-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
การยึดบ้าน
การยึดบ้าน
-
pong789
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #56634
โดย pong789
ผมมีหนี้บัตรเครดิตอยู่หลายใบ ขาดส่งธนาคารยังไม่ครบ 1 เดือนทุกใบ ธนาคารก็มีแค่โทรมาตามให้ชำระหนี้เนื่องจากเกินกำหนดแล้ว อยู่ในช่วงตัดสินใจหยุดจ่าย ขอถามดังนี้ครับ
1. ผมมีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน) ปลอดภาระหนี้ โดยเป็นชื่อผมกับพี่ชาย ถ้าหากผมโอน หรือขายให้พี่ชายในช่วงก่อนที่จะมีการฟ้องบังคับคดี ถามว่าเจ้าหนี้ธนาคารบัตรเครดิตที่ค้างจ่าย ในอนาคตสามารถฟ้องบังคับยึดออกขายทอดตลาดได้หรือไม่?
2. ผมมีติดผ่อนคอนโด (จ่ายชำระทุกเดือน)โดยกู้ร่วมกับภรรยาที่ไม่จดทะเบียน โดยชื่อด้านหลังโฉนดกรรมสิทธิ์ เป็นชื่อภรรยาผู้เดียว ถามว่าเจ้าหนี้ธนาคารบัตรเครดิตที่ค้างจ่าย ในอนาคตสามารถฟ้องบังคับยึดคอนโดออกขายทอดตลาดได้หรือไม่?
ขอบคุณครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
debtman
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #56648
โดย debtman
pong789 เขียน: ผมมีหนี้บัตรเครดิตอยู่หลายใบ ขาดส่งธนาคารยังไม่ครบ 1 เดือนทุกใบ ธนาคารก็มีแค่โทรมาตามให้ชำระหนี้เนื่องจากเกินกำหนดแล้ว อยู่ในช่วงตัดสินใจหยุดจ่าย ขอถามดังนี้ครับ
1. ผมมีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน) ปลอดภาระหนี้ โดยเป็นชื่อผมกับพี่ชาย ถ้าหากผมโอน หรือขายให้พี่ชายในช่วงก่อนที่จะมีการฟ้องบังคับคดี ถามว่าเจ้าหนี้ธนาคารบัตรเครดิตที่ค้างจ่าย ในอนาคตสามารถฟ้องบังคับยึดออกขายทอดตลาดได้หรือไม่?
2. ผมมีติดผ่อนคอนโด (จ่ายชำระทุกเดือน)โดยกู้ร่วมกับภรรยาที่ไม่จดทะเบียน โดยชื่อด้านหลังโฉนดกรรมสิทธิ์ เป็นชื่อภรรยาผู้เดียว ถามว่าเจ้าหนี้ธนาคารบัตรเครดิตที่ค้างจ่าย ในอนาคตสามารถฟ้องบังคับยึดคอนโดออกขายทอดตลาดได้หรือไม่?
ขอบคุณครับ
ขออนุญาตตอบตามหลักกฏหมายน่ะครับ
ข้อ 1. กรณีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีชื่อคุณกับพี่ชายอยู่ ทางกฏหมายเขาเรียกว่า กรรมสิทธิ์รวม ครับ
หากมีการฟ้องร้อง บังคับคดีแล้ว เจ้าหนี้สามารถนำทรัพย์ดังกล่าวไปขายทอดตลาดได้ แล้วนำเงินกึ่งหนึ่งซึ่งเป็นส่วนของพี่ชายคืนให้พี่ชายคุณ (แต่จะได้ราคาที่ต่ำมาก หากคูณไม่ไปดูแลขณะขายทอดตลาด)
ทางแก้ ก่อนจะโดนหมายศาล ตอนนี้พึ่งผิดนัดแค่ 1 เดือน ก็ให้รีบโอนให้พี่ชายให้เรียบร้อย หากเจ้าหนี้สืบได้ว่าคุณได้โอนทรัพย์สินในขณะยื่นฟ้อง จากคดีผู้บริโภคธรรมดาก็จะกลายพันธุ์เป็นคดีอาญา มีโทษจำคุกฐานโกงเจ้าหนี้ (ป.อ.มาตรา 350)
ข้อ 2. กรณีติดผ่อนคอนโด โดยกู้ร่วมกับภรรยาไม่ชอบด้วยกฏหมาย แต่ชื่อด้านหลังโฉนดเป็นชื่อภรรยาแต่เพียงผู้เดียว ในกรณีนี้ทางกฏหมายสันนิษฐานได้ว่าคุณอาจมีกรรมสิทธิ์รวมในคอนโดนี้ (ไม่เกี่ยวกับสินสมรสเพราะคุณไม่ได้จดทะเบียน) ดังนั้น จพค.มีสิทธิ์ยึดคอนโดของคุณเพื่อขายทอดตลาดได้ครับ
ทางแก้: ให้ภรรยาไม่ชอบด้วยกฏหมายของคุณ ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ต่อศาลที่ออกหมายบังคับคดี ให้ปล่อยบ้านที่ยึดนั้น โดยกล่าวอ้างว่าคุณซึ่งเป็นจำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ใช่เจ้าของคอนโดอันเป็นทรัพย์สินที่ จพค.ได้ยึดไว้ ตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 288 ครับ
debtman
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
wutha
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
-
pong789
-
ผู้เขียนหัวข้อ
-
ผู้เยี่ยมชม
-
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #56656
โดย pong789
ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
ขอถามเพิ่มครับ
- ถ้าหากภรรยาผม ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนกัน ได้กู้ซื้อบ้านโดยกู้เอง และชื่อหลังโฉนดเป็นชื่อภรรยาคนเดียว ผ่อนชำระเองกับธนาคาร แแต่ธนาคารให้ผมเซ็นยินยอม ในอนาคตเจ้าหนี้บัตรเครดิตยองผมจะฟ้องยึดบ้านนี้ได้มั้ยครับ การเซ็นยินยอมืผลอะไรบ้างครับ
ขอบคุณครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
debtman
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #56660
โดย debtman
pong789 เขียน: ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
ขอถามเพิ่มครับ
- ถ้าหากภรรยาผม ซึ่งไม่ได้จดทะเบียนกัน ได้กู้ซื้อบ้านโดยกู้เอง และชื่อหลังโฉนดเป็นชื่อภรรยาคนเดียว ผ่อนชำระเองกับธนาคาร แแต่ธนาคารให้ผมเซ็นยินยอม ในอนาคตเจ้าหนี้บัตรเครดิตยองผมจะฟ้องยึดบ้านนี้ได้มั้ยครับ การเซ็นยินยอมืผลอะไรบ้างครับ
ขอบคุณครับ
การเซ็นต์ยินยอมดังกล่าว ไม่อาจทำให้คุณตกเป็นลูกหนี้ หรือผู้กู้ร่วมได้ แต่ธนาคารมองว่าในอนาคตหากคุณจดทะเบียนสมรสแล้ว ธนาคารจะจัดการกับทรัพย์ดังกล่าวได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากคุณอีก ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1476
ดังนั้น เจ้าหนี้บัตรเครดิตก็ไม่สามารถยึดทรัพย์ดังกล่าวได้ เพราะทรัพย์นั้นไม่ใช่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
sacth
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #56698
โดย sacth
สวัสดีค่ะ ดิฉันก็เป็นหนี้บัตรหลายใบ จนมีหมายศาลใบแรกมาแล้วให้ขึ้นศาลวันที่ 1 กันยายน 2557 ที่จะถึงนี้ ดิฉันมีแฟลตห้องหนึ่งยังผ่อนชำระไม่หมด โดยมีชื่อดิฉันเป็นผู้กู้คนเดียว ในระหว่างนี้ดิฉันยังสามารถเปลี่ยนชื่อผู้กู้ให้คนอื่นมาก๔้แทนได้หรือเปล่าคะ จะโดนกลายพันธุ์จากคดีผู้บริโภคธรรมดา ไปเป็นคดีอาญาหรือเปล่าคะ หรือถ้าหากว่าดิฉันรีบชิงขายแฟลตไปเลยจะได้ไหมคะ ดิฉันเป็นสมาชิกใหม่อ่านกระทู้ปักหมุดมาหลายรอบแล้วค่ะ แต่ยังไม่แน่ใจค่ะ
ขอบคุณค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
debtman
-
-
ผู้เยี่ยมชม
-
10 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #56715
โดย debtman
sacth เขียน: สวัสดีค่ะ ดิฉันก็เป็นหนี้บัตรหลายใบ จนมีหมายศาลใบแรกมาแล้วให้ขึ้นศาลวันที่ 1 กันยายน 2557 ที่จะถึงนี้ ดิฉันมีแฟลตห้องหนึ่งยังผ่อนชำระไม่หมด โดยมีชื่อดิฉันเป็นผู้กู้คนเดียว ในระหว่างนี้ดิฉันยังสามารถเปลี่ยนชื่อผู้กู้ให้คนอื่นมาก๔้แทนได้หรือเปล่าคะ จะโดนกลายพันธุ์จากคดีผู้บริโภคธรรมดา ไปเป็นคดีอาญาหรือเปล่าคะ หรือถ้าหากว่าดิฉันรีบชิงขายแฟลตไปเลยจะได้ไหมคะ ดิฉันเป็นสมาชิกใหม่อ่านกระทู้ปักหมุดมาหลายรอบแล้วค่ะ แต่ยังไม่แน่ใจค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ป.อ. ม.350 บัญญัตว่า ผู้ใด เพื่อมิให้ เจ้าหนี้ ของตน หรือ ของ ผู้อื่น ได้รับชำระหนี้ ทั้งหมด หรือ แต่บางส่วน ซึ่ง ได้ใช้ หรือ จะใช้ สิทธิเรียกร้อง ทางศาล ให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือ โอนไปให้แก่ ผู้อื่น ซึ่ง ทรัพย์ใด ก็ดี แกล้งให้ตนเอง เป็นหนี้ จำนวนใด อันไม่เป็นความจริง ก็ดี ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน สองปี หรือ ปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดตามมาตรานี้ มีลูกหนี้กระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์กันมาก เพราะเมื่อรู้ว่ากำลังจะถูกฟ้องหรือศาลตัดสินให้ชำระหนี้แล้ว ก็รีบทำการโอนทรัพย์สินไปให้ญาติหรือผู้อื่นถือแทนจึงเป็นความผิดทั้งลูกหนี้ผู้โอนและผู้รับโอนที่สมรู้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หากการโอนจำหน่ายทรัพย์ของลูกหนี้ได้กระทำก่อนที่เจ้าหนี้จะใช้สิทธิฟ้องร้องทางศาล ก็ไม่ถือว่าลูกหนี้มีความผิด หรือลูกหนี้ทำการโอนจำหน่ายทรัพย์ แม้เป็นช่วงเวลาที่เจ้าหนี้ใช้สิทธิเรียกร้องแล้ว แต่หากลูกหนี้โอนจำหน่ายไปเพื่อนำเงินนั้นมาชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ ก็ไม่ถือเป็นความผิดเช่นกัน เพราะไม่มีเจตนาเพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้
debtman
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
-
Forum
-
webboard คนยิ้มสู้หนี้
-
ห้องถาม- ตอบปัญหาหนี้
-
การยึดบ้าน
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.368 วินาที