โดนฟ้องศาล แล้วเจ้าของบ้านจะถอนชื่อออกจากทะเบียนบ้าน

12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #1426 โดย Tumbetty
ดิฉันเป็นหนี้ City Bank - Visa 90,000.-, Ready Credit 120,000.-, UOB ุ 60,000.- หยุดจ่ายตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2553 ตอนนี้ City Bank กำลังฟ้อง มีหมายศาลมาติดที่บ้านรุ่นพี่ ให้ไปขึ้นศาล 12 มี.ค. 2555 ดิฉันไม่มีเงิน เลยไม่รู้จะไปไกล่เกลี่ยอย่างไร คิดว่าจะไม่ไป รอให้มีเงินคล่องตัวกว่านี้ ดิฉันก็อยากปิดทีเดียวให้จบ ๆ ไปเลย ไม่ได้คิดอยากจะชักดาบ แต่เวลาไม่อำนวยให้ใช้หนี้ เพราะไม่มีเงิน ชื่อของดิฉันได้ไปอาศัยอยู่กับทะเบียนรุ่นพี่ แต่พอตอนนี้ดิฉันหมดผลประโยชน์สำหรับเขา เขาก็อยากจะเอาชื่อดิฉันออกจากทะเบียนบ้าน ให้ไปอยู่ทะเบียนกลาง แล้วอ้างว่าอายที่มีหมายศาลมาปิดหน้าบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เป็นคนแนะนำให้ดิฉันหยุดชำระหนี้ แล้วอ้าแขนรับดิฉันเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของเขา ดิฉันเป็นคนไม่มีญาติพี่น้อง ไม่รู้ว่าจะเอาชื่อไปลงทะเบียนบ้านที่ไหน เพราะเพื่อนแต่ละคนก็คงไม่กล้าให้ดิฉันเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านเขาหรอก กลุ้มมาก ๆๆๆๆ เป็นหนี้ไม่ใช่ว่าไม่กลุ้ม ที่กลุ้มเพราะไม่คิดว่าจะหนีหนี้ ก็อยากจะหาเงินมาจ่ายเหมือนกัน ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าดิฉันควรจะทำอย่างไรดี ขอบคุณมากค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #1434 โดย Champcyber99
ให้กำลังใจกับคนที่คิดว่าตัวเองไม่มีทางเลือกในชีวิตหรือมีทางเลือกในชีวิตน้อยกว่าคนอื่น และจงคิดเสียใหม่ว่าการที่เราทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้นหรือจุดที่ใครก็ใฝ่ฝันนั้น อาจจะไม่ใช่สาระสำคัญที่สุดในชีวิต เพราะยิ่งสูงมาก ยิ่งมีทางเลือกมาก ยิ่งทำให้เรามีปัญหาในการตัดสินใจเลือก ยิ่งทำให้เรามีทางเลือกที่เลือกได้จริงๆน้อยลงไปมากยิ่งขึ้น แต่ใครไม่อยากให้ชีวิตที่ดีขึ้นสูญเสียทางเลือกในชีวิตไป ก็ต้องพยายามเลือกทำ เลือกเดินในทุกทางเลือกที่เพิ่มขึ้น เช่น ใครที่มีรถยนต์ขับ ก็อย่าทิ้งทางเลือกในการขึ้นรถเมล์ รถแท๊กซี่ หรือรถไฟไป พยายามหาโอกาสใช้บริการไว้บ้าง ใครมีหน้าที่การงานสูงๆ อย่าลืมลงไปสัมผัสกับชีวิตคนทำงานในระดับล่างๆบ้าง คนรวยก็อย่าลืมเลือกลงไปสัมผัสกับชีวิตคนจนบ้าง ฯลฯ สรุปง่ายๆคือเมื่อชีวิตเราสูงขึ้น ดีขึ้น และมีทางเลือกในชีวิตเพิ่มขึ้น ก็อย่าลืมกลับไปสัมผัสกับชีวิตในทางเลือกที่เคยเป็นในอดีตบ้าง อย่าทิ้งห่างนานเกินไปจนไม่กล้ากลับมาหาสิ่งที่เคยเป็น เคยมี เคยอยู่ แค่นี้เราก็จะเป็นคนที่มีทางเลือกมากและเลือกได้ทุกทางเลือกอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะสูงขึ้นหรือต่ำลง

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #1435 โดย Skynine

siriporn เขียน: ดิฉันเป็นหนี้ City Bank - Visa 90,000.-, Ready Credit 120,000.-, UOB ุ 60,000.- หยุดจ่ายตั้งแต่เดือน สิงหาคม 2553 ตอนนี้ City Bank กำลังฟ้อง มีหมายศาลมาติดที่บ้านรุ่นพี่ ให้ไปขึ้นศาล 12 มี.ค. 2555 ดิฉันไม่มีเงิน เลยไม่รู้จะไปไกล่เกลี่ยอย่างไร คิดว่าจะไม่ไป รอให้มีเงินคล่องตัวกว่านี้ ดิฉันก็อยากปิดทีเดียวให้จบ ๆ ไปเลย ไม่ได้คิดอยากจะชักดาบ แต่เวลาไม่อำนวยให้ใช้หนี้ เพราะไม่มีเงิน ชื่อของดิฉันได้ไปอาศัยอยู่กับทะเบียนรุ่นพี่ แต่พอตอนนี้ดิฉันหมดผลประโยชน์สำหรับเขา เขาก็อยากจะเอาชื่อดิฉันออกจากทะเบียนบ้าน ให้ไปอยู่ทะเบียนกลาง แล้วอ้างว่าอายที่มีหมายศาลมาปิดหน้าบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็เป็นคนแนะนำให้ดิฉันหยุดชำระหนี้ แล้วอ้าแขนรับดิฉันเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของเขา ดิฉันเป็นคนไม่มีญาติพี่น้อง ไม่รู้ว่าจะเอาชื่อไปลงทะเบียนบ้านที่ไหน เพราะเพื่อนแต่ละคนก็คงไม่กล้าให้ดิฉันเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านเขาหรอก กลุ้มมาก ๆๆๆๆ เป็นหนี้ไม่ใช่ว่าไม่กลุ้ม ที่กลุ้มเพราะไม่คิดว่าจะหนีหนี้ ก็อยากจะหาเงินมาจ่ายเหมือนกัน ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าดิฉันควรจะทำอย่างไรดี ขอบคุณมากค่ะ


เราย้ายชื่อเราไปไว้ยังทะเบียนกลางก็ไม่เป็นไรนะ อย่ากังวล อย่างไรเราก็ยังมีสำมะโนครัวนะ
ไม่ได้เป็นคนตกหล่น หลังหมดหนี้เราสามารถซื้อหาบ้านใหม่ เราก็มีชื่อในทะเบียนบ้านที่เราเป็นเจ้าของได้
อย่างไรต้องไปศาลนะ ไปศาลขอบอกไม่ได้น่ากลัวอะไร เราไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไปเพื่อแสดงสิทธิ เรา
สามารถเลื่อนนัดได้ (ไกล่เกลี่ย สู้คดี) ทุกวันอาทิตย์ ณ สวนลุม เวลา 13.00-16.00 น. เรามีผู้เชี่ยวชาญ
ด้านกฎหมายอยู่ 2 ท่าน คือ คุณอาไพโรจน์ และคุณอาประพัฒน์ ให้คำปรึกษาอยู่ ไม่เสีย
ค่าใช้จ่าย นำหมายศาลมาปรึกษากับคุณอาทั้งสองก็แล้วกัน แต่อาทิตย์ 1 ม.ค. 2555 หยุดนะ
อาทิตย์ไหนว่างก็ไปปรึกษานะ ค่อยๆ เก็บเงินไว้มากน้อยช่างมัน เดี๋ยวเป็นก้อนใหญ่ได้
เดือดร้อนนำมาใช้ได้ ไม่ต้องไปยืมใคร และไม่สร้างหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกนะ อยู่ให้ได้ด้วยเงินเดือน
ของตัวเอง เท่านี้เราก็ผ่านวิกฤติไปได้ และอ่านวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่านด่วน และอ่านกระทู้พี่ๆ เพื่อนๆ ด้วย
จะได้เห็นแนวทาง แล้วนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก้หนี้ให้ตรงจุด

ปล. ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ พี่อัง สวยประหาร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #1487 โดย ntps
เมื่อสติมา ปัญญาเกิด อย่างที่พี่อังคนสวยรวยน้ำใจบอกค่ะ
การไปอยู่ทะเบียนกลาง มีผลเสียอย่างเดียวคือเวลาเขาฟ้อง เขาจะลงหนังสือพิมพิ์
ค่ะ แต่ไม่ใช่ ไทยรัฐ แบบนี้นะค่ะ เพราะเขาไม่สามารถจัดส่งเอกสารได้ค่ะ เราจึง
อาจจะหลุดข่าวค่ะ
ไม่รู้ว่าคุณยังทำงานหรือเปล่า มีทรัพย์สินอื่นไหมค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Skynine

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #1588 โดย Ly89
มาเติมกำลังใจให้ครับ...คุณ siriporn

วันนี้...มันอาจจะดูแย่ สำหรับชีวิต

วันหน้า...วันที่ผ่านพ้นวิกฤติไปได้...ลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง

บ้านที่โดนพายุกระหน่ำ...เมื่อมันสงบลง....บ้านก็ยังค่อยๆซ่อมแซมให้กลับมาดีได้อีกครั้ง

ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอครับ...

ขอเพียงให้...มีสติ เมื่อสติมา...แล้วปัญญาจะเกิดนะครับ...สู้ๆ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #1596 โดย Pych
ขอนำแนวทางการไปศาลของคุณเก่ง Familyman ที่แนะนำไว้ ดังนี้ครับ

เมื่อได้รับหมายศาลแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง (อันนี้จากประสบการณ์ของผมนะครับ)

1.ให้ตรวจสอบรายละเอียดต่างๆในหมายศาล ดังนี้
- ดูว่าจะฟ้องที่ศาลไหน กำหนดวันขึ้นศาลเมื่อไร จะได้จัดตารางได้ถูกต้อง หากจำเป็นต้องลาล่วงหน้าจะได้แจ้งหัวหน้าไว้ก่อน
- ดูรายละเอียดเกี่ยวกับยอดหนี้ของคุณ เช่น ยอดตอนที่คุณหยุดจ่ายเท่าไหร่ และยอดที่ทางเจ้าหนี้ยื่นฟ้องว่าเป็นยอดทั้งหมดเท่าไหร่ เงินต้นเท่าไร ดอกเบี้ยเท่าไหร่
- หากเจ้าหนี้เค้าฟ้องศาลพื้นที่ที่ไม่ใช่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของคุณ ก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ (เนื่องจากคดีผู้บริโภคต้องฟ้องพื้นที่ที่จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่เท่านั้น)

2.ตรวจสอบดูว่าทางเจ้าหนี้ฟ้องเกินอายุความฟ้องหรือไม่ โดยบัตรเครดิตอายุความฟ้อง 2 ปี ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลมีอายุความฟ้อง 5 ปี นับจากวันที่คุณผิดนัดชำระครั้งแรก.... หากเกินอายุความก็ยกประเด็นนี้ขึ้นสู้ หรือถ้าเกิดมีผีหยอดเงินเข้าไปเพื่อต่ออายุความให้คุณ ทั้งๆที่กำลังจะหมดอายุความแล้ว แบบนี้ก็สู้เหมือนกันครับ (แต่จะต้องทำอย่างไรไปหาอ่านในกระทู้เก่าเอง)

3.พิจารณาตัวคุณเองในเรื่องต่างๆ ดังนี้
-ว่ามีเงินก้อนในมือหรือไม่ จำนวนเท่าไหร่
-หากไม่มีเงินก้อนในมือมีความสามารถในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนมากน้อย
-มีหนี้ที่ได้รับหมายศาลมากน้อยเท่าไหร่ หนี้ที่ฟ้องแล้วอยู่ในระหว่างขั้นตอนใดบ้าง
-ในอนาคตอันใกล้จะได้รับเงินก้อนเข้ามา เช่น โบนัส หรือไม่ จำนวนเท่าไหร่

4.พิจารณาว่าทางเลือกต่างๆ และกำหนดจุดยืนที่เหมาะสมกับตัวคุณ โดยมีทางเลือกต่างๆดังนี้

4.1ไปเพื่อเจรจาหน้าศาล ขอ Haircut ปิดบัญชี
การไปเจรจา Haircut หน้าศาล เมื่อคุณไปศาล ทนายโจทก์จะเข้ามาพบคุณเพื่อเสนอเงื่อนไขของทางโจทก์ว่ามีอะไรบ้าง คุณก็สามารถเจรจาเพื่อขอส่วนลดปิดบัญชีได้ ในการเจรจานั้นบางทีก็สามารถเจรจากับทนายโจทก์ได้เลย แต่บางทีหากทนายโจทก์ไม่ได้รับมอบอำนาจในการเจรจากับลูกหนี้มา ทนายโจทก์ก็จะให้เบอร์ติดต่อเพื่อให้คุณโทรติดต่อไปเจรจาตอนนั้น หากได้ส่วนลดที่คุณต้องการ และเงินก้อนในมือพร้อมคุณก็สามารถทำการ Haircut ได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนในมือพร้อมเท่านั้น

4.2 ไปเพื่อเจรจาหน้าศาลผ่อนชำระเป็นงวดๆ
กรณีนี้จะคล้ายกับกรณี 4.1 เพียงแต่กรณีนี้คุณไม่มีเงินก้อนในมือ คุณก็สามารถเจรจาขอผ่อนชำระได้ หากข้อเสนอที่ฝ่ายโจทก์เสนอมา คุณคิดว่าคุณสามารถผ่อนชำระได้ คุณก็สามารถทำยอมหน้าศาลได้ กรณีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีเงินเหลือสำหรับใช้หนี้ในแต่ละเดือนมากพอใน ระดับนึง และมีหนี้ที่ทยอยฟ้องไม่กระชั้นชิดกัน แต่กรณีนี้มีข้อเสียคือ หากคุณทำยอมหน้าศาลแล้ว และต่อไปคุณเกิดปัญหาด้านการเงินจนผ่อนไม่ไหว เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้เลย โดยที่ไม่ต้องทำเรื่องฟ้องอีกครั้ง

4.3ไปเพื่อขอเลื่อนนัดศาล
การไปขอเลื่อนนัดพิจารณา คุณสามารถทำได้โดยไปศาลและแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนพิจารณาคดี ซึ่งการขอเลื่อนคุณต้องเตรียมเหตุผลไปให้ดี เช่นคุณแจ้งต่อศาลว่าขอเลื่อนเพื่อสู้คดี ศาลท่านจะถามคุณว่าคุณจะสู้ในประเด็นอะไร ดังนั้นคุณต้องทำการบ้านไปพอสมควร แต่ผมแนะนำว่าควรจะใช้เหตุผลว่าขอเลื่อนเพื่อไปเจรจาต่อรองกับโจทก์อีกครั้ง นึงจะดีกว่า ส่วนศาลท่านจะเลื่อนนัดให้คุณมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับศาลแต่ละพื้นที่ หากเป็นศาลพื้นที่ที่มีคดีเยอะคุณก็อาจได้เลื่อนนัดไปได้นาน มีเพื่อนคนนึงในเวปสามารถขอเลื่อนนัดได้เกือบ 10 เดือนเลยครับ แต่กรณีของผมขึ้นศาลแขวงธนบุรี ศาลท่านจะให้เลื่อนนัดได้ประมาณ 2 เดือน เมื่อศาลท่านเลื่อนนัดให้คุณ คุณก็สามารถเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ได้ หาก Haircut ได้ก็ Haircut ไป แต่ถ้า Haircut ไม่ได้จริงๆ เมื่อถึงกำหนดนัดศาลอีกครั้ง และคุณต้องการจะสู้คดี คุณก็สามารถสู้คดีได้ ข้อดีของกรณีนี้คือคุณสามารถยืดเวลาออกไปได้ เหมาะสำหรับคนที่เก็บเงินใกล้ที่จะ Haircut ได้ หรือในอนาคตอันใกล้จะมีเงินก้อน เช่น โบนัสเข้ามา
ป.ล.ปัจจุบันนี้เนื่องจากการฟ้องร้องคดีบัตรเครดิตและสินเชื่อ เปลี่ยนจากใช้ วิ.แพ่งมาเป็น วิ.ผู้บริโภค ดังนั้นการขอเลื่อนนัดศาลจะขอเลื่อนไม่ได้นานเหมือนสมัยก่อน

4.4ไปเพื่อสู้คดี
การสู้คดีนั้นสามารถไปยื่นคำให้การด้วยวาจา หรือโดยลายลักษณ์อักษร ก็ได้ แต่แนะนำว่าควรยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร และควรจะให้ทนายหรือผู้รู้เป็นผู้ร่างคำให้การ คุณไม่ควรที่จะเอาคำให้การสู้คดีของผู้อื่นมาดัดแปลง เนื่องจากว่าคดีต่างกัน ประเด็นต่อสู้ทางกฎหมายก็ต่างกัน การสู้คดีมีค่าใช้จ่าย ดังนั้นคุณต้องดูก่อนว่าคดีของคุณเป็นคดีอะไร มีประเด็นที่สามารถต่อสู้ได้หรือไม่ และถ้าสู้แล้วสิ่งที่ได้กับสิ่งที่เสีย คุ้มกันหรือไม่ ข้อดีของการสู้คดีคือมูลหนี้ที่ฟ้องลดลง และคุณมีเวลาเก็บเงินเพื่อ Haircut เพิ่มขึ้น หลังจากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คุณยังสามารถเจรจา Haircut ได้อีก แต่ข้อเสียคือ หากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว และคุณยังไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้เค้าสามารถร้องต่อศาลขอบังคับคดีได้
คดีบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะไม่ค่อยน่าสู้คดี เนื่องจากสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยค่อนข้างถูกต้องแล้ว ถึงสู้คดีไปก็อาจได้ลดมูลหนี้ที่ฟ้องไม่มาก ซึ่งไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ส่วนคดีสินเชื่อส่วนบุคคลของนอนแบงก์แนะนำว่าน่าจะสู้คดีครับ โดยเฉพาะควิกแคซ
ป.ล. ถ้าต้องการสู้คดี นัดแรกที่คุณไป คุณต้องไปยื่นคำให้การสู้คดีทันที

4.5ไปเพื่อขอความเมตตาจากศาลท่าน (ไม่สู้คดี)
กรณีนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่โดนเจ้าหนี้หลายๆรายฟ้องพร้อมๆกัน ไม่มีเงินก้อนในมือ คาดว่าไม่สามารถผ่อนชำระได้แน่นอน ถึงจะยืดเวลาออกไปก็ไม่ช่วยอะไรได้มาก เป็นคดีที่ไม่มีประเด็นต่อสู้ ซึ่งคิดว่าการอายัดเงินเดือนเป็นทางออกทางเดียว กรณีนี้หากคุณไม่ลำบากในการไปศาลมาก ก็ไปศาลเพื่อขอความเมตตาจากศาลขอให้ศาลท่านเมตตาตัดในส่วนของดอกเบี้ยผิดนัด ชำระหรือค่าปรับลง หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดี กรณีนี้คุณต้องดูด้วยนะครับว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรหรือไม่

*************************************************************

ลองตัดสินใจดูว่า คุณจะเลือกแนวทางไหน

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: Badmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.392 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena