หากเลือกวิธีที่ 3 Third way อยากขอคำแนะนำด้วยค่ะ

หากเรามีเงินก้อนจากการนำทรัพย์สินไปจำนองแล้ว(เพื่อมาชำระหนี้ เนื่องจากมีเจ้าหนี้หลายราย)
ตั้งใจจะให้ทางเจ้าหนี้เสนอ Hair Cut มาก่อน แล้วค่อยปิด ถ้ามีเงินเหลือจากการชำระหนี้ทั้งหมด จะเอาไปจ่ายคืนสถาบันที่เรานำทรัพย์สินไปจำนองมา เพื่อจะได้ลดระยะเวลาตามสัญญาจำนองลง เช่น 10 ปี อาจจะเหลือแค่ 5 ปี อยากสอบถามผู้มีประสบการณ์ ที่ใช้แนวทางนี้บ้างค่ะ

จากที่เคยจะเอาบ้านและที่ดินไปจำนองเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ตอนนี้ตกลงไม่จำนองแล้วค่ะ เพราะมาคำนวณแล้ว เรื่องดอกเบี้ย/ค่าจดจำนอง/ค่าเสียเวลาอื่น ๆ มันไม่คุ้ม

สาเหตุก็มาจาก เป็นหนี้บัตรเครดิต/สินเชื่อหลายสถาบัน รวม 15 บัญชี จะเก็บเงินรอ H/C ก็ไม่ทัน เนื่องด้วยภาระของ Single Mom ของ ลูก 2 คน และ แม่อีก 1 คน รวมตัวเองด้วย เป็น 4 ชีวิต เหลือเงินเก็บเพื่อ H/C ต่อเดือน แทบจะไม่ค่อยมี รู้สึกเครียด เคยคิดจะคิดสั้น แต่นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังแล้ว เราต้องสู้ค่ะ

พอดีว่า มีธนชาต อยู่ 2 บัตร เป็นเครดิตกับกดเงินสด ไม่รู้ว่า ฟ้องพร้อมกันหรือเปล่าค่ะ ใครมีประสบการณ์ตรงนี้ช่วยหน่อยค่ะ

ลองชี้แจงรายละเอียดของ เจ้าหนี้ สถาบันที่เป็นหนี้ ยอดของมูลหนี้ ให้ดูหน่อยสิครับ

จะได้มีผู้รู้ท่านอื่นและเพื่อน ๆ มาช่วยชี้แน่ะ

ไม่ต้องคิดสั้นนะครับเพราะ อนาคตของลูก ๆ พี่ และคุณแม่พี่ยังอีกยาวไกล

เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ ๆ

จริงๆ ก็สามารถทำได้ แต่คุณต้องมั่นใจว่าเมื่อจำนองแล้วหนี้บัตรและหนี้อื่นๆ ของคุณมันจะหมดจริง และคุณมีกำลังพอที่จะชำระหนี้ที่จะจำนองบ้านได้ เพราะไม่อย่างนั้นคุณเสียบ้านและที่ดินไปโดยเปล่าประโยชน์แน่ๆ ถ้าคุณอ่านข้อมูลการแก้ไขหนี้ให้ละเอียดขึ้นไปอีก คุณอาจเจอวิธีที่ดีกว่าการจำนองบ้านก็ได้ คุณทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย/บัญชีหนี้ แล้วหรือยัง จะได้ประเมินตัวเองถูก

pritty เขียน: จากที่เคยจะเอาบ้านและที่ดินไปจำนองเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ตอนนี้ตกลงไม่จำนองแล้วค่ะ เพราะมาคำนวณแล้ว เรื่องดอกเบี้ย/ค่าจดจำนอง/ค่าเสียเวลาอื่น ๆ มันไม่คุ้ม

สาเหตุก็มาจาก เป็นหนี้บัตรเครดิต/สินเชื่อหลายสถาบัน รวม 15 บัญชี จะเก็บเงินรอ H/C ก็ไม่ทัน เนื่องด้วยภาระของ Single Mom ของ ลูก 2 คน และ แม่อีก 1 คน รวมตัวเองด้วย เป็น 4 ชีวิต เหลือเงินเก็บเพื่อ H/C ต่อเดือน แทบจะไม่ค่อยมี รู้สึกเครียด เคยคิดจะคิดสั้น แต่นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังแล้ว เราต้องสู้ค่ะ

