหลังจากศาลตัดสินแต่ตอนไปขึ้นศาล บางคนก็ขอเลือนเพื่อไปตกลงกับเจ้าหนี้ใหม่เพื่อขอส่วนลด บางคนก็ยังไม่มี แต่เราจะบอกศาลว่ายังไงคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20390 โดย Nok2865

1652 เขียน: คุณกอบัวคะ ในกรณีที่เราตกงานแล้วเราก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย ถ้าเราไปศาล เราก็บอกให้ศาลตัดสินเลยหรือปล่าวคะ เพราะถ้าขอเลื่อนนัดยังไงเราก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว ศาลเค้าจะพิจารณากรมบังคับคดีเลยหรือปล่าวคะ เพราะไม่มีอะไรให้ยึดคะ

การบังคับคดี และการแขวนหนี้ ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ "ศาล" นะคะ
แต่เป็นหน้าที่ของ "กรมบังคับคดี"
คุณลองไปอ่านลิงค์ที่น้องชายกาง เอ๊ย...ชายกลาง แปะให้อีกที
ส่วนเรื่องที่คุณ 1652 ถามว่า ไปศาลแล้วให้ศาลตัดสินเลยได้ไหม? ในกรณีของคุณ ไม่มีอะไรสักอย่างให้เจ้าหนี้ยึดหรืออายัด ให้ศาลพิพากษาไปเลยก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องไปเลื่อนให้เสียเวลา ขอความเมตตาท่านเรื่องดอกเบี้ยก็พอว่า ให้ท่านดูเรื่องดอกเบี้ยให้ด้วยนะคะ
แล้วบอกท่านว่า ให้พิพากษาไปเลย แต่ขอไปรอฟังคำพิพากษาที่บ้าน
เพราะถ้ารอฟังตรงหน้าบัลลังก์ จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาเลยภายใน 15 วันนับจากที่ยืนฟัง

กรณีของคุณ 1652 จะยืนฟัง นอนฟังที่บ้าน ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะคุณไม่มีอะไรให้เจ้าหนี้ยึด
งานนี้เจ้าหนี้นอนร้องไห้อย่างเดียวเลยค่ะ
บัวเพิ่มเติมอีกนิดว่า วันข้างหน้าชีวิตคนเราไม่แน่ คุณอาจจะลืมตาอ้าปากได้ อยากจะใช้หนี้ เมื่อถึงเวลานั้นก็ขอให้ใช้หนี้คืนเขาเสีย จะได้ไม่ติดตามตัวเราไปชาติหน้า
วันนี้...ขอเป็นกำลังใจให้คุณ อย่าคิดมาก มีชีวิตอย่างมีความสุขในปัจจุบันก็พอค่ะ


มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ชายกลาง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20392 โดย 1652

กอบัว เขียน:

1652 เขียน: คุณกอบัวคะ ในกรณีที่เราตกงานแล้วเราก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย ถ้าเราไปศาล เราก็บอกให้ศาลตัดสินเลยหรือปล่าวคะ เพราะถ้าขอเลื่อนนัดยังไงเราก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว ศาลเค้าจะพิจารณากรมบังคับคดีเลยหรือปล่าวคะ เพราะไม่มีอะไรให้ยึดคะ

การบังคับคดี และการแขวนหนี้ ไม่ได้เป็นหน้าที่ของ "ศาล" นะคะ
แต่เป็นหน้าที่ของ "กรมบังคับคดี"
คุณลองไปอ่านลิงค์ที่น้องชายกาง เอ๊ย...ชายกลาง แปะให้อีกที
ส่วนเรื่องที่คุณ 1652 ถามว่า ไปศาลแล้วให้ศาลตัดสินเลยได้ไหม? ในกรณีของคุณ ไม่มีอะไรสักอย่างให้เจ้าหนี้ยึดหรืออายัด ให้ศาลพิพากษาไปเลยก็ได้ค่ะ
ไม่ต้องไปเลื่อนให้เสียเวลา ขอความเมตตาท่านเรื่องดอกเบี้ยก็พอว่า ให้ท่านดูเรื่องดอกเบี้ยให้ด้วยนะคะ
แล้วบอกท่านว่า ให้พิพากษาไปเลย แต่ขอไปรอฟังคำพิพากษาที่บ้าน
เพราะถ้ารอฟังตรงหน้าบัลลังก์ จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาเลยภายใน 15 วันนับจากที่ยืนฟัง

กรณีของคุณ 1652 จะยืนฟัง นอนฟังที่บ้าน ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะคุณไม่มีอะไรให้เจ้าหนี้ยึด
งานนี้เจ้าหนี้นอนร้องไห้อย่างเดียวเลยค่ะ
บัวเพิ่มเติมอีกนิดว่า วันข้างหน้าชีวิตคนเราไม่แน่ คุณอาจจะลืมตาอ้าปากได้ อยากจะใช้หนี้ เมื่อถึงเวลานั้นก็ขอให้ใช้หนี้คืนเขาเสีย จะได้ไม่ติดตามตัวเราไปชาติหน้า
วันนี้...ขอเป็นกำลังใจให้คุณ อย่าคิดมาก มีชีวิตอย่างมีความสุขในปัจจุบันก็พอค่ะ

ขอบคุณมากคะ ที่จริงพี่ๆเค้าจะจ่ายให้แต่เราเห็นว่า ตั้งหลายแสน แล้วตอนนี้เค้าก็ให้เงินใช้ทุกเดือน ถ้าเอาของเค้ามา ครอบครัวเค้าคงไม่พอใจ คิดว่า ขอเวลาระยะนึงแล้วขอทุนเค้าไปค้าขายแล้ว ค่อยผ่อนชำระคืนเจ้าหนี้คะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20410 โดย ความหวัง

กอบัว เขียน:

นกกระจอกเทศ เขียน: ขออนุญาตย้อนกลับมาดูที่ตัวเอกสารของสำนักงานทวงหนี้รายหนี้หน่อยเถอะ

ชื่อบริษัทอะไรวะ "เชย " ชะมัด...

พวกที่นึกอะไรไม่ออกว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรดี
ส่วนมากมักจะตั้งคำนำหน้าชื่อว่า"กอ"ขึ้นต้น เช่น กอทอง , กอไผ่ , กอกล้วย , กอหญ้า...กอบั...อะไรประมาณเนี๊ย
นี่แหละครับ...พวกที่ชอบใช้ชื่อคำขึ้นต้นว่า "กอ " ก็มักจะทำอะไร โก๊ะๆ เฉิ่มๆ แบบนี้แหละครับ


หมั่นไส้จริงๆ ว่าจะไม่เข้ามาตอบตรงนี้แล้วเชียว...
กอบัวหวังว่า สิ่งที่กอบัวตอบคุณความหวังไป
คงไม่โก๊ะๆ เฉิ่มๆ แบบตาลุงหนังเหี่ยว ว่าไปหรอกเน๊อะ...
ชื่อเราไทยๆจะตาย...เฉิ่มตรงไหนเนี้ย
พูดมากๆ เดี๋ยวแม่จะเอากอกล้วย กะ กออ้อย ฟาดหน้าซ่ะให้เข็ด ฮึ่ม...


