การปิดบัญชีสินเชื่อบ้านกับธนาคารทหารไทย

ดิฉันต้องการจะปิดหนี้กับธนาคารทหารไทย ดิฉันเป็นหนี้บ้านมาตั้งแต่ปี 2540 ช่วง2 - 3 ปีหลังมาไม่ได้ส่งเลย และมาเริ่มส่งอีกครั้งเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 55 โดยส่งมาเดือนละ 5000 บาท ส่งมาเรื่อย ๆ จนถึงเดือนนี้ ดิฉันเป็นหนี้เงินต้นประมาณ 345,000 บาท ตอนนี้ดอกเบี้ย ประมาณ 90,000 กว่าบาท และทางธนาคารบอกว่าจะฟ้องวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขณะนี้ดิฉันโดนสั่งฟ้องศาล ซึ่งหมายศาลยังไม่มา นี่ก็ใกล้วันแล้วไม่ทราบว่าทำไมหมายศาลถึงยังไม่มา ดิฉันต้องการจะปิดบัญชีหนี้ ซึ่งขณะนี้ดิฉันมีอยู่ประมาณ 360,000 ซึ่งดิฉันก็โทรศัพท์ไปขอลดหย่อนจากทางธนาคาร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และบอกว่าจะลดหย่อนดอกเบี้ยให้เพียงครึ่งเดียว ซึ่งรวมเป็นเงินก็เกือบประมาณ 400,000 บาท ถ้าไม่ตกลงตามนี้ก็จะส่งฟ้อง ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะว่าดิฉันจะทำอย่างไร ขึ้นศาลแล้วขอความเมตตาจากท่านได้ไหมคะ ขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

ท่านกรรมการ ongkuleemarn เคยตอบไว้ว่า

ก่อนอื่น...อยากจะประชาสัมพันธ์ให้คุณได้เข้าใจเสียก่อนว่า ที่นี่คือ


ชมรมหนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล


ที่นี่...ไม่ใช่ ชมรมหนี้นอกระบบ
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ กยศ.
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ สหกรณ์
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ ไฟแนนซ์/ลิสซิ่งต์
ไม่ใช่ ชมรมหนี้ บ้าน/คอนโด หรือซื้อที่อยู่อาศัย
ไม่ใช่ ชมรมหนี้วงแชร์
ไม่ใช่ ชมรมหนี้พนันฟุตบอล
ไม่ใช่ ชมรมหนี้หวย

ชมรมฯแห่งนี้...ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า ที่จะมีครบทุกสิ่งที่ต้องการ

ดังนั้น ถ้าหากคุณมีปัญหาในเรื่องอื่นๆ ที่นอกเหนือจากคำว่า "หนี้บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล"(หรือหนี้ในระบบ)
กรุณาติดต่อไปที่ "มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค" ซึ่งมีที่อยู่และรายละเอียด ของ มพบ.อยู่ในด้านล่างสุดของหน้าจอนี้

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ลองอ่านดูนะครับ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=52

ความหมายของ วันนัดไปศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6915&Itemid=52

เตือนไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว สำหรับผู้ที่จะไปขึ้นศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8372&Itemid=52

kakaew เขียน: ดิฉันต้องการจะปิดหนี้กับธนาคารทหารไทย ดิฉันเป็นหนี้บ้านมาตั้งแต่ปี 2540 ช่วง2 - 3 ปีหลังมาไม่ได้ส่งเลย และมาเริ่มส่งอีกครั้งเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 55 โดยส่งมาเดือนละ 5000 บาท ส่งมาเรื่อย ๆ จนถึงเดือนนี้ ดิฉันเป็นหนี้เงินต้นประมาณ 345,000 บาท ตอนนี้ดอกเบี้ย ประมาณ 90,000 กว่าบาท และทางธนาคารบอกว่าจะฟ้องวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขณะนี้ดิฉันโดนสั่งฟ้องศาล ซึ่งหมายศาลยังไม่มา นี่ก็ใกล้วันแล้วไม่ทราบว่าทำไมหมายศาลถึงยังไม่มา ดิฉันต้องการจะปิดบัญชีหนี้ ซึ่งขณะนี้ดิฉันมีอยู่ประมาณ 360,000 ซึ่งดิฉันก็โทรศัพท์ไปขอลดหย่อนจากทางธนาคาร แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และบอกว่าจะลดหย่อนดอกเบี้ยให้เพียงครึ่งเดียว ซึ่งรวมเป็นเงินก็เกือบประมาณ 400,000 บาท ถ้าไม่ตกลงตามนี้ก็จะส่งฟ้อง ช่วยแนะนำหน่อยได้ไหมคะว่าดิฉันจะทำอย่างไร ขึ้นศาลแล้วขอความเมตตาจากท่านได้ไหมคะ ขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ

เมื่อหยุดจ่าย แล้วมาเริ่มจ่าย คุณได้แจ้งหรือเจรจากับเจ้าหนี้หรือเปล่าค่ะ

หยุดมาเป็นปี แล้วถ้าอยู่ๆ มาเริ่มอยากจ่ายขึ้นมา มันไม่คุ้มหรอกค่ะ ไหนๆ

ดอกเบี้ยก็วิ่งมาตั้งนาน จนทบต้นทบแล้วทบอีก คุณจะจ่ายแค่ยอดที่ค้าง

ตอนหยุดก็คิดว่า ทารุณคนทำธุรกิจมากเกินไปไหมค่ะ เพราะเขาให้เงินคุณ

มาซื้อบ้าน และเสียโอกาสได้คืน แม้เราจะรู้ว่า เขาคิดดอกเบี้ยแพง แต่เรา

ยินยอมรับมาเองนะค่ะ เรื่องฟ้องไหมฟ้อง ต้องตรวจที่ศาล ไม่ใช่ฟังเจ้าหนี้

บอกอย่างเดียวค่ะ และช่วยไปอ่าน ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล

เพื่อรู้ว่า ศาลท่านไม่มีอำนาจลดยอดฟ้องได้ ยกเว้นลดดอกเบี้ยที่เจ้าหนี้

จะคิดจากยอดฟ้องค่ะ การขอลดขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่างคุณกับเจ้าหนี้ค่ะ

หนี้ที่มีหลักประกันเช่น บ้าน รถ การต่อรองขอลดมากๆ ค่อนข้างลำบากค่ะ

คุณควรเข้าไปจับเข่าคุยกับเจ้าหนี้ หาทางไกล่เกลี่ยว่า ทำสิ่งใดได้ และ

แค่ไหนค่ะ เพราะ การขอจ่ายให้ได้ดั่งใจก็ยาก การจ่ายตามที่เขาขอมาก็

ลำบาก แต่เจ้าหนี้ส่วนมาก ไม่มีความต้องการอยากยึดหรอกค่ะ ยกเว้น

ลูกหนี้หนี เบี้ยว หรือ ไม่ยอมประนีประนอมกัน เพราะการขายทอดตลาด

ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ค่ะ