บ้านนอกเข้ากรุง 11 ปีกับหนี้ 2 ล้าน

ของผม ตอนนี้ท่าทางเอาเรื่องอยู่ เมื่อวันเสาร์ได้หมายมาอีก 2 ใบของ UOB 4 บัญชีแยกฟ้องเป็น 2 หมาย วันเดียวกัน ตอนนี้หมายศาลรวม 3 ใบ 2 เจ้า ยอดฟ้องรวมกัน 500000 กว่าแล้ว หลังหยุด 4 เดือนมีเงินเก็บไว้ได้แค่ 100000 บาท ขึ้นศาล 2 วัน 21 กับ 29 เดือนนี้ผม มีแนวทางไว้ในใจบ้างแล้ว เดี๋ยวให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อย ไว้ค่อยมาเล่าให้ฟังอีกทีนะครับ

พ่อยอด....

ซิตี้แอดวานซ์..ของพี่ลี 4 เดือน ก็ฟ้องเหมือนกัน...แต่ของพี่ลีดูจะหนักหนากว่า

เนื่องจากตั้งแต่กู้มา เพิ่งจะจ่ายคืนไปได้แค่งวดเดียว..สองพันกว่าบาท จากเงินต้น 75,000 บาท

เขาคงแค้น...เลยฟ้องซะเลย...ก็ไม่เป็นไร...ปิดจบกันไปหลังจากยื้อกันในศาล สาม..สี่นัด..

ไปหาอ่านเรื่องราวโดยละเอียดในกระทู้พี่ลีนะ...

ได้หมายศาลมากอด..สามปึก...ตั้งรับให้ดีนะน้อง..

ขอให้โชคดี....

พี่ยอด สู้ ๆ ครับ กำลังใจจากความรักครอบครัวของพี่จะนำพาพี่หลุดพ้นปัญหาครับ




มาเป็นกำลังใจให้ครับ

สู้ๆครับ
ซิตี้มุขเดิมตลอด

วันนี้ขอมาเล่าประสบการณ์การไปศาลครั้งแรกของผมให้ฟังนะครับ

ทะเบียนบ้านผมอยู่ในเขตศาลแขวงธนบุรีครับ ผมแนบแผนที่และเขตรับผิดชอบของศาลนี้มาให้เผื่อเป็นประโยชน์กับสมาชิกที่อยู่ต้องไปศาลเดียวกันนะครับ











ครั้งนี้ไปศาลเนื่องจากได้รับหมายฟ้องของ CITY ADVANCE เมื่อวันที่ 24 กุภาพันธ์ 2556 (รับฟ้องวันที่ 21) นัดขึ้นศาลวันนี้ 21 มีนาคม 2556 ถือว่าการดำเนินการในส่วนนี้ของศาลค่อนข้างรวดเร็วทีเดียว ยอดฟ้องก็ตามไฟล์แนบ ประมาณ 2 แสน ยอดตอนหยุดเมื่อ 4 เดือนก่อนประมาณ 180000 ฟ้องเร็วสมคำเล่าลือ






ตัวผมยังเก็บเงินไม่พอหรอกครับ สำหรับเจ้านี้ตั้งแต่ได้รับหมายก็มีติดต่อมาแค่ครั้งเดียว ไม่มีลดถ้าปิดก็ปิดยอดเต็มของเงินต้น แต่เขาต้องการให้ผ่อนต่อ โดยมีระยะเวลา 2 ปีจำนวนเท่ากันทุกเดือน ตกประมาณเดือนละ 8500 บาท (ตอนที่จ่ายปกติอยู่ ส่งเดือนละ 6500 ยังไม่มีจะให้จ่าย 8500 คิดได้ยังไง) นอกจากนั้นก็ไม่มีติดต่อมาอีกเลย

เอาหล่ะมาเริ่มกันเลย

ผมออกจากบ้านที่พักซึ่งอยู่สมุทรปราการ ตอน 6.45 เนื่องจากต้องเผื่อเวลาไว้นิดไม่เคยไปเหมือนกัน และกลัวรถติด (การที่ต้องขึ้นศาลที่นี่เป็นความตั้งใจของผมโดยย้ายทะเบียนบ้านจากต่างจังหวัดมาอยู่บ้านน้องชาย เมื่อ 2 เดือนก่อนเนื่องจากประเมินแล้วว่าอาจโดนฟ้องเร็วถ้าต้องกลับต่างจังหวัดจะไม่สะดวกอย่างมาก)

