หมายอายัดเงินเดือน

ได้รับหมายอายัดเงินเดือน เมื่อวันที่ 18/12/60 ที่บ้านค่ะ
แต่ตอนนี้ที่ทำงานยังไม่มีใครเรียกไปคุยเลย ไม่แน่ใจว่าหมายมาถึงที่ทำงานรึยัง
อยากสอบถามผู้รู้ว่า หมายอายัดเงินเดือน ที่บ้านกับที่ทำงาน ต้องส่งพร้อมกันรึป่าวคะ
ตอนนี้โทรไปขอลดยอดกับเจ้าหนี้อยู่ค่ะ

Koy2526 เขียน: ได้รับหมายอายัดเงินเดือน เมื่อวันที่ 18/12/60 ที่บ้านค่ะ
แต่ตอนนี้ที่ทำงานยังไม่มีใครเรียกไปคุยเลย ไม่แน่ใจว่าหมายมาถึงที่ทำงานรึยัง
อยากสอบถามผู้รู้ว่า หมายอายัดเงินเดือน ที่บ้านกับที่ทำงาน ต้องส่งพร้อมกันรึป่าวคะ
ตอนนี้โทรไปขอลดยอดกับเจ้าหนี้อยู่ค่ะ

ไม่เกิน 2 สัปดาห์ น่าจะได้ครับ ส่งไปที่บริษัทของท่าน

รอให้ที่ทำงานเรียกไปคุยจะดีเหรอครับ ทำไมท่านไม่ไปคุยก่อนหละ ไม่ดีกว่าเหรอ
อย่ารอให้ปัญหาที่รู้อยู่แล้วว่ามาแน่ๆ แล้วค่อยแก้ครับ ให้รีบแก้ไขก่อนครับ

มาถึงจุดนี้ ท่านเสียเปรียบทุกอย่างครับ ถ้าผมเป็นเจ้าหนี้ ผมคงไม่คุยกับท่านหรอกครับช่วงนี้ รอให้เงินเดือนท่านถูกอายัดดีกว่า

ลองอ่านกระทู้ปักหมุดครับ แล้วค่อยๆ คิด ไม่เข้าใจตรงไหนมาถามเพิ่มได้ครับ (อ่านก่อนแล้วค่อยมาถามนะครับ)

หมายถึงให้ไปคุยกับที่ทำงานก่อนเลยใช่มั้ยคะ ก็อยากเข้าไปคุยค่ะ แต่ตอนนี้โทรไปขอส่วนลดกับบริษัททวงหนี้ของธนาคารที่เราเป็นหนี้อยู่ แต่เขาให้ส่วนลดน้อยมาก แล้วถ้าโทรไปคุยกับธนาคารโดยตรงจะได้มั้ยคะ

Koy2526 เขียน: หมายถึงให้ไปคุยกับที่ทำงานก่อนเลยใช่มั้ยคะ ก็อยากเข้าไปคุยค่ะ แต่ตอนนี้โทรไปขอส่วนลดกับบริษัททวงหนี้ของธนาคารที่เราเป็นหนี้อยู่ แต่เขาให้ส่วนลดน้อยมาก แล้วถ้าโทรไปคุยกับธนาคารโดยตรงจะได้มั้ยคะ

ถูกต้องครับ บอกกับหัวหน้าของเราและฝ่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องก่อนเลยดีกว่าครับ ( เพราะถ้าเกิดยิ่งคุณทำงานในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน มันจะยิ่งทำให้บริษัทหรือหัวหน้าเราคิดมากได้นะครับ ในส่วนนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่เคยเจอมานะครับ เค้าขอให้พนักงานท่านนั้นย้ายแผนกเลยนะครับ ) เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของคุณเองครับว่าเดี๋ยวจะต้องเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น