ไม่อยากบอกเลยว่าตอนแรกที่ คุณนกกระจอกเทศพิมอะค่ะ แอบนึกถึงพี่กอบัวเลยว่า จะมาไหม จะมาไหม รออยู่หลายวันเห็นไม่มาคิดว่ารอดแล้วแน่ๆ
5555 แต่ที่ไหนได้ มาแว้ววววววว

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #20415 โดย ความหวัง

กอบัว เขียน: นโยบายของอิสิตอนนี้ เป็นแบบที่คุณได้รับจริงๆคือ ให้ผ่อนแบบปลอดดอก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท 36 เดือน (มีมากจ่ายมาก จะได้เป็นต้น)
หากเกิน 3 ปี จะคิดดอก 15% ต่อปี หากมีเงินก็ขอแฮร์คัทได้ตลอด (แฮร์คัททำได้ตลอดชีพค่ะ)
ถ้าคุณพอใจ ไม่อยากยืดเยื้อ มีหนี้ไม่หลายตัว คำนวณดูแล้วผ่อนไหว ก็ไกล่เกลี่ยไป แต่ก่อนจะเซ็นขอให้อ่านหนังสือประนีประนอมยอมความให้ละเอียด ดูสิว่า เขาเขียนตามที่ตกลงกันหรือไม่
หากคำพูดในหนังสือไม่ตรง ให้ทักท้วง และให้เสมียนศาลพิมพ์ใหม่ ก่อนเซ็น
หากตกลงไปแล้ว ต้องทำให้ได้ มิฉะนั้นโจทก์จะถือหนังสือประนีประนอมไปบังคับคดีได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำ


หลังจากอ่านทวนคำตอบของพี่กอบัวแล้ว ห้ารอบเป็นอย่างต่ำ ขอสรุปอย่างนี้ได้ไหมค่ะ

1. ถ้านโยบายอีซี่เป็นแบบให้ผ่อนแบบปลอดดอก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท 36 เดือน (มีมากจ่ายมาก จะได้เป็นต้น)
หากเกิน 3 ปี จะคิดดอก 15% ต่อปี หากมีเงินก็ขอแฮร์คัทได้ตลอด
- ถ้าคิดจากยอดเงินต้นที่เราเอามา 141,xxx / 3 ปี / 12 เดือน = ผ่อนเดือนละ 3,920 บาทอย่างต่ำทุกเดือนเป็นเวลา 3 ปี(ห้ามขาดเด็ดขาด ยกเว้นถ้ามีเงินก้อนก็จ่ายมากกว่า)
ยอมรับนะค่ะ ว่าเป็นยอดที่หนักพอสมควรเลย แต่ที่ถามเพราะยอดนี้เป็นยอดที่สูงที่สุดในบรรดายอดที่มีค่ะ เพราะที่เหลืออยู่เป็นหลัก 5x,xxx (อาจน้อยกว่านี้ถ้าเจรจาขอปิดได้)
ซึ่งมีโอกาสจะรวบเป็นเงินก้อนได้เร็วกว่า (อันนี้คือในมุมของเราคนเดียวนะค่ะ แต่คงต้องคิดดีดีก่อน)

2. ข้อถามเพิ่มเติมนะค่ะ ถ้าสมมติว่าเรามีตัวเลขในใจที่เดือนละ 2,000 หรือ 3,000 บาทต่อเดือนตลอด 3 ปี (จะเป็นเงิน 72,000 กับ 108,000)
เราสามารถโทรไปข้อเจรจาก่อนที่จะไปขึ้นศาลนัดสองได้ไหมค่ะ อันนี้ในกรณีที่ถ้าทางอีซี่ยอม ซึ่งไม่รู้ว่าจะให้หรือป่าว ควรจะโทรไปก่อนดีไหมค่ะ
เพราะตั้งแต่ไปขึ้นศาล ไม่เห็นโทรมาทวงหรือมายื่นข้อเสนออะไรอีกเลยอะค่ะ

ต้องขอบคุณพี่กอบัวจริงๆ นะค่ะ พยายามอ่านให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยตั้งคำถาม เพื่อไม่ให้มันไปเป็นคำถามที่ถามกันอยู่แล้วในบอร์ด จะได้เป็นความรู้เพิ่มเติม
ให้กับคนอื่นๆ ด้วย อย่าเพิ่งรำคาญนะค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.887 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena