ขอคำแนะนำหน่อยครับว่ากรณีนี้ถือว่าหนีศาลรึเปล่าครับ

ผมโดนฟ้องจาก KTC โดยมีหมายศาลให้ไปขึ้นศาลเพื่อไกล่เกลี่ยและสืบพยานในวันที่ 19 ธ.ค. 2554
ที่ศาลจังหวัดปัตตานี แต่ผมทำงานอยู่ที่ กทม. ได้เดินทางกลับบ้านในช่วงปีใหม่วันที่ 29 ธ.ค. 2554
จึงรู้ว่าโดนฟ้องแล้ว ซึ่งทางแม่ของผมได้บอกว่ามีทนายเอาหมายศาลมาให้แม่ประมาณวันที่ 22 ธ.ค. 2554
และให้เซ็นต์รับเอกสารแต่แม่ของผมไม่ได้เซ็นต์รับไว้
อยากถามพี่ๆๆว่ากรณีนี้ถือว่าผมหนีศาลหรือไม่? และถ้าผมอยากจะเจรจาประนอมหนี้กับ KTC ยังได้อยู่อีกหรือไม่?
ซึ่งมีหนี้มีรายละเอียดดังนี้
1.บัตรเครดิต KTC เงินต้น 71576.18 บาท ดอกเบี้ย 10367.28 บาท ค่าธรรมเนียม 1605 บาท รวม 83548.46 บาท โดยหยุดจ่ายตั้งแต่เดือน ส.ค. 2553
2.บัตรกดเงินสด KTC เงินต้น 49966.97 บาท ดอกเบี้ย 5661.73 บาท ค่าธรรมเนียม 3397.04 บาท ค่าติดตามทวงถาม 1605 บาท รวม 60630.74 บาท โดยหยุดจ่ายตั้งแต่เดือน ส.ค.2553
โดยที่ผมหยุดจ่ายเนื่องจากภาระเกินตัว และได้ลาออกจากงานในเดือน ม.ค.2554 ว่างงานอยู่ 6 เดือน
เพิ่งเริ่มทำงานได้ในเดือน ก.ค. 2554 นี้เอง ซึ่งผมสามารถชำระหนี้ได้อยู่ที่ เดือนละ 5000 บาท
อยากถามพี่ๆๆผู้รู้ผมควรทำอย่างไรดี
ขอบคุณครับ

เพิ่มเติมนิดนึงครับ
หน้าแรกของหมายศาลมีแสตมป์อักษรสีแดงไว้ว่า "ส่งไม่ได้ให้ปิด ให้มีผลทันที" หมายความว่ายังไงครับ

potter371 เขียน: ผมโดนฟ้องจาก KTC โดยมีหมายศาลให้ไปขึ้นศาลเพื่อไกล่เกลี่ยและสืบพยานในวันที่ 19 ธ.ค. 2554
ที่ศาลจังหวัดปัตตานี แต่ผมทำงานอยู่ที่ กทม. ได้เดินทางกลับบ้านในช่วงปีใหม่วันที่ 29 ธ.ค. 2554
จึงรู้ว่าโดนฟ้องแล้ว ซึ่งทางแม่ของผมได้บอกว่ามีทนายเอาหมายศาลมาให้แม่ประมาณวันที่ 22 ธ.ค. 2554
และให้เซ็นต์รับเอกสารแต่แม่ของผมไม่ได้เซ็นต์รับไว้
อยากถามพี่ๆๆว่ากรณีนี้ถือว่าผมหนีศาลหรือไม่? และถ้าผมอยากจะเจรจาประนอมหนี้กับ KTC ยังได้อยู่อีกหรือไม่?
ซึ่งมีหนี้มีรายละเอียดดังนี้
1.บัตรเครดิต KTC เงินต้น 71576.18 บาท ดอกเบี้ย 10367.28 บาท ค่าธรรมเนียม 1605 บาท รวม 83548.46 บาท โดยหยุดจ่ายตั้งแต่เดือน ส.ค. 2553
2.บัตรกดเงินสด KTC เงินต้น 49966.97 บาท ดอกเบี้ย 5661.73 บาท ค่าธรรมเนียม 3397.04 บาท ค่าติดตามทวงถาม 1605 บาท รวม 60630.74 บาท โดยหยุดจ่ายตั้งแต่เดือน ส.ค.2553
โดยที่ผมหยุดจ่ายเนื่องจากภาระเกินตัว และได้ลาออกจากงานในเดือน ม.ค.2554 ว่างงานอยู่ 6 เดือน
เพิ่งเริ่มทำงานได้ในเดือน ก.ค. 2554 นี้เอง ซึ่งผมสามารถชำระหนี้ได้อยู่ที่ เดือนละ 5000 บาท
อยากถามพี่ๆๆผู้รู้ผมควรทำอย่างไรดี
ขอบคุณครับ

ไม่ไปศาลศาลจะตัดสิทธิ์จำเลยยกผลประโยชน์ให้โจทก์(เพราะจำเลยเพิกเฉยหมายศาล)เมื่อเรื่องถึงศาลแล้วดอกเบี้ยหยุดคิดต่อไม่ได้ โอกาสที่เกิดขึ้นได้เมื่อเราสู้คดีและให้ศาลตัดสินจนถึงที่สุดมี 3 ทาง 1. ลูกหนี้ชนะไม่ต้องจ่าย 2. เจ้าหนี้ชนะลูกหนี้ต้องชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่ศาลสั่ง 3. เจ้าหนี้ชนะลูกหนี้ชำระหนี้ไม่ได้ตามเงื่อนไขที่ศาลสั่ง เจ้าหนี้ดำเนินการบังคับคดีทำได้ 2 รูปแบบคือ 1. ยึดทรัพย์ 2. อายัดเงินเดือน(มีอายุความบังคับได้ 10 ปี) โดนบังคับคดีแล้วทำไงดี นับจากคำพิพากษาของศาล นั่นหมายถึง คดีจบ และถึงที่สุดแล้ว และเราแพ้คดีครับ อวสานเซลล์แมน ต้องจ่ายเงิน ใช้หนี้คืนให้กับเจ้าหนี้ตามจำนวนที่ศาลตัดสิน สมมุติว่าเราไม่จ่าย หายเงียบ และศาลได้ตัดสินมาแล้ว 15 วัน เจ้าหนี้ก็จะขอบังคับคดีแล้วครับ นั่นแปลว่า เจ้าหนี้มีสิทธิ์ขอให้พนักงานบังคับคดีทำการสืบทรัพย์บังคับคดี นั่นคือ ยึดทรัพย์ และอายัดทรัพย์สินทุกชนิดที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ทรัพย์สินที่ยึดได้จะนำมาขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระคืนเจ้าหนี้ ถ้ายังไม่ครบถ้าเจ้าหนี้ขยันหน่อยก็จะไล่ลาสุดขอบฟ้าหามาให้ครบ ด้วยวิธีใดๆ ทางกฎหมาย รวมถึงอายัดเงินเดือนโบนัสหรือค่าตอบแทนต่างๆๆด้วยจนกว่าคดีจะหมดอายุความบังคับคดี

potter371 เขียน: เพิ่มเติมนิดนึงครับ
หน้าแรกของหมายศาลมีแสตมป์อักษรสีแดงไว้ว่า "ส่งไม่ได้ให้ปิด ให้มีผลทันที" หมายความว่ายังไงครับ[/qu
หมายความว่ามีคนไปส่งหมายศาลที่บ้านคุณไม่มีใครรับก็ให้ติดไว้หน้าบ้านคุณเขาถือว่าคุณได้รับหมายศาลแล้วครับ

ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ
ขอคำแนะนำหน่อยครับว่ากรณีผมควรทำอย่างไรดี?
เพราะจะได้เงินก้อนประมาณ 80000 บาท สิ้นเดือน กพ.

potter371 เขียน: ขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ
ขอคำแนะนำหน่อยครับว่ากรณีผมควรทำอย่างไรดี?
เพราะจะได้เงินก้อนประมาณ 80000 บาท สิ้นเดือน กพ.

ไม่ต้องทำอะไรครับเก็นเงินไว้ในบัญชีที่ไม่ใช้ชื่อเราก่อนรอเจ้าหนี้มีจดหมายไปหาคุณที่บริษัทที่คุณทำงานอยู่ผมหมายถึงหมายบังคับคดียึดเงินเดือนครับพอถึงตอนนั้นเจ้าหนี้ก็จะตกลงกับคุณอีกครั้งถ้าเงินเดือนคุณสูงเจ้าหนี้อายัดได้30%คิดดูว่ามันคุ้มไม่กับการให้อายัดเงินเดือนถ้าคุณเงินเดือนน้อยให้เขาอายัดไปก่อนประมาณ2-3เดือนแล้วคุยกับเจ้าหนี้อีกที่ การทำh/c ทำได้ทุกวัน

ตอนนี้เท่ากับว่าผมโดนตัดสินให้จ่ายตามยอดที่ฟ้องเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ
ที่ผมทำได้ตอนนี้คือรอหมายบังคับคดียึดเงินเดือน แล้วส่วนใหญ่จะใช้เวลานานมั้ยครับ
อีกอย่างผมเพิ่งมาทำงานที่บริษัทใหม่ได้แค่ 6 เดือน จะมีผลเสียอย่างไรบ้างกับการโดนอายัดเงินเดือน
และถ้าผมจะทำ h/c ผมสามารถเจรจากับทางธนาคารได้เลย ซึ่งเป็นใครก้อได้ใช่มั้ยครับ
เนื่องจากผมไม่เคยได้จดหมายทวงหนี้ของ KTC เลย เพราะที่อยู่ที่ส่งเอกสารเป็นที่อยู่บริษัทเก่าน่ะครับ

หากคุณไม่อยากให้ KTC ทำเรื่องอายัดเงินเดือน เพราะเกรงจะมีผลกระทบกับหน้าที่การงาน
คุณติดต่อไปทางเจ้าหนี้โดยตรงสิค่ะ
แต่บอกก่อนว่า กรณีแบบนี้ เขาถือไพ่เหนือกว่าคุณมาก เพราะ คุณหนีศาล (ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องหนี้ของตัวเองเลย นับตั้งแต่หยุดจ่าย)
คุณให้ใครก็ได้ที่บ้านปัตตานี คัดหมายศาลมาให้ ปกติแล้ว หลังจากมีการพิพากษาราวๆ 15-30 วัน
(แนบสำเนาบัตรประชาชนของคุณ และใบมอบอำนาจไปด้วย)
คุณจะได้รู้ว่า ศาลตัดสินว่าอย่างไร แล้วคุณก็ติดต่อไปทางเจ้าหนี้ว่า จะช่วยเหลือคุณได้อย่างไร
บอกเขาว่า คุณตกงานหลายเดือน ย้ายที่ทำงาน และย้ายบ้าน ทาง KTC มีนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้อย่างไรบ้าง บอกไปเถอะว่า น้ำท่วม เมียตาย พ่อตาป่วย ว่าไปโน้น...
แต่ราคาแฮร์คัทจะไม่งามมาก (เพราะเขามีคำพิพากษาในมือ) คุณต้องทำใจยอมรับตรงนี้
ถ้างวดเดียว ไม่ไหว ขอผ่อนจ่ายไป
ปกตินโยบายของ KTC จะให้ผ่อนแบบขี้นบันได คือน้อยในปีแรก มากในปีถัดๆไป
คุณผ่อนจ่ายเขาไปก่อน พอเก็บเงินก้อนได้ ก็ค่อยขอแฮร์คัทอีกทีก็ได้ ไม่สาย
การใช้หนี้ เราสนับสนุนค่ะ แต่อย่าให้เดือดร้อนตัวเอง อย่าไปกู้หนี้ใหม่มาโป๊ะหนี้เก่า มันจะไม่จบ
แล้วขอให้บทเรียนในครั้งเก่า เป็นครูในการสอนเรื่องวินัยในชีวิตวันข้างหน้าของคุณต่อไป
ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ โชคดีค่ะ

สามารถ H/C ได้ตลอดค่ะ ต่อให้มีคำสั่งอายัดเงินเดือนมาที่บ.ค่ะ เพียงแค่เราติดต่อไปที่เจ้าหนี้โดยตรง และลองต่อรองกับเจ้าหนี้ดูค่ะ แต่ส่วนลดอาจจะได้ไม่เหมือนก่อนศาลท่านตัดสิน แต่ก็ยังดีกว่าที่เราต้องก้มหน้า ก้มตาให้เขาอายัดเงินเดือนตามที่ศาลท่านตัดสินมา เพราะดิฉันเพิ่งเจอเคสของแฟนเพื่อนค่ะ โดนอายัดเงินเดือน ตาม link นี้เลยค่ะ ลองอ่านดูค่ะ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=1194&Itemid=29

ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ ได้อ่านแล้วพอจะมองเห็นทางบ้่างแล้วครับ

ขอบคุณครับ