แผนปลดหนี้ 4 ล้าน ในเวลา 3 ปี

ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะครับ
ถ้าเพื่อนๆพี่น้องท่านใดมีอะไรจะแนะนำหรือแผนนี้ขาดส่วนไหนไป เชิญใส่มาได้เต็มที่เลยนะครับ ด้วยความยินดีในบุญคุณครั้งนี้ที่จะยอมช่วยเหลือกระผม

ผมอยากกลับมามีชีวิตปกติและสามารถดูแลครอบครัวได้อีกครั้งนึงครับ


เลยจะขออนุญาตเข้าเรื่องเลยก็คือกระผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายรับหลังหักค่าธรรมเนียมต่างๆอยู่ที่ประมาณ100,000 บาทต่อเดือน มีโบนัสปีละ 75000 บาท (ก่อนหักภาษี) (เงินโบนัสนี้จะเอาไว้คอยชำระหนี้สหกรณ์ให้แก่บิดาครับ)ด้วยความพลั้งเผลอแบบไม่ระวังจึงทำตัวเองให้ก่อเกิดหนี้สินดังนี้สินเชื่อบุคคลกับทางธนาคารกรุงศรีฯ        660,000  บาทซิตี้แบงค์      550,000  บาทเกียรตินาคิน 550,000 บาทCIMB             550,000 บาทTMB              770,000 บาทบัตร เฟิร์สช้อย      600,000 บาทบัตร KTC        100,000 บาทKTC Cash       120,000 บาทสินเชื้อบ้านและจดจำนองบ้าน ( ผ่อนเดือนละ 32,000 บาท/ กำลังประกาศขาย)


จากได้ศึกษามา วางแพลนจะหยุดจ่ายทุกตัว ( หรือบางตัวดีครับ)
KTC 2 ใบ อาจจะเป็นเจ้าแรกที่จะปิดเพราะเงินเดือนรับผ่านกรุงไทย

ถ้าหยุดจ่ายทุกตัวจะมีเงินเก็บที่เดือนละ 70,000 บาทครับ

แผน :
1. หยุดจ่าย / ทำตารางบันทึกหนี้สิน / เก็บเอกสารแจ้งยอดหนี้ /เก็บเงินรอทำ H/C
2.รอเจ้าหนี้โทรมาทวง + รอข้อเสนอ HC
3.รอ สนง. กม. โทรมาทวง/หรืออาจโดนด่า + เจรจา HC
4.ถ้าโดนหมายศาล จะรอHC หรือ เจรจาขอHC
5.ไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลแบบ
-ขอ HC
-ขอ HC + จ่ายโดยไม่มีดอกเบี้ยเป็นงวดๆ
-ขอ HC + จ่ายเป็นงวดๆแบบดอกเบี้ยต่ำ
-จ่ายเป็นงวดโดยไม่มีดอกเบี้ย
-จ่ายเป็นงวดแบบดอกเบี้ยต่ำ

โดยคาดการว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย3ปีในการจ่ายหนี้ถ้าโชคดีมีปัจจัยเกื้อหนุนก็อาจจะสำเร็จได้ไวกว่านั้น

ดูจากแพลนแล้ว ยังไงก็น่าจะโดนฟ้องสักน้อยตัวนึงอยู่ดีใช่ไหมครับ

ถ้าขายบ้านแล้วจะให้เขาส่งเอกสารไปที่ไหนดี
หรือเราย้ายเข้าไปบ้านญาตให้เขาส่งเอกสารไปที่นั่นครับ
(นอกเรื่อง ผมทำประกันชีวิตไว้ครอบคลุมหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลไว้ด้วย จำเป็นต้องทำไหมครับ)

กราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาให้คำแนะนำนะครับ จะถือว่าเป็นบุญคุณอย่างมาก
ขอจงมีความสุขความเจริญ
ขอจงมีสุขภาพที่ดี มีวันที่ราบรื่น มีวันที่ดีครับ

สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดเรียงจากมากไปหาน้อยก็คือ

1. ล้มละลาย + ออกจากงาน
2. อายัติเงินเดือน
3. ขึ้นศาล
4. ถูกฟ้อง
5. ฝ่ายบุคคล / เพื่อนร่วมงาน

ขอแชร์ประสบการณ์แล้วกันนะครับ ยอดหนี้ผมทั้งหมดประมาณ 8 ล้านเมื่อกลางปีที่แล้ว ตอนนี้ลดเหลือ 6 ล้าน

Citibank คุยง่ายสุด หยุดจ่ายก่อนเลย ประมาณ 3 -5 เดือนจะเสนอส่วนลดปิดปัญชีให้ประมาณ 30-37%แล้วแต่ต่อรองแบ่งจ่ายได้ 3 งวด ยอดหนี้ผมที่ปิดไป ของ citibank 2 บัญชีๆละ ประมาณ 600,000 กับ 460,000 ก็ทำแบบนั้น หยุดจ่ายประมาณเดือน 7 ปีที่แล้ว ตอนนี้ปิดหมดแล้ว

CIMB เจ้านี้ทวงโหดมาก เปลี่ยนสำนักงานทวงหนี้ไป 3-4 แห่ง ให้ส่วนลดน้อย ไม่ยอมให้ปรับโครงสร้างหากเปิดบัญชีไม่ถึงปี ผมมี 3 บัญชียอดคงค้างรวมประมาณ 1.45 ล้าน ปิดไปที่ 1.25 ล้านแบ่งจ่าย 3 งวดเหมือนกัน ตอนนี้จบแล้ว เจ้านี้เวลาคุยเราต้องแข็งหน่อย จะชอบขู่ว่าจะฟ้องแล้วๆ สุดท้ายก็รอจนมีข้อเสนอเข้ามาครับ ใจเย็นๆสำหรับเจ้านี้

TMB กับ KK ของผมยอด 1.2 ล้าน กับ 7 แสน ผมเผลอทำปรับโครงสร้างไปเนื่องจากตอนนั้นทนแรงกดดันไม่ไหว กลัวถูกฟ้องพร้อมๆกันหลายเจ้า ประกอบกับที่ปรึกษาทางการเงินแจ้งว่าแบงค์หลายที่เปลี่ยนนโยบายทำHC ยากขึ้น โดยTMB ยาวๆไป 84 งวด KK 60 งวด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงไม่ทำสัญญาทาสครับ

ที่เหลือของผมมีรอฟ้อง 2 ตัวคือ UOB (หยุดจ่าย 4 เดือน) กับ Summit Capital (หยุดจ่ายมา 6 เดือน) ยอดรวมกัน 1.5 ล้าน

ขอให้โชคดี ปลดหนี้ได้ไวๆนะครับ 

ล้มละลายคงไม่ถึงขั้นนั้นครับเพราะยอดหนี้แต่ละแห่งไม่เกิน 1 ล้าน ของผมสาหัสกว่าเยอะยังไม่มีเจ้าไหนฟ้องล้มนะ (มั๊ง)

อายัติเงินเดือนได้เฉพาะหลังศาลพิพากษาและบังคับคดีแล้ว ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นเรามีโอกาสเจรจากับเจ้าหนี้ได้อยู่

ขึ้นศาล ถูกฟ้อง ถ้าจำเป็นจริงๆก็ต้องยอมครับ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ดูจากกระทู้อื่นๆ

ฝ่ายบุคคล จะรู้ต่อเมื่อมีการขออายัดเงินเดือนครับ

เพื่อนร่วมงาน ไม่มีสิทธิและโอกาสที่จะรู้ว่าเราเป็นหนี้ แค่อาจสงสัย แต่การเป็นหนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเราเป็นผู้ร้าย ทำผิดกฎหมาย ก็แค่เป็นหนี้ เพื่อนร่วมงานที่ดีเค้าจะเข้าใจ ส่วนที่ไม่ดีก็จะออกไปจากชีวิตเราครับ สู้ๆนะครับ 

ขอขอบคุณคุณ DDP65 มากครับที่ช่วยเหลือและเป็นกำลังใจให้ 
จะนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ครับ
หวังว่าจะสำเร็จไปด้วยดี

ตอนนี้ปรินท์เอกสารเกี่ยวกับ HC จากชมรมให้พ่อแม่และแฟนแล้วครับ ว่าจะให้เขาอ่านไวๆนี้

คุณก็เช่นกันนะครับขอให้โชคดี ขอให้กลับมาปกติโดยไวหรือตามที่ได้วางแผนไว้


แล้วเรื่องที่อยู่และที่อยู่ตามบัตร ปชช จะทำอย่างไรดีเมื่อขายบ้านไปแล้ว
จะได้ให้เจ้าหนี้สามารถส่งเอกสารแจ้งยอดหนี้ได้ถูกครับ แนวทางแบบไหนดี

ส่งไปที่อยู่ที่เราสะดวกและจะได้รับเอกสารครับ อาจจะบ้านพ่อแม่ หรือแฟนก็ได้ครับ ของผมก็ส่งไปที่อยู่ที่ไม่ใช่ตามบัตรประชาชนครับ

Hope99 เขียน: ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะครับ
ถ้าเพื่อนๆพี่น้องท่านใดมีอะไรจะแนะนำหรือแผนนี้ขาดส่วนไหนไป เชิญใส่มาได้เต็มที่เลยนะครับ ด้วยความยินดีในบุญคุณครั้งนี้ที่จะยอมช่วยเหลือกระผม

ผมอยากกลับมามีชีวิตปกติและสามารถดูแลครอบครัวได้อีกครั้งนึงครับ


เลยจะขออนุญาตเข้าเรื่องเลยก็คือกระผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายรับหลังหักค่าธรรมเนียมต่างๆอยู่ที่ประมาณ100,000 บาทต่อเดือน มีโบนัสปีละ 75000 บาท (ก่อนหักภาษี) (เงินโบนัสนี้จะเอาไว้คอยชำระหนี้สหกรณ์ให้แก่บิดาครับ)ด้วยความพลั้งเผลอแบบไม่ระวังจึงทำตัวเองให้ก่อเกิดหนี้สินดังนี้สินเชื่อบุคคลกับทางธนาคารกรุงศรีฯ        660,000  บาทซิตี้แบงค์      550,000  บาทเกียรตินาคิน 550,000 บาทCIMB             550,000 บาทTMB              770,000 บาทบัตร เฟิร์สช้อย      600,000 บาทบัตร KTC        100,000 บาทKTC Cash       120,000 บาทสินเชื้อบ้านและจดจำนองบ้าน ( ผ่อนเดือนละ 32,000 บาท/ กำลังประกาศขาย)


จากได้ศึกษามา วางแพลนจะหยุดจ่ายทุกตัว ( หรือบางตัวดีครับ)
KTC 2 ใบ อาจจะเป็นเจ้าแรกที่จะปิดเพราะเงินเดือนรับผ่านกรุงไทย

ถ้าหยุดจ่ายทุกตัวจะมีเงินเก็บที่เดือนละ 70,000 บาทครับ

แผน :
1. หยุดจ่าย / ทำตารางบันทึกหนี้สิน / เก็บเอกสารแจ้งยอดหนี้ /เก็บเงินรอทำ H/C
2.รอเจ้าหนี้โทรมาทวง + รอข้อเสนอ HC
3.รอ สนง. กม. โทรมาทวง/หรืออาจโดนด่า + เจรจา HC
4.ถ้าโดนหมายศาล จะรอHC หรือ เจรจาขอHC
5.ไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลแบบ
-ขอ HC
-ขอ HC + จ่ายโดยไม่มีดอกเบี้ยเป็นงวดๆ
-ขอ HC + จ่ายเป็นงวดๆแบบดอกเบี้ยต่ำ
-จ่ายเป็นงวดโดยไม่มีดอกเบี้ย
-จ่ายเป็นงวดแบบดอกเบี้ยต่ำ

โดยคาดการว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย3ปีในการจ่ายหนี้ถ้าโชคดีมีปัจจัยเกื้อหนุนก็อาจจะสำเร็จได้ไวกว่านั้น

ดูจากแพลนแล้ว ยังไงก็น่าจะโดนฟ้องสักน้อยตัวนึงอยู่ดีใช่ไหมครับ

ถ้าขายบ้านแล้วจะให้เขาส่งเอกสารไปที่ไหนดี
หรือเราย้ายเข้าไปบ้านญาตให้เขาส่งเอกสารไปที่นั่นครับ
(นอกเรื่อง ผมทำประกันชีวิตไว้ครอบคลุมหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลไว้ด้วย จำเป็นต้องทำไหมครับ)

กราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาให้คำแนะนำนะครับ จะถือว่าเป็นบุญคุณอย่างมาก
ขอจงมีความสุขความเจริญ
ขอจงมีสุขภาพที่ดี มีวันที่ราบรื่น มีวันที่ดีครับ

ทุกท่านคิดอย่างไรกับการประกาศขายบ้านในช่วงนี้ โดย:

1.ให้ธนาคารดูเรื่องโอนทรัพย์ชำระหนี้
2.ระหว่างนี้ก็ทำเรื่องขอจ่ายแค่ดอกเบี้ยไปก่อน ก่อนที่จะขายได้หรือก่อนที่จะสำเร็จการโอนทรัพย์ชำระหนี้ครับ

Hope99 เขียน:

Hope99 เขียน: ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะครับ
ถ้าเพื่อนๆพี่น้องท่านใดมีอะไรจะแนะนำหรือแผนนี้ขาดส่วนไหนไป เชิญใส่มาได้เต็มที่เลยนะครับ ด้วยความยินดีในบุญคุณครั้งนี้ที่จะยอมช่วยเหลือกระผม

ผมอยากกลับมามีชีวิตปกติและสามารถดูแลครอบครัวได้อีกครั้งนึงครับ


เลยจะขออนุญาตเข้าเรื่องเลยก็คือกระผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีรายรับหลังหักค่าธรรมเนียมต่างๆอยู่ที่ประมาณ100,000 บาทต่อเดือน มีโบนัสปีละ 75000 บาท (ก่อนหักภาษี) (เงินโบนัสนี้จะเอาไว้คอยชำระหนี้สหกรณ์ให้แก่บิดาครับ)ด้วยความพลั้งเผลอแบบไม่ระวังจึงทำตัวเองให้ก่อเกิดหนี้สินดังนี้สินเชื่อบุคคลกับทางธนาคารกรุงศรีฯ        660,000  บาทซิตี้แบงค์      550,000  บาทเกียรตินาคิน 550,000 บาทCIMB             550,000 บาทTMB              770,000 บาทบัตร เฟิร์สช้อย      600,000 บาทบัตร KTC        100,000 บาทKTC Cash       120,000 บาทสินเชื้อบ้านและจดจำนองบ้าน ( ผ่อนเดือนละ 32,000 บาท/ กำลังประกาศขาย)


จากได้ศึกษามา วางแพลนจะหยุดจ่ายทุกตัว ( หรือบางตัวดีครับ)
KTC 2 ใบ อาจจะเป็นเจ้าแรกที่จะปิดเพราะเงินเดือนรับผ่านกรุงไทย

ถ้าหยุดจ่ายทุกตัวจะมีเงินเก็บที่เดือนละ 70,000 บาทครับ

แผน :
1. หยุดจ่าย / ทำตารางบันทึกหนี้สิน / เก็บเอกสารแจ้งยอดหนี้ /เก็บเงินรอทำ H/C
2.รอเจ้าหนี้โทรมาทวง + รอข้อเสนอ HC
3.รอ สนง. กม. โทรมาทวง/หรืออาจโดนด่า + เจรจา HC
4.ถ้าโดนหมายศาล จะรอHC หรือ เจรจาขอHC
5.ไกล่เกลี่ยต่อหน้าศาลแบบ
-ขอ HC
-ขอ HC + จ่ายโดยไม่มีดอกเบี้ยเป็นงวดๆ
-ขอ HC + จ่ายเป็นงวดๆแบบดอกเบี้ยต่ำ
-จ่ายเป็นงวดโดยไม่มีดอกเบี้ย
-จ่ายเป็นงวดแบบดอกเบี้ยต่ำ

โดยคาดการว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย3ปีในการจ่ายหนี้ถ้าโชคดีมีปัจจัยเกื้อหนุนก็อาจจะสำเร็จได้ไวกว่านั้น

ดูจากแพลนแล้ว ยังไงก็น่าจะโดนฟ้องสักน้อยตัวนึงอยู่ดีใช่ไหมครับ

ถ้าขายบ้านแล้วจะให้เขาส่งเอกสารไปที่ไหนดี
หรือเราย้ายเข้าไปบ้านญาตให้เขาส่งเอกสารไปที่นั่นครับ
(นอกเรื่อง ผมทำประกันชีวิตไว้ครอบคลุมหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลไว้ด้วย จำเป็นต้องทำไหมครับ)

กราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาให้คำแนะนำนะครับ จะถือว่าเป็นบุญคุณอย่างมาก
ขอจงมีความสุขความเจริญ
ขอจงมีสุขภาพที่ดี มีวันที่ราบรื่น มีวันที่ดีครับ

ทุกท่านคิดอย่างไรกับการประกาศขายบ้านในช่วงนี้ โดย:

1.ให้ธนาคารดูเรื่องโอนทรัพย์ชำระหนี้
2.ระหว่างนี้ก็ทำเรื่องขอจ่ายแค่ดอกเบี้ยไปก่อน ก่อนที่จะขายได้หรือก่อนที่จะสำเร็จการโอนทรัพย์ชำระหนี้ครับ

ตอนนี้คือเริ่มต้นหยุดจ่ายทุกเจ้าละครับเริ่มเก็บเงินทุกๆสิ้นเดือน (ยกเว้น KTC/ KTC Cash จะจ่ายขั้นต่ำสักระยะ เพราะเงินเดือนผ่านกรุงไทย)
วันพรุ่งนี้จะโทรไปหาธนาคารเรื่องให้เขาคำนวณค่าใช้จ่ายของการโอนทรัพย์ชำระหนี้ให้ว่าเท่าไหร่ (โอนบ้านที่กำลังผ่อนคืนธนาคาร)

DDP65 เขียน: ขอแชร์ประสบการณ์แล้วกันนะครับ ยอดหนี้ผมทั้งหมดประมาณ 8 ล้านเมื่อกลางปีที่แล้ว ตอนนี้ลดเหลือ 6 ล้าน

Citibank คุยง่ายสุด หยุดจ่ายก่อนเลย ประมาณ 3 -5 เดือนจะเสนอส่วนลดปิดปัญชีให้ประมาณ 30-37%แล้วแต่ต่อรองแบ่งจ่ายได้ 3 งวด ยอดหนี้ผมที่ปิดไป ของ citibank 2 บัญชีๆละ ประมาณ 600,000 กับ 460,000 ก็ทำแบบนั้น หยุดจ่ายประมาณเดือน 7 ปีที่แล้ว ตอนนี้ปิดหมดแล้ว

CIMB เจ้านี้ทวงโหดมาก เปลี่ยนสำนักงานทวงหนี้ไป 3-4 แห่ง ให้ส่วนลดน้อย ไม่ยอมให้ปรับโครงสร้างหากเปิดบัญชีไม่ถึงปี ผมมี 3 บัญชียอดคงค้างรวมประมาณ 1.45 ล้าน ปิดไปที่ 1.25 ล้านแบ่งจ่าย 3 งวดเหมือนกัน ตอนนี้จบแล้ว เจ้านี้เวลาคุยเราต้องแข็งหน่อย จะชอบขู่ว่าจะฟ้องแล้วๆ สุดท้ายก็รอจนมีข้อเสนอเข้ามาครับ ใจเย็นๆสำหรับเจ้านี้

TMB กับ KK ของผมยอด 1.2 ล้าน กับ 7 แสน ผมเผลอทำปรับโครงสร้างไปเนื่องจากตอนนั้นทนแรงกดดันไม่ไหว กลัวถูกฟ้องพร้อมๆกันหลายเจ้า ประกอบกับที่ปรึกษาทางการเงินแจ้งว่าแบงค์หลายที่เปลี่ยนนโยบายทำHC ยากขึ้น โดยTMB ยาวๆไป 84 งวด KK 60 งวด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงไม่ทำสัญญาทาสครับ

ที่เหลือของผมมีรอฟ้อง 2 ตัวคือ UOB (หยุดจ่าย 4 เดือน) กับ Summit Capital (หยุดจ่ายมา 6 เดือน) ยอดรวมกัน 1.5 ล้าน

ขอให้โชคดี ปลดหนี้ได้ไวๆนะครับ 

สอบถามหน่อยค่ะ ของเราเป็นหนี้ของ citibank มีเสนอ hc มาแล้ว ยอด66000 เสนอปิดที่ 34000เสนอมา ครั้งแรกของบริษัททวงหนี้กรัณฑ์ ให้เวลาปิดบัญชีถึง 16 ม.ค นี้ แต่เรายังไม่มีเงินก้อนตอนนี้ เสนอผ่อนก็ไม่ให้ ให้จ่ายแค่ก้อนเดียว แต่เราจะมีเงินก้อนช่วงสิ้นเดือน แบบนี้ถ้าเราไม่รับข้อเสนอ hc รอบนี้ จะมีเสนอให้เราอีกมั้ยคะ คือยังลังเลกลัวจะมีหมายมาก่อน   หรือเค้าจะมีการเปลี่ยนบริษัททวงมั้ยค่ะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