ขอแบ่งปันประสการณ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์

Chokdee เขียน: 3) KTC หลังจากแพ้สู้คดี ได้รับคำบังคับ (คำพิพากษาของศาล) ให้จ่ายตามที่โจกท์แจ้ง ดอก 15% ค่าทนาย 6,000 ภายใน 15 วัน ไม่มีการติดต่อจาก KTC เรื่องผ่อนจ่ายอีกต่อไป

แพ้เนื่องจากอะไรค่ะ ขอรายละเอียดนิดค่ะ อยากทราบเป็นข้อมูล...ส่วนตัวเองมีบัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยเกินแน่ๆ ... แต่ถ้าแพ้คดี หมายถึงต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

ชัดเจนคะ พี่นกกระจอกเทศ ขอบคุณมากนะคะ

rainy2016 เขียน:

Chokdee เขียน: 3) KTC หลังจากแพ้สู้คดี ได้รับคำบังคับ (คำพิพากษาของศาล) ให้จ่ายตามที่โจกท์แจ้ง ดอก 15% ค่าทนาย 6,000 ภายใน 15 วัน ไม่มีการติดต่อจาก KTC เรื่องผ่อนจ่ายอีกต่อไป

แพ้เนื่องจากอะไรค่ะ ขอรายละเอียดนิดค่ะ อยากทราบเป็นข้อมูล...ส่วนตัวเองมีบัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยเกินแน่ๆ ... แต่ถ้าแพ้คดี หมายถึงต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

เราสู้เรื่อง ประเภทสินเชื่อของ cash revolve กับการคิดดอกเบี้ยนะคะ

Chokdee เขียน:

rainy2016 เขียน:

Chokdee เขียน: 3) KTC หลังจากแพ้สู้คดี ได้รับคำบังคับ (คำพิพากษาของศาล) ให้จ่ายตามที่โจกท์แจ้ง ดอก 15% ค่าทนาย 6,000 ภายใน 15 วัน ไม่มีการติดต่อจาก KTC เรื่องผ่อนจ่ายอีกต่อไป

แพ้เนื่องจากอะไรค่ะ ขอรายละเอียดนิดค่ะ อยากทราบเป็นข้อมูล...ส่วนตัวเองมีบัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยเกินแน่ๆ ... แต่ถ้าแพ้คดี หมายถึงต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

เราสู้เรื่อง ประเภทสินเชื่อของ cash revolve กับการคิดดอกเบี้ยนะคะ

เรามีบัตรนี้เลย คิดหนักเลย

Chokdee เขียน:

rainy2016 เขียน:

Chokdee เขียน: 3) KTC หลังจากแพ้สู้คดี ได้รับคำบังคับ (คำพิพากษาของศาล) ให้จ่ายตามที่โจกท์แจ้ง ดอก 15% ค่าทนาย 6,000 ภายใน 15 วัน ไม่มีการติดต่อจาก KTC เรื่องผ่อนจ่ายอีกต่อไป

แพ้เนื่องจากอะไรค่ะ ขอรายละเอียดนิดค่ะ อยากทราบเป็นข้อมูล...ส่วนตัวเองมีบัตรกดเงินสด ดอกเบี้ยเกินแน่ๆ ... แต่ถ้าแพ้คดี หมายถึงต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

เราสู้เรื่อง ประเภทสินเชื่อของ cash revolve กับการคิดดอกเบี้ยนะคะ

เราก็กำลังจะไปขึ้นศาลครั้งแรก 11-04-2559 ยังคิดอยู่ว่าจะเลือกแนวทางที่ 1 หรือ 3 ถ้าสู้คดี อยากถามเจ้าของกระทู้ว่าใช้เวลานานไหม เพราะเรายังมีบัตรอื่นที่จะต้องปิดจบอยู่ กะว่าจะสู้เพื่อซื้อเวลา

เราเพิ่งได้คำสั่งศาลมาที่บ้านเดือนกพ. ที่ผ่านมา หลังจากไปศาลครั้งที่1 ในราวมีคปีที่แล้ว2558 และครั้งสองยื่นคำให้การประมาณเมษ(ห่างกัน1เดือน) นับเป็นเวลาเกือบปีนะคะกว่าได้คำตัดสิน
ที่ช้าเพราะเหมือนที่ศาลไม่ทราบเขามีปัญหาอะไรดูคำตัดสินจากคอมพิวเตอร์ที่ศาล(หลังจากยื่นคำให้การประมาณอีก1เดือน)ก้อขึ้นในคอมนะคะ แต่พอไปขอคัดกับคัดไม่ได้นะคะ

ถ้าสู้คดี ยึดเวลาน่าจะได้ 3-4เดือนขั้นตำ่คะ

Chokdee เขียน: เราเพิ่งได้คำสั่งศาลมาที่บ้านเดือนกพ. ที่ผ่านมา หลังจากไปศาลครั้งที่1 ในราวมีคปีที่แล้ว2558 และครั้งสองยื่นคำให้การประมาณเมษ(ห่างกัน1เดือน) นับเป็นเวลาเกือบปีนะคะกว่าได้คำตัดสิน
ที่ช้าเพราะเหมือนที่ศาลไม่ทราบเขามีปัญหาอะไรดูคำตัดสินจากคอมพิวเตอร์ที่ศาล(หลังจากยื่นคำให้การประมาณอีก1เดือน)ก้อขึ้นในคอมนะคะ แต่พอไปขอคัดกับคัดไม่ได้นะคะ

ถ้าสู้คดี ยึดเวลาน่าจะได้ 3-4เดือนขั้นตำ่คะ

ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับ

พี่นกคะ และท่านผู้รู้คะ รบกวนสอบถามคะ ตามที่ลงไว้ว่าเงินตอบแทนจากการออกจากงานโดน 100%

1) ถ้าเราครบเกษียณ (บริษัทเอกชน) แล้วเขามีเงินให้ชดเชยตามกฏหมายเแรงงาน มาตรา 118 เช่น "อายุงานมากกว่า 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปีต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 180 วัน..."

เท่ากับเงินก้อนนี้ ต้องถูกอายัด 100% ใช่ไหมคะ ซึ่งมันอีกแค่ ไม่ถึง 10 ปี เราก็เกษียณแล้ว เงินนี้ลดหย่อนไม่ได้ คงต้องรับสภาพไปใช่ไหมคะ

2) แม้อายุความ 10 ปีที่เขาจะยึดทรัพย์ แต่ถ้าเราเกษียณ แล้วไม่มีทรัพย์สินอะไร (ไม่มีเงินเดือนให้อายัดแล้ว) ทางเจ้าหนี้เขามีสิทธิ์จะทำอะไรกับลูกหนี้ได้อีกบ้างคะ

ขอบคุณมากคะ

- เงินตอบแทนจากการออกจากงาน (เงินค่าชดเชยที่บริษัทนายจ้างจ่ายให้ โดยการเชิญให้ลูกจ้างออกจากงานโดยที่ไม่มีความผิด หรือที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า"เงินจ้างออก") เงินจำนวนนี้จะต้องโดนอายัด"ทั้งหมด"(100%)...ขอลดอายัดไม่ได้

ขอสอบถามเพิ่มนะคะ ที่ว่า " การบังคับคดีตามคำพิพากษา ท่านห้ามมิให้บังคับคดีเมื่อพ้นกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่ศาลมีคำพิพากษา"
คำถามคือ
1) 10 ปีนี่นับจาก วันที่ศาลตัดสินเป็นคดีแดงแล้ว ใช่ไหมคะ
2) และถ้ามีการยอมความ ยอมชำระหนี้เป็นงวดๆ แต่ต่อมาไม่สามารถชำระได้ อย่างนี้ จะนับ 10 ปีนี่ จะเริ่มนับจากไหนคะ
3) ใช่นับเวลาตามตัวอย่างข้างล่างนี้ไหมคะ

“ระยะเวลาบังคับคดี นับแต่ วันที่พิพากษา(ตามวันที่ระบุในคำพิพากษา) หรือ ถ้าเป็นคำพิพากษาตามสัญญายอมฯ ให้นับวันชำระหนี้งวดแรก เช่น
จำเลยยอมชำระหนี้แก่โจทก์ โดยผ่อนชำระ จำนวน 1000 บาท ทุกวันที่1 ของต้นเดือน โดยเริ่มชำระงวดแรก วันที่ 1 มกราคม 43 ก็นับไป10 ปี นับแต่วันที่ 1 มกราคม 43 บังคับคดี ก็หมด 1 มกราคา 53”

4) ถ้าเราครบเกษียณ (บริษัทเอกชน) แล้วเขามีเงินให้ชดเชยตามกฏหมายเแรงงาน มาตรา 118 เช่น "อายุงานมากกว่า 3 ปี แต่ไม่ถึง 6 ปีต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 180 วัน..."

เท่ากับเงินก้อนนี้ ต้องถูกอายัด 100% ใช่ไหมคะ ซึ่งมันอีกแค่ ไม่ถึง 10 ปี เราก็เกษียณแล้ว เงินนี้ลดหย่อนไม่ได้ คงต้องรับสภาพไปใช่ไหมคะ หรือมีวิธีไหน ทำได้บ้างไหมคะ

2) แม้อายุความ 10 ปีที่เขาจะยึดทรัพย์ แต่ถ้าเราเกษียณ แล้วไม่มีทรัพย์สินอะไร (ไม่มีเงินเดือนให้อายัดแล้วด้วย) ทางเจ้าหนี้เขามีสิทธิ์จะทำอะไรกับลูกหนี้ได้อีกบ้างคะ

ขอบคุณมากคะ

จากที่หาคำตอบเอง และตอบคำถามข้างต้น เอง คือ ใช่คะ 10 ปีนับจากที่ศาลตัดสินในคดีแดงแล้ว ไม่ว่าจะทำยอมว่าจะชำระได้ แล้วไม่สามารถชำระได้ตามนั้นก็ตาม

---

อัพเดพคือ KTC ฟ้องเร็ว เจ้าแรก แต่ กรุงศรี อายัดเงินเดือนได้เป็นเจ้าแรกคะ ทั้งๆที่หยุดจ่ายบัตร พร้อมๆ กัน
เท่ากับว่า หยุดจ่ายประมาณ 9 เดือนได้หมายศาล ตัดสิน รวมเป็น 1 ปี และหลังจากตัดสินแล้วได้อายัด ใช้เวลาอีกประมาณ 8-9 เดือน สรุป ปีกว่าในการได่รับการอายัด


การอายัด
1) เหมือนที่ชมรมแจ้งไว้ มี จม. จากกรมบังคับคดีส่งให้ กรรมการบริษัท และกำหนดให้ชำระภายใน 10 วัน นับจากเงินเดือน หรือเงินอื่นๆ ออก (เราไม่ได้รับจม.จากกรมฯ แต่เอาใบนี้ไปทำเรื่องอายัดได้คะ)

2) เราไปทำเรื่องขอลดหย่อน ก่อนเงินเดือนออกเลย โดยกรอกแบบฟอร์มที่กรมฯ
** คิดค่าใช้จ่ายที่ ทำให้เราไม่สามารถจ่ายถ้าหักเรา 30% ก่อน เพราะเวลากรอกแบบฟอร์ม ขอลดหย่อน เขาให้ใส่เหตุผล และ จำนวนเงิน
** อย่าลืมแนบเอกสาร ตามที่ชมรมมีแนะนำ ค่าเลี้ยงดูบิดา มารดา ให้แนบบัตรประชาชนของท่านไปด้วย (เราให้ท่านรับรองสำเนาด้วย) / ใบเสร็จหาหมอตั้งแต่ที่ท่านป่วยปลายปีเก็บไว้ไปแสดง - จนท.ขอแค่ 2 ใบล่าสุด /ค่าใช้จ่ายเพื่อดำรงชีพ ค่ากิน ค่าเดือนทาง ไม่ใบเสร็จ ใส่ไปด้วยจำนวนเหมาะสม

3) เราควรให้ บริษัท -HR ออกจม. รับทราบและอายัดสิทธิ์เรียกร้อง ส่งให้กรมบังคับไปด้วย (ทนายแนะนำ กรณีอาจมีเจ้าอื่นมาอายัดซ้ำ)
4) นั่งรอผล ลดหย่อน เขาจะให้หนังสือลดหย่อนเหลือ 15% ให้ เอาใบนี้ให้บริษัท

หวังว่าข้อมูลคงมีประโยชน์ กับท่าน

ตย.แบบฟอร์มการขอลดอายัด

ได้สอบถามนิติกร ที่กรมบงคับคดีว่า ถ้าระหว่างที่เราถูกเจ้าหนี้ที่ 1 อายัดอยู่ และต่อมามีเจ้า 2 เจ้า 3 อื่น มาทำเรื่องอายัด กรมจะทำอย่างไร
กรมฯ ตอบว่า อายัดไม่ได้ เจ้าหนี้อื่นจะต้องไปสืบทรัพย์ ยึดเอา แล้วถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นหละ
เจ้า 2 เจ้า 3 มีสิทธิ์ไปร้องต่อศาล ขอหารเฉลี่ยเงินที่อายัดได้ คะ หรือถ้าต่อแถวอายัด
เจ้าหนี้อื่นๆ มีสิทธิ์ เช็คสำนวนจากกรมฯได้ เขาก้อจะรู้ได้ว่าเราใกล้หมดเมื่อไร เขาก็มาอายัดเราต่อได้ นั่นเอง

สวัสดี เอาเรื่องราวมาแบ่งปันคะ KTC ฟ้องเร็วจริงคะ แต่ยังไม่เร็วเรื่องอายัด ไทยพานิชเร็วกว่าคะ ฟ้องก็ช้ากว่าแต่อายัติเร็ว เพราะ บริษัท ที่รับทวงหนี้ ชื่อ ธรรมสารัฐ หรืออะไรสักอย่าง มันจิกมากคะ ตอนนี้ เพิ่งได้หมายจากกรม บังคับคดีร้อนเลยคะ มาส่งเองถึงมือ เพราะเรานั่งหน้าออฟฟิศเลยคะ

จะรบกวนสอบถามคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าคะ

1. พอดีเราได้งานใหม่คะ แต่น่าจะไปเริ่ม 19/12 คือเราจะลาออกอยู่แล้ว ต้องส่งเงินให้กรมบังคับคดีมั๊ยคะ แต่เราถามเจ้าหน้าที่กรม เค้าบอกว่า ถ้าจะย้ายงาน ก็หยุดจ่ายไป เดวโจทย์ไปตามสืบมาเอง สืบนานมั๊ย กว่าจะรู้คะ
(หมายอายัติมา ลงวันที่ 17/11/2559)

2. ถ้าเราไปขอลดอายัดโดยใช้ฐานเงินเดือนที่เดิม แล้วเราส่งปกติ ทุกๆเดือน ด้วยตัวเอง โดยไปส่ง ที่กรมบังคับคดีเลย (กรมอยู่ใกล้คะสะดวกเดินทาง) แต่ว่า เราลาออกจากที่เดิมแล้ว จะมีปัญหาอะไรมั๊ยคะ แต่เราไม่ขาดส่งเลยนะคะ ทางกรมแจ้งว่าถ้าย้ายงานก็ต้องมาขอลดหย่อนใหม่คะ ถ้าเราไม่ไปยื่นกรมจะรู้มั๊ยคะ

*พอดีเราจะไปเริ่มงานกะที่ใหม่ กลัวว่า จะมีปัญหากับที่ใหม่คะ รบกวนขอคำแนะนำ ผู้รู้ ทุกท่านด้วยคะ

ประเด็นคือ เราอยากใช้ฐานเงินเดือนที่เก่า ยื่นลดอายัติคะ เพราะฐานเงินเดือนที่เก่าน้อยหว่าที่ใหม่คะ และบอเก่าเล็กและคุยกันง่าย เราคุยกับบุคคลตกลงกันว่า เราจะไปยื่นจ่ายเงินสดด้วยตัวเองทุกเดือน แล้วจะส่งใบเสร็จให้ทุกเดือนที่จ่ายคะ

ทางกรมก็บอกเราว่า ถึงเราไม่จ่าย บอเค้าก็จ้องต้องรู้ เพราะถ้าขาดส่ง เค้าจะมีหนังสือไปเตือนบริษัท รวมถึงใอบริษัท ที่รับทวงนี้ด้วยคะ มันจะโทรไปเตือนบุคคลคะ ยังไงเค้าก็ต้องรู้

ขอขอบคุณสำหรับ คำตอบล่วงหน้าคะ

เข้าใจที่คุณพูดมานะคะ แต่เราคิดว่าทำให้ถูกต้องดีกว่าคะ เพราะในใบนำส่งจะบอกว่า "บริษัทxxxx นำส่งเงิน ของ นสxxxx จำเลย" แล้วถ้าเราไม่ส่ง บริษัทต้องรับผิดชอบจ่ายหนี้ให้ด้วย ประเด็นคือคุณไม่ได้ทำบริษัทเขาแล้ว เขาจะยังยอมให้หรือ
อีกอย่างไม่ทราบว่าคุณมีเจ้าหนี้รายอื่นไหม ถ้ามีอีกเจ้าหนี้ใหม่เขาน่าจะสืบได้ว่าคุณทำงานบริษัทใหม่แล้วนะคะ ที่นี้ถ้าเขาไปยื่นกรมบังคับคดีอีก กรมก็รู้อยู่ดี

ลองหาทางออกคุยกะบริษัทใหม่ได้ไหมคะ เรื่องขอลดอายัดก็คงต้องตามฐานใหม่ละคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆคะ

เรามีเจ้าหนี้ รายอื่นคะ ที่ฟ้องแล้วคือ KTC คะ ฟ้องมานานแล้วด้วยคะ ปีกว่า แต่ยังไม่อายัติ

เราถามทางนิติกร แล้วว่า เค้าแนะนำเดือนไหนที่จะลาออกก็ไม่ต้องจ่ายเลย เดี๋ยว โจทย์ก็ไปตามสืบเอง
ถามคือ นานมั๊ยคะกว่าทางโจทย์จะตามสืบว่าเราไปทำงานที่ใหม่แล้ว

สรุปคือ ควรไปจ่ายเงินส่วนที่หักเลยมั้ยคะ หรือ ไม่ต้องจ่าย แล้วเดือนหน้า ก็ให้บริษัท ทำเรื่องแจ้งออกไปอะคะ แล้วเราค่อยรอหมายอายัดมาที่ใหม่ ใช่มัย้คะ

ขอบคุณคะ

มีข้อสงสัย
1. กรมบังคับคดีจะรู้ได้ยังไงว่าเราได้โบนัสคะ

2. กรมบังคับคดีจะรู้ได้ยังไงว่าเราเงินเดือนเท่าไหร่ (กรณีไม่ยื่นอายัดคะ)

ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน ขอโทษที กรมฯจะรู้ได้อย่างไรว่าได้ Bonus หรือเงินเดือนเท่าไร
เขาน่าจะทราบจากที่ฝ่ายการเงินบริษัทเราหักให้กรมนะคะ

ไม่แน่ใจคะ ใครทราบช่วยแจ้งทีนะคะ

แต่จาก ปสก. กรมฯ ที่ทราบเงินเดือน เพราะเราไปทำเรืองลดหย่อนอายัด ต้องมี slip เงินเดือนโชว์ และเราไปจ่ายเองแทนบริษัทคะ

update เรื่องการอายัดเงินเดือน จาก กฎหมายใหม่ ให้เหลือเดือนละ 20,000 บาท คนที่เงินเดือนสูงจะโดนหักทีเหลือทั้งหมด แต่เราสามารถไปทำเรื่องขอลดอายัดได้นะคะ ( ทำเรื่องเหมือนขอลดอายัด แบบ กฎหมายเก่า จาก 30% เป็น 15% ) ต้องทำก่อนถึงวันที่ต้องจ่ายกรมฯ นะคะ รู้ผลวันนั้นเลย เอาใบลดอายัดมาให้บริษัท เพือให้หัก ตามนั้นคะ

ตย. เงินเดือน 50,000 - 20,000 กรมบังคับคดีให้บริษัทเราจ่ายเงินเดือนเราแค่ 20,000 = เราต้องจ่ายเขา30,000 ( เราได้ 20,000 แต่เราได้จริงไม่ถึงนะ เพราะยังต้องโดนหัก ภาษีเงินได้ ประกันสังคม เป็นต้น)

ทำแล้ว ของเราได้ลดเพิ่มเท่าไร --> กรมฯ เขาดูว่าภาระเท่าไร ยอดหนี้เยอะไหม และถ้ากรมฯ ลดให้แล้วเรายังไม่สามารถจ่ายได้ ต้องไปร้องต่อศาลเอาคะ แต่ระหว่างทำเรื่ิองต่อศาล เราก็ต้องจ่ายตามที่กรมฯ ให้เราจ่าย

ยอดหนี้ประมาณ 2xx,xxx ขอลดหย่อน ได้เป็นให้บริษัทจ่ายให้เรา เป็น 20,000+15,000=35,000 หรือคิดเป็น 50% ของ เงินที่ ต้องจ่ายคะ

กรมฯบอกเราว่าให้ได้สูงสุด แค่ 50% ของยอดที่เขาจะริบเราคะ แต่อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ ว่าเป็นเช่นนี้ตายตัวทุกที่หรือไม่