การเดินทางสะดวกดี รถไม่ติดขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกจากสมุทรปราการมาลงแถวบางแคเลย แปบเดียว แต่ว่าในการเดินทางมาผมวิ่งมาที่โปรแกรม NAVIGATOR ที่โหลดมาทดลองใช้ฟรี 30 วัน บอกทาง ซึ่งมันแนะนำให้วิ่งไปเข้าทางถนนกัลปพฤกษ์ และค่อยเลี้ยวเข้าซอยกำนันแม้น ไม่รู้มันเอาไรคิดอ้อมมาก และรถติดโคตร ซ้ำร้ายกว่านั้นซอยกำนันแม้นฝั่งที่ต้องเลี้ยวเข้าจากถนนกัลปพฤษ์ ถนนปิดครับท่านห้ามเข้าทำถนนอยู่ รถวิ่งได้ทางเดียว ซวยแล้วกู รถก็ติดกว่าจะกลับรถได้ต้องติดต่อไปอีก 4 กม. นี่ก็จะ 8 โมงแล้ว

เลยตัดสินใจจอดรถที่ปั๊มเพื่อจะข้ามถนนไปขึ้นรถแท๊กซี่อีกฝั่งซึ่งรถโล่งมาก ไปยืนรอรถอยู่ 15 นาทีไม่มีซักคัน จริงๆมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็เอานะ ยังไม่มีเลย 8 โมง แล้วเว้ย

ตัดสินใจกลับไปเอารถ ไปเองดีกว่ายืนรอต่อก็เปล่าประโยชน์กินเวลาไปเรื่อยๆ

หลังจากฝ่ารถติด ไปกลับรถได้ ก็ต้องอ้อมไปเข้าทางถ.เอกชัยอีกครั้ง ถึงศาล 8.50 ยังทัน ซึ่งแน่นอนตลอดทางปิด navigator ตลอด ไม่เจ๋งจริงนี่หว่าถนนปิดก็ไม่บอกให้เลี้ยวอยู่ได้

ศาลแขวงธนบุรี เป็นอาคารค่อนข้างเก่าอยู่หลังศาลอาญาซึ่งจะดูใหม่และใหญ่โตกว่า ชั้นล่างของอาคารเป็นห้องอาหาร ซึ่งผมไม่ได้ลองว่าอร่อยมั้ย ถึงจะหิวแต่เห็นว่าจะสายแล้วไว้คราวหน้าแล้วกัน

จากบันไดด้านหน้าขึ้นไปชั้น 2 ผ่านเครื่องตรวจอาวุธ ก็เดินหาบอร์ด ซึ่งจะอยู่ตรงบันไดสำหรับขึ้นชั้น 3 โดยหลังจากผ่้านเครื่องตรวจอาวุธก็เดินมาทางซ้ายมือนิดหน่อยก็เห็น ตรวจดูรายชื่อ อยู่ห้องพิจารณา 11 ชั้น 3 ก็ขึ้นไปอีกชั้นนึง

หน้าห้องเป็นทางเดินแคบๆเหมือนห้องเรียน มีคนยืนอยู่พอสมควร ไม่รู้ใครเป็นใคร ผมตรวจดูรายชื่อหน้าห้องอีกครั้ง วันนี้มีคดี CITY อยู่ประมาณ 10 คดี ส่วนใหญ่เป็นบัตรเครดิตกับบัตรกดเงิน มีคดีสินเชื่อคดีเดียวคือของผมซึ่งเป็นของ CITI CORP

ห้องพิจารณาเป็นห้องขนาดเล็กประมาณห้องเรียน 15x12 เมตรได้ มีบัลลัง และโต๊ะเจ้าหน้าที่ 2-3 โตีะ และมีแท่นยืนตรงกลาง ซึ่งทั้งหมดนี้กินพื้นที่เกือบทั้งหมดของห้อง เหลือเป็นเก้าอี้ยาวให้นั่งรอ แค่ 2 แถวเบียดๆกัน