ส่วนเรื่องธนาคาร ถ้าเค้าขายหนี้ออกไปแล้วต้องติดต่อกับสำนักงานที่รับหน้าที่ต่อไป ( ซื้อหนี้ต่อจากแบงค์ ) เท่านั้นนะครับ เพราะแบงค์จะพูดปัดอย่างเดียวเลยครับว่า ให้ติดต่อกับสำนักงานที่เค้าติดต่อคุณไปเท่านั้น และอีกอย่าง จริงๆแล้วเค้าไม่ให้ส่วนลดยังได้เลยนะครับ เพราะขั้นตอนทุกอย่างผ่านขบวนการทางศาลไปหมดแล้วครับ คุณแทบจะไม่มีข้อขัดขืนหรือไม่จ่ายไม่ได้แล้วครับ เพราะเรื่องมันตกไปถึงกรมบังคับคดีแล้ว

ดังนั้น ถ้าคุณคิดว่าปิดบัตรทีเดียวใหว แต่ให้ส่วนลดน้อย อยากให้คุณลองทบทวนช้าๆ ใจเย็นๆ ดูนะครับ ว่าที่ผมลองแชร์ให้คุณนี้ อันใหนมันจะเป็นประโยชน์กับคุณมากที่สุด
ทุกปัญหามีทางออก สู้ สู้ ครับ

รบกวนสอบถามอีกเรื่องนะคะ เอกสารอายัดเงินเดือน ไม่ได้ระบุมาว่าต้องหักเงินเดือนยอดเท่าไหร่ บอกแต่ว่าเหลือไว้ให้ลูกหนี้เดือนละ 20,000 บาท ขอถามเป็นข้อๆนะคะ
1. อยากทราบว่าทางกรมบังคับคดีตรวจสอบได้งัยค่ะว่าเรามีรายได้จริงเท่าไร? ในเมื่อเรารายได้ไม่ถึงที่จะโดนหัก ภงด.91 จะตรวจสอบจากอะไรคะ
2.ดิฉันสามารถนำส่งเงินอายัดเองได้ใช่มั้ยคะ เพราะคิดว่าน่าจะคุยกับทางบริษัทได้
3. ตอนนี้ดิฉันเงินเดือน 25,000 บาท เท่ากับว่าต้องโดนหัก 5,000 บาทเลยใช่มั้ยค่ะ
4. ดิฉันมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากกว่า 20,000 บาท ดิฉันสามารถไปขอลดหย่อยได้อีกมั้ยคะ
5. ถ้าดิฉันสามารถขอให้ทางบริษัทออกหนังสือรับรอง หรือหลักฐานเพื่อแยกให้เห็นว่า เป็นเงินเดือนยอด 20,000 และอีก 5,000 เป็นสวัสดิการ เช่น ค่าที่พัก,ค่าตำแหน่ง ฯลฯ ดิฉันยังจะโดนอายัดเท่าไหร่คะ
6. ถ้ามีการปรับเงินเดือนขึ้นมาอีก เรายังส่งยอดอายัดเท่าเดิมอยู่มั้ยคะ

Koy2526 เขียน: รบกวนสอบถามอีกเรื่องนะคะ เอกสารอายัดเงินเดือน ไม่ได้ระบุมาว่าต้องหักเงินเดือนยอดเท่าไหร่ บอกแต่ว่าเหลือไว้ให้ลูกหนี้เดือนละ 20,000 บาท ขอถามเป็นข้อๆนะคะ
1. อยากทราบว่าทางกรมบังคับคดีตรวจสอบได้งัยค่ะว่าเรามีรายได้จริงเท่าไร? ในเมื่อเรารายได้ไม่ถึงที่จะโดนหัก ภงด.91 จะตรวจสอบจากอะไรคะ
2.ดิฉันสามารถนำส่งเงินอายัดเองได้ใช่มั้ยคะ เพราะคิดว่าน่าจะคุยกับทางบริษัทได้
3. ตอนนี้ดิฉันเงินเดือน 25,000 บาท เท่ากับว่าต้องโดนหัก 5,000 บาทเลยใช่มั้ยค่ะ
4. ดิฉันมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากกว่า 20,000 บาท ดิฉันสามารถไปขอลดหย่อยได้อีกมั้ยคะ
5. ถ้าดิฉันสามารถขอให้ทางบริษัทออกหนังสือรับรอง หรือหลักฐานเพื่อแยกให้เห็นว่า เป็นเงินเดือนยอด 20,000 และอีก 5,000 เป็นสวัสดิการ เช่น ค่าที่พัก,ค่าตำแหน่ง ฯลฯ ดิฉันยังจะโดนอายัดเท่าไหร่คะ
6. ถ้ามีการปรับเงินเดือนขึ้นมาอีก เรายังส่งยอดอายัดเท่าเดิมอยู่มั้ยคะ

1. กรมบังคับคดี มีหน้าที่บังคับคดี อย่างเดียวครับ
2. อันนี้แล้วแต่คุณครับ ถ้าคุณสามารถทำได้
3. ใช่ครับ 5,000 บาท
4. ได้ครับ
5. อันนี้แล้วแต่คุณครับ ถ้าคุณสามารถทำได้
6. ผมก็นึกว่าคุณเข้าใจแล้วจากข้อ 3. นะครับ

สวัสดีต่ะ วันนี้จะมารายงานความคืบหน้าค่ะ
จากกรณ๊ที่ได้หมายอายัดเงินเดือน 18/12/60 ของบัตรเฟิร์สช้อย วันที่ 20/12/60 ดิฉันโทรไปหาเจ้าหนี้สอบถามยอดค้างชำระ อยู่ที่ยอด 36,960 ถ้าปิดจบงวดเดียวลดให้เหลือ 34,000 งวดเดียวเท่านั้น และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมถอนอายัดอีก 1,500 ต้องชำระปิดจบภายในวันที่ 29/12/60 เท่านั้น แต่ดิฉันแจ้งไปว่าหาได้แค่ 25,000 บาท เจ้าหนี้บอกว่ายอดนี้ไม่ได้จริงๆ งั้นก็ยอมให้อายัดเงินเดือนไปหรือไม่ลองหาดูก่อนแล้วค่อยโทรมาแจ้งก็ได้ ดิฉันก็เลยบอกไปว่าได้ค่ะ เดี๋ยววันที่ 22/12/60 จะโทรแจ้งอีกทีนะคะ ***แล้วก็วางสายไป***

มาวันนี้ 22/12/60 ดิฉันยังไม่ได้โทรไป ประมาณบ่ายกว่า
เจ้าหนี้โทรมา
เจ้าหนี้ :เป็นไงบ้างตกลงหาได้มั้ย
ดิฉัน:หาได้แค่ 25,000 บาทค่ะ
เจ้าหนี้ :บอกว่าไม่ได้จริงๆ ยังไงก็ต้องไม่ต่ำกว่า 30,000
ดิฉัน :ถ้าพี่อายัดเงินเดือนไม่รู้จะอายัดได้รึป่าวนะ อาจจะได้แค่เดือนละ พัน สองพัน พี่เอาเงินก้อนไม่ดีกว่าหรอ หนูอยากปิดให้มันจบๆไป ไม่อยากให้ออฟฟิศมารับภาระด้วย
เจ้าหนี้ :โทษนะคะไม่ทราบฐานเงนเดือนเท่าไหร่ค่ะ (เราคิดในใจ อ้าวเค้าไม่ทราบเงินเดือนเราหรอ)
ดิฉัน : เงินเดือนแค่ 20,000 เองค่ะ พี่อาจจะอายัดไม่ได้นะ เอาเงินก้อนไปเถอะ
เจ้าหนี้ : งั้นลองหาดูอีกทีก็ได้ค่ะ มีเวลาถึง 29/12/60
***และก็วางสายกันไป

****ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที เจ้าหนี้โทรมาอีกค่ะ
เจ้าหนี้ :เมื่อกี้น้องบอกปิดได้ที่ยอดเท่าไหร่นะคะ
ดิฉัน:หาได้แค่ 25,000 บาทค่ะ
เจ้าหนี้ :ไม่ได้จริงๆ ยังไงลองหาสัก 28,000 นะคะ พี่จะลองขอให้
ดิฉัน พี่คะ หนูต้องจ่าย 28,000 และค่าธรรมเนียมอีก 1,500 รวมๆก็เกือบ 30,00 อยู่ดีนะคะ
เจ้าหนี้ :ค่ะ พี่เข้าใจ แต่ถ้ายอดนี้อาจจะได้อนุมัติค่ะ ลองหาดูก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวพี่จะแจ้งผลอีกทีว่าได้รึป่าว แต่ถ้าอนุมัติแล้วต้องหามาจ่ายให้ได้นะคะ ภายใน 29/12/60 และก็นัดกันไปถอนอายัดที่กรมบังคับคดีอีกที
ดิฉัน : (คิดในใจเอาไงดีนะ แต่ก็ลดลงมาเยอะกว่าวันแรก จากลดเหลือ 34,000 ตอนนี้เหลือ 28,000 เราไม่มีทางเลือกมากนัก) ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวลองหาดูก่อนนะคะ

---

และก็วางสายไป

---

เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆ ว่า
-ยอดปิดจบ 34,000 ลดเหลือ 28,000 นี่ถือว่าโอเคมั้ยคะ หรือจะยอมให้อายัดเงินเดือนดี เราเงินเดือน 25,000 แต่กะว่าจะไปขอลดอายัดจาก 5,000 ให้เหลือ 2,500 บาทค่ะ
-ทำไมเจ้าหนี้ถึงไม่ทราบฐานเงินเดือนของเราคะ เค้าไม่สืบก่อนหรอ
-เรื่องค่าธรรมเนียมถอนแจ้งอายัด ไม่ทราบคิดจากอะไรคะ ยอด 1,500 บาทแพงไปมั้ย และทำไมเจ้าหนี้ไม่ยอมจ่ายเอง
-การถอนอายัดต้องไปพร้อมกับเจ้าหนี้ถูกต้องมั้ยคะ
*****ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ****

Koy2526 เขียน: สวัสดีต่ะ วันนี้จะมารายงานความคืบหน้าค่ะ
จากกรณ๊ที่ได้หมายอายัดเงินเดือน 18/12/60 ของบัตรเฟิร์สช้อย วันที่ 20/12/60 ดิฉันโทรไปหาเจ้าหนี้สอบถามยอดค้างชำระ อยู่ที่ยอด 36,960 ถ้าปิดจบงวดเดียวลดให้เหลือ 34,000 งวดเดียวเท่านั้น และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมถอนอายัดอีก 1,500 ต้องชำระปิดจบภายในวันที่ 29/12/60 เท่านั้น แต่ดิฉันแจ้งไปว่าหาได้แค่ 25,000 บาท เจ้าหนี้บอกว่ายอดนี้ไม่ได้จริงๆ งั้นก็ยอมให้อายัดเงินเดือนไปหรือไม่ลองหาดูก่อนแล้วค่อยโทรมาแจ้งก็ได้ ดิฉันก็เลยบอกไปว่าได้ค่ะ เดี๋ยววันที่ 22/12/60 จะโทรแจ้งอีกทีนะคะ ***แล้วก็วางสายไป***

มาวันนี้ 22/12/60 ดิฉันยังไม่ได้โทรไป ประมาณบ่ายกว่า
เจ้าหนี้โทรมา
เจ้าหนี้ :เป็นไงบ้างตกลงหาได้มั้ย
ดิฉัน:หาได้แค่ 25,000 บาทค่ะ
เจ้าหนี้ :บอกว่าไม่ได้จริงๆ ยังไงก็ต้องไม่ต่ำกว่า 30,000
ดิฉัน :ถ้าพี่อายัดเงินเดือนไม่รู้จะอายัดได้รึป่าวนะ อาจจะได้แค่เดือนละ พัน สองพัน พี่เอาเงินก้อนไม่ดีกว่าหรอ หนูอยากปิดให้มันจบๆไป ไม่อยากให้ออฟฟิศมารับภาระด้วย
เจ้าหนี้ :โทษนะคะไม่ทราบฐานเงนเดือนเท่าไหร่ค่ะ (เราคิดในใจ อ้าวเค้าไม่ทราบเงินเดือนเราหรอ)
ดิฉัน : เงินเดือนแค่ 20,000 เองค่ะ พี่อาจจะอายัดไม่ได้นะ เอาเงินก้อนไปเถอะ
เจ้าหนี้ : งั้นลองหาดูอีกทีก็ได้ค่ะ มีเวลาถึง 29/12/60
***และก็วางสายกันไป

****ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที เจ้าหนี้โทรมาอีกค่ะ
เจ้าหนี้ :เมื่อกี้น้องบอกปิดได้ที่ยอดเท่าไหร่นะคะ
ดิฉัน:หาได้แค่ 25,000 บาทค่ะ
เจ้าหนี้ :ไม่ได้จริงๆ ยังไงลองหาสัก 28,000 นะคะ พี่จะลองขอให้
ดิฉัน พี่คะ หนูต้องจ่าย 28,000 และค่าธรรมเนียมอีก 1,500 รวมๆก็เกือบ 30,00 อยู่ดีนะคะ
เจ้าหนี้ :ค่ะ พี่เข้าใจ แต่ถ้ายอดนี้อาจจะได้อนุมัติค่ะ ลองหาดูก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวพี่จะแจ้งผลอีกทีว่าได้รึป่าว แต่ถ้าอนุมัติแล้วต้องหามาจ่ายให้ได้นะคะ ภายใน 29/12/60 และก็นัดกันไปถอนอายัดที่กรมบังคับคดีอีกที
ดิฉัน : (คิดในใจเอาไงดีนะ แต่ก็ลดลงมาเยอะกว่าวันแรก จากลดเหลือ 34,000 ตอนนี้เหลือ 28,000 เราไม่มีทางเลือกมากนัก) ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวลองหาดูก่อนนะคะ

---

และก็วางสายไป

---

เลยอยากปรึกษาเพื่อนๆ ว่า
-ยอดปิดจบ 34,000 ลดเหลือ 28,000 นี่ถือว่าโอเคมั้ยคะ หรือจะยอมให้อายัดเงินเดือนดี เราเงินเดือน 25,000 แต่กะว่าจะไปขอลดอายัดจาก 5,000 ให้เหลือ 2,500 บาทค่ะ
-ทำไมเจ้าหนี้ถึงไม่ทราบฐานเงินเดือนของเราคะ เค้าไม่สืบก่อนหรอ
-เรื่องค่าธรรมเนียมถอนแจ้งอายัด ไม่ทราบคิดจากอะไรคะ ยอด 1,500 บาทแพงไปมั้ย และทำไมเจ้าหนี้ไม่ยอมจ่ายเอง
-การถอนอายัดต้องไปพร้อมกับเจ้าหนี้ถูกต้องมั้ยคะ
*****ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ****

- ในสถานการณ์แบบนี้ อย่างที่ได้บอกคุณไปว่า เจ้าหนี้ เขาไม่คุยกับคุณมากหรอกครับ อายัดเงินเดือนสะดวกกว่า ณ ตอนนี้ สำหรับเจ้าหนี้

- ยอดปิดจบ ขอให้คุณเป็นคนพิจารณาเองครับ เพราะเงินจำนวนนี้ คุณเป็นคนจ่าย หรือ จะโดนอายัดเงินเดือน ก็อยู่ที่คุณวางแผนการชำระหนี้ครับ เงินเดือน 20,000 ต่อเดือน ก็อยู่ให้ได้แค่นั้นครับ ทุกอย่างก็ปล่อยให้มันเป็นไป เลือกเอาเองครับ ตัดสินใจแทนให้ไม่ได้ครับ

- การสืบทรัพย์ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายครับ ส่วนฐานเงินเดือนของคุณ ปกติ มันก็เป็นความลับอยู่แล้วหนิครับ แม้แต่ในบริษัทของคุณเอง เขาก็ยังไม่มานั่งบอกกันว่าใครเงินเดือนเท่าไร

- กรณีที่มีการขอถอนอายัดทรัพย์นั้น ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการชำระค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี คือ เจ้าหนี้ผู้ขออายัด ตามมาตรา 169/2 วรรคท้าย แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยจะต้องชำระในอัตราร้อยละ 1 ของจำนวนเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งอายัดไว้ เว้นแต่คู่กรณีจะมีข้อตกลงกันเป็นอย่างอื่น

คำแนะนำ
- ท่านสามารถแสดงความจำนง ขอไกล่เกลี่ย ได้ที่ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กรมบังคับคดี ได้นะครับ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ขอสอบถามค่ะ ในหมายบังคับคดี แจ้งว่าเราได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้เพียงบางส่วน คิอยอด 25,000 บาท แต่ยอดจริงๆที่เราชำระไป คือ 29,500 บาท ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องทำยังไงคะ
หมายบังคับคดี ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2559
แต่หมายแจ้งอายัด ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2560
คือช่วง 22 ธ.ค. 2559 - 14 ธ.ค. 2560 เรายังมียอดชำระเข้าไปอยู่ แต่ยอดน้อยกว่าที่ตกลงกันในสัญญาประนีประนอมยอมความค่ะ

Koy2526 เขียน: ขอสอบถามค่ะ ในหมายบังคับคดี แจ้งว่าเราได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้เพียงบางส่วน คิอยอด 25,000 บาท แต่ยอดจริงๆที่เราชำระไป คือ 29,500 บาท ถ้าเป็นแบบนี้เราต้องทำยังไงคะ
หมายบังคับคดี ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2559
แต่หมายแจ้งอายัด ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2560
คือช่วง 22 ธ.ค. 2559 - 14 ธ.ค. 2560 เรายังมียอดชำระเข้าไปอยู่ แต่ยอดน้อยกว่าที่ตกลงกันในสัญญาประนีประนอมยอมความค่ะ

ก็ไปที่กรมบังคับคดีสิครับ ขอไกล่เกลี่ยซะ มันจะได้จบ ถ้าเจ้าหนี้ไม่คุยกับท่าน ก็ให้กรมบังคับคดีช่วยท่านสิครับ หน่วยงานภาครัฐ เขามีไว้เพื่อประชาชน นะครับ ท่านเคยได้ยินไหม

ตอนนี้ปิดจบหนี้ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ทางเจ้าหนี้แจ้งให้เราเป็นผู้จ่านธรรมเนียมค่าถอนบังคับคดีเอง
และให้เราส่งแฟกซ์สำเนาบัตรประชาชนไป พร้อมให้ระบุข้อความว่า ขอยินยอมชำระค่าธรรมเนียมในการถอนบังคับคดีเอง (แต่เรายังไม่ได้ส่งไป)

อยากสอบถามว่าในจดหมายของเจ้าหนี้ที่ระบุว่า
อนึ่งในกรณีที่บัญชีของท่านถูกฟ้องคดีและอยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี ท่านตกลงยินยิมเป็นผู้รับผิดชอบในค่าธรรมเนียมการถอนบังคับคดีที่ต้องชำระแก่สำนักงานบังคับคดีเอง ดังนั้นบริษัทฯจักได้ดำเนินการถอนบังคับคดีให้ก็ต่อเมื่อท่านได้ชำระค่าธรรมเนียมการถอนการบังคับคดีต่อกรมบังคับคดีจนครบถ้วนแล้ว
**ข้อความนี้ถ้อว่าเป็นหนังสือยืนยันข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรหรือยังคะ เพราะเรายังไม่ได้เซ็นยินยอมแต่อย่างใด และอีกอย่างเราควรส่งสำเนาบัตรไปให้เจ้าหนี้มั้ยคะ

Koy2526 เขียน: ตอนนี้ปิดจบหนี้ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ทางเจ้าหนี้แจ้งให้เราเป็นผู้จ่านธรรมเนียมค่าถอนบังคับคดีเอง
และให้เราส่งแฟกซ์สำเนาบัตรประชาชนไป พร้อมให้ระบุข้อความว่า ขอยินยอมชำระค่าธรรมเนียมในการถอนบังคับคดีเอง (แต่เรายังไม่ได้ส่งไป)

อยากสอบถามว่าในจดหมายของเจ้าหนี้ที่ระบุว่า
อนึ่งในกรณีที่บัญชีของท่านถูกฟ้องคดีและอยู่ในขั้นตอนการบังคับคดี ท่านตกลงยินยิมเป็นผู้รับผิดชอบในค่าธรรมเนียมการถอนบังคับคดีที่ต้องชำระแก่สำนักงานบังคับคดีเอง ดังนั้นบริษัทฯจักได้ดำเนินการถอนบังคับคดีให้ก็ต่อเมื่อท่านได้ชำระค่าธรรมเนียมการถอนการบังคับคดีต่อกรมบังคับคดีจนครบถ้วนแล้ว
**ข้อความนี้ถ้อว่าเป็นหนังสือยืนยันข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรหรือยังคะ เพราะเรายังไม่ได้เซ็นยินยอมแต่อย่างใด และอีกอย่างเราควรส่งสำเนาบัตรไปให้เจ้าหนี้มั้ยคะ

จริงอยู่ที่ค่าธรรมเนี่ยนในการถอนอายัดของคุณ อาจจะเป็นจำนวนเงินไม่กี่บาท ถือว่าโชคดีที่ยอดหนี้ ไม่ได้สูงมาก
แต่ ทำไมคุณไม่ต่อรองกับเจ้าหนี้ให้เรียบร้อยก่อน จะจ่ายเงินปิดบัญชีหละครับ
สถานการณ์แบบนี้ ถ้าเจ้าหนี้ได้เงินคุณไปแล้ว คุณคิดว่า มันจะจ่ายค่าธรรมเนียมแทนคุณไหมหละครับ
ผมก็แนะนำไปแล้วว่า ให้ไปที่กรมบังคับคดี ขอไกล่เกลี่ย ทำไม ไม่สนใจหละครับ
หวังว่าคุณคงได้คำตอบในใจแล้วนะครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ จริงๆต่อรองเรื่องค่าธรรมเนียมแล้วค่ะ แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมในการถอนอายัดเองค่ะ ส่วนเรื่องไกล่เกลี่ยเคยโทรไปทีไกล่เกลี่ยของทางบังคับคดีแล้วค่ะ แต่ทางไกล่เกลี่ยบอกว่าคุยกับเจ้าหนี้เอง หรือคุยที่ไกล่เกลี่ยก็ไม่ต่างกันค่ะ

Koy2526 เขียน: ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ จริงๆต่อรองเรื่องค่าธรรมเนียมแล้วค่ะ แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมในการถอนอายัดเองค่ะ ส่วนเรื่องไกล่เกลี่ยเคยโทรไปทีไกล่เกลี่ยของทางบังคับคดีแล้วค่ะ แต่ทางไกล่เกลี่ยบอกว่าคุยกับเจ้าหนี้เอง หรือคุยที่ไกล่เกลี่ยก็ไม่ต่างกันค่ะ

ถ้าในกรณีนี้ ถ้าคุณมีเจ้าหนี้รายนี้รายเดียว ผมขออวยพรให้คุณหมดหนี้หมดสิน ไปนะครับ ยินดีด้วยครับ

แต่ถ้าคุณมีหนี้อีกหลายตัว ผมคิดว่าเหตุการณ์เหล่านี้ ก็จะวนกลับมาหาคุณอีกครับ ไม่ช้าในอนาคต

แล้วเรื่องที่ผมบอกว่า ให้ไปที่กรมบังคับคดี คือให้ไปด้วยตัวเองครับ การยื่นเรื่องเดินเอกสารอย่างเป็นทางการนั้น ย่อมดีกว่า เพราะผลประโยชน์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นของคุณทั้งนั้นครับ (ไม่ใช่แค่โทรไปอย่างเดียวครับ แล้วมันจะเห็นผลที่แตกต่างจากที่คุณแค่โทรไปครับ)

ถึง สมาชิกที่ถูกอายัดเงินเดือนตามระเบียบใหม่ 4 ก.ย. 2560 ทราบครับ

จากการรับสายด่วนผมเจอหลายกรณี มีสมาชิกที่มีเงินเดือนเกิน 2 หมื่นบาทไปมากๆ เช่น
1. เงินเดือน 5 หมื่นบาทขึ้นไปถูกอายัด 3 หมื่นเหลือดำรงชีพ 2 หมื่น
2. เงินเดือน 8 หมื่นบาทขึ้นไปถูกอายัด 6 หมื่นเหลือดำรงชีพ 2 หมื่นและ
3. ถ้ามีเงินเดือนที่มากกว่านั้นแล้วถูกอายัดไปมากๆ ทั้งๆ ที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงดูพ่อแม่ เลี้ยงดูบุตร พวกเขาจะอยู่ได้อย่างไร ในอนาคตอาจส่งผลกระทบในวงกว้างอย่างแน่นอนเพราะต้องลาออกจากงานแน่เพราะถูกอายัดเงินเดือนจนหมดตัว ชีวิตติดลบ

มีสมาชิกท่านนึงเข้ามาปรึกษาทางคุณนกกระจอกเทศ และผมเรื่องของการอายัดเงินเดือนตามกฎหมายใหม่ที่สูงเกินไปจนอยู่ไม่ได้อาจต้องลาออกจากงาน ก็แนะนำว่า ให้ทำเรื่องขอลดวงเงินอายัดเงินเดือนกับกรมบังคับคดี สุดท้ายผมก็แนะนำว่าต้องสู้จึงจะได้สิ่งที่ต้องการ ไม่ยอมจำนนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเด็ดขาด หนทางการต่อสู้จึงเริ่มขึ้นจาก การร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆจึงเกิดขึ้นในคืนนั้น

ช่องทางร้องเรียนถึงสายตรงผู้บริหารของกรมบังคับคดีโดยตรง ซึ่งผู้บริหารของกรมบังคับคดีเปิดอ่านตลอด 24 ชั่วโมง มีการประชุมร่วมกันทางออนไลน์ซึ่งฉับไวกว่ามาก มีทั้งอีเมล์+โทรศัพท์
www.led.go.th/qmail/qmail.asp

ถ้าทางผู้บริหารของกรมบังคับคดีได้รับข้อร้องเรียนบ่อยๆและหลายๆครั้ง
ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตแน่นอน
ต่อมาคือการดำเนินการทำเรื่องขอลดวงเงินอายัด สิ่งที่ต้องเตรียม คุณแจ้งเป็นปากเปล่ากับกรมบังคับคดีไม่ได้
ทุกอย่างต้องวางแผนเป็นระบบมีเอกสารประกอบ อย่าไปตัวเปล่า ตายลูกเดียว
1. จัดทำตาราง Excel รายรับ รายจ่ายหนี้ที่มี เช่น
1.1 สลิปเงินเดือนแสดงรายรับต่อเดือน ให้เหตุผลรองรับถ้าถูกอายัดจนเหลือ 2 หมื่นเราอยู่ไม่ได้อาจต้องออกจากงานแน่นอน ซึ่งสมาชิกของเราแจ้งว่าสามารถนำส่งกรมบังคับคดีได้เอง
1.2 ค่าเช่าบ้านคุณต้องมีใบเสร็จ สัญญาการเช่าบ้าน
1.3 เงินที่ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ ก็มีจดหมายเซ็นรับรองจากพ่อแม่ว่าให้ท่านจริง หรือสลิปโอนเงินให้พ่อแม่ประกอบ
1.4 ค่าเทอมบุตร ค่าเล่าเรียน ค่ารถรับส่งต้องมีใบเสร็จของโรงเรียนมาประกอบด้วย
1.5 รายจ่ายประจำต่อเดือนที่มีเพื่อขอลดวงเงินอายัด 50%หรือมากกว่าตามฐานานุรูป

ท่านใดที่เจอปัญหาเรื่องนี้ไม่มีทางออกหวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำคัญคือต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ ร้องเรียน อย่าตัดสินใจคิดฆ่าตัวตายเพราะเรื่องหนี้ ทุกปัญหามีทางออก รวมตัวร้องเรียนผ่านทางอีเมล์ในลิงค์ของผู้บริหารกรมบังคับคดีเพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง