โดนทวงเป็นหนี้ได้บัตรมาใช้เพราะเอกสารปลอมที่เราไม่ได้ทำ (แต่เราใช้)

สวัสดีทุกคนในชมรมหนี้บัตรเครดิตค่ะ

ก่อนอื่นก็ต้องว่าไปตามชื่อหัวกระทู้นะคะ เรื่องอาจยาวนิดนึง และมีคำถามหน่อยค่ะ

คือเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นานมานี้จากประสบการณืตรงเราจริงๆกลุ้มมากๆ

โดนทวงเป็นหนี้ได้บัตรมาใช้เพราะเอกสารปลอมที่เราไม่ได้ทำ (แต่เราเป็นคนใช้บัตรจริง)

ขอเรียกตัวเองว่าเรานะคะ
เราอยู่ในสถานะไม่ปกติและก็เป็นหนี้แบบคนอื่นๆ ตั้งแต่อายุยังไม่มาก
ตอนนี้เครียดมากๆ กินไม่ได้นอนไม่หลับ วันๆคิดแต่เรื่องหนี้วกวนในหัวอยู่ตลอดเวลา
พอเราได้เข้ามาตามอ่านหลายๆกระทู้แต่ก็ยังไม่หายเคลือบแคลงใจน่ะค่ะ
ที่เราคิดว่าอาจจะยังไม่มีเคสนี้ที่นี่ เมื่อไตร่ตรองมาดีแล้วจึงสมัครสมาชิกมาตั้งกระทู้ดูสักที

....เผื่อจะมีใครที่ใจดีไขข้อข้องใจ ให้คลายกังวลได้บ้างน่ะค่ะ

ขอเล่าก่อนนะคะว่าเราได้บัตรมาใช้และเป็นหนี้ได้อย่างไร ด้วยความโง่เขลา
เพราะในตอนนั้นคิดแต่ว่า อยากมีเงินมาลงทุนเพิ่มให้ร้านและใช้จ่าย
เราเป็นแม่ค้าขายของเปิดร้านในที่หนึ่งค่ะ ซึ่งขายดีพอสมควร แต่รายจ่ายไม่พอ
เนื่องจากเรา เป็นซิงเกิลมัม ลูกหนึ่ง อยู่ด้วยตัวเอง ไม่ขอเงินที่บ้านตั้งแต่ม.ปลาย
หาเงินเรียนเอง ใช้จ่ายเองมาตลอด ที่บ้านไม่มีให้ค่ะ เราอยู่กับลูกเองสองคน
มีบ้างที่รายจ่ายไม่พอเราจะขอที่บ้าน ก็มีแต่พี่สาวที่พอให้ได้นิดหน่อยค่ากินใช้
รายจ่ายเรามี ค่าเทอมลูก ค่าเช่าบ้าน กินอยู่ ค่าร้าน เงินลงของ
และจิปาถะนิดหน่อยไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไร ร้านเราเป็นร้านเล็กๆไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ต้องตั้งและเก็บร้านเองทุกวัน เลยอยากจะมีเงินหมุนกับเค้ามาทำร้านบ้าง

.... แต่มาวันนึง เวรกรรมก็มาถึงที่ เราเปิดร้านขายของปกติ เอาลูกไปด้วยทุกวันเพราะเลี้ยงเอง
มีผู้ชายคนนึงเข้ามาที่้ร้านเหมือนลูกค้าทั่วไป มาเลือกของหน้าร้าน แต่งตัวก็โอเค
แล้วก็มาถามๆเราว่า อยากสมัครบัตรเครดิต หรือพวกสินเชื่อไหม.....??
เอกสารไม่ยุ่งยาก ขั้นตอนไม่มาก แค่มี สำเนาหน้าบุ๊ก สำเนาบัตร และสำเนาทะเบียนบ้าน ก็ได้
บลาๆๆ คุยจนเราเชื่อน่ะคะ ว่าก็สมัครได้ในนามตัวแทนบริษัทเค้า ซึ่งทุกอย่างจริงหมดแค่คุณ
ได้ใช้บัตรและสินเชื่อของ... เราก็ฟังๆ ก็น่าสนใจนะ แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปเลย

เค้าก็ได้แต่บอกว่าถ้าสนใจทิ้งเบอร์ไว้เดี๋ยวติดต่อกลับเพื่อรับเอกสารหากอยากสมัคร
เค้าบอกมีคนสมัครเยอะนะ พวกแม่ค้าตลาดอื่น คนตลาดเราก็มีสมัครนะ
ไอเราก็หลงเชื่อกับใครที่ไหนไม่รู้

วันนั้นเองที่เรา คิดไปต่างๆนาๆว่า จะทำดีไหม ถ้าได้เงินมาจะเอาไปใช้อะไรก่อน
หรือจะเอาบัตรไปรูดแล้วมาขายเพื่อเอาเงินไปลงของดี เพราะช่วงนี้ขายของก็ต้องกินใช้ทุกวัน
หากมีเงินมาลงของเพิ่มมาทำร้านใหญ่ก็ดี
เค้าบอกอีกว่าหากเอกสารสมัครผ่านขอหักยอด 10% จากที่ได้
เพราะเค้าทำเรื่องให้โดยที่เราไม่ต้องเสียเงินเอกสารอะไรก่อนด้วยซ้ำ เราก็เออ น่าคิด


วันถัดมาก็โทรมาเครื่องเราว่าอยากสมัครอยู่รึเปล่า แล้วก็พูดเหตุผลให้เราเชื่อถือมากมาย
เราเพิ่งมาเข้าใจเหล่าพวก ที่คล้ายๆมิจฉาชีพวันนี้เอง บวกความโง่ของเราด้วยถ้าไม่เจอกับตัวเอง
เราก็เออ สมัครก็ได้วะ เลยนำเอกสารสามอย่างที่ว่าเป็นสำเนาสองชุดเตรียมไปร้านด้วย
เราเคยคิดจะยื่นกู้พวกอิออนอะไรทำนองนี้แต่ว่ายังไม่เคยลอง เพราะเราคิดว่าเสตรทเมนท์เรา
วิ่งไม่ค่อยสวย ทั้งๆที่มีเงินเข้าต่อเดือน แบบเกือบ 2 หมื่น แต่บางเดือนก็หมื่นกว่าแล้วแต่รายจ่าย

