ถ้าลูกหนี้ตกเป็นผู้ต้องขัง เจ้าหนี้จะทำอย่างไร

ตอนนี้กำลังจะมีกรณีพิพาทกับทางบริษัทค่ะ
ทำตำแหน่งการเงิน แล้วเอาเงินบริษัทออกมาหมุนบัตรเครดิตกับจ่ายหนี้นอกระบบ
จนสุดท้ายมันไปไม่ไหว ไม่มีเงินมาคืนบริษัท แจ้งบริษัทรับทราบเขาให้ระยะเวลาในการชำระหนี้
ครบกำหนดแล้วแต่ไม่สามารถหามาคืนได้ ทางบริษัทเลยจะดำเนินคดี ยักยอกทรัพย์ ลองหาข้อมูลในเน็ตแล้ว เขาว่าเป็นคดีอาญา สมมุติว่าถ้าดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วต้องจำคุก แล้วหนี้สินบัตรเขาจะตามฟ้องเราแบบไหนคะ

เสียดายที่คุณจอยสู้หนี้ไม่ใช้สติในการแก้ปัญหาตั้งแต่แรก
กรณี​ต้องโทษจำคุกในคดีอาญา ก็โดนแพ่งต่อได้อยู่ดีครับ

คุณจะโดนฟ้องแพ่งทั้งจากนายจ้างคุณ และจากเจ้าหนี้บัตรเครดิตด้วย
กรณีนายจ้างหากตอนรับคุณเข้าทำงานต้องมีผู้ค้ำประกันมาเซ็นสัญญาค้ำประกันเข้าทำงาน ผู้ค้ำประกันของคุณจะโดนฟ้องแพ่งในส่วนที่นายจ้างเสียหายด้วย หากไม่ยอมมาชดใช้ให้คุณ

ทั้งนายจ้างและเจ้าหนี้ในกรณีคุณนี้ หากศาลตัดสินให้นายจ้างและเจ้าหนี้ชนะ และตามข้อเท็จจริงที่ว่าคุณไม่มีกำลังจ่ายก็ตาม แต่เจ้านายและเจ้าหนี้สามารถขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินคุณได้ภายใน 10 ปี หลังจากตัดสินในคดีแพ่ง ถ้ามีทรัพย์สินให้ยึดขายทอดตลาดเพียงพอก็จบคดีแพ่งได้

หรือหากไม่มีทรัพย์สินใดให้ยึด สมมติ​โทษคดีอาญาคุณโชคดีมากๆศาลท่านรอลงอาญาไม่ต้องจำคุก หรือหากต้องจำคุกสูงสุดคือ 5 ปี คุณ​พ้นโทษออกมาเจ้าหนี้ก็ยังมีเวลาครับ จะบังคับคดีได้อีกเมื่อคุณกลับออกมาแล้วทำงานมีเงินเดือนก็บังคับอายัดเงินเดือนได้ ถ้ามีบริษัทไหนรับคุณเข้าทำงานนะครับ

อันนี้ในรายละเอียดข้อกฎหมายอาจต้องให้ทางกรรมการมาช่วยตอบ
ผมไม่ได้อยากให้ดูเหมือนซ้ำเติม แค่เล่าจากที่เคยอ่านๆมานะครับ

เราต้องรับผลจากการกระทำของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ ต้องยอมรับมันให้ได้

อย่างไร​ผมเป็น​กำลังใจให้นะครับ เราจะแกร่งขึ้นเองครับ สู้ๆต่อไปนะครับ

จอยสู้หนี้ เขียน: ตอนนี้กำลังจะมีกรณีพิพาทกับทางบริษัทค่ะ
ทำตำแหน่งการเงิน แล้วเอาเงินบริษัทออกมาหมุนบัตรเครดิตกับจ่ายหนี้นอกระบบ
จนสุดท้ายมันไปไม่ไหว ไม่มีเงินมาคืนบริษัท แจ้งบริษัทรับทราบเขาให้ระยะเวลาในการชำระหนี้
ครบกำหนดแล้วแต่ไม่สามารถหามาคืนได้ ทางบริษัทเลยจะดำเนินคดี ยักยอกทรัพย์ ลองหาข้อมูลในเน็ตแล้ว เขาว่าเป็นคดีอาญา

การที่ลูกจ้างของบริษัท ได้กระทำการเบียดบังแอบเอาทรัพย์สิน หรือเงินทองของบริษัท ไปใช้ให้เกิดเป็นผลประโยชน์ส่วนตัวโดยทุจริต ถือเป็นการกระทำความผิดฐาน"ยักยอกทรัพย์" ตามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 , 353 เช่น...ทำงานเป็นพนักงานขาย แต่แอบเอาเงินค่าขายสินค้าไปเป็นของตนเอง หรือรับเงินจากลูกค้าแล้วไม่นำส่งบริษัท
หรือ เป็นพนักงาน ฝ่ายบัญชี/ฝ่ายการเงิน แล้วแอบเอาเงินของบริษัท(นายจ้าง) ไปแอบหมุนเพื่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตน...เป็นต้น

ความผิดฐานยักยอกนั้นเป็นความผิดอันยอมความได้ ซึ่งหมายถึงผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดสามารถเจรจาคืนทรัพย์สินหรือชำระค่าเสียหายเพื่อยุติคดีได้


ประมวลกฎหมายอาญา

หมวด 5 ความผิดฐานยักยอก

มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 353 ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆโดยทุจริต จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 356 ความผิดในหมวด 5นี้ เป็นความผิดอันยอมความได้




คดียักยอก กฎหมายระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หากยักยอกเงิน 120,000 บาท ครั้งเดียวก้อนเดียว ก็ถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี
แต่หากเอาเงินไปหลายครั้งแล้วรวมเป็นเงินจำนวนดังกล่าว (ดูในคำฟ้อง) โทษก็จะคูณจำนวนครั้งที่ทำผิด
ส่วนวิธีการที่จะไม่ต้องติดคุกนั้น จำเลยจะต้องนำเงินมาชำระคืนผู้เสียหายให้ครบทั้งหมด
การที่ผู้เสียหายต้องการได้เงินคืนทั้งหมดก้อนเดียวนั้น เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเป็นใครก็ต้องการเงินคืนเป็นก้อนเดียว ต้องคิดถึงใจเขาใจเรา หากจำเลยไม่ไปกระทำผิด ก็จะไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งหากไม่สามารถหาเงินมาคืนตามที่ตกลงกันได้ และศาลได้ให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว ก็อาจจะถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา

สำหรับเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแล้ว จำเลยก็สามารถใช้หลักทรัพย์เดิม ประกันตัวออกไปใช้สิทธิสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ได้อีก

จอยสู้หนี้ เขียน: สมมุติว่าถ้าดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วต้องจำคุก แล้วหนี้สินบัตรเขาจะตามฟ้องเราแบบไหนคะ

เจ้าหนี้พวกบรรดาบัตรฯทั้งหลายแหล่ ก็จะฟ้องลูกหนี้ให้เป็นคดีแพ่ง(ไม่สามารถฟ้องลูกหนี้ให้เป็นคดีอาญาได้) โดยเจ้าหนี้จะทำการฟ้องต่อศาลแพ่งหรือศาลผู้บริโภคต่อไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย ถึงแม้ว่าตัวของลูกหนี้จะถูกจำขังอยู่ในคุกก็ตาม เพื่อให้เกิดกระบวนการสืบทรัพย์และยึดทรัพย์ของลูกหนี้(ถ้ามี)ต่อไป
.

Hippocrite เขียน: เสียดายที่คุณจอยสู้หนี้ไม่ใช้สติในการแก้ปัญหาตั้งแต่แรก
กรณี​ต้องโทษจำคุกในคดีอาญา ก็โดนแพ่งต่อได้อยู่ดีครับ

คุณจะโดนฟ้องแพ่งทั้งจากนายจ้างคุณ และจากเจ้าหนี้บัตรเครดิตด้วย
กรณีนายจ้างหากตอนรับคุณเข้าทำงานต้องมีผู้ค้ำประกันมาเซ็นสัญญาค้ำประกันเข้าทำงาน ผู้ค้ำประกันของคุณจะโดนฟ้องแพ่งในส่วนที่นายจ้างเสียหายด้วย หากไม่ยอมมาชดใช้ให้คุณ

ทั้งนายจ้างและเจ้าหนี้ในกรณีคุณนี้ หากศาลตัดสินให้นายจ้างและเจ้าหนี้ชนะ และตามข้อเท็จจริงที่ว่าคุณไม่มีกำลังจ่ายก็ตาม แต่เจ้านายและเจ้าหนี้สามารถขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สินคุณได้ภายใน 10 ปี หลังจากตัดสินในคดีแพ่ง ถ้ามีทรัพย์สินให้ยึดขายทอดตลาดเพียงพอก็จบคดีแพ่งได้

หรือหากไม่มีทรัพย์สินใดให้ยึด สมมติ​โทษคดีอาญาคุณโชคดีมากๆศาลท่านรอลงอาญาไม่ต้องจำคุก หรือหากต้องจำคุกสูงสุดคือ 5 ปี คุณ​พ้นโทษออกมาเจ้าหนี้ก็ยังมีเวลาครับ จะบังคับคดีได้อีกเมื่อคุณกลับออกมาแล้วทำงานมีเงินเดือนก็บังคับอายัดเงินเดือนได้ ถ้ามีบริษัทไหนรับคุณเข้าทำงานนะครับ

อันนี้ในรายละเอียดข้อกฎหมายอาจต้องให้ทางกรรมการมาช่วยตอบ
ผมไม่ได้อยากให้ดูเหมือนซ้ำเติม แค่เล่าจากที่เคยอ่านๆมานะครับ

เราต้องรับผลจากการกระทำของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่งครับ ต้องยอมรับมันให้ได้

อย่างไร​ผมเป็น​กำลังใจให้นะครับ เราจะแกร่งขึ้นเองครับ สู้ๆต่อไปนะครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
ยอมรับความผิดตรงจุดนี้ ตอนนั้นมันหน้ามืดตามัวไปแล้ว คิดแต่ว่าจะหาเงินจากไหนไปจ่ายบัตร
ก็เอาเงินบริษัทไปจ่ายบัตร จ่ายตรงนี้ ปิดตรงนั้น แล้วตอนนั้นมีปัญหาเรื่องโดนโกงแชร์ ต้องหาเงินจ่ายลูกทีม มันเลยทำให้คิดหาทางออกผิดๆ

จอยสู้หนี้ เขียน: สมมุติว่าถ้าดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วต้องจำคุก แล้วหนี้สินบัตรเขาจะตามฟ้องเราแบบไหนคะ

เจ้าหนี้พวกบรรดาบัตรฯทั้งหลายแหล่ ก็จะฟ้องลูกหนี้ให้เป็นคดีแพ่ง(ไม่สามารถฟ้องลูกหนี้ให้เป็นคดีอาญาได้) โดยเจ้าหนี้จะทำการฟ้องต่อศาลแพ่งหรือศาลผู้บริโภคต่อไป ตามขั้นตอนของกฎหมาย ถึงแม้ว่าตัวของลูกหนี้จะถูกจำขังอยู่ในคุกก็ตาม เพื่อให้เกิดกระบวนการสืบทรัพย์และยึดทรัพย์ของลูกหนี้(ถ้ามี)ต่อไป
.[/quote]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
แบบนี้แสดงว่า ถึงเราถูกจำขังทางเจ้าหนี้บัตรก็จะทำการส่งฟ้องไม่ได้รอให้พ้นโทษก่อน
ถ้ามีหมายไปที่บ้าน ก็ต้องให้คนทางบ้านไปแจ้งว่าตอนนี้กำลังต้องโทษอยู่

ในเคสของจอย มันไม่ได้กระทำการครั้งเดียว แต่คิดว่าต้องคุยกับทางบริษัทให้เขารวมเป็นยอดเดียว

ที่คิดไว้ตอนนี้คือ

1. จะคุยเพื่อรวมยอดหนี้เป็นการกระทำ 1 ครั้ง เพื่อให้เป็นการรับโทษไม่มาก จะได้ไม่โดนต่างกรรมต่างวาระ
2. จะคุยเรื่องการผ่อนชำระหนี้อีกครั้ง ครั้งแรกที่คุย บริษัทให้ชำระหนี้ทั้งหมด ซึ่งเราไม่สามารถหามาชำระได้ ขอผ่อนชำระเราไม่ต้องการ แต่คิดว่าต้องลองคุยอีกครั้ง
3. วางแผนว่าถ้าโดนตัดสินให้จำคุก จะทำอย่างไร

ตอนนี้ทางบ้านก็พยายามหาเงินมาช่วย แต่ยอดมันสูงมาก สำหรับตัวจอยไม่มีสินทรัพย์อะไรเลย มีแต่หนี้สิน แต่เราต้องยอมรับในความผิดของตัวเอง ถ้ายังมีชีวิตอยู่สักวันเราก็คงหมดหนี้ สู้

ไม่มีใครเป็นหนี้กับ เกียรนาคิน มั้งเหรอค่ะ หาข้อมูลเพิ่มเติม
เพราะจอยกู้สินเชื่อส่วนบุคคลมา 200,000 บาท ยังไม่จ่ายสักงวด เขาจะว่าเจตนาโกงไหม อีกใบคือ ktc เครดิต อันนี้ผ่อนของ+กดเงิน ก็ไม่ได้จ่ายเลย เขาไม่ได้เงินเราเลย คาดการณ์ว่าจะไม่ได้ส่วนลด

ใกล้จะครบกำหนดที่บริษัทให้หาเงินมาคืนแล้วคือ 10/02/60
แน่นอนล่ะ คนไม่มีเงินจะเอาที่ไหนมาคืน

วันนี้เลยเป็นฝ่ายบุกไปหาผู้จัดการเพื่อคุยก่อนเลย ก็แจ้งทางบริษัทไปตรงๆ เลยว่า
ตอนนี้มีปัญหาทางการเงินหนักมาก นอกจากหนี้บริษัท ก็มีหนี้บัตร หนี้นอกระบบ จึงไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ แล้วบอกแนวทางที่เราสามารถทำได้ ขอทำงานชดใช้หนี้ได้ไหม ย้ายออกจากตำแหน่งปัจจุบันไปทำตำแหน่งอื่นได้เรายินยอม (ทำการเงิน) ถ้าดำเนินคดี ยังไงจอยก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยสักอย่างเดียว อย่างมากก็ติดคุก แล้วถ้าจอยติด หนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าให้โอกาสจอยทำงานใช้หนี้ สักวันมันก็ต้องหมด
ผู้จัดการขอเอาเรื่องไปปรึกษาภายในการว่ายังไง

นอนคิดเรื่องนี้มาหลายคืน หลังจากได้อ่านกระทู้ปักหมุดหลายรอบ ก็คิดว่าถ้าเรารอให้เขาตัดสิน เราผิดจริงโอกาสมันจะไม่มี จอยเลยชิงก่อนเลยอย่างน้อยเขาอาจจะคิดว่า ถ้าจอยติดคุกเขาก็ไม่ได้เงินคืน แต่ถ้าจอยยังทำงาน จอยก็อยู่ตรงนี้แหละไปไหนไม่ได้ (อายุ 35 จะว่าเยอะก็ไม่เยอะ แต่สำหรับการเริ่มต้นหางานใหม่ มันดูจะยากแย่เหลือเกิน)

ก็ได้แต่ภาวนาให้เขาเห็นใจเรา ไม่ฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะจอยจะโดนคดียักยอกทรัพย์ ติดคุกสถานเดียว

วันนี้เจ้าหนี้เริ่มโทรมาทวงเงิน แต่ที่เยอะสุดคง Umay ไม่รู้ว่าไม่มีงานทำหรือว่าอะไร เจ้าเดียว 5 สาย ตั้งแต่ 8.10 จนต้องแจ้งว่า เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรือยังไง ฉันแจ้งคุยไปแล้วว่าไม่มีเงินพอที่จะชำระหนี้ โทรมากี่สายฉันก็ยังไม่มี

จอยสู้หนี้ เขียน: ใกล้จะครบกำหนดที่บริษัทให้หาเงินมาคืนแล้วคือ 10/02/60
แน่นอนล่ะ คนไม่มีเงินจะเอาที่ไหนมาคืน

วันนี้เลยเป็นฝ่ายบุกไปหาผู้จัดการเพื่อคุยก่อนเลย ก็แจ้งทางบริษัทไปตรงๆ เลยว่า
ตอนนี้มีปัญหาทางการเงินหนักมาก นอกจากหนี้บริษัท ก็มีหนี้บัตร หนี้นอกระบบ จึงไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ แล้วบอกแนวทางที่เราสามารถทำได้ ขอทำงานชดใช้หนี้ได้ไหม ย้ายออกจากตำแหน่งปัจจุบันไปทำตำแหน่งอื่นได้เรายินยอม (ทำการเงิน) ถ้าดำเนินคดี ยังไงจอยก็ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลยสักอย่างเดียว อย่างมากก็ติดคุก แล้วถ้าจอยติด หนี้ก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าให้โอกาสจอยทำงานใช้หนี้ สักวันมันก็ต้องหมด
ผู้จัดการขอเอาเรื่องไปปรึกษาภายในการว่ายังไง

นอนคิดเรื่องนี้มาหลายคืน หลังจากได้อ่านกระทู้ปักหมุดหลายรอบ ก็คิดว่าถ้าเรารอให้เขาตัดสิน เราผิดจริงโอกาสมันจะไม่มี จอยเลยชิงก่อนเลยอย่างน้อยเขาอาจจะคิดว่า ถ้าจอยติดคุกเขาก็ไม่ได้เงินคืน แต่ถ้าจอยยังทำงาน จอยก็อยู่ตรงนี้แหละไปไหนไม่ได้ (อายุ 35 จะว่าเยอะก็ไม่เยอะ แต่สำหรับการเริ่มต้นหางานใหม่ มันดูจะยากแย่เหลือเกิน)

ก็ได้แต่ภาวนาให้เขาเห็นใจเรา ไม่ฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะจอยจะโดนคดียักยอกทรัพย์ ติดคุกสถานเดียว

วันนี้เจ้าหนี้เริ่มโทรมาทวงเงิน แต่ที่เยอะสุดคง Umay ไม่รู้ว่าไม่มีงานทำหรือว่าอะไร เจ้าเดียว 5 สาย ตั้งแต่ 8.10 จนต้องแจ้งว่า เราคุยกันไม่รู้เรื่องหรือยังไง ฉันแจ้งคุยไปแล้วว่าไม่มีเงินพอที่จะชำระหนี้ โทรมากี่สายฉันก็ยังไม่มี

ถ้าบริษัทเห็นว่าคุณจอยมีความตั้งใจ รับผิดชอบ และชดใช้ความเสียหาย เชื่อว่าบริษัทน่าจะมีแนวทางที่ดีกว่าการดำเนินคดีทางอาญา และให้โอกาสคุณจอยได้พิสูจน์ความตั้งใจอันนั้น

ขอ​เป็น​กำลังใจให้นะครับ ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป สู้ๆครับ (^_-)

Hippocrite เขียน:
ถ้าบริษัทเห็นว่าคุณจอยมีความตั้งใจ รับผิดชอบ และชดใช้ความเสียหาย เชื่อว่าบริษัทน่าจะมีแนวทางที่ดีกว่าการดำเนินคดีทางอาญา และให้โอกาสคุณจอยได้พิสูจน์ความตั้งใจอันนั้น

ขอ​เป็น​กำลังใจให้นะครับ ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป สู้ๆครับ (^_-)

ขอบคุณนะคะ ตอนนี้ก็ต้องเดินหน้าชนอย่างเดียวจะหนีก็คงไม่ได้แล้วล่ะ
ส่วนหนึ่งจอยไม่มีวุฒิการศึกษาด้วยล่ะ สมัยวัยรุ่นเกเรมากๆ เรียนไม่จบ อาศัยทำงานมานาน ความรู้มีแต่ไม่มีวุฒิรับรอง ถ้าจะหางานใหม่คงยาก

เห็นลายเซ็นอัพ ktc จบแล้ว ดีใจด้วยจ้า

ktc เป็นอีกเจ้าที่จอยต้องสู้ เพราะมี 2 ใบ เครดิต+กดเงินสด
เครดิตไม่เคยจ่ายเลยแม้แต่งวดเดียว
กดเงินสดจ่าย 2 งวด
แบบนี้เขาจะหาว่าจอยจงใจโกงเขาไหมเครียดตรงนี้ อีกตัวที่ไม่เคยจ่ายเลยก็ สินเชื่อบุคคลเกียรตินาคิี

ถึงกำหนดที่เขาให้หาเงินมาคืนบริษัทวันนี้ 10/02/60
เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืน ไม่รู้ว่าข้อเสนอที่แจ้งเขาไปเขาจะโอเคกับเราไหม ตอนนี้ก็นั่งรอเขาเรียกพบ
ยอมรับว่ากลัวมากๆ แต่ในเมื่อเราทำไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา

จอยสู้หนี้ เขียน: ถึงกำหนดที่เขาให้หาเงินมาคืนบริษัทวันนี้ 10/02/60
เมื่อคืนนี้นอนไม่หลับทั้งคืน ไม่รู้ว่าข้อเสนอที่แจ้งเขาไปเขาจะโอเคกับเราไหม ตอนนี้ก็นั่งรอเขาเรียกพบ
ยอมรับว่ากลัวมากๆ แต่ในเมื่อเราทำไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา

ต้องเข้มแข็งครับสู้ๆ (^_-)

มารายงานตัวค่ะ ยังอยู่ดีไม่ได้ไปเที่ยวห้องกรงแต่อย่างใด

จากกำหนดการที่บริษัทให้หาเงินมาคืนเมื่อวันที่ 10-02-60 ก็ตามระเบียบละค่ะ หามาคืนไม่ได้
จอยก็ชิงเสนอทางเลือกเขาไปว่าจะขอทำงานผ่อนชำระ ทางผู้จัดการบอกว่าจะขอไปคุยผู้ใหญ่อีกที

พอถืงวันทางผู้จัดการมาแจ้งว่าทางผู้ใหญ่ยังหาขอสรุปไม่ได้ แต่คิดว่าแนวทางที่จอยเสนอไป บริษัทไม่โอเคเท่าไหร่

ตอนนี้ก็ได้แต่รอว่าเขาจะเรียกพบอีกวันไหน เครียดดดดดดด

อัพเดต
อีซีบาย เข้างวดที่ 2 โทรทุกวันเลย เช้า สาย บ่าย เย็น
Frist choice เข้างวดที่ 3 นานๆ โทรที
นอกนั้นโทรตามแจ้งว่่าไม่มีก็ไม่โทรอีก

มารายงานตัวจ้า

ยังอยู่ดีนะคะ ไม่ได้ติดคุกแต่ก็ยังไม่นอนใจเพราะไม่รู้บริษัทจะเอายังไง แต่ยังได้ทำงานอยู่ หรือเขาจะให้ทำงานใช้หนี้ สาธุ!!! ปราณีฉันเถอะ

มาถึงเรื่องตามหนี้ตามสิน
อีซีบายเขาโทรจนน่ารำคาญจริงๆ บอกไม่มียังจะให้หาอยู่ได้
นอกนั้นก็นานๆ โทรที บอกไม่มีก็วางไปไม่ดื้อไม่ซน 5555

มีจดหมายฉบับแรกมาถึงบ้านแล้วนะคะ จากธนาคาร เกียรตินาคิน
ก็น่าจะมาเป็นอันดับแรกเพราะกู้มาไม่ได้จ่ายสักบาท โดนเขาโกงไปก่อน
ก้มหน้ารับกรรมต่อไป

แถมจดหมายก็ใส่วันที่ให้เราสับสน บอกว่าผิดนัดชำระ 1 พฤษภาคม 2560 มันยังไม่ถึงเลยนะ บ้าป่าว

สู้ๆนะคะ

ฮัลโหลลลลลล เรากลับมาแล้ว

ไม่ได้มาอัพเดต 2 อาทิตย์มีเรื่องให้ตื่นเต้นเยอะไปหมด

เอาเรื่องแรกก่อนนะ
เรื่องยักยอกเงินบริษัทไป ตอนนี้คุยกันเรียบร้อยแล้ว บริษัทให้ออกจากงาน
เขาไม่สามารถให้ทำต่อไปได้เพราะไม่อยากให้เป็นตัวอย่างกับพนักงานท่านอื่นๆ
แต่ไม่ดำเนินคดี เพียงแต่ทำหนังสือสัญญาการกู้ยืมเงิน และผ่อนชำระเป็นรายเดือนตามที่กำหนด
ถ้าเดือนไหนไม่จ่าย เขาจะแจ้งความทันที ก็ยังดีที่เขายังปราณี แต่ลำบากเรื่องหางานใหม่ เพราะมีความสามารถแต่ไม่มีใบประกาศรับรองความรู้ความสามารถ ตอนวัยรุ่นเกเรไปหน่อย

เรื่องที่สอง เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นระทึกใจมาก
วันเสาร์ที่ 25 มกราคม 60 แฟนโดนจับ แฟนขายซีดี ไม่ใช่ของแท้ ตามตลาดนัด จ่ายรายเดือนให้คนดูแลอีกทีทุกๆ เดือน ขายมาหลายปีไม่เคยมีปัญหา แต่วันเกิดเหตุ โดนหิ้วไป กองปราบเศรษฐกิจ โดนข้อหาเรื่องขายสินค้าละเมิดลิขสิทธ์ และไม่มีใบประกอบการ
ค่าประกันตัว 1 แสนบาท

โทรหาคนดูแล ถามทำไมโดนจับ จ่ายเงินให้ทุกเดือน อีกแผงทำไมไม่โดน
(มารู้ที่หลังไอ้คนดูแลมันจ่ายมั้งไม่จ่ายมั้งพวกเลยมาหิ้วไป)
แล้วเขาโอนเงินมาช่วย 1 หมื่นบาท โอ๊ย!!! โดนประกัน 1 แสนนะ ไม่ได้ 1 หมื่น ทำไงละทีนี้ต้องหาเงินมาประกันตัวแฟนออกมา เงินก็ไม่มี ก็ต้องไปกู้เขาอีก สรุปเป็นหนี้เพิ่มมาอีก 1 แสน

ยังๆ ยังไม่จบนะ ยังมีอีก ตำรวจบอกว่ารอวันไปขึ้นศาลเสียค่าปรับ วันที่ 25 มีนาคม 60 ก็คิดว่าคงไม่เท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้
ค่าละเมิดลิขสิทธ์ 1 แสน
ค่าไม่มีใบประกอบการ 2 แสน


