ประสบการณ์จริง... ไปศาลครั้งแรก

พี่บัวอาจจะเขียนไม่ชัด
ตอนนี้นโยบายอิสิบาย เขาให้ผ่อนได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เป็นเวลา 36 งวด และปลอดดอก
คือคุณจะผ่อนเท่าไหร่ก็ได้ 1,001 บาท 1,002 บาท ก็ได้ แต่อย่าต่ำกว่า 1,000 บาท
ไม่ต้องไปถึง 3,920 บาท ตามที่คุณคำนวณหรอก
ในความคิดเห็นของพี่บัวคนเดียว และสำหรับเคสของคุณนะคะ (เคสอื่นๆ ต้องดูเหตุประกอบด้วย)
หนี้ตัวนี้หนักสุดสำหรับคุณ ก็ผ่อนแบบสบายๆไปก่อน เก็บเงินที่อดออมไปจ่ายตัวที่ยอดหนี้น้อยกว่านี้ ส่วนลดดีกว่านี้
พยายาม Delete หนี้ออกไปทีละตัว ทีละตัว
พร้อมเมื่อไหร่ เราก็หันมาจัดการอิสิบายอีกครั้ง
หากคุณความหวัง มีความมุ่งมั่นมากพอ มีรายได้เพิ่มขึ้น เราก็จ่ายคืนให้อิสิมากกว่าเดือนละ 1,000 บาท (จะได้เป็นต้นมากๆ) ปลายทางการแฮร์คัทจะได้มียอดเหลือน้อยๆ
สำหรับการจะโทรไปเจรจา โทรไปเถอะค่ะ ไม่เสียหายอะไร ไม่เหมือนเจรจาขอแฮร์คัท นี่เป็นการขอนโยบายเขาว่า มีการประนีประนอมเราได้ที่เท่าไหร่
เราจะได้รู้แนวทางคร่าวๆ ก่อนไปศาล ตอดเล็กตอดน้อยขอตามที่พี่บัวบอกไปก็ได้ค่ะ
เพราะกรรมการรับรู้ข้อมูลเบื้องลึก เบื้องหลังของแต่ละสถาบันพอสมควรว่า นโยบายเขาเป็นยังไง
บางทีได้จากการบอกเล่าหลังไมค์ของสมาชิก ได้จากกรรมการบอกกันและกัน และไปดูผลประกอบการของบริษัทการเงินนั้นๆ
ดีแล้วค่ะ สงสัยอะไรก็ถาม บางทีกรรมการท่านอื่นๆ พี่ๆ กูรูอื่นๆก็อาจจะเข้ามาเสริมอีกด้าน
ขอให้ได้ดั่งใจหวังนะคะ
ปล.วันนี้ลุงนกไม่อยู่ กอบัวเลยถือโอกาสถล่มทะลายเละเทะ คนแบบนี้ขืนกลัวก็ได้ใจ ต้องแผดเสียงเข้าไว้ 555++ ม่ายช่ายค่ะ...ตัวจริงพี่นก ใจดีค่ะ ทนฟังเสียงน้องแว้ดๆไม่ไหวหรอก อิ...อิ...

ความหวัง เขียน:

กอบัว เขียน: นโยบายของอิสิตอนนี้ เป็นแบบที่คุณได้รับจริงๆคือ ให้ผ่อนแบบปลอดดอก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท 36 เดือน (มีมากจ่ายมาก จะได้เป็นต้น)
หากเกิน 3 ปี จะคิดดอก 15% ต่อปี หากมีเงินก็ขอแฮร์คัทได้ตลอด (แฮร์คัททำได้ตลอดชีพค่ะ)
ถ้าคุณพอใจ ไม่อยากยืดเยื้อ มีหนี้ไม่หลายตัว คำนวณดูแล้วผ่อนไหว ก็ไกล่เกลี่ยไป แต่ก่อนจะเซ็นขอให้อ่านหนังสือประนีประนอมยอมความให้ละเอียด ดูสิว่า เขาเขียนตามที่ตกลงกันหรือไม่
หากคำพูดในหนังสือไม่ตรง ให้ทักท้วง และให้เสมียนศาลพิมพ์ใหม่ ก่อนเซ็น
หากตกลงไปแล้ว ต้องทำให้ได้ มิฉะนั้นโจทก์จะถือหนังสือประนีประนอมไปบังคับคดีได้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องซ้ำ

หลังจากอ่านทวนคำตอบของพี่กอบัวแล้ว ห้ารอบเป็นอย่างต่ำ ขอสรุปอย่างนี้ได้ไหมค่ะ

1. ถ้านโยบายอีซี่เป็นแบบให้ผ่อนแบบปลอดดอก เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท 36 เดือน (มีมากจ่ายมาก จะได้เป็นต้น)
หากเกิน 3 ปี จะคิดดอก 15% ต่อปี หากมีเงินก็ขอแฮร์คัทได้ตลอด
- ถ้าคิดจากยอดเงินต้นที่เราเอามา 141,xxx / 3 ปี / 12 เดือน = ผ่อนเดือนละ 3,920 บาทอย่างต่ำทุกเดือนเป็นเวลา 3 ปี(ห้ามขาดเด็ดขาด ยกเว้นถ้ามีเงินก้อนก็จ่ายมากกว่า)
ยอมรับนะค่ะ ว่าเป็นยอดที่หนักพอสมควรเลย แต่ที่ถามเพราะยอดนี้เป็นยอดที่สูงที่สุดในบรรดายอดที่มีค่ะ เพราะที่เหลืออยู่เป็นหลัก 5x,xxx (อาจน้อยกว่านี้ถ้าเจรจาขอปิดได้)
ซึ่งมีโอกาสจะรวบเป็นเงินก้อนได้เร็วกว่า (อันนี้คือในมุมของเราคนเดียวนะค่ะ แต่คงต้องคิดดีดีก่อน)

เห็นว่า เขาเสนอมา 151000 (รวมทุกอย่างครบเขาฉลาดอยู่แล้ว) ให้ผ่อน 36 งวดๆ ละไม่ต่ำกว่า
1000 บาท ไม่ใช่หรือค่ะ เขาไม่เอาเงินต้นมาให้ผ่อน 0 % หรอกค่ะ =ต่อเดือน 4200 บาท
เป็นระยะเวลา 36 งวด แต่ ถ้าคุณผ่อนขั้นต่ำ 1000 x36 = 36000 พอครบปีที่3 หรืองวดที่
36 คุณต้องจ่ายที่เหลือให้หมด ซึ่ง =115000 ถึงตอนนั้น คุณอาจจะขอส่วนลดจาดยอดที่
เหลือได้ หรืออาจไม่ได้ แล้วแต่เจ้าหนี้ค่ะ ถ้าหาเงินมาปิดไม่ได้ เขาก็กลับไปคิดดอกเบี้ย
ที่ 15% ของ 115000 บาท ต่อให้คุณชำระ จนหมดหนี้ค่ะ



2. ข้อถามเพิ่มเติมนะค่ะ ถ้าสมมติว่าเรามีตัวเลขในใจที่เดือนละ 2,000 หรือ 3,000 บาทต่อเดือนตลอด 3 ปี (จะเป็นเงิน 72,000 กับ 108,000)
เราสามารถโทรไปข้อเจรจาก่อนที่จะไปขึ้นศาลนัดสองได้ไหมค่ะ อันนี้ในกรณีที่ถ้าทางอีซี่ยอม ซึ่งไม่รู้ว่าจะให้หรือป่าว ควรจะโทรไปก่อนดีไหมค่ะ
เพราะตั้งแต่ไปขึ้นศาล ไม่เห็นโทรมาทวงหรือมายื่นข้อเสนออะไรอีกเลยอะค่ะ

จะเสนออะไรก็ได้ค่ะ แต่จะยอมรับหรือไม่ขึ้นกับทางเขา หลักของการขอ คือ
หากอยากลดมาก ต้องไม่ผ่อน หากขอผ่อน ก็จะได้ส่วนลดน้อยตามค่ะ แต่ถ้าผ่อน
นาน 36 งวด เขาคงฉลาดพอที่จะไม่ลดต่ำกว่าต้นเงินหรอกค่ะ เพราะฉะนั้น ที่คุณ
จะขอลดเหลือ 72000 หรือ 108000 แล้วผ่อนตั้ง 36 งวด เป็นไปได้สูงว่า ไม่ยอมค่ะ


ต้องขอบคุณพี่กอบัวจริงๆ นะค่ะ พยายามอ่านให้ละเอียดก่อนแล้วค่อยตั้งคำถาม เพื่อไม่ให้มันไปเป็นคำถามที่ถามกันอยู่แล้วในบอร์ด จะได้เป็นความรู้เพิ่มเติม
ให้กับคนอื่นๆ ด้วย อย่าเพิ่งรำคาญนะค่ะ

ขออนุญาติมาตอบแทนคุณกอบัว จากกอแก้วจ๋าค่ะ

กอบัว เขียน: -ถ้าหากไปศาลนัดที่สอง หลังจากเลื่อนมาแล้ว หากไม่มีคำให้การเพื่อสู้คดี ศาลจะต้องพิพากษาเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะยอมรับหรือไม่ยอมรับข้อเสนอของอิสิ
ทางทนายอิสิ จะคุยกับคุณเหมือนครั้งแรก คุณก็ไปฟังว่ารับได้ไหม ถ้ารับได้ ก็ทำตามที่กอบัวบอกไปในข้อแรก

ขอบคุณค่ะ จะค่อยๆ อ่านแล้วลองพิจารณาดูค่ะ เป็นคำถามที่ดูโง่มาก แต่อยากรู้ว่า มีโอกาสไหมค่ะ ที่ยอดส่วนลดจะได้มากกว่าครั้งแรก

ถ้าคุณคิดว่า ยังไม่อยากทำตามข้อเสนอของอิสิ ก็ต้องรีบไปหาคุณอาที่สวนลุม เพื่อยื่นคำให้การสู้คดีในนัดที่สอง แล้วศาลจะเลื่อนไปอีกเป็นนัดที่สาม นัดที่สามจะพิพากษาค่ะ
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อเวลา หรือมีข้อกฎหมาย มีช่องที่จะสู้โจทก์จริงๆ
ไม่เข้าใจตรงไหน ถามมาอีกครั้งได้ค่ะ ทำการบ้านเยอะๆดีแล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ขอบคุณนะค่ะ คิดว่าจะได้ไปหาคุณอาที่สวนลุมแน่แน่ค่ะ จะได้เห็นหน้าตากันไว้ค่ะ อย่างน้อยจะได้เพิ่มความรู้ให้ตัวเองอีกด้วยเพราะบางทีอาจมีคำถาม
หรือเรื่องที่เราคิดไม่ถึงอีก

กอบัว เขียน: พี่บัวอาจจะเขียนไม่ชัด
ตอนนี้นโยบายอิสิบาย เขาให้ผ่อนได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เป็นเวลา 36 งวด และปลอดดอก
คือคุณจะผ่อนเท่าไหร่ก็ได้ 1,001 บาท 1,002 บาท ก็ได้ แต่อย่าต่ำกว่า 1,000 บาท
ไม่ต้องไปถึง 3,920 บาท ตามที่คุณคำนวณหรอก
ในความคิดเห็นของพี่บัวคนเดียว และสำหรับเคสของคุณนะคะ (เคสอื่นๆ ต้องดูเหตุประกอบด้วย)
หนี้ตัวนี้หนักสุดสำหรับคุณ ก็ผ่อนแบบสบายๆไปก่อน เก็บเงินที่อดออมไปจ่ายตัวที่ยอดหนี้น้อยกว่านี้ ส่วนลดดีกว่านี้
พยายาม Delete หนี้ออกไปทีละตัว ทีละตัว
พร้อมเมื่อไหร่ เราก็หันมาจัดการอิสิบายอีกครั้ง
หากคุณความหวัง มีความมุ่งมั่นมากพอ มีรายได้เพิ่มขึ้น เราก็จ่ายคืนให้อิสิมากกว่าเดือนละ 1,000 บาท (จะได้เป็นต้นมากๆ) ปลายทางการแฮร์คัทจะได้มียอดเหลือน้อยๆ
สำหรับการจะโทรไปเจรจา โทรไปเถอะค่ะ ไม่เสียหายอะไร ไม่เหมือนเจรจาขอแฮร์คัท นี่เป็นการขอนโยบายเขาว่า มีการประนีประนอมเราได้ที่เท่าไหร่
เราจะได้รู้แนวทางคร่าวๆ ก่อนไปศาล ตอดเล็กตอดน้อยขอตามที่พี่บัวบอกไปก็ได้ค่ะ
เพราะกรรมการรับรู้ข้อมูลเบื้องลึก เบื้องหลังของแต่ละสถาบันพอสมควรว่า นโยบายเขาเป็นยังไง
บางทีได้จากการบอกเล่าหลังไมค์ของสมาชิก ได้จากกรรมการบอกกันและกัน และไปดูผลประกอบการของบริษัทการเงินนั้นๆ
ดีแล้วค่ะ สงสัยอะไรก็ถาม บางทีกรรมการท่านอื่นๆ พี่ๆ กูรูอื่นๆก็อาจจะเข้ามาเสริมอีกด้าน
ขอให้ได้ดั่งใจหวังนะคะ
ปล.วันนี้ลุงนกไม่อยู่ กอบัวเลยถือโอกาสถล่มทะลายเละเทะ คนแบบนี้ขืนกลัวก็ได้ใจ ต้องแผดเสียงเข้าไว้ 555++ ม่ายช่ายค่ะ...ตัวจริงพี่นก ใจดีค่ะ ทนฟังเสียงน้องแว้ดๆไม่ไหวหรอก อิ...อิ...

พยายามจะตัดประเด็นสำคัญของพี่กอบัวออก แต่ไม่สามารถตัดได้เลยอะค่ะ อ่านซ้ำไปซ้ำมา จนรู้สึกมั่นใจแล้วว่าจะต้องทำอันไหนก่อน อันไหนหลัง
รู้สึกมีกำลังใจ มากมายเลยค่ะ ที่สำคัญจะต้องไปสวนลุมไปพบคุณอาให้ได้ในเร็ววันนี้ ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะพี่กอบัว น่ารักที่สุดเลย

kaewja เขียน: เห็นว่า เขาเสนอมา 151000 (รวมทุกอย่างครบเขาฉลาดอยู่แล้ว) ให้ผ่อน 36 งวดๆ ละไม่ต่ำกว่า
1000 บาท ไม่ใช่หรือค่ะ เขาไม่เอาเงินต้นมาให้ผ่อน 0 % หรอกค่ะ =ต่อเดือน 4200 บาท
เป็นระยะเวลา 36 งวด แต่ ถ้าคุณผ่อนขั้นต่ำ 1000 x36 = 36000 พอครบปีที่3 หรืองวดที่
36 คุณต้องจ่ายที่เหลือให้หมด ซึ่ง =115000 ถึงตอนนั้น คุณอาจจะขอส่วนลดจาดยอดที่
เหลือได้ หรืออาจไม่ได้ แล้วแต่เจ้าหนี้ค่ะ ถ้าหาเงินมาปิดไม่ได้ เขาก็กลับไปคิดดอกเบี้ย
ที่ 15% ของ 115000 บาท ต่อให้คุณชำระ จนหมดหนี้ค่ะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ จริงๆทางเราก็คิดว่าเค้าไม่มีทางให้ผ่อนแต่ต้นแน่ๆ พออ่านของพี่กอบัวอีกครั้งได้ทางสว่างแล้วหล่ะค่ะอย่างๆ น้อยๆ ก็หนึ่งทาง

kaewja เขียน: จะเสนออะไรก็ได้ค่ะ แต่จะยอมรับหรือไม่ขึ้นกับทางเขา หลักของการขอ คือ
หากอยากลดมาก ต้องไม่ผ่อน หากขอผ่อน ก็จะได้ส่วนลดน้อยตามค่ะ แต่ถ้าผ่อน
นาน 36 งวด เขาคงฉลาดพอที่จะไม่ลดต่ำกว่าต้นเงินหรอกค่ะ เพราะฉะนั้น ที่คุณ
จะขอลดเหลือ 72000 หรือ 108000 แล้วผ่อนตั้ง 36 งวด เป็นไปได้สูงว่า ไม่ยอมค่ะ

ขออนุญาติมาตอบแทนคุณกอบัว จากกอแก้วจ๋าค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ จริงๆ ก็คิดว่าเค้าคงไม่ให้แน่ๆค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะค่ะ ที่เข้ามาตอบคำถามค่ะ

สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่านในเว๊ปนี้ หายไปนานเกือบ 9 เดือนเกิดเรื่องราวต่างๆ ขึ้นมากมายในชีวิต

ทั้งที่เหมือนทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี แต่แล้วมรสุมก็ได้ผ่านเข้ามาอีกครั้ง ตั้งแต่ต้องออกจากงาน

ว่างงานมาตั้งแต่ พ.ย. 55 - มี.ค. 56 ตอนนี้เพิ่งจะได้กลับมาทำงานใหม่เพิ่งเริ่มงานมาได้จะสามเดือนแล้ว

หลังจากแก้ปัญหาต่างๆ นานาในชีวิต รถก็ต้องขายเพื่อปิดบัญชีเพราะไม่สามารถผ่านได้ ถ้าโดนยึดจะแย่

ตัดสินใจขายแล้วปิดบัญชีไป ขอเริ่มต้้นใหม่อีกครั้ง ไม่โทษใครขอยอมรับความผิดเองว่าเราผิดเองที่ประมาท

ล้มลุกคลุกคลานมาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องสู้กันต่อไป ตอนนี้เลยอยากมาต่อในส่วนของเรื่องหนี้ที่ยังค้างคาอยู่

เพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดี แต่ก็มีประสบการณ์ที่ไม่ควรทำมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์

กับคนอื่นๆที่ยังกลัว ไม่กล้า เกรินมานานน้ำเยอะแล้ว มาเข้าเนื้อกันเลยแล้วกันคะ

รายละเอียดหนี้ที่ได้ทำการปิดบัญชีไปแล้วทั้งหมด ประกอบด้วย

1. HSBC ยอดตอนหยุดจ่ายคือ 65,xxx หยุดไปเกือบปีเจรจาปิดเมื่อ ส.ค. ปีที่แล้ว ได้ยอดปิด 39,500 บาท

2. Citibank ยอดตอนหยุดจ่าย คือ 50,xxx หยุดไปเกือบปีเจรจาปิดเมื่อ ส.ค. ปีที่แล้ว ได้ยอดปิด 35,000 บาท

3. CMBThai ยอดตอนหยุดจ่าย คือ 27,xxx เจรจาปิดเมื่อ ส.ค. ปีที่แล้ว ได้ยอดปิด 17,000 บาท

เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ได้ปิดไปแค่สามบัญชี หลังจากเดือนตุลาคมก็ต้องออกจากงานเพราะต้องกลับไปดูแล

คุณตาที่บ้านท่านป่วยหนักไม่มีคนดูแล เลยออกจากงานแล้วจะเริ่มหางานใหม่ที่ใกล้บ้านเดินทางได้สะดวก

แล้วประกอบกับมีเงินเก็บที่ตั้งใจไว้ปิดหนี้อีก 30,000 บาท เลยเอาไปลงทุนเปิดเว๊ปขายของจะได้ดูแลตาได้

และแล้วทุกอย่างก็ผิดพลาดทำได้ สี่เดือนก็ไม่รอด เลยต้องกลับมาสมัครงานประจำแล้วก็ได้งานทำเมื่อ มี.ค ที่ผ่านมาคะ

มาต่อกันนะคะ ถ้าเพื่อนได้อ่านย้อนกลับไปคงพอจะจำได้ว่า เคยไปศาลกับอีซี่บายมาแล้วสองครั้ง แต่ยังไม่ได้มาเล่าบทสรุปให้เพื่อนๆ ฟังเลย ขอเล่าต่อนะคะ

อีซี่บาย / หมายศาลใบแรก / ไปศาลสองครั้ง / จบที่สัญญาประนีประนอมยอดความ
เมื่อ 24 กันยายน 2556 จบยอดที่ 153,000 บาท ผ่อนขั้นตำ่เป็นงวดๆ รายเดือนๆ ละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท เริ่มงวดแรก พฤศจิกายน 2555 ภายใน 36 เดือน

สำหรับใบนี้ที่เราตัดสินใจยอมประนีประนอมเพราะความคืดว่า ยอดใหญ่สุดแล้ว แล้วตอนนั้นเราไม่มีเงินเก็บพอปิดได้แน่ๆ เลยตัดสินใจยอมไปซะ แล้วก็ค่อยเก็บเงินให้ภายใน 3 ปีขอส่วนลดปิดตอนเราพร้อม

แต่แล้วก็เกิดงานเข้าอย่างที่ได้บอกไว้ข้างบน เราผ่อนเดือนละ 1,000 บาท ได้แค่ 3 เดือนคือ พ.ย. ธ.ค. ปี 55 แล้วก็ ,ม.ค. ปี 56 แล้วก็ต้องหยุดเพราะไม่สามารถจ่ายได้จริงๆ ปัญหาเกิดแล้วเราก็จนปัญญาต้องขอความอนุเคราะห์จากพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้มีความรู้ในบอร์ดช่วยคนหลงผิดแก้ปัญหาไม่ตรงจุดอีกครั้งดังนี้นะคะ

ทางอีซี่บายเคยโทรมาท้วงให้เราชำระหนี้ย้อนหลัง คือ ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ไม่อย่างนั้นจะต้องส่งสำนวนขอบังคับคดีอายัติเงินเดือน เพราะเราก็เพิ่งบอกไปว่าตกงาน เพิ่งเริ่มทำงานเดือนเม.ย. เองยังไม่ผ่านการทดลองงานเลย

การอายัติเงินเดือนเท่าที่อ่านข้อมูลในเว๊ปในทำได้เพราะเราผิดตามสัญญาประนีประนอม แต่เราไม่อยากให้อาญัติไม่อย่างนั้นเราจะไม่สามารถเก็บเงินไว้ปิดบัญชีบัตรที่ยังไม่ส่งฟ้องได้เลยอะคะ ตอนนี้เงินเดือนหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ คือ 29,200 บาท ถ้าโดนอาญัติ 30% ก็จะโดนอาญัติ 8,760 บาท เหลือ 20,440 บาท ซึ่่ง มีค่าเช่าห้องรวมค่าน้ำค่าไฟ เดือนละ 7,000 บาท ต้องสงให้แม่เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกเดือนละ 8,000 ถ้าหักสองรายการนี้เราก็จะเหลือเงินเดือนละ 5,440 บาท ต่อเดือนเองคะ

คำถามคือ
1. เราสามารถทำอย่างไรได้ไหมคะ ไม่ให้เค้าอายัติเงินเดือน จริงๆ ก็ยังไม่รู้ว่าเขาส่งเรื่องอาญัติหรือยังคะ เลยอยากมาปรึกษาในเว๊ปก่อนคะ

ยอมรับนะคะว่าอันนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลยที่ปล่อยให้ทุกอย่างบานปลายไปหมด จะมัวแต่ย้อนกลับไปกล่าวโทษคนอื่นก็ไม่เกิดประโยชน์ หลังจากเคลียร์ทุกอย่างที่เป็นปัญหาตอนนี้เราก็ต้องเดินหน้าแก้ปัญหากันต่อไป ฝากไว้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีด้วยนะคะ

Angsuu เขียน:

kaittiyos เขียน: ศาลตัดสินแล้ว เจ้าหนี้ผมก็ติต่อมาตลอดให้จ่ายตามศาลตัดสินหรือทยอยจ่าย เดือนละ 1000 ผ่านมาประมาน 3 เดือน ผมจ่ายไป 1000 แค่เดือนแรก ตอนนี้เจ้าหนี้ก็ติดต่อมาตลอด ผมก็บอกว่าจะจ่ายแต่ก็ยังเพราะต้องจ่ายหนี้ตัวอืน่ก่อน ผมอยากทราบว่าเราจะรู้หรือเช็คได้ไงว่าเขาจะอายัดเงินเดือนเราเมื่อไร จะมีหนังสือแจ้งเตือนไหมครับ

หมายอายัดมาที่ทำงานเราและที่เราด้วย...
การอายัดเงินเดือนเป็นการใช้หนี้คืนอย่างหนึ่ง..ไม่ได้น่ากังวลอะไร
หากว่าเราได้มีการปรับการกิน การอยู่ การใช้ มาก่อนหน้าแล้ว เราอยู่ได้อย่างสบายๆ หลังการอายัด
พี่อังที่ตอบคุณอยู่นี้ก็ได้เลือกวิธีการอายัด หลังแฮร์คัตได้เพียง 2 เจ้า..
และเดือนที่แล้วหมดหนี้กับเจ้าหนี้แรกที่ทำการอายัดไปแล้ว ..
ระยะเวลาที่จะโดยอายัดไม่แน่นอน บางคน 7 ปีถึงโดนก็มี
สำหรับเคสของพี่อังเอง เพียงแค่ 1 เดือนไม่จ่าย มีหมายอายัดเงินเดือนมาที่บ้านก่อนเลย..
พีอังสอบถามฝ่ายเงินเดือนเขาบอกยังไม่มีหมายมา รุ่งขึ้นพี่อังไปทำการขอส่วนลดจากกรมบังคับคดี..
แล้วส่งให้ฝ่ายเงินเดือนไว้เลย หลังจากนั้น อีก 1 เดือนถัดมาจึงโดนการอายัดเงินเดือน..
ใช้เวลา 1 ปี 6 เดือน กับเจ้าแรกที่อายัด เพราะมีโบนัสด้วยช่วยได้เยอะ (โบนัสโดนอายัด 50%) อีกทั้งก็ยังเหลืออีก 50 % ไว้กิน ไว้ใช้ได้ 3 ปีกว่ามานี้ หนี้หายไปจากชีวิต 3 เจ้าแล้ว
เป็นกำลังใจให้ พี่อัง สวยประหาร

บังเอิญไปอ่านเจอในบอร์ด เลยคิดว่าน่าจะเอามาใช้ได้เลยอยากขอต่อยอดจากคำถามที่ 1 คือ

2. ตอนนี้ยังไม่มีหมายมาที่ฝ่ายบุคคลเลยนะคะ ถ้าหากทางอีซีบายเค้าฟ้องอายัติจริง เราสามารถทำแบบพี่อังได้ไหมคะ คือ ไปขอส่วนลดจากกรมบังคับคดีไว้เลยได้ไหมคะ

3. สามารถยื่นขออายัติเงินเดือนได้กี่บัตรคะ

อันนี้เป็นเรื่องที่สองที่ไม่ควรทำเลยคือ ต้องไปตามหมายศาลนัดทุกครั้ง อย่าชะล่าใจหรือไม่ไปเด็ดขาด

เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากคิดว่าตัวเองเก่งกับการไปศาลกับอีซี่บายเองทั้งสองครั้งจบที่หนังสือประนีประนอมแล้วก็ชะล่าใจคิดว่าไม่เป็นไรหรอกเลยเกิดเหตุที่เหมาะมาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับคนอื่นๆ

หมายศาลฉบับที่สองของ GE : ไม่ได้ไปเลยตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อ 19 พ.ย.55
โดนเป็นคำบังคับตามคำสั่งศาล อันนี้คือตามที่เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งเราเมื่อ ธ.ค. แล้วเราก็เลยแจ้งไปว่าตกงานทางเขาเลยให้จ่ายเข้าไปเดือนละ 1000 บาท เราก็จ่ายเดือน ม.ค. 56 แล้วก็หยุดจ่ายมีจ่ายเข้าไปอีกคือ เม.ย. พ.ค. แล้วเขาเพิ่งโทรมาว่าตรวจสอบได้ว่าเรามีเงินเดือนแล้วจะยื่นขออายัติเงินเดือน แต่ถ้าจะปิดก็มียอดพร้อมส่วนลด แต่ตอนนี้เราไม่มีเงินก้อนเลย แล้วทางเขาคงอายัติแน่ๆ คำถามคือ

1. ต้องรอมีหมายมาที่บริษัทเรื่องอายัติก่อนไหมคะ สามารถทำเรื่องส่วนลดจากกรมบังคับคดีได้เลยไหมคะ

2. ถ้าทาง GE ยื่นเรื่องขออายัติเงินเดือนแล้ว อีซี่บายจะอายัติได้อีกไหมคะ แต่จากที่เคยอ่านกระทู้ต่างๆ มาเคยอ่านเจอว่า สามารถอายัติได้ทีละ 1 เจ้าหนี้เท่านั้น

3. อายัติได้ไม่เกิน 30% จากเงินเดือน แต่หลังจากอายัติแแล้ว หัก ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพจริงที่มีใบเสร็จ ทางลูกหนี้จะต้องมีเงินไว้ดำรงชีพไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้องไหมคะ ถ้าไม่ถึงสามารถทำเรื่องขอส่วนลดได้ใช่ไหมคะ

ความหวัง เขียน: เราสามารถทำอย่างไรได้ไหมคะ ไม่ให้เค้าอายัติเงินเดือน จริงๆ ก็ยังไม่รู้ว่าเขาส่งเรื่องอาญัติหรือยังคะ เลยอยากมาปรึกษาในเว๊ปก่อนคะ

ถ้ามันมีหมายอายัดเงินเดือนออกมา คุณก็ต้องทราบสิครับ
เพราะมันจะมีจดหมาย"อายัดเงินเดือน"ถูกส่งออกมาจากกรมบังคับคดี 2 ฉบับ(เนื้อหาเหมือนกันเด๊ะ)
จดหมายทั้ง 2ฉบับนี้ จะถูกส่งไปที่บ้านคุณ และส่งไปที่ทำงานของคุณ อย่างละฉบับ

ความหวัง เขียน: ต้องรอมีหมายมาที่บริษัทเรื่องอายัติก่อนไหมคะ สามารถทำเรื่องส่วนลดจากกรมบังคับคดีได้เลยไหมคะ

ถ้าเจ้าหนี้มันยังไม่ได้ส่งเรื่องให้กับกรมบังคดีเลย แล้วคุณจะไปขอส่วนลดจากคดีไหนล่ะครับ?

ความหวัง เขียน: ถ้าทาง GE ยื่นเรื่องขออายัติเงินเดือนแล้ว อีซี่บายจะอายัติได้อีกไหมคะ แต่จากที่เคยอ่านกระทู้ต่างๆ มาเคยอ่านเจอว่า สามารถอายัติได้ทีละ 1 เจ้าหนี้เท่านั้น

คุณเป็นสมาชิกในนี้มาตั้ง 10เดือนกว่าแล้ว
ไม่เคยคิดจะเข้าไปหาอ่านความรู้ใน"ห้องรู้ทันกฏหมายหนี้"บ้างเลยหรือครับ?

ความหวัง เขียน: อายัติได้ไม่เกิน 30% จากเงินเดือน แต่หลังจากอายัติแแล้ว หัก ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพจริงที่มีใบเสร็จ ทางลูกหนี้จะต้องมีเงินไว้ดำรงชีพไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกต้องไหมคะ ถ้าไม่ถึงสามารถทำเรื่องขอส่วนลดได้ใช่ไหมคะ

เฮ้ออออ...

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน” (อยู่ใน"ห้องรู้ทันกฏหมายหนี้")
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=28147&Itemid=64

แล้วกว่าหมายอายัดจะส่งมา จะใช้เวลานานแค่ไหนก็ไม่รู้ เคยเขียนไว้แล้ว...ไปอ่านสิครับ