พอดีว่า มีธนชาต อยู่ 2 บัตร เป็นเครดิตกับกดเงินสด ไม่รู้ว่า ฟ้องพร้อมกันหรือเปล่าค่ะ ใครมีประสบการณ์ตรงนี้ช่วยหน่อยค่ะ

maruko แวะมาให้กำลังใจนะครับ..อ่านกระทู้คุณprittyก็รู้สึกสงสาร..เพราะmarukoเองก่อนหยุดจ่ายหนี้ก็มีความรู้สึกแบบนี้เลย..สับสนในชีวิต..เรื่องหนี้จนไม่เป็นอันทำมาหากิน..แต่เพราะรักลูกมาก..จำต้องทนอยู่แล้วค่อยๆหาวิธี..บังเอิญ..ที่อากู๋ช่วยค้นหา website ของชมรมฯแห่งนี้ช่วยไว้ได้ทัน..จนถึงวันนี้6เดือนผ่านไป..ความรู้สึกบ้าๆหายไป..แบบไม่น่าเชื่อ
maruko อยากจะบอกว่า..ให้ศึกษาสาระที่เตรียมไว้ใน webนี้อย่างละเอียด..คัดสรรค์เฉพาะที่เหมาะกับเราที่สุด..จะสามารถช่วยได้..ชีวิตจะสามารถดำเนินต่อไป..เลี้ยงดูลูกๆและบุพพการีอย่างที่คุณprittyต้องรับภาระอยู่นี้ได้เป็นปกติ..สุข..ขอย้ำ..ได้อย่างเป็นปกติสุข..แน่นอน..maruko,ภรรยาคู่ใจและครอบครัวประสบกับตนเองมาแล้ว..ขอยืนยันครับ ไม่มีอะไรจริงๆอย่าไปกังวล..เพียงแต่ขอให้ยอมรับสิ่งที่จะตามมา..เรื่องการทวงหนี้ชนิดน่าลำคาญ,น่าอับอายหลายรูปแบบ แต่ไม่โหดอีกแล้วในปัจจุบันนี้..
อีกอย่างนะครับเรามีเงินเดือนไม่มาก, มีภาระต้องดูแลหากมีการขึ้นศาล, ศาลตัดสินก็ยังสามารถขอลดหย่อนได้อีก..เรื่องรายละเอียดมันมาก..marukoจึงเห็นด้วยกับ2ท่าน คุณtomyumkungและคุณTravisที่แนะนำไว้ก่อนหน้านี้แล้ว..อยากให้มีกำลังใจ..อยากให้ใจดีสู้เสือ..ในช่วงผกผันของชีวิตครั้งนี้อีกครั้ง..ขอให้อ่าน..ที่รุ่นพี่ๆแนะนำก็คือ..อ่านทุกตัวอักษร, ทุกกระทู้, ทุกห้อง และประมวลผลคัดสรรค์เอาว่า..เฉพาะเรา..เราจะใช้แนวทางใด..ในแต่ละช่วงจังหวะ, แต่ละเจ้าหนี้ เป็นต้น อย่าลืมว่า เราสร้างมันมาด้วยมือ..เราก็ต้องแก้ด้วยมือเรา..โดยที่เครื่องมือแก้ไขก็แวะมาเอา,แวะมาหยิบเอากับ website และชมรมฯแห่งนี้ เราไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว..ใจเย็นๆนะครับ..สู้ต่อไป..เราชาวชมรมฯเพื่อนร่วมชะตากรรมขอเอาใจช่วย, และอยากเห็น..ความเป็นปกติสุขกลับมาสู่เพื่อนๆผู้อยู่ในห้วงทุกข์โดยเร็ว..เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว..เรายังมีคนที่อยู่ข้างหลัง, ลูกๆและพ่อแม่ ที่เรายังต้องดูแล..ความรักจะเป็นแรงผลักดันให้สู้..อย่างลืมเป็นลืมตาย..เพื่อนๆชมรมฯขอเอาใจช่วยนะครับ..อย่าคิดสั้นเป็นอันขาด..ครับ..สู้.สู้..ครับ

ต้องขอขอบคุณทุกคำแนะนำด้วยค่ะ ก็ได้มีการหยุดจ่ายบัตรเครดิตบางส่วน เนื่องจาก บางสถาบันการเงินเป็นบัญชีที่มีเงินเดือนเข้า และ มีการตัดค่าใช้จ่ายผ่านบัญชี ซึ่งต้องใช้วิธีการจ่ายขั้นต่ำเข้าไปก่อน

ส่วนอื่น ๆ ก็แก้ปัญหาโดยการรับโทรศัพท์ตลอด มีทั้งพูดดีและพูดไม่ดีบ้าง แต่ที่พูดไม่ค่อยดีเลยคือ พี่อ้อน...ของเรา(คิดว่า ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่ทวงมากกว่า แต่โดยส่วนใหญ่จะเจอพูดดี พยายามอยากให้รักษาบัญชี และจ่ายขึ้นต่ำเข้าไปก่อน แต่รวมยอดแล้วมันไม่พอจ่ายค่ะ อยากจ่ายเหมือนกันทุก ๆ สถาบัน แต่ก็อาศัยการกดเงินจากอีกบัตรไปจ่ายอีกบัตร มันเป็นวังวนค่ะ รู้สึกโชคดีที่ได้มาเจอ เว็บไซด์ นี้ ก็ค่อย ๆ ศึกษาและเปิดอ่านไปเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะถ้าอ่านทีเดียว ค่อนข้างเยอะ ถ้าว่างจากการทำงาน ก็เข้ามาศึกษาหาข้อมูลจากเว็บ ฯ นี้แหล่ะค่ะ

ณ ตอนนี้ก็อาศัยการบนบาน ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยในการขายบ้านได้สำเร็จค่ะ อย่างน้อยก็เป็นที่พึ่่งทางใจได้อย่างหนึ่ง แล้วก็มีข่าวดีค่ะ ในตอนนี้ บ้านหลังนี้ ได้มีตกลงมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้วก็จ่ายเงินมัดจำมาแล้ว รอทางธนาคารของฝ่ายผู้ซื้ออนุมัติวงเงินมา ก็ทำเรื่องโอนบ้านได้เลย (ถ้าขายได้ จะเอาเงินไปทำบุญและแก้บน กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ) แต่อาจจะใช้เวลาหน่อยประมาณ 1 เดือน ก็ไม่เป็นไร ยังพอจะเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันได้

คิดไว้ว่า ถ้าขายบ้านได้เงิน ก็จะเอาไปใช้หนี้ที่มีอยู่ก่อนค่ะ (รอให้เคลียร์หนี้จบ จะมาเล่าเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ให้รับรู้กันค่ะ เพราะ แต่ละคน การเป็นหนี้ก็ไม่เหมือนกัน ขอยืนยันจะเขียนเป็นเรื่องเล่าให้เลยค่ะ ว่า ชีวิตในวังวนหนี้เป็นอย่างไร ภาระการรับผิดชอบหนี้ วิธีการแก้ไขของเรา และวิธีการดำเนินชีวิต เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และแรงจูงใจให้แก่เพื่อน ๆ ในเว็บนี้ ทุกคน แต่เรื่องการตอบปัญหาไม่ค่อยถนัดค่ะ ขอเป็นการเขียนเรื่องราว และ วิธีการ จะดีกว่า

สู้ต่อไปค่ะ เพื่อน ๆ ทุกคน

ขออัพเดทข่าวค่ะ เนื่องจากการจะได้เงินก้อนนึงต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือน ตอนนี้มี ชักชวนให้ทำประนอมหนี้ คิดไปมาแล้ว ก็ตกลงทำค่ะ เพราะเป็นเครือเดียวกัน แต่อยากให้ข้อมูลไว้ค่ะ หากเราทำสัญญาประนอมหนี้แล้ว เขาจะให้จ่ายในวันตัดรอบบัญชี พูดง่าย ๆ ก็คือ พอทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จะต้องมีการชำระภายในเดือน เช่น ส่งเอกสารเมื่อต้นเดือน ต้องจ่ายภายในกลางเดือน ขอต่อรองจ่ายสิ้นเดือนก็ไม่ได้ เขาถือว่า สัญญาทีทำมาเป็นโมฆะ (ถือว่าเป็นข่าวดี สำหรับเรา) ทางที่ดียึดแนวของชมรม ดีที่สุดค่ะ มีเงินพร้อมค่อยเจรจา หรือ H/C ตอนนี้หยุดเข้าเดือนที่ 3 แล้ว มีเสนอส่วนลดมาบ้างของ Easy จะใช้วิธีดูตามกำลังเงินของเราค่ะ ว่ามีพอจ่าย H/C หรือไม่ ถ้าเจรจาไม่สำเร็จ ก็ปล่อยให้เขาทำตามระบบของเขาไป

แต่ปัญหาสำคัญที่คิดว่าเจอเหมือน ๆ กันคือ พอจะเก็บเงิน H/C ได้ ก็มีอันต้องจ่ายอย่างอื่นที่จำเป็นกว่าไป ช่วงที่ผ่านมาลูกไม่สบายพร้อมกัน 2 คน ต้องไปโรงพยาบาลเจาะเลือด เสียเงินที่ตั้งใจจะเก็บเอาไว้ H/C แล้วค่ะ ในเดือนนี้เลยต้องวางแผนใหม่จะวางแผนค่าใช้จ่ายยังไงดี สู้ สู้ ค่ะ เพื่อลูก....ตั้งใจไว้จะหมดหนี้ 3-5 ปีค่ะ

ทำสัญญาแล้วก็จริง...แต่ไม่มีการจ่ายงวดแรก..ถือว่าโมฆะ เรายังแตะเบรคได้ครับ ห้ามจ่ายนะครับ..

ขอบคุณ คุณ maruko ตอนแรกที่คิดไว้คือกว่าจะได้เงินก้อนต้องใช้เวลาเป็นเดือน พอเขาเสนอมาให้ปรับโครงสร้างหนี้และคิดแล้วว่า พอที่จะจ่ายได้ ก็เลยตกลงทำ แต่ปรากฎว่า ทางสถาบันเพิ่งแจ้งภายหลังว่า ถ้าหากสัญญาอนุมัติแล้ว ต้องจ่ายในรอบบิลเดือนนี้ เลยแจ้งกลับไปว่า ในเดือนนี้ไม่พร้อมที่จะจ่าย(เป็นความเข้าใจผิดของเราเอง ที่คิดว่าทางเขาจะโทรมาถามเราว่า จะเริ่มงวดการจ่ายได้เมื่อไหร่ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด ดังนั้น สัญญาฉบับที่ทำขึ้นมา ถือว่าเป็น โมฆะอยู่แล้ว เพราะยังไม่ได้มีการจ่ายงวดแรกเข้าไป เหมือนอย่างที่คุณนกกระจอกเทศ ได้แนะนำไว้ เป็นการปฏิเสธโดยอ้อม เจ้าหนี้ก็ยังคงต้องยึดสัญญาเดิม ที่เราเคยทำไว้แต่แรก

เมื่อสัญญาเป็นโมฆะ ทางเจ้าหนี้ต้องกลับไปใช้สัญญาตัวเดิม และก็จะต้องทำไปตามระบบของแต่ละสถาบัน
เราตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังไม่พร้อมชำระ แต่เจ้าหน้าที่ก็พูดดีค่ะ ถ้าพร้อมชำระ ก็ให้ติดต่อเข้ามาได้ ถ้างั้นขออนุญาติทำตามระบบของเขานะ เราก็เลยบอกไปว่า ยินดีค่ะ

กับอีกสถาบันนึง E. อันนี้ หยุดจ่าย 2 รอบบิล เสนอส่วนลดมาแล้ว แต่ไม่รู้เป็นไร ช่วงนี้ถ้าอยากได้ส่วนลดเพื่อปิดบัญชี ต้องส่งเอกสารไปขออนุมัติ ไม่รู้ว่า มีใครเจอกรณีนี้มาแล้วบ้าง

อ้อแล้วก็อีกที่นึง ยกให้เป็น อันดับหนึ่่่งของกินเนสบุ๊คเลย ในการทวงยอดแย่ พี่อ้อน....ของเรา
ไม่รู้ว่า อนาคตจะปรับปรุงพฤติกรรมการทวงหรือเปล่าน้า....

หลังจากที่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างแล้ว ตกลงกันไม่ได้เรื่องการจ่ายงวดแรก(ต้องจ่ายเงินทันที) วันนี้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ FC โทร.มาด้วยน้ำเสียงที่เข้มมาก บอกว่า เราจะเอายังไง จะทำตามสัญญาฯ หรือ ต้องขึ้นศาล ก็บอกว่า ทำตามระบบไปเลย แถมบอกอีกต่างหากว่า จะต้องมีค่าศาล 3,000 บาท เสียเครดิต และอื่น ๆ อีก ก็บอกไปว่า ถ้างวดแรกสิ้นเดือน นะ จ่ายให้ได้ แต่ถ้าเอาตอนนี้ไม่มีให้หรอก ทางเจ้าหน้าที่ฯ ตอบกลับว่า คุณอยู่เขตไหนนะ ??? จะได้รีบดำเนินการฟ้องศาลให้เลย เราบอก เชิญตามระบบของคุณได้เลย (รออยู่ ถ้ามาจริง ถือว่าเป็นการขึ้นศาลครั้งที่ 2 หลังจากที่พ่อเสียแล้วไปศาลเพื่อให้แม่เป็นผู้จัดการมรดก กลัวอย่างเดียว กลัวพวกนี้เล่นตุ๊กติ๊กมากกว่า ถ้าเสนอ H/C มาก็ O.K นะ จะได้เป็นเจ้าแรกที่จ่ายตอนสิ้นเดือนนี้ แต่ขอแบ่งจ่ายหล่ะกัน)

เพิ่งหยุดจ่ายของ E. ได้ 2 รอบบิล เสนอส่วนลดมาให้แล้ว จากยอด 80,000 (วงเงิน 70,000) ดอกเบี้ยเยอะมาก เสนอปิด 50,000 ตอบตกลงเลย ของเจ้าหนี้แบ่งจ่ายได้ 3 งวด แล้วแต่เราจะตกลงว่าจะชำระเดือนละเท่าไหร่ เฮ้ออ..หมดเจ้าหนี้ไปอีก 1 ราย รู้สึกดีขึ้นมากเลย รอเจ้าต่อไปว่า ใครจะเป็นรายต่อไปที่จะได้รับเงินจากลูกหนี้อย่างเรา...

ข้อแนะนำ 1. พยายามรับโทรศัพท์จากเจ้าหนี้ทุกราย ถ้าคุยดีมา ดีตอบ ถ้าคุยไม่ดี ก็ให้ฟังหมาเห่า
แทนคร้าบ..
2. ห้ามพูดถึงเรื่อง H/C ก่อนโดยเด็ดขาด ให้เจ้าหนี้ถามเรามาก่อน ค่อยตอบไป
3. โปรดระวังการทำสัญญาประนอมหนี้/ปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนสัญญาใหม่ แทนสัญญาเก่า แต่คงใช้งวดการชำระเช่นใบแจ้งหนี้เดิม เช่น ของเดิมต้องจ่ายภายในวันที่ 10 พอทำสัญญาปุ๊บ ก็ต้องจ่ายเงินทันที แล้วทุกวันที่ 10 ต้องจ่ายเหมือนเดิม (ไม่มีการโทรคุยกับลูกค้าก่อนว่าจะสะดวกเริ่มงวดใหม่เมื่อไหร่ ทางเจ้าหนี้เป็นผู้กำหนดเอง)

หลังจากหยุดจ่ายได้ 3-4 รอบบิล เสนอปรับโครงสร้าง/ให้ส่วนลดเพื่อปิดบัญชีมาเป็นแถว
รู้งี้หยุดจ่ายเพื่อเก็บเงินตั้งนานแล้ว ไม่จ่ายขั้นต่ำเพื่อหมุนบัตรโน้นไปจ่ายบัตรนี้ เงินเดือนออกไม่มีกิน ไม่มีจ่าย แถมติดลบอีกต่างหาก เฮ้อ..

ปัจจุบัน มีตังค์จ่ายได้บ้างหล่ะ ค่อยหายใจ หายคอได้บ้าง ลูกมีข้าว มีนม มีแพมเพอร์สไว้ใช้ แบ่งเงินให้แม่ใช้เพื่อซื้อข้าวกับขนมให้หลาน แบ่งบางส่วนเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ที่เหลือไว้จ่ายหนี้.....

คาดว่า ปีนี้ หมดหนี้แน่นอน หลังจากตัดสินใจยอมขายบ้าน(ดีกว่าถูกยึดตอนหลัง) แล้วค่อยมาปิดบัญชีให้หมด เจ็บหนนี้..เข็ดอีกนาน ลากันที กับ บัตรเครดิต/สินเชื่อ ทั้งหลาย

*****พยายามรับโทรศัพท์ ทุกสาย ที่เข้ามา อย่าได้กลัว ถ้าคุยดีมา ดีตอบ กวนมากวนตอบ เสียงเข้ม เข้าไว้ ที่สำคัญ อย่ากลัวการรับโทรศัพท์ คิดว่า เขาทำตามหน้าที่ของเขา*****

อยากขอคำแนะนำค่ะ ว่าสามารถแจ้งความได้ไหม ถ้าถูกคนติดตามทวงถามหนี้ข่มขู่ พูดจาไม่สุภาพ ทั้ง ๆ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการทวงถามจากเรา ตั้งใจว่า จะเคลียร์หนี้ทั้งหมดไม่เกินเดือนหน้านี้ แต่พูดจาสุนัขไม่รับประทานเลยค่ะ ติดต่อไปยังบริษัท ทวงหนี้แล้ว เพื่ออยากรู้ว่า เป็นเจ้าหน้าที่จริง หรือไม่ หรือว่า แอบอ้างมา ปรากฎว่า ผู้ดูแลบัญชีเป็นผู้หญิง แต่คนทวงเป็นผู้ชายแก่ ๆ น้ำเสียง กวนมาก พูดจาอวดเบ่ง ใหญ่โต จึงอยากจะขอคำแนะนำว่า เราสามารถไปแจ้งความที่สถานีตำรวจได้ไหม อย่างน้อยจะได้รู้ว่า เรามีเจตนาที่จะชำระหนี้ แต่ไม่ควรพูดจาแบบนี้กับลูกค้า ตอนนี้ส่งเรื่องร้องไปยัง ธ.แห่งประเทศไทยแล้ว และได้สอบถามทางบริษัท ปรากฎว่า อ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้าบริษัท จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

ขออัพเดทสถานะหน่อย...จากที่ได้ส่งเมล์ไปที่ ธปท. และ ฝ่ายติดตามทวงถามหนี้ของเจ้าหน้าที่ที่พูดจา ไม่ดี ทางหัวหน้าฝ่ายฯ ได้โทร.มาขอโทษและจะเรียกพนักงานไปอบรม ก็ยังรู้สึกดี มาเมื่อกี้นี้ มาเจอเจ้าหน้าที่ของ KTC นี่กวน....อีกแล้ว ว่า อ้อนของเราสุดยอดแล้วนะ เราว่า ถ้าใครเจอเจ้าหน้าที่ที่ทวงถาม ออกจะเป็นแต๋วแตกหน่อย...พูดจา แบบนี้เกือบทุกราย เฮ้อ กว่าจะฝ่าด่านได้ ต้องโทร.ไปแจ้งให้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดูแลบัญชี ไม่รู้กี่ครั้งกี่หน อยากให้ พวกผู้ประกอบการปล่อยเงินกู้ทั้งหลายแหล่ ได้รับรู้บ้างว่า พูดจาทวงถามให้ดี ๆ หน่อย อ้อน ๆ หน่อย ลูกหนี้อย่างเรา อยากจะจ่ายใจจะขาดแล้วจ้า ถ้ามีจะเทให้หมดหน้าตักเลยเอ๊า..

พูดจาอย่างกับจะทำการสืบสวนสอบสวนเราอยู่ได้ ...มันน่านัก เราก็ลูกค้า คุณคนนึงเหมือนกันนะ ค่าติดตาม+ค่าทวงถาม+อื่น ๆ อีก ก็เรียกเก็บกับเรา เราเป็นคนจ่ายให้ทางเจ้าหนี้ แต่พูดจา สุนัขไม่รับประทานเอาเสียเลย...อยากจะเข้าไปที่บริษัทฯ ให้มันรู้แล้ว รู้รอดว่า จะเอายังไง....ข่มขู่ เห่า อยู่ได้...

สู้..สู้..ครับช่วงแรกนี้ก็อย่างนี้แหละ..เรื่องคนทวงหนี้พูดไม่ดี..marukoก็พอทนฟังได้นะ..ถ้างานไม่ยุ่ง..ส่วนใหญ่มักจะโทรมาช่วงงานเรายุ่ง..กำลังพาลูกน้องปีนเชื่อมงานอยู่ที่สูงชั้น 3 กำลังร้อนๆ..อันนี้ marukoมักจะทนฟังไม่ไหว..มักจะอารมย์ฉุนง่ายทั้งๆที่เป็นคนอารมย์เยือกเย็นโดยปกติ..คนทวงหนี้คนนั้นก็รับไป
คนทวงหนี้ : คุณเป็นหนี้..คุณเอาเงินเขาไปแล้วคุณต้องรับผิดชอบ..นำมาจ่าย
maruko : ยังไม่มีครับ...
คนทวงหนี้ : ไม่ได้..คุณต้องหามาจ่าย..คุณต้องรับผิดชอบ
maruko : (ชัดฉุน) ทำไมจะไม่ได้!...ได้ซิครับ..ก็คนจ่ายเงินมันคือผม..ผมไม่จ่าย..มันคือ..ไม่จ่ายหนะ..ได้ครับ...
คนทวงหนี้ : ไม่จ่าย..ก็ต้องฟ้อง.....บลา..บลา....
นี้คือตัวอย่างประสบการการรับการทวงหนี้ บางคราวของ maruko...

ขอบคุณคุณ maruko มากค่ะ ขนาดแจ้งไปที่บริษัทฯแล้วนะ ว่าให้เปลี่ยนคนดูแลบัญชีมาให้ใหม่ เพราะคนนี้คุยกันไม่รู้เรื่อง ขอแค่บ่นหน่อยนะค่ะ คุยกับ คนประเภทที่เรียกว่า เพศที่ 3 ทีไร เหมือนคุยไม่รู้เรื่องทุกที ชอบใช้คำพูดที่ข่มขู่ (ไม่ได้กลัวหรอกค่ะ แต่ยิ่งคุยยิ่งน่าโมโห ) ถ้าทางบริษัทฯ ไม่เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ให้ สงสัย จะให้คุยกับโต๊ะ / หมา / แมว แทน...ทั้ง ๆ ที่ ใบแจ้งหนี้ก็ได้รับ และมีการระบุว่า ให้ชำระในวันที่เท่าไร มีการบอกว่า ไม่ได้ ต้องชำระเลย ขี้เกียจพูดคุยกับเจ้าหน้าที่คนนี้แล้วหล่ะ คุยกับสัตว์เลี้ยง ยังคุยรู้เรื่องกว่ากัน บอกอะไร มันก็ฟัง นี่คนนะค่ะ แต่เหมือนไม่ฟัง ก็ไม่อยากคุยด้วยแล้ว ตอนนี้รับสาย ก็พูดน้อยลง เข้าใจค่ะว่า ชอบโทรมาตอนทำงานยุ่ง ๆ หรือกำลังคิดเรื่องงานอยู่ มันทำให้เรามีอารมณ์ ส่วน หนี้รายอื่น ๆ ตอนนี้ มี H/C ไปบ้างแล้ว ทำสัญญานรก ก็อีกส่วนนึง แต่ก็ดูยอดการผ่อนจ่ายแล้ว ทางเราโอเค ถ้ามีเงินก็จะเจรจาปิดยอดไป ได้ส่วนลดเล็กน้อยบ้างก็ยังดี ไม่หนี หนี้ แล้วจะจ่ายเมื่อพร้อมเท่านั้นค่ะ

ตามความตั้งใจไว้ ถ้าปลดหนี้ได้หมดเมื่อไหร่ จะไปลงกระทู้ในห้องเรื่องเล่าชาวยิ้มสู้หนี้ ให้ได้อ่านกันค่ะ เพื่อแชร์ประสบการณ์

กลับมาอีกแล้วจ้า....ขอรายงานคร่าว ๆ ณ ตอนนี้ ทำการขายบ้านไปเรียบร้อยแล้ว เลยหมดภาระทรัพย์สินไป

จากบัตรเครดิต/สินเชื่อต่าง ๆ รวม 15 บัญชี ตอนนี้ปิดแล้ว 5 บัญชี เช็คเครดิตบูโรปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้วทั้ง 5 บัญชี มาปีนี้ เริ่มใหม่

ประเดิมด้วย KTC เป็นเจ้าแรกหลังจากประนีประนอม หยุดจ่ายไป 4 เดือน จนบัญชีถูกปิด ตามด้วยการติดตามทวงถาม แล้วทำสัญญาขอลดการจ่ายชำระจากเดิม 10 % ให้จ่ายลงน้อยกว่าเดิม เช่นวงเงิน 50,000 บาท เดิมจ่ายที่ 5,000 บาท เมื่อบัญชีถูกปิดไปแล้ว คงเหลือสถานะการชำระเพื่อปิดบัญชี ทาง KTC ขอให้จ่ายที่ 3% / งวด ก็จ่ายน้อยลงหน่อย จ่ายไปได้ 3-4 งวดแล้ว แต่งวดสุดท้ายเงินเดือนออกช้า หลังปีใหม่แนะ เลยถูกเจ้าหน้าที่ตามทวงถาม พอดีได้โบนัสมา ตั้งใจจะปิดบัญชีนี้อยู่แล้ว เลยเจรจาไปได้ส่วนลดมาไม่มาก แต่ได้จำนวนตัวเลขที่เราโอเคอยู่แล้ว ก็เลยจะปิดบัญชีเลย คำนวณจากยอดคงค้างแล้วลดไปประมาณ 10% แต่ก็ยอมจ่ายเนื่องจากเจ้าหนี้ไม่ค่อยลดอยู่แล้ว

เนื้อความตามจดหมายมีอยู่ว่า

ตามที่ท่านได้เป็นสมาชิกบัตรเครดิตของ บมจ.บัตรกรุงไทย บัตรเครดิตหมายเลข...........................
ซึ่งท่านได้ติดต่อขอลดหย่อนภาระหนี้ กับบริษัทฯ เพื่อชำระหนี้เป็นการเสร็จสิ้นและบริษัทฯ ได้อนุมัติการลดหย่อนภาระหนี้ดังกล่าว โดยมีเงื่อนไข ให้ชำระหนี้เสร็จสิ้นจากท่านเป็นจำนวน...........บาท ภายในวันที่.............นั้น

บริษัทฯ จึงเรียนมายังท่านเพื่อให้ชำระหนี้จำนวนดังกล่าว ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากท่านไม่นำเงินมาชำระหนี้ตามระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ ถือว่า การลดหย่อนภาระหนี้ตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นเป็นอันยกเลิก


โดยมีเงื่อนไขท้ายจดหมายว่า 1. กรณ๊มีการชำระหนี้ข้างต้นถือว่าเป็นการชำระหนี้เสร็จสิ้นเฉพาะบัตรเครดิตเท่านั้น ไม่รวมถึงภาระหนี้ธนวัฎบัตรเครดิตและภาระหนี้อื่น ๆ ของบมจ.บัตรกรุงไทย(ถ้ามี)

2. กรณีมีการชำระหนี้มากกว่าจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากบริษัทฯ แต่ไม่เกินกว่าภาระหนี้ทั้งหมดก่อนการลดหย่อน ฯ บริษัทถือเป็นการแสดงเจตนาชำระหนี้เพิ่มเติม


ฝ่ายเร่งรัดหนี้สิน..................


จบภาระหนี้ไปอีก 1 บัตร รู้สึกว่า ไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หลังจากที่ได้ขายบ้านไป และทยอยปิดบัญชีได้อีกเรื่อย ๆ

เพื่อน ๆ คนไหนที่ ทำสัญญาประนอมหนี้แล้ว ผ่อนจ่ายไปซักระยะแล้ว จ่ายไม่ไหว อย่าเพิ่งท้อค่ะ ถ้ามีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามาให้คุยกับเขาไปเลย ถ้าเราพร้อมจะชำระ ราคา HairCut อาจไม่งาม แต่ถ้าจ่ายได้และปิดบัญชีได้ ท่านจะรู้สึกสบายใจ มีความสุข กว่าแต่ก่อนมากเลยค่ะ ที่ต้องหมุนบัตรโน้นไปจ่ายบัตรนี้ ทำให้เราตั้งใจอยากจะปิดบัตรไปให้ได้เรื่อย ๆ ค่ะ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพ ฐานะ ของแต่ละท่าน

สิ่งสำคัญคือ จะต้องวางแผนการเงินให้ดี ทำรายรับ-รายจ่าย เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า มีเงินเหลือพอจะชำระหนี้ได้ไหม

ปล.. ยังไม่เคยขึ้นศาลค่ะ แต่อาศัยการประนอมหนี้ การเจรจา เจ้าไหนถ้าคุยยาก ก็หาทางแก้ตามวิธีการของชมรมไปก่อน เชื่อว่าแต่ละท่าน ควรนำวิธีการไปประยุกต์ใช้ค่ะ

ขอบคุณที่มีคนแนะนำชมรมนี้ให้รู้จัก ทำให้ปลดหนี้ได้เร็วขึ้นค่ะ เคยคาดการณ์ไว้ว่า จะหมดหนี้ 10 ปี แต่ทำไปทำมาปรากฎว่า ทำไม่ได้ จนต้องมาศึกษาหาข้อมูลจากชมรมนี้ค่ะ