ทำไมเวลาแย่ๆ อะไรๆ มันก็พากันมารุมไปหมด หนี้เก่ายังไม่ได้ใช้ หนี้ใหม่ก็มา
บัตรก็โทรตามจัง บอกไม่มีๆ ยังจะให้พยายาม พูดีๆ ไม่ชอบ สงสัยต้องให้ด่า
รู้ว่าเป็นหนี้ แต่ตอนนี้มันไม่มี ก็ได้แต่บ่น แต่ต้องทน
ไม่มี ไม่หนี แค่ยังไม่พร้อมจ่ายเนอะ

มาแล้วๆ หมายศาลมาแล้วจ้า
จากเกียตินาคิน มีนัดกันวันที่ 25/07/60. ตื่นเต้นดีจัง
มาเจ้าแรกเพราะไม่ได้เจ้าเขาเลยสักก่ะบาทเดียว

มีข้อสงสัย ถ้าไม่เคยผ่อนชำระ หรือผ่อนชำระเพียง 1-2 งวด มีโอกาสได้รับส่วนลดบ้างไหม
เพราะบัตรที่มีอยู่ ไม่จ่ายเลย 2 เจ้า จ่าย 1-2 งวด มี 4 เจ้า มันจะได้ลดม่ะ

คุณจอยกลับมาแล้ว กำลังใจคงมีมากขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ ดิฉันยังแอบคิดว่าคุณจอยจะเป็นยังไงบ้าง
หลังจากเรื่องแฟนแล้ว สู้ๆนะคะ อยู่กะปัจจุบัน แล้วก็เตือนตัวเองว่าเราจะไม่มีวันกลับไปพลาดแบบนั้นอีกแล้วเนอะ(เตือนตัวเองด้วย)

Kigyakuza เขียน: คุณจอยกลับมาแล้ว กำลังใจคงมีมากขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ ดิฉันยังแอบคิดว่าคุณจอยจะเป็นยังไงบ้าง
หลังจากเรื่องแฟนแล้ว สู้ๆนะคะ อยู่กะปัจจุบัน แล้วก็เตือนตัวเองว่าเราจะไม่มีวันกลับไปพลาดแบบนั้นอีกแล้วเนอะ(เตือนตัวเองด้วย)

ช่วงที่หาย ก็ไปพักใจมาค่ะ ปัญหาต่างๆ มันรุมเร้าเหลือเกิน ไหนจะปัญหากับคนข้างตัว
ตอนนี้ก็ปรับมันมากขึ้น พอคุยกันได้ แต่ก็นะ มันไม่ดีเหมือนเดิม ก็ลองดูถ้าไปกันรอดก็สู้ต่อ
ถ้าไปกันไมไ่ด้ ก็ต้องยอมปล่อยมือ

หนี้สินตอนนี้ ยังรุงรังเหมือนเดิม

หมดแล้วววว หนี้บริษัทหมดแล้ว ไม่ติดคุกแล้วจ้า ว่าแต่เปลี่ยนชื่อกระทู้ยังไงเนี้ย หาวิธีไม่เจอ

ต่อไปนี้ก็ได้เวลาสู้กับหนี้จากบัตร ตอนนี้มีฟ้องแล้ว 3 เจ้า
1. เกียรตินาคิน 200,000
2. KTC 200,000
3. พรอมิส 45,000

คิดแล้วเหนื่อย ตอนนี้เงินเดือนแค่ 15,000 จะเอาปัญญาที่ไหนไปผ่อน
ไม่มี ไม่หนี ไม่มีจ่าย

ด่าพวกทวงหนี้ไปก็เยอะถามจังติดปัญหาตรงไหน ติดที่ "เงิน" ไง ถามมาได้ ถ้ามีเงินก็จ่ายแล้วสิ บางเจ้าถามใช้วนเงินแล้วไม่คิดจะคือสักงวดเลยเหรอ ตรูไม่ได้จะโกง แต่ตรูโดนเขาโกงไปหมดแล้ว ไม่มีจ่าย เข้าใจยากจัง