ต่อมาคนเดิมก็มาขอเก็บเอกสารที่เรา แล้วจะแจ้งว่าเราสมัครได้หรือไม่ และให้เบอเราไว้
ไอเราก็โง่ซูเปอร์โง่ เพราะอยากใช้เงิน อยากได้บัตรวงเงินสูง(ไม่มากสำหรับคนอื่นมากสำหรับเรา)
เค้าให้เซ็นเอกสาร 1 ชุดที่สำเนา ชื่อนามสกุล สำเนาถูกต้องตามนี้ อีกชุดไม่เซ็น

อีกวันนึงถัดมา เรามานั่งคิดทำไมตอนนี้ว่าเอ๊ะให้เอกสารใครไปไม่รู้จัก หากเอาไปโดนทำนู่นนี่นั่น
ซวยแล้วไงไม่รู้จักคิด แล้วถ้าเราไม่ได้เงินมาเอกสารเราก็หลุดไปในมือมิจฉาชีพเพราะความอยากได้
เงินมาใช้แบบมั่วๆ แต่ส่วนที่เราเชื่อไปเพราะว่าเค้าบอกบริษัทเค้าเชื่อถือได้นะ เพราะทำให้คนนู้น
คนนี้ ไม่มีแยบยล พูดไปเราก็เชื่ออีกได้ไงไม่รู้ เค้าบอกว่าตามตู้โทรศัพทที่มาแปะๆให้กู้น่ะไม่ได้จริง
หรอก (ในใจเราเคยคิดจะกู้อะไรแบบนั้นนะ นอกระบบแต่ไม่มีคนที่เข้าถึงได้ไง)

จังหวะแจ๊กพอตพวกนี้มาเจอะกับคนจนๆพอดี เอาวะ แต่เราก็ยังแอบลุ้นว่าจะเป็นยังไงอีก
เลยโทรไปถามเค้า ก็บอกเรามาว่ายื่นเอกสารได้


ตอนแรกเค้าสมัคร สินเชื่อให้เราก่อนที่นึง ปรากฏว่าเราได้ จึงต้องขอยืนยันเอกสาร
เราได้ยอด แสนนึง จาก non bank แบบ งงๆ ซึ่งเราว่าเยอะมาก และสมุดบัญชีอยู่ที่เรา
เราต้องหักให้เค้าค่าอะไรไม่รู้จำไม่ได้อีก ค่ารับโทรศัพท์ ค่าเอกสาร อะไรที่พุดมาเยอะมาก
สรุปเราได้ใช้เงินจริงประมาณ 68000 เท่าที่จำได้และเค้าก็ให้เมสเซนเจอมารับเงิน

เฮ้ยยย....มันได้จริงว่ะ เราเริ่มได้ใจ แต่ก็ต้องเสียกับค่าอะไรไม่รู้บ้างซึ่งในตอนนั้นไม่ค่อยสนเลย
ขอให้ได้เงินมาใช้จ่ายในช่วงนึง เราในช่วงแรก ก็เอาเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก ไปซื้้อของ
และไปลงทุนร้านครั้งแรกๆ เงินก็ค่อยๆหมดไป เราก็ไม่คิดอะไรมาก มีเงินลงของสบายใจช่วงนึง
ไม่คิดผลที่ตามมาเลย ก็จ่ายขั้นต่ำไปปกติ ปัจจุบันยังจ่ายอยู่

ต่อมาเริ่มเหิมเกริม พวกนั้นก็โทรมาอีกว่า สมัครบัตรเพิ่มได้ ก็ไปยื่นให้เราสองที่
ได้บัตรธนาคารที่นึง กับ non bank อีกที่นึง ยอด 55000 กับ 60000

แล้วก็โทรมาให้เมสเซนเจอร์เอาบัตรมาให้
เดี๋ยวตอนเย็นจะโทรแจ้ง เย็นๆก็โทรมาบอกเราว่าเราได้บัตรจริงอนุมัติเร็วมาก
ยังแปลกใจว่าได้ได้ไง ให้เราไปเอาบัตรที่เค้าที่...แห่งนึง

จากนั้นคนแนะนำคนนี้ก็ให้เหมือนเมสเซนเจอเอาบัตรมาให้เรา และแนะนำว่าให้รูดก่อนเลย
ไอความไม่เคยใช้บัตรก็ถามว่าอะไรยังไง เค้าบอกให้รูดทีเดียวไปให้หมดก่อนซื้อสินค้าอะไรก็ได้
ก็แนะนำอย่างอื่นจำไม่ได้แล้วเราก็ไปรูด โดยเค้าขอหักเงินจากยอดที่ทำบัตรให้เราได้เลย
โดยให้เราโอนให้เดี๋ยวนั้น แต่เราจำบัญชีไม่ได้แล้ว

ส่วนเอกสารอื่นๆเช่นค่าใช้จ่ายในการรูดอะไรก็จะส่งมาให้ที่บ้านเราอีกที
ตอนนั้นเราเลยมีเงินไปลงของอยู่พักนึง เอกสารถูกส่งห่อๆมาบ้านเป็นปกติ
เราก็ไปจ่ายปกติ จ่ายยอดเต็มของที่รูดไป จนกระทั่ง........


หายนะมาถึง......

เราใช้บัตรเครดิต non bank แห่งนึงจ่ายตามปกติไปหลังจากได้บัตร ประมาณสามเดือน
เจ้าหน้าที่ โทรเข้ามาเบอเราว่าเราไม่สามารถใช้บัตรนี้ได้อีก เนื่องจากตรวจเจอเสตรทเมนท์
ปลอม!!!! ซึ่งเราไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอเหตุการณ์นี้หากไม่ผิดชำระหนี้....

เค้าก็ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบมาคุยๆว่าได้บัตรมาอย่างไร รู้เห็นหรือไม่
ไอเราตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจกับเอกสารปลอมเท่าไหร่ เพราะไม่เคยคิดว่าคนที่ส่งจะทำได้เนียน
คนที่ทำบอกว่าหน้าบุี๊๊๊๊๊กใช้ของเราคือของเราไม่เคยคิดว่าจะปลอมน่ะ เจตนาเราคือไม่ได้ตั้งใจ
เราไม่ได้เป็นคนปลอมแปลงเอกสารใช้ของจริงหมด แต่อย่างอื่นเราไม่รู้เรื่องเลย

เค้าก็บอกเหตุผลต่างๆนาๆจนเราเริ่มกลัว เค้าก็ให้เราชดใช้หนี้ที่เหลือ ยอดประมาณ
45000 กว่าๆ ซึ่งตอนแรกเราก็รับคำไปว่าเราใช้ได้ แต่เค้าบอกว่าจะต้องปิดยอดรวมเท่านั้น!

ในตอนนั้นเราก็ว้าวุ่นใจไปหมดเลย โทรกลับไปไอคนที่ทำเอกสารก็ติดต่อไม่ได้จนถึงปัจจุบัน
(ประมาณว่าได้ยอดแล้วก็หาเหยื่อต่อไปมั้ง) เราโดนโทรตามหนี้ตลอดเลย
ว่าเราไมใช่ลูกหนี้ธรรมดานะ ต้องจ่ายปิดยอด เรื่องจะจบจะไม่ดำเนินคดีความ

ซึ่งเราจ่ายปกติมาตลอด เราก็ต่อรองไปว่าขอแบ่งจ่ายเป็นงวดได้ไหมแบบที่จ่ายปกติ
จึงจะจ่ายได้ มันก็ไม่ยอมๆ ขู่แต่เรื่องเอกสารปลอมอย่างเดียวว่าเราเป็นคนใช้
เป็นทั้งคดีอาญา และแพ่ง ส่วนเรื่องเอกสารเค้าก็ถามตลอดว่าใครทำรู้มั้ยอะไรยังไง
เราก็เล่าไปตามจริงว่าได้มายังไง นี่คือที่เดียวนะคะ

เรากลุ้มมากไม่รู้จะพูดยังไงกลัวโดนจับ กลัวติดคุก หลายๆอย่าง และลูกเรายังเล็กจะอยู่ยังไง
เพราะไม่มีใครดูแลได้มีแต่เรา แม่เราก็เสียไปแล้ว เราคิดหาทางไม่ออก
เครียด ร้องไห้ทุกวัน





เรื่องเงินน่ะพอมี เพราะเราทำงานเปิดร้านแทบทุกวันคือจ่ายได้เป็นงวดๆ
เพราะเราจ่ายสินเชื่ออันแรกขั้นต่ำไปด้วย กับบัตรอีกใบ (ซึ่งเรื่องปกติไม่พบเอกสารเรามั้ง)
เรากลัวว่าวันนึงจะไม่ปกติขึ้นมาแล้วเราต้องจ่ายทั้งหมดทีเดียวเพราะความโง่ไปเชื่อพวกนี้
และความอยากได้เงินของเราโดยไม่คิดแต่แรก

.......ต่อมาไอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนเดิมโทรมาอีกว่า ถ้าคุณไม่จ่ายจะฟ้อง จะจับเราจะ
อายัดเงินเรา (จากไหนหว่า) จะฟ้องล้มละลายทีเดียวกะไอ 45000 เนี่ย
มันบอกถ้ายังไงอยากให้มาพบมันเพื่อเคลียร์เรื่องเอกสาร

คือไอเรื่อเงินเราไม่ค่อยกลัว แต่เรากลัวเรื่องเอกสารเพราะเราไม่ใช่คนใช้เอกสารปกติ
เรากลายเป็นคนใช้ที่ไม่ปกติ งง มั้ยคะ มันพูดมาแบบนี้ว่าถ้าเราไม่ออกไปพบมันวันนี้
มันจะตามนู่นนี่นั่น โอ๊ยหลายอย่างมากเรา กลัวเรื่องเดียวเลยเอกสาร.....เราก็บอกว่าถ้า
ออกไปจะสามารถทำอะไรได้บ้าง ขอผ่อนได้มั้ยเรายินดีใช้หนี้ แต่เราไม่ได้ปลอมเอกสารนะ
มันก็บอกว่าโอเคขอให้ออกไป มันมีเวลาไม่มาก คือเราโง่น่ะเอง เพราะมันโทรมาแทบทุกวัน

เราปรึกษาเพื่อนเราคนนึงเค้าก็บอกแกออกไปพบเถอะเผื่อจะประณีประณอมขอผ่อนได้
จะอ่านจะเซ็นเอกสารอะไรดูดีๆ ตอนแรกเราไม่อยากออกไปเจอเลยไม่รู้จะทำยังไงค่ะ
มันบอกมันไม่พาตำรวจมาจับหรอกมันพูดจริงๆ ว่างี้ เราไปรับลูกจาก รร.แล้วพาไปด้วย...

เมื่อไปเจอ เราออกไปเจอน่ะคะ มีใครเคยออกไปเจอคนทวงหนี้บ้างมั้ย??
มากันให้เรากลัวเลยมาสามคน เอาเอกสารเราออกมา ถามว่าเราเป็นคนยื่นอันนี้มั้ย
เป็นคนเซ็นพวกนี้รึเปล่า เอกสารพวกนี้ คือเราไม่ได้เซ็นและไม่ได้ยื่นน่ะคะ
เป็นผู้ใช้บัตรอย่างเดียว โดยที่เค้าเอามาให้ เราโทรไปเปิดบัตรเองด้วยเบอร์เรา
(เค้าเลยโทรกลับมาได้ไง -*-) จากนั้นก็ให้ดูเอกสารต่างๆว่าเรามีทั้ง

เอกสารเสตรทเมนท์ที่ไม่ใช่ของเรา เอกสารใบเงินเดือน
(เค้าบอกบริษัทนี้มีอยู่จริงแต่ไม่ได้อยู่ตามที่อยู่) ซึ่งเซ็นชื่อลายมือเราเหมือนมากๆ
จนอีเจ้าหน้าที่นี่เค้นจะให้เราบอกอยู่ได้ว่าเราเซ็นๆ เราแค่ให้เอกสารเค้าไปเฉยๆตามนั้น
สองคนที่มารุมถามเราใหญ่ ขู่เราว่าต้องปิดยอด อ่าวไหนให้เราผ่อนได้เลยมาเจอ

แล้วยังไงเราไม่ค่อยสนใจเอกสารเท่าไหร่แล้ว แต่มันบอกเราเป็นคนใช้บัตรเซ็นตอนรูด
อันนั้นเราเซนจริงเท่ากับใช้เอกสารปลอม งง? บัตรก็ของจริง มีื่ชื่อเราเราก็เซ้นชื่อเราจริงๆ
แล้วปลอมยังไงที่ปลอมคือเอกสาร ที่โดนส่งไปแล้วเสือกดันอนุมัติต่างหาก...

กลับมาที่เรื่องเงิน มันก็บอกว่าขอปิดยอด ภายใน 30 วัน ห่า....45000 กว่า
คือจะหาจากไหนเป็นก้อน เพราะเราส่งอีกสองอันที่ได้มาด้วย รวมเดือนนึง ประมาณ หมื่นห้า
ไหนจะค่ากินค่าใช้ล่ะ คำนวณมาแล้ว เพราะเราไม่มีรายได้อย่างอื่น

มันก็รุมเราบอกว่าให้เราไปบอกที่บ้านไปยืมเงินที่บ้านมา แถมพูดอีกว่าผมรู้นะว่าพ่อคุณเป็น
ตำรวจ ผมก็รู้จักตำรวจเยอะแยะ....น่านเบ่งด้วย ผมจะฟ้องคุณก็ได้เรื่องเอกสาร
วกเข้าที่เรากลัวอีกละ คือถ้าพ่อเรามีจ่ายเราไม่มากู้หรอกโว้ย...ก็ขอผ่อนเท่านั้นเท่านี้ก็ไม่ยอม
พูดอย่างเดียวว่าเราไม่ใช่ลูกค้าปกติ คือใช้เอกสารปลอมๆ

ซักพักเราก็จะให้ทำไง มีจ่ายได้หมดแต่ต้องผ่อน มันก้เลยพูดกะเพื่อนมัน เพื่อนมันก็จะไม่ให้
มันก็บอกทำไงได้ คุณไม่มี อ่าวก็รู้นี่หว่าเป็นก้อนใครจะหาได้วะ มันก็เลยจะให้แบ่งจ่าย 2 งวด
โดยที่ให้เราเขียนสัญญาขึ้นมาเอง ซึ่งในตอนนั้นเรางงๆ ที่ไม่มีสัญญามาให้อ่าน

แบบว่ามันขอบัตรประชาชนไปสำเนา เราเสือกยื่นให้อ่ะ (จากที่ตามอ่านในกระทู้เวลาคน
จะแฮรคัทกัน แล้วขอส่วนลด พอมันขอ บัตร ปชช. ทำไมถึงไม่ให้เพราะเหตุนี้หรือเปล่าคะ)

แล้วมันก็เอาสำเนามาให้เราเขียนใส่ใบสำเนาเป็นหนังสือยินยอมว่าเราจะใช้หนี้น่ะค่ะ
ในตอนนั้นเราก็กลัวนะ คิดไม่ค่อยทันมัน โดนยิงคำถามรุม สามคน จะเป็นลม มากับลูกตัวเล็ก
จะหันไปถามใครก็ไม่ได้ไม่กล้าใช้โทรศัพท์โทรถามใครตอนนั้นด้วย ไปด้วยความโง่อย่างดียว

เราจำได้ประมาณว่ามันบังคับให้เราเขียนตามคำบอก ว่าเราไม่ได้เป็นคนปลอมและเซ็นยืนยันเอกสาร
ที่ส่งไป ไม่ได้เป็นคนเข้าไปยื่นขอบัตรเอง เป็นเพียงผู้ใช้ และให้ยินยอมใช้หนี้ ที่ใช้บัตรไปโดย
สิ้นเดือนแรกหลังจากวันที่เขียน 30 วัน จ่าย 25000 บาท อีก 30 วันถัดมา จ่ายอีก 20000
กว่าี่บาทที่เหลือ มันบอกได้เท่านี้ เราหนีไม่ได้เพราะมันตามเรื่องเอกสารแน่ (อีกแล้ว)
และที่จำได้คร่าวๆคือ ในใบเขียนว่า หากเราผิดชำระ จะยินยอมให้ดำเนินคดีความทั้งอาญาและแพ่ง

คือเราซวยแล้วใช่ไหมคะ ที่เขียนคำยินยอมแบบโง่ๆโดนบังคับเพราะเราไม่มีทางเลือกเลย
คือมันสามารถเอาใบนี้ไปแจ้งฟ้องได้เลยใช่มั้ย ว่าเรายอมรับหนี้ (จริงๆเราก็ยอมรับนะแต่จ่ายเป็น
ก้อนไม่ไหวอ่ะ คิดว่ามันได้เท่านี้ ตอนแรกยังไม่เคยมาอ่านในชมรมนี้เลย)
และจะไม่ดำเนินคดีความหากเราชดใช้หนี้ทั้งหมด ภายในกำหนด
แล้วก็เซนชื่อเรารับรู้คนเดียว แล้วมันบอกจะเมลมาให้ที่เราเขียน ปัจจุบันยังไม่มีเลย

แต่พอมาคิดดูอีกทีมันต้องการเงินให้จบปิดยอดเร็วๆมากกว่า ขอลดก็ไม่ให้ เสร็จแล้วมันก็บอกตามนั้น
พอเรากลับมาบ้านก็นั่งเหม่อลอยอยู่นานเพื่อนก็โทรมาถามเป็นยังไง พอเราเล่าว่าเขียนไอ้เอกสาร
ยอมรับแต่เพียงผู้เดียวเพราะความกลัวเรื่องเอกสารนั้นแหละ เพื่อนเราร้องโธ่เอ๊ยเลย
ไม่น่าไปเขียนน่าจะโทรถามก่อน เราไม่กล้าโทรหาใครในตอนนั้นี่คะ เราเครียดมากจนวันนี้

คราวนี้เพื่อนเราก็โทรไปถามเพื่อนที่เป็นทนายให้ว่าอะไรยังไง
เค้าบอกว่า เราไม่ได้ปลอมเอกสารนี่ เป็นคนที่ถูกชักชวนให้เข้าใจว่าเป็นเอกสารจริง และใช้มัน

ถามหน่อยค่ะ

- เราเป็นเพียงผู้ใช้รึเปล่าคะ ที่เซ็นชื่อลงไปในบัตรตอนรูดซื้อสินค้าน่ะค่ะ?
- เราไม่ได้ปลอมเอกสารเราให้เอกสารสำเนาจริงทั้งสามใบ มีเซ็นชื่อเราแค่สามใบนั้น
นอกเหนือจากนั้นโดนปลอมจนเหมือนเพื่อสมัคร ซึ่งเราไม่ทราบและไม่ได้ยื่นเอกสารเอง
อย่างนี้เค้าเรียกว่าอะไรคะ จะมีความผิดยังไงบ้าง

- ใบสัญญายินยอมใช้หนี้ที่เราเขียนเองเพราะคำที่เค้าบอกให้เขียน มีผลใช่ไหมคะ
เพราะเรายินยอมไปแล้ว แต่เรางง ที่ว่าอ่าวแล้วเรารับรู้คนเดียวเซ็นชื่อคนเดียว
จะมีผลมั้ยคะ มันยังไม่ส่งมาให้เราดูเลยเพื่อนของเพื่อนที่เป็นทนายเค้ารอดูอยู่ว่า้เรา
ถูกเขียนอะไรไปบ้าง เค้ากลัวจะมีชื่อเซ้นตามมาทีหลังแบบเีราไม่รับรู้น่ะคะ

- ตอนแรกเพื่อนของเพื่อนที่เป็นทนายบอกว่าไม่น่าไปเจอไอพวกนี้เลย
ปล่อยมันทวงๆไปแล้วเราไปจ่ายปกติ เหรอคะ ที่กังวลมากคือ หากสิ้นเดือนนี้
เราไม่มีจ่าย 25000 ในเดือนแรกแล้วหากเราไม่จ่ายจะรอให้เค้าฟ้องทางแพ่ง
เพื่อขอไปศาลไกล่เกลี่ยให้ทยอยผ่อนชำระได้มั้ยคะ?? เราจะโดนเรื่องผิดชำระด้วยไหม
เพราะดันไปเขียนไอหนังสือยินยอมด้วย

- สุดท้าย เค้าจะฟ้องอาญาเราได้มั้ยคะ เพราะมันแยกกรณีกันใช่ไหม หรือเค้าต้องไปตามจับพวก
ที่ทำเอกสารเรา เพราะเราไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้เอกสารพวกนี้น่ะค่ะ ทำไปเพราะเชื่อเค้า
มันจะมีน้ำหนักอะไรบ้าง เพราะเราเป็นคนใช้บัตร แล้วเราก็ตอบคำถามเค้าไปหมดแล้ว


สุดท้ายเรื่องก็มีอยู่เท่านี้น่ะค่ะ ขอบคุณที่รับฟังนะคะ ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลย กลุ้มใจ
นอนมองหน้าลูกตลอดสงสารลูก ย้อนคิดไปคงไม่ทัน มานั่งเห็นคนที่เค้าไม่มีเงิน
แต่ไม่มีหนี้ยังสบายดีกว่าเรา ทุกวันนี้สุขภาพจิตแย่มาก พยายามฮึดไปขายของที่ร้าน
เพื่อหาเงินใช้หนี้ที่เราก่อ แต่บางทีไม่มีกำลังใจเลย มาขอกำลังใจในนี้น่ะค่ะ

ปล. ปัจจุบันเรายังส่งอีกสองที่นะคะ ยังไม่เจอเอกสาร แต่เราจ่ายตรงตลอด
แต่เราจะพยายามปิดให้ได้ก่อนที่ จะตรวจสอบเจออีก เครียดเลยค่ะ
กลัวจะกระทบกับการเรียนลูก เพราะมีแผนว่า
จะส่งเรียนชั้นประถมดีๆน่ะค่ะ

ขอบคุณนะคะหากใครมาตอบ ขอไปนอนสักชั่วโมงก็ต้องตื่นส่งลูกไป รร. แล้วค่ะ จะสู้ค่ะ

เป็นกำลังใจให้ครับ



จากที่เล่ามาอาจต้องแยกเป็นประเด็นอยู่ 2 ประเด็น

1. การโดนหลอกให้ทำเอกสารปลอมโดยที่ไม่ได้รับรู้แต่ยินยอมให้เอกสารไปบางส่วน เป็นคดีอาญาหรือไม่ และต้องพิสูจน์โดยใช้กระบวนการอย่างไร ( ผมไม่สามารถตอบได้ รอท่านประธานมาตอบน่าจะกระจ่างมากกว่าครับ)

2. หนี้ที่เกิดจากบัตรเครดิตอีก 2 ใบ ถ้ายังที่จะใช้บัตรอยู่ ก็ให้จ่ายมากกว่าขั้นตำ่่ เพื่อที่จะได้ตัดต้นให้น้อยลง แล้วค่อยๆ ปิดไป อย่าก่อหนี้ต่อเลย เดี๋ยวบัตรมันจะงอก จาก 2 เป็น 3 เป็น 4 , 5, และเป็น 10ใบ อยู่ให้ได้ด้วยเงินทุน ณ ปัจจุบัน น่าจะดีและยั่งยืนที่สุด

และที่สำคัญเหตุการณ์นี้ก็ได้สอนเราว่า อย่าหลงเชื่อกับคนแปลกหน้าโดยที่ให้เอกสารส่วนตัวไปใช้ เข้าสุภาษิตที่ว่า อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง

โชคดีครับ ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะครับ[/size][/color]

เคยอ่านนสพ หรือ ดูทีวี บ้างไหมค่ะ หรือเห็นประกาศตามเสาไฟฟ้า

ตู้โทรศัพท์ไหมค่ะ

มีความเห็นว่า คุณกำลังโดนแก๊งมิจฉาชีพเล่นงานมากกว่าค่ะ

1 มีใครเขาเร่ขายบัตรเครดิตและสินเชื่อตามบ้าน ร้านค้าบ้างค่ะ

อย่างดีพวกเขาก็โทรหา แบบเซลส์คอล์ล

มีผู้ชายคนนึงเข้ามาที่้ร้านเหมือนลูกค้าทั่วไป มาเลือกของหน้าร้าน แต่งตัวก็โอเค
แล้วก็มาถามๆเราว่า อยากสมัครบัตรเครดิต หรือพวกสินเชื่อไหม.....??


2 ถ้าคุณผิดจริง ป่านนี้ ลูกหนี้ทั้งประเทศก็คงเข้าไปอยู่ในคุกเต็มไปหมด

เพราะพนักงานขายมักมักช่วยลูกค้าทำเอกสารเพื่อง่าย และเพื่อยอดขายค่ะ

มีทั้งปลอมลายเซ็น เขียนประวัติให้ดูเลิศหรู จะได้อนุมัติไวๆ เขาจะได้เปอร์เซ็นต์

สมัยที่เริ่มทำบัตรพลาสติก แก้วจ๋ามักได้ยินพนักงานพวกนี้บอกว่า พี่เซ็นชื่ออย่างเดียว

ที่เหลือเขาจัดการ ซึ่งจัดอะไร เราไม่เคยรู้ ประเภทสะเพร่า ได้บัตรก็ดีไม่ได้ก็ดี เป็นต้น

ประมาณสามเดือนเจ้าหน้าที่ (ที่ไหน?)โทรเข้ามาเบอเราว่าเราไม่สามารถใช้บัตรนี้ได้อีก
เนื่องจากตรวจเจอเสตรทเมนท์ปลอม!!!!

3 ขอโทษ บัตรและสินเชื่อของที่ไหนค่ะ บอกได้ไหม ทำไมไม่สงสัยว่า อยู่มานัด

คุณออกไปพบ ถ้าเรื่องทุจริตจริง เขาต้องทำอย่างโปร่งใส มาหาคุณที่บ้าน หรือไม่

ก็แจ้งความจับคุณแล้วค่ะ แต่คงไม่คุ้ม วงเงินบัตรคุณ ไม่ใช่หลักล้าน แล้วมาพบ

นอกสถานที่ของแบงค์ หรือ non bank ไม่ถูกต้อง คุณไม่เฉลียวใจเลยนะ มัวแต่

กลัว เพราะคิดว่า ตัวเองผิด

.ต่อมาไอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนเดิมโทรมาอีกว่า ถ้าคุณไม่จ่ายจะฟ้อง จะจับเราจะ
อายัดเงินเรา (จากไหนหว่า) จะฟ้องล้มละลายทีเดียวกะไอ 45000 เนี่ย
มันบอกถ้ายังไงอยากให้มาพบมันเพื่อเคลียร์เรื่องเอกสาร

4 ไปเซ็นให้มันทำไม พวกมันคือใคร ได้ชื่อ ได้เบอร์หรือเปล่า เคยได้ยินไหม

ตามหน้านสพ ประเภทไม่เคยทำธุรกรรมกับแบงค์ แต่อยู่ๆ มาวันหนึ่งโดนทวงเงิน

หลักแสน ข้อหามีหนี้ไม่ชำระ สมัยนี้การขอบัตร ง่ายเกินไป และอาจเป็นคนใน

แบงค์เองทำทุจริต เพราะรู้มาก ได้ข้อมูลจากคุณก็ไปขอเปิดบัตร ใช้ที่อยู่พวกเขา

กว่าคนซวยจะรู้เรื่อง พวกนี้ก็รูดจนหนี้บาน เหลือไว้ให้ใช้หนี้ และรอพิสูจน์ความ

จริง ใครกลัวก็หนี หรือไม่ก็ยอมก้มหน้ารับใช้หนี้

แล้วมันก็เอาสำเนามาให้เราเขียนใส่ใบสำเนาเป็นหนังสือยินยอมว่าเราจะใช้หนี้น่ะค่ะ

ถ้าจะแนะ ขอให้คุณไปสอบถามกับแบงค์หรือ non bank โดยตรงก่อน และ

หากมันยังกล้ามาไถอีก ขอชื่อ ตำแหน่ง เบอร์ติดต่อ บอกว่าคุยกับแบงค์เอง

ไม่คุยผ่านพวกนี้อีก ถ้าไม่ยอม แจ้งความไปเลยค่ะ

อย่ายอมให้พวกเขาข่มขู่คุณ ถ้าเป็นไปได้ ร้องทุกข์กับมูลนิธิเรา และ

ธนาคารแห่งประเทศไทยค่ะ

วิเคราะห์จากข้อมูลที่บอกมา แต่หากข้อมูลคุณไม่ถูก ไม่ครบ แก้วจ๋าก็จะวิเคราะห์ผิด

ตามไปด้วยนะค่ะ

แต่ยิ่งอ่าน ยิ่งรู้ว่า เพราะความโลภ ความไม่รู้ ไม่ถาม ความกลัว ทำให้คุณต้องตก

เป็นเหยื่อค่ะ ทางแก้มี อย่าหลงเชื่อพวกนี้อีกค่ะ

ขอบคุณ คุณ GOKU และคุณ Kaewja มากนะคะที่มาตอบให้

บัตรใบที่เหลืออยู่จะพยายามจ่ายมากกว่าขั้นต่ำจนปิดได้หมดค่ะ
(หากยังไม่ตรวจพบเอกสารรอบสองเพราะ คนละสถาบันการเงินกัน)

ตอบคุณแก้วจ๋านะคะ

ประมาณสามเดือนเจ้าหน้าที่ (ที่ไหน?)โทรเข้ามาเบอเราว่าเราไม่สามารถใช้บัตรนี้ได้อีก
เนื่องจากตรวจเจอเสตรทเมนท์ปลอม!!!!

3 ขอโทษ บัตรและสินเชื่อของที่ไหนค่ะ บอกได้ไหม ทำไมไม่สงสัยว่า อยู่มานัด

คุณออกไปพบ ถ้าเรื่องทุจริตจริง เขาต้องทำอย่างโปร่งใส มาหาคุณที่บ้าน หรือไม่

ก็แจ้งความจับคุณแล้วค่ะ แต่คงไม่คุ้ม วงเงินบัตรคุณ ไม่ใช่หลักล้าน แล้วมาพบ

นอกสถานที่ของแบงค์ หรือ non bank ไม่ถูกต้อง



อันที่ตรวจเจอเอกสารที่เดียวค่ะเป็นบัตรเครดิต ของ Central card ค่ะ ตอนแรกเค้าบอกจะมาพบที่บ้าน

ถามว่าบ้านเราอยู่ไหน เราก็ทำท่าจะไม่อยากให้มาเจอน่ะค่ะ เค้าเลยขอพบข้างนอกอย่างนี้แปลกไหมคะ

อย่างเราใช้บัตร แต่เอกสารเราไม่ได้ปลอม จะเรียกว่าทุจริตได้ไหมคะแล้วแจ้งความจับเราเลยได้เหรอคะ?




.ต่อมาไอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคนเดิมโทรมาอีกว่า ถ้าคุณไม่จ่ายจะฟ้อง จะจับเราจะ
อายัดเงินเรา (จากไหนหว่า) จะฟ้องล้มละลายทีเดียวกะไอ 45000 เนี่ย
มันบอกถ้ายังไงอยากให้มาพบมันเพื่อเคลียร์เรื่องเอกสาร

4 ไปเซ็นให้มันทำไม พวกมันคือใคร ได้ชื่อ ได้เบอร์หรือเปล่า เคยได้ยินไหม

ตามหน้านสพ ประเภทไม่เคยทำธุรกรรมกับแบงค์ แต่อยู่ๆ มาวันหนึ่งโดนทวงเงิน

หลักแสน ข้อหามีหนี้ไม่ชำระ สมัยนี้การขอบัตร ง่ายเกินไป และอาจเป็นคนใน

แบงค์เองทำทุจริต เพราะรู้มาก ได้ข้อมูลจากคุณก็ไปขอเปิดบัตร ใช้ที่อยู่พวกเขา

กว่าคนซวยจะรู้เรื่อง พวกนี้ก็รูดจนหนี้บาน เหลือไว้ให้ใช้หนี้ และรอพิสูจน์ความ

จริง ใครกลัวก็หนี หรือไม่ก็ยอมก้มหน้ารับใช้หนี้


เค้าบอกเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารกรุงศรีน่ะค่ะ ฝ่ายตรวจสอบ โทรมาหลายรอบ
ที่เราเชื่อเพราะว่าครั้งแรกที่โทรมา เป็นเบอร์ ออฟฟิศจากเซนทรัลแล้วเราเมมไว้

ต่อมาเค้าก็ใช้เบอนี้โทรมาอีก ก็ขึ้นเบอออฟฟิศเิดิม เรารู้ชื่อเค้าค่ะเพราะเค้าบอกตลอด
เค้าก็บอกว่า นี่เบอผม..... (มีเบอเค้าค่ะ) แล้วเค้าให้เบอมือถืือเราไว้บอกว่า ให้มาเคลียร์เรื่องเอกสาร
โดยให้เราออกมาเจอ ถ้าไม่มาจะฟ้องๆ และอื่นๆ ให้โทรมาที่มือถือผม

เมื่อเราออกไปเจอ มากันสามคน คนที่คุยกับเรายื่นบัตรพนักงานกรุงศรีมีตราธนาคารสีเหลือง
ให้เราดู แต่ใส่ชุดนอก ชื่อตอนคุย ตรงกับป้าย แต่มีนามสกุลในป้ายชื่อรึเปล่าเรามองไม่ทันเพราะเค้ายื่นให้ดูแล้วก็เก็บไป ว่าเค้าเป็นเจ้าหน้าที่ที่นี่จริงๆนะ เรารู้ชื่อค่ะแต่ไม่ทราบนามสกุล ควรทำไงต่อคะ

ส่วนอีกสองคนที่มาด้วยกัน คนนึงชุดนอกเหมือนกันดูลุกคล้าย ตร.นอกเครื่องแบบหรือไม่ใช่ไม่รู้
เพราะตอนคุยคนนี้พูดจาขู่ๆเราตลอดว่าหนีไม่ได้นะ ต้องฟ้องนะต้องจ่ายนะ เอกสารปลอมมั้ยอะไรยังไง
แล้วจะชักสีหน้าตลอด เอาง่ายๆนะ เรากลัวอีกแล้ว

ส่วนอีกคนใส่ชุดพนักงานธนาคารมีป้ายห้อยแต่เค้ายืนอยู่ไกลมาก เรามองชื่อไม่ออกค่ะ

คือเราเชื่อว่าใช่เพราะเค้ามีเอกสารของเราที่เป็นสำเนาทั้งสามใบมาให้ดู และมีใบสมัครจากเซนทรัล
และใบสำเนาอื่นๆ ที่ถูกเซ็นลายมือเรา เป็นเอกสารเสตทเมนท์ที่ไม่ใช่ของเรากับพวกสลิปเงินเดือน
เค้าเอาเอกสารพวกนี้มาถามว่าใช่ของเรามั้ยเราเซ็นรึป่าว ตรงนี้อะไรเอามาสอบถามๆๆ

สุดท้าย ขอบัตร ปชช.เราไปสำเนา T_T แล้วให้เราเขียนเซ็นสัญญายินยอมจ่ายน่ะค่ะ

เค้าบอกให้เราจ่ายเข้าเลขบัตรเดิมจากใบแจ้งยอดหนี้ใบสุดท้าย อันนี้เราเชื่อได้มั้ยคะ
ว่าจ่ายเงินเข้าบัตรเรา แล้วเงินเข้าชำระจริงๆ โดยไม่ผ่านใคร

( แต่หากเราไม่มีจ่ายทันที่เขียนใบยินยอม คือ 25000 ในสิ้นเดือนนี้ เท่ากับเราผิดชำระหนี้แล้วใช่มั้ยคะ
เพราะเราดันไปเซ็นไอใบยินยอมนั้น เราต้องให้เค้าฟ้องแล้วรอหมายศาลไปขอไกล่เกลี่ยรึเปล่าคะ เราคิด ว่าเราหาไม่ทันจริงๆแต่ชำระให้ได้ แต่อยากขอผ่อนไปจนครบน่ะค่ะ เป็นก้อนคงไม่มี หาเงินคนเดียว )


เราจะโทรไปสอบถามจาก Central อีกทีค่ะว่าได้ส่งคนมาเจรจาอะไรแบบนี้กับเราหรือเปล่า
ทั้งๆที่ตอนแรกเราขอผ่อนชำระจนหมดได้ไหม เจ้าหน้าที่บอกคุณออกมาพบก่อนดีกว่าเพราะน่าจะได้
สรุป ได้้แบบนี้เหรอ ?? แล้วเอกสารที่เซ็นไปในสำเนาของเรา เค้าบอกจะส่งมาให้ทางเมล
เราอยากดูให้แน่ใจอีกทีว่าเราเขียนอะไรลงไปบ้างเพราะเราค่อนข้างจำได้แม่น

แต่ก็ยังไม่มีเมส่งมาจนถึงวันนี้ คือเค้าให้เราเขียนไว้เพื่ออะไรคะ ไว้ยืนยันส่งฟ้องใช่ไหม หรือแค่ขู่

ข้อความที่ให้ไปถูกต้องครบถ้วนค่ะ

ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ

อ่อ... ปล. ปิดบัตรหมดคงไม่ทำแล้วค่ะ เข็ดจริงๆ หากทำคงตอนกู้ซื้อบ้าน แต่คงอีกนาน
แล้วตอนนั้นเราคงวิ่งเสตทเมนท์เองจริงๆได้ดีกว่านี้ โดยใช้เอกสารจริงได้ไม่ได้ช่างมัน
ยังไงวันข้างหน้าเรายังต้องพึ่งพาเงินพวกนี้ไว้ซื้อบ้าน ให้ลูกกับเราอยู่ด้วยตัวเอง
แต่คงไม่มีการเชื่อใครอีกแล้ว เข็ดจริงๆค่ะ จะไม่ใช้เงินโดยไม่มีประโยชน์เลย

จะไปเช็กดูเครดิตบูโรว่าเราโดนทำบัตรอะไรไว้อีกไหม เผื่อเราโดนมิจฉาชีพจริงๆว่าแรกๆก็ได้บัตรมาใช้
และสินเชื่อไม่กี่อย่าง รวม สามที่ กลัวโผล่มาจากไหนอีกบานไม่รู้พอกันทีค่ะ
และหากเราตอนนี้คงมีชื่อในแบล๊กลิส ว่าผิดชำระแล้ว (จากยอดล่าสุดที่ไม่ส่งใบแจ้งยอดมาเพราะว่า
เค้าเจอเอกสารเราและให้ปิดนั่นเอง) เราคงมีชื่อไปอีกสามปีใช่มั้ยคะหลังจากชำระเงินเสร็จสิ้นทั้งหมด


ยังไงก็สู้ค่ะ ขอให้ผ่านเรื่องเลวร้ายไปซักที มองหน้าลูกแล้วสงสารลูกอีกแล้ว ว่าเราไม่น่าเลย
อยู่แบบแรกก็ดีอยู่แล้ว มีบ้างไม่มีบ้างแต่ก็ไม่ต้องมานั่งกลุ้มกับเรื่องบ้าๆนี้

โทรไปที่ ศูนย์ของ central card ค่ะ โดยปกติ ไม่ควรเป็นเยี่ยงนี้ คือ นัดลูกค้า

ข้างนอกสถานที่ทำงาน พร้อมกับนำคนลักษณะคล้ายตำรวจมาด้วย ส่อ

พฤติกรรมที่ไม่มาดีค่ะ ถ้าเขามาแบบโปร่งใส เขาต้องไม่นัดคุณเจรจา

แบบข่มขู่ กรรโชก ถ้าไม่ทำ ฟ้องล้มละลาย จะบ้าหรือเปล่า คงเห็น

คุณเป็นผู้หญิง ไม่ประสากฎหมายมัง หนี้หลักหมื่น มันจะฟ้องล้มละลาย

ก็ปล่อยมันไป บอกมันว่า คุณไม่แน่ใจ จึงส่งเรื่องเข้าศูนย์บัตร และ

ธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะคุณมั่นใจ คุณไม่ได้ทุจริต ไม่ได้ส่ง

เอกสารปลอม คุณต้องยืนกระต่ายขาเดียว อย่าลังเลใจในการตอบ

ว่า เอกสารเหล่านั้น คนที่เสนอขายเป็นผู้ทำ ถ้ามีชื่อหรือเบอร์ที่

เคยเม้มก็ส่งให้ศูนย์ และแบงค์ชาติไปค่ะ ให้เขาไล่บี้กันเอง


คนเราสมัยนี้ไว้ใจยากค่ะ พวกบัตรหรือเครื่องแบบ คุณคิดว่า ใส่แล้ว เชื่อใจ

ได้หรือค่ะ 1 อาจทำให้คล้าย 2 คนในทุจริตเอง เคยอ่านเรื่องคนทุจริตที่

ต้มคนเป็นขบวนการไหมค่ะ ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด ว่าเคสคุณเป็นหรือไม่ แต่

ไม่น่าไว้วางใจค่ะ

คุณควรสอบถามเจ้าหนี้ตัวจริงถึงสถานะของคุณ โดยไม่ต้องเปิดเผยเรื่องที่

เกิดขึ้น และตรวจสอบสถานะที่เครดิตบูโรด้วยค่ะ

ขอบคุณ คุณแก้วจ๋ามากนะคะ

เดี๋ยวเราจะโทรไปสอบถามที่ Central แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกทีค่ะว่ายังไง

ปล. วันนี้เราตัดสินใจบอกที่บ้านแล้วนะคะ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเรื่องบัตร และเอกสารและเล่าให้พี่สาว
ฟังทั้งหมด เค้าก็งง นิดหน่อยไม่เหมือนที่คิดไว้ว่าจะผิดหวังในตัวเราและโดนด่าฉอดๆ
กลับกันเลยแนะนำเราอย่างดี และก็บอกเหมือนกันว่าเราไม่น่าออกไปเซ็นไอเอกสารนั้น

เราบอกว่าขอแค่คนในครอบครัวรู้ว่าเรามีหนี้บัตรเครดิตและได้มันมาอย่างไร และทำใจยอมรับว่าเราเป็นหนี้เราก้พอใจแล้ว หนี้ทั้งหมดเราชดใช้เองได้ไม่ต้องห่วง เพราะเราก่อขึ้นมาเอง และไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะเรา ขอแค่มีคนในครอบครัวเข้าใจก็พอ เพราะเราจะได้ไม่เครียดกังวลใจมากขึ้นไปอีก แต่คุณพ่อเรายังไม่รู้ พี่สาวบอกว่าถ้ารู้ เราต้องโดนด่าชุดใหญ่แน่ เรื่องเอกสาร เพราะพ่อเราเป็นตำรวจ เรื่องแบบนี้เค้าไม่ชอบที่เราไปธุรกรรมอะไรตามใจมั่วๆ แต่พี่สาวก็บอกว่าถึงเค้าจะด่าแก แต่ยังไงก็ต้องหาทางช่วยแก และทำใจยอมรับแกอยู่ดี แค่นี้ก็พอใจแล้วล่ะค่ะ


ขอบคุณมากค่ะ มีกำลังใจสุ้ในวันต่อไปขึ้นอีกเยอะเลย หลังจากห่อเหี่ยวมานาน

ขนาดเราเป็นหนี้ยังไม่มากมาย ยังทุกข์ใจขนาดนี้ แล้วคนอื่นที่ลงลึกไปแล้วจะขนาดไหน

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะที่ได้มาอ่าน เดี๋ยวมาบอกความคืบหน้าค่ะ