ในห้องมีคนเยอะมาก ตอนแรกไม่รู้ใครเป็นใคร พยายามหาเจ้าหน้าที่ศาลเพื่อยืนยันตน หน้าอ่อนๆนึกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ศาลก็กลายเป็นทนาย เห็นสวยๆใส่กระโปรงสั้นๆ เข้าไปถามก็เป็นทนาย ที่นั่งอยู่โต๊ะหน้าบัลลังก็กลายเป็นทนายไปอีก สรุปถามอยู่พักนึงในห้องมีทนายอยู่สัก 10 คนได้ทั้งยืนทั้งนั่งเต็มห้องไปหมด เห็นน้องจ๋อยๆอยู่มุมห้อง 3-4 คนน่าจะเป็นจำเลย ไม่รู้เจ้าหน้าที่ศาลอยู่ไหน แล้วทนายผมคนไหนก็ไม่รู้ ทำไมไม่ทำป้ายห้อยคอไว้เลยจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร ไปๆมาๆผมว่าสิ่งที่ยากที่สุดในการมาศาลเผลอๆ จะเป็นการหาทนายตัวเองนี่แหละ

ถามอยู่พักนึงขี้เกียจและ เลยนั่งรอในห้องเฉยดูความวุ่นวาย ซักพักทนายแต่ละคนก็เริ่มเรียกหาจำเลยที่ตัวเองรับผิดชอบ ใครมาของ KTC ค่ะ ใครมาของ UOB ครับ เดินไปเดินมาวุ่นวายดี นึกถึงตลาดนัดก็คล้ายกัน เสียงตีกันไปหมดแล้วจะรู้เรื่องมั้ยเนี้ย

และมีทนายคนนึงหันมาสบตาผมปิ๊งๆ แล้วถามว่า CITI ใช่มั้ยครับ ผมเหมือนเจอเนื้อคู่ ผมตอบว่าใช่ครับ แล้วเราสองคนก็เดินตามกันออกนอกห้องไป หุหุ แล้วเราก็หากันจนเจอ

ทนายที่รับผิดชอบคดีผม เป็นคนเดียวกับที่ว่าความของ CITI BANK ทั้งหมดในวันนี้อายุพอสมควร ผมคิดว่าเราจะได้นั่งคุยกัน 2 ต่อ 2 เสียอีก ปรากฎว่าด้านนอก มีพี่ผู้ชายอีกคนนั่งรออยู่ และมีผู้หญิงอีกคนเดินตามผมมาทั้งคู่มาของบัตรเครดิต ผู้ชายมาเพื่อขอเลื่อน ของผู้หญิงมาทำยอม ที่เหลือไม่เห็น จาก 10 คดีมาแค่ 3 เอง

ส่วนของผมข้อเสนอที่ทนายถือมาคือให้ผ่อนต่อ 2 ปีเท่ากัน แค่นั้น ผมถามถึงการปิดยอดเขาบอกทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งมา อาว เข้าทาง

เขาถามต่อว่าจะเอายังไงดี ผมเสนอขอผ่อน 3 ปีพักดอกเบี้ย แบบขั้นบันได ปีแรกขอ 1000 ต่อเดือน (รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่น่าจะให้ แต่ถ้าให้ก็เอานะ ยอด 180000 แค่ดอกละ 15% ก็ปีละเกือบ 30000 แล้ว 3 ปีก็ 90000 แล้วปีแรกก็จ่ายแค่ 1000 ต่อเดือนปีที่ 2 ผมค่อยเจรจาปิดอีกที ยังไงก็พักดอกเบี้ย)

ทนายบอกว่าเขาตัดสินใจไม่ได้ แต่น่าจะไม่ได้ ผมบอกงั้นผมขอเลื่อนก่อนขอไปเจรจาอีกครั้ง แล้วขอเบอร์เจ้าหน้าที่จากทนายไว้เนื่องจากผมไม่มีเบอร์ และตั้งแต่รับหมายมายังเพิ่งมีคนโทรมาแค่หนเดียว เขาก็จดเบอร์ให้ เตือนผมว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ดุมากนะ ผมยังโดนด่ามาตั้งหลายครั้ง ผมยิ้ม (เลยเข้าใจทำไมเขาไม่โทรถามตอนนั้นเลย ให้เบอร์ผมให้ติดต่อเองวันหลัง)

จากนั้นก็ตกลงเรื่องนัดหน้า ผมกับพี่ผู้ชายอีกคนขอเลื่อนไปเดือนพฤษภาเลย ทนายบอกต้องแล้วแต่ศาล แล้วเดินหายไปในห้องพักนึงน่าจะไปเช็ควัน ซักพักก็เดินมาบอกว่าได้วันที่ 20 พฤษภา ก็ OK ได้มาอีก 2 เดือน

หลังจากตกลงกันได้ ก็รอเซ็นต์เอกสารเลื่อน ทนายยังเตือนด้วยว่าอย่าเพิ่งกลับนะ ต้องรอเซ็นต์เอกสารก่อน ผมก็เข้าไปนั่งรอในห้องต่อ ตอนนี้เห็นเจ้าหน้าที่ศาลตัวจริงมาแล้ว อายุยังน้อยแต่หน้าตูดๆหน่อย รอซักพักก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนเอาเอกสารมาให้เซ็นต์ ผมตรวจดูมีตราครุฑที่หัวกระดาษ เนื้อหาเป็นการเลื่อนถูกต้องตามที่คุย ก็เซ็นต์ เจ้าหน้าที่ก็เรียกทนายมาเซ็นต์ เสร็จแล้ว ใช้เวลาทั้งหมด 30 นาที

ในห้องพิจารณา คนน้อยไปมาก เนื่องจากจำเลยมาน้อยหลังจากเจ้าหน้าที่และทนายตรวจสอบคนที่มาแสดงตัว และจัดการเรื่องเอกสารเสร็จก็ทยอยกลับกันหมด เหลือแค่คดีที่ต้องให้ศาลลงมาไม่เยอะวางรอศาลลงมา

มาศาลก็ไม่ได้หน้ากลัวอะไร การเลื่อนสมัยนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรถ้าตกลงเลื่อนกันทั้ง 2 ฝ่ายได้ก็แค่มีเอกสารยืนยันของทางศาล เซ็นต์กันทั้ง 2 ฝ่ายก็เสร็จไม่ต้องรอศาล นอกจากฝ่ายโจทก์ไม่ยอมให้เลื่อนอันนี้อาจต้องรอศาล

น่าเสียดายคนที่กลัวศาลจนไม่กล้ามา ไม่ได้มาใช้สิทธิ์ของตัวเอง

ของผมต้องมาอีกครั้งวันที่ 29 มีนาของ UOB คราวหน้ารับรองไม่ใช้ NAVIGATOR แน่นอน


เวปหลักของศาลแขวงธนบุรีครับ
www.tbmc.coj.go.th/cms3_autostart.php

เขตอำนาจศาลแขวงธนบุรี

ปัจจุบันศาลแขวงธนบุรีมีเขตอำนาจในท้องที่
เขตบางขุนเทียน เขตบางบอน เขตจอมทอง เขตคลองสาน
เขตธนบุรี เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ เขตบางแค เขตภาษีเจริญ

ท่านพ่อยอดอยู่สมุทรปราการเหรอครับตอนนี้ ผมก็ทำงานอยู่สมุทรปราการ จะทำยังไงให้ได้เจอตัวพี่เป็นๆบ้างครับ ผมอยากคุยอยากปรึกษาการปลดหนี้เหมือนกัน เป็นเบอร์โทรเป็นอีเมลล์ทิ้งไว้ตรงนี้ได้มั้ยครับ ผิดกฎมั้ย

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆเรื่องการไปศาลครับพ่อยอด ทำให้การไปศาลไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายๆคนคิด เหมือนๆเราไปสถานที่ราชการติดต่องานทั่วไป ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ คุณพ่อยอด
ขอบคุณมากๆนะคะ ที่มา update ของCity ad ติดต่อตามอย่างใกล้ชิด ถ้าได้บทสรุปแล้วรบกวนมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
เพราะมีตัวนี้อยู่เหมือนกัน เค้าทวงแนวเดียวกันเลยค่ะ โดนมาเหมือนกันหยุดจ่ายแค่เดือนเดียว ให้สาขาโทรมาทวง
เราบอกว่าเมื่อเช้ามีคนโทรเข้ามาแล้ว เค้าถามแล้วว่างัยล่ะ สงสัยอาทิตย์นี้เจอจัดหนักแน่เรา

123ปลาฉลามขึ้นบก เขียน: ท่านพ่อยอดอยู่สมุทรปราการเหรอครับตอนนี้ ผมก็ทำงานอยู่สมุทรปราการ จะทำยังไงให้ได้เจอตัวพี่เป็นๆบ้างครับ ผมอยากคุยอยากปรึกษาการปลดหนี้เหมือนกัน เป็นเบอร์โทรเป็นอีเมลล์ทิ้งไว้ตรงนี้ได้มั้ยครับ ผิดกฎมั้ย

อยากเจอตัวเป็นต้องไปงานอบรมสิ้นเดือนเมษานะครับ ถ้ามีเรื่องปรึกษาใช้สาย HOT LINE หากรรมการที่กำหนดไว้ดีกว่าครับ แต่ละท่านผ่านการคัดเลือกมาแล้ว

สำหรับผมรับผิดชอบในการตอบในบอร์ดเป็นหลักครับ

วันนี้ก็ได้ปิดของ FIRST CHOICE ไป 1 ใบเอาฤกษ์เอาชัยหน่อย ส่วนลดดีสมคำร่ำลือ จาก 87731ค้าง 5 เดือนเข้าเดือนที่ 6 วันนี้ จบกันที่ 45000 งวดเดียว ต่อกันมาหลายรอบละ กดสุดได้แค่นี้ เจ้านี้เปิดมาที่ 48000 ต่อกันหลายหน จนเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งหมายศาลไปให้เขาดู 3 ใบพร้อทสำเนาบัตรขีดคร่อมเขียนรายละเอียดไว้หมด ได้มาที่ 45000 ตามที่แจ้ง

ใบHAIR CUT เขาส่ง ems มาให้เลยแล้วก็โทรเช็คทุกวันกลัวเราไม่จ่ายมั้ง

ของผมใครฟ้องก็ฟ้องไปไม่ลดก็ดึงรอไปก่อน ใครลดเยอะจนจ่ายไหวจ่ายก่อน หนทางอีกยาวไกลสู้กันต่อไป...

วันนี้ไปศาลอีกรอบของ UOB 2 หมาย 4 บัญชี ยอดฟ้องรวมประมาณ 3 แสน ที่เก่าเวลาเดิมครับ คราวนี้ไปถึงเร็วกว่ากำหนด เนื่องจากหายโง่แล้ว

บรรยากาศเดิม ห้องพิจารณาเดิมเจ้าหน้าที่ศาลหน้าเดิม คราวนี้จำได้แล้ว วันนี้จำเลยมาเยอะครับแน่นมาก

ของ UOB วันนี้มี 10 คดีมากันแค่ 3 ทนายยังหนุ่มอยู่เป็นคนใต้ เลยแหลงใต้กันไปเลยขำดี คนหันมายิ้มกันหลายคน ข้อเสนอของทาง UOB วันนี้เคี่ยวเหมือนเดิม ตัวแรกยอด 2 แสนให้ผ่อน 18 เดือนตามยอดฟ้องไม่มีลด ตัวที่ 2 ยอด 1 แสนให้ผ่อน 12 เดือนตามยอดฟ้องไม่มีลด มีมีข้อเสนอปิดงวดเดียว ต่อรองเบื้องต้นกับทนายเหมือนเดิม ขอ 3 ปีพักดอกแบบขั้นบันได ปีแรกรวมทุกบันชีไม่น้อยกว่า 1500

ไม่ได้ตามคาดทนายยังบอกว่า "เขาเคี่ยวอย่างแรงนิ เติน(แปลว่าคุณ)ลองโทรไปคุยก็ได้ ผมว่าม่ายด้ายให้หรอก" ผมก็เลยขอเลื่อนไปก่อน ทนายโอเค หาวันลงได้เป็นกลางเดือนพฤษภา พร้อมกับอีก 2 คนที่มาแสดงตัว

วันนี้ใช้เวลาเกือบชม. คนเยอะมาก

มีเรื่องมาแชร์ให้ทราบเผื่อมีประโยชน์สำหรับคนขึ้นศาล

เดี๋ยวนี้เวปของศาลใหญ่แต่ละแห่งมีข้อมูลเยอะมากซึ่งเราใช้ประโยชน์ได้ เอาที่ใกล้ตัวผมเลยละกันคือ ศาลแขวงธนบรี ในเวปจะมีจุดให้เราเช็ควันนัดของเราได้ โดยมีรายละเอียดห้องพิจารณาให้เรียบร้อย



พอกดเข้าไปตามวันที่เรามีนัดไปศาลจะมีข้อมูลขึ้นให้



อีกจุดที่น่าสนใจคือข้อมูลคดี



อันนี้พอกดเข้าไปสมารถเช็คคดีได้เกือบทุกศาลโดยใส่ข้อมูลเข้าไป 3 ช่องคือ ภาค ศาลอะไร และเลขที่คดีดำ



แถบด้านซ้ายจะมีข้อมูลของคดีนั้นๆ ค่อนข้างครบถ้วนเช่น

เลขที่คดีแดงหากมีการตัดสินแล้ว

หรือนัดพิจารณาต่างๆ และผู้พิภากษาที่จะพิจารณาคดีเรา







แม้แต่คำตัดสินก็ดูไ ด้

ประโยชน์อย่างแรกที่ผมว่ามีประโยชน์มากคือ

สำหรับคนที่ปล่อยให้ศาลพิจารณา ซึ่งท่านคงทราบว่าผลการบังคับคดีจะมีนับจากวันที่ท่านได้รับทราบเคำตัดสินอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นการไปคัดที่ศาล หรือฝ่ายโจทก์ ส่งให้ หรือนั่งรอฟังคำตัดสิน ดังนี้ส่วนใหญ่ที่มาแนวทางนี้จะไม่นั่งรอให้ศาลลงมาตัดสิน หลังจากไปแสดงตัวแล้วก็จะกลับเลยเพื่อดึงเวลาที่จะรับทราบ ซึ่งอาจจะอีก 1-2 เดือนแล้วแต่ฝ่ายโจกย์จะขยันไปคัดคำพิพากษาแค่ไหน

แต่..ด้วยวิธีนี้ เราสามารถรับทราบคำตัดสินได้เองผ่านเวป ซึ่งการรับทราบดังกล่าวยังไม่มีผลตามกฎหมายครับ พอทราบก็วางแผนต่อได้ถูกว่าจะเอาไง

ประโยชน์ต่อมา ท่านสามารถศึกษาคำตัดสินคดีของคนอื่นที่มีเจ้าหนี้เดียวกับท่านได้ เนื่องจากข้อมูลเลขที่คดีอื่นๆสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ทุกคดีครับ วันนี้วันที่ 29 ท่านลองกดเลือกวันนัดช่วงต้นเดือน จะมีรายการคดีหลายที่ แล้วจดเลขที่มา เข้าไปดูรายละเอียดดู บางคดีมีคำตัดสินแล้วนะครับ

ซึ่งสิ่งแรกที่ได้คือ จะทำให้ท่านทราบว่ากระบวนการแต่ละนัดในศาลแต่ละที่ ในอดีตมีระห่างกันประมาณเท่าไหร่เช่นศาลแขวงธนบุรี ในการเลือ่นเพื่อไกล่เกลี่ยครั้งแรกปกติส่วนใหญ่จะได้ประมาณ 2 เดือน เป็นต้น

อันต่อมา อันนี้ผมคิดเอง จากการศึกษาดูข้อมูลย้อนหลังคดีคนอื่น

อัตราดอกเบี้ยที่ศาลตัดสินไม่เท่ากันครับถึงจะหนี้ประเภทเดียวกัน แน่นอนไม่เกินร้อยละ 15 แน่ แต่บางคดีก็ 10 บางคดี ก็ 7.5 ตามตัวอย่างที่ผมแนบให้ดู (จริงน่าจะหาที่เป็นเจ้าหนี้เดียวกัน โทษทีครับ)

จากการไล่สังเกตดู ในข้อมูลนัดพิจารณาจะมีชื่อผู้พิพากษาใช่มั้ยครับ ผมลงสุ่มตรวจสอบย้อนหลังดู(สำหรับที่ธนบรีนะ) ผู้พิษากษาแต่ละท่านมีรูปแบบการกำหนดอัตราดอกเบี้ยตามคำตัดสินของแต่ละท่านเองครับ ซึ่งจะเท่ากันเกือบทุกครั้งที่ตัดสินคดีแบบนี้ ของใครของมัน บางท่านให้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ก็จะร้อยละ 10 ทุกครั้ง

บางท่านร้อยละ 15 ก็จะร้อยละ 15 เกือบทุกครั้ง

แล้วมันมีประโยชน์อะไรเหรอครับ...

ถ้าท่านไปศาลนัดแรกยังไม่ใช้สิทธิ์ขอเลื่อน แล้วท่านตั้งใจจะให้ตัดสินเลย ท่านสามารถทราบชื่อผู้พิพากษาคดีท่านได้ ถ้าท่านมีข้อมูลเก็บไว้ ท่านเดาได้ก่อนเลยว่าท่านจะโดนดอกเท่าไหร่ 7.5,10 , 12,15

ถ้าเป็นผม(ความเห็นส่วนตัวนะ)ผมเช็คแล้วว่านัดนี้ผมโดน 15% ผมเลื่อนก่อนครับใช้สิทธิ์ได้ 1 ครั้ง นัดหน้าค่อยมาลุ้นอีกทีว่าได้ใครเป็นผู้พิพากษา เผื่อได้ 10% หน้า

อย่าเพิ่งว่าผมไร้สาระนะครับ มันเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวผมเอง

ส่วนต่าง 5% ของหนี้ 20000 อาจแค่ปีละ 1000 บาท แต่ถ้าหนี้ 200000 มันปีละ 10000 นะครับ โดยเฉพาะถ้าท่านใช้วิธีหักคอจ่ายไป 5 ปี ก็ 50000 แล้วนะครับที่ลดไปได้ เป็นผมเก็บตังไว้จ่ายค่าเทอรมลูกดีกว่า


โอเคครับพิมพ์จนเมื่อยแล้ว ย้ำอีกครั้งนะครับที่ว่ามาทั้งหมดเป็นการสังเกตของผมเอง

อาจไม่ถูกต้องเสมอไป โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลนะครับ

เยี่ยมครับพี่ ละเอียด และได้ประโยชน์จริงๆ ขอบคุณที่มา แจงรายละเอียดวนส่วนของการขึ้นศาลในขั้นพิพากษา น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ เพื่อน ๆ พี่น้องในชมรมแน่นอน

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ครับ

ศาลเดียวกันเลย ไว้วันหลังนัดสังสรรค์กันหน่อย เอิ้กๆ

ขอบคุณที่นำเกล็ดความรู้มาให้กับเพื่อนสมาชิกครับ นับว่าเป็นประโยขน์ในการพิจรณาการวางแผนได้ดีเลยครับ

สู้ๆครับ

เพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ เนื่องจากพอลองไปค้นข้อมูลกระทู้เก่าๆ พบว่าในอดีตนั้น

สำหรับ ศาลบางแห่งข้อมูลในเวป UPDATE ช้ามาก ตอนนี้ยังเป็นหรือเปล่าไม่ทราบ

เนื่องจากไม่ใช่คดีของตัวเองจึงไม่รู้ว่ากระบวนการจริงๆ ไปถึงไหนแล้ว

ดังนั้นเพื่อความแน่ใจ กรุณาใช้ช่องทางตรวจสอบอื่นคู่ไปด้วย เช่นการโทร หรือไปด้วย

ตัวเอง แต่สำหรับศาลแขวงธนบรี สถานะปัจจุบัน UPDATE เร็วมาก คดีผมที่ขึ้นศาลเมื่อ

29/03 เพื่อเลื่อน ตอนนี้ข้อมูลก็ UPDATE นัดพิจารณาใหม่ให้แล้วครับ

เข้ามาอ่านครับ

เป็นความรู้ดีมากๆเลยครับ

มาดันกระทู้ตัวเองซะหน่อย ก่อนจะไม่ได้เข้าบอร์ด 3-4 วัน เนื่องจากต้องเดินทางไปต่างจังหวัด รับ ลูกเมียกลับบ้าน เขาไปเที่ยวบ้านปู่ ย่ากันที่บ้านนอก ช่วงสงกรานตร์ไม่ได้กลับกัน รถเยอะไม่อยากไปติดแง๊กอยู่บนถนน นานๆ ลูกยังเล็ก

เนื่องจากผมเป็นคนต่างจังหวัด เลยมีบ้านนอกเป็นของตัวเองครับ มีพ่อกับแม่อยู่ พ่อกับแม่เดิมรับราชการทั้งคู่

พ่อเป็นข้าราชการกรมส่งเสริมการเกษตร แม่เป็นครูประถม แต่ลาออกก่อนเกษียณทั้งคู่ แล้วก็ย้ายไปตั้งรกรากกันที่บ้านเกิดพ่อ ซึ่งยังคงเป็นบ้านนอกอยู่ แม้จะพัฒนา ไปมากแล้วเมื่อเทียบกับ 30 ปีก่อน

เมื่อก่อนเป็นทุ่งนาครับไม่มีไฟ้ฟ้า บ้านส่วนใหญ่ก็เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง พอปิดเทอรมพ่อมักพาไปเที่ยวบ้านย่า สนุกมาก เหน็บหนังสติ๊กออกจากบ้านแต่เช้า เข้าป่าหาตะกวด แย้ นก กันในกลุ่มเด็ก หิวที่ไหนก็แวะบ้านคนขอข้าวกิน คนบ้านนอกน้ำใจดีเหลือเกินเด็กมาก็หาข้าวปลาให้กินไม่ขาดเลย

เวลาผ่านไปตอนนี้เขายึดอาชีพสวนปาล์มกันหมดแล้ว มีไฟฟ้าใช้ มีรถยนต์ บ้านเรื่อนเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
แต่วถีชีวิตคนก็ยังคงมีกลิ่นไอของบ้านนอกอยู่หล่ะครับ

หลังลาออกพ่อเอาเงินบำเหน็จ ซื้อที่ 8 ไร่ถูกๆ ปลูกบ้านหลัง 1 บ้านหน่ะไม่ใหญ่หรอกเป็นบ้านชั้นครึ่ง

ที่รอบบ้านเยอะ พ่อก็ปลูกสารพัดต้นไม้ไว้รอบบ้านเลย ปลูกผักกินเอง ตอนนี้ได้ข่าวเพาะเห็ดขายด้วย

ขุดบ่อปลาหน้าบ้าน ทำศาลากลางน้ำ เอาไว้พักผ่อน และให้หลานๆไปเที่ยว เก้าอี้ ชิงช้า แกก็ทำเองจากไม้ที่เหลือตอนสร้างบ้าน ตอนนี้ยังไม่หมดเลย แล้วขอบอกว่าเก้าอี้ไม้จริงนี่โคตรหนักเลย พ่อกับมีความสุขตามประสา เกษตรกร ประสาชาวบ้าน มีเงินบำนาญอีกพอสมควรให้ใช้จ่าย

พ่อเป็นคนดีครับ กลับไปอยู่บ้านก็นำความรู้ด้านการเกษตร ไปช่วยพัฒนาบ้านเกิด ตั้งสหกรณ์ปุ๋ยเพื่อผสมปุ๋ยเคมี ใช้กันเองลดต้นทุน ไปตั้งกองทุนผู้สูงอายุหาเงินช่วยเหลือคนแก่ เนื่องจากตอนนี้คนรุ่นหนุ่มสาวน้อยเต็มที พอโตก็เข้ามาทำงานในเมืองกันหมด คนแก่บางคนไม่มีคนดูแล พ่อเลยตั้งกองทุนช่วยเหลือ

อะไรอีกหลายอย่างเหมือนในหนังเลย เป็นพ่อที่น่าภูมิใจของลูกเสมอ แต่แกขี้โมโหหน่อย ชาวบ้านเขาเลยกลัวๆกัน 555

ตัวผมไม่ค่อยได้อยู่บ้านตั้งแต่เด็ก เนื่องจากถูกส่งออกมาเรียนหนังสือต่างจังหวัดตั้งแต่ ม.1 ได้กลับไปอยู่บ้านยาวๆก็แค่ช่วงปิดเทอรม

เมื่อก่อนพ่อแม่ รับราชการ ย้ายบ่อยมาก 2-3 ปี ย้ายไปเอาตำแหน่งจังหวัดอื่น จึงมีโอกาสได้เที่ยวหลายจังหวัดไปในตัว พังงา ภูเก็ต สงขลา นาราธิวาส ตรัง สุราษฎรธานี ตอนเรียนอยู่ ยังเคยงง นั่งรถกลับบ้านผิดจังหวัดก็มี ก็เราเรียนอยู่ที่เดิม เขาย้ายกันบ้านกันแล้วเราก็ลืม ขำตัวเองดีเหมือนกัน

ดีใจที่รุ่นลูกผมยังมีบ้านนอกเป็นของตัวเอง ได้มีโอกาสอยู่กับต้นไม้ ทะเล หมู หมา กาไก่ สงสารเด็กในเมืองโตมากับ ตึก ถนน ควันพิษ นานๆจะได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันทีช่วงวันหยุด ก็ต้องไปแย่งที่พัก ที่กินกัน เหนื่อยแทน

โม้อะไรไม่รู้เยอะแยะ ไม่เกี่ยวกับหนี้สักนิด แค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ ไว้มาโม้ให้ฟังใหม่

ขอกลับบ้านนอกก่อนนะครับ