- จำนวนโพสต์: 13
- ขอบคุณที่รับ: 0
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Tanistha เขียน: สวัสดีค่ะ รบกวนขอคำแนะนำ ปัจจุบันมีหนี้ดังนี้
- ธนาคารกสิกร บัตรเครดิต ยอด 209,000 บาท
- ธนาคารกรุงเทพ บัตรเครดิต ยอด 70,000 บาท
- KTC บัตรเครดิต 40,000 บาท และ บัตรกดเงินสด 260,000 บาท
- Umay บัตรกดเงินสด 40,000 บาท
อยากทราบว่า
1. ควรคุยต่อรองกับเจ้าหนี้เพื่อ HC เอง หรือ รอปีหน้าเพื่อเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ดีคะ ( ปัจจุบันทราบเกณฑ์คร่าวๆคือต้องเป็น NPL 90-120 วัน ก่อน 1 ก.ค.63 ***แต่คาดหวังว่าปีหน้าจะปรับเกณฑ์เป็น NPL ก่อน 1 ม.ค. 64 ค่ะ )
1. ความเห็นส่วนตัว - หลังจากหยุดจ่ายแล้ว คุณสามารถพอที่จะปิดเจ้าไหนก่อนควรทำครับ เริ่มจากหนี้น้อยไปหามาก 3-4 เดือน บ้างเจ้าจะเสนอ H/C มาให้แล้ว เช่น umay+
2. หากหยุดจ่ายทุกบัตรตั้งแต่ตอนนี้ ลักษณะการทวงถามหนี้แต่ละเจ้าเป็นอย่างไรคะ
2. บันเทิงครับ
3. ปัจจุบันทำธุรกรรมเงินเข้าออกผ่านธนาคารกรุงเทพและกสิกร และมีผ่อนบ้านกับกสิกรโดยหักผ่านบัญชีอยู่ มีประเด็นต้องกังวลมั้ยคะ
3. ระวังเรื่องการดูดเงินจากบัญชีครับ ต้องเล่นเกมส์กันหน่อย
4. ชื่อในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านอยู่บ้านหลังที่ผ่อนอยู่ แต่เราได้ปล่อยให้ผู้อื่นเช่า ที่อยู่ปัจจุบันใช้ในการจัดส่งเอกสารจะเป็นอีกที่หนึ่ง หากมีหมายศาลจะไปลงที่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหรือที่อยู่ปัจจุบันคะ
4. มีคนตอบแล้ว
สู้ๆ ครับ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Chayaphon เขียน:
Tanistha เขียน: สวัสดีค่ะ รบกวนขอคำแนะนำ ปัจจุบันมีหนี้ดังนี้
- ธนาคารกสิกร บัตรเครดิต ยอด 209,000 บาท
- ธนาคารกรุงเทพ บัตรเครดิต ยอด 70,000 บาท
- KTC บัตรเครดิต 40,000 บาท และ บัตรกดเงินสด 260,000 บาท
- Umay บัตรกดเงินสด 40,000 บาท
อยากทราบว่า
1. ควรคุยต่อรองกับเจ้าหนี้เพื่อ HC เอง หรือ รอปีหน้าเพื่อเข้าโครงการคลินิกแก้หนี้ดีคะ ( ปัจจุบันทราบเกณฑ์คร่าวๆคือต้องเป็น NPL 90-120 วัน ก่อน 1 ก.ค.63 ***แต่คาดหวังว่าปีหน้าจะปรับเกณฑ์เป็น NPL ก่อน 1 ม.ค. 64 ค่ะ )
1. ความเห็นส่วนตัว - หลังจากหยุดจ่ายแล้ว คุณสามารถพอที่จะปิดเจ้าไหนก่อนควรทำครับ เริ่มจากหนี้น้อยไปหามาก 3-4 เดือน บ้างเจ้าจะเสนอ H/C มาให้แล้ว เช่น umay+
2. หากหยุดจ่ายทุกบัตรตั้งแต่ตอนนี้ ลักษณะการทวงถามหนี้แต่ละเจ้าเป็นอย่างไรคะ
2. บันเทิงครับ
3. ปัจจุบันทำธุรกรรมเงินเข้าออกผ่านธนาคารกรุงเทพและกสิกร และมีผ่อนบ้านกับกสิกรโดยหักผ่านบัญชีอยู่ มีประเด็นต้องกังวลมั้ยคะ
3. ระวังเรื่องการดูดเงินจากบัญชีครับ ต้องเล่นเกมส์กันหน่อย
4. ชื่อในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านอยู่บ้านหลังที่ผ่อนอยู่ แต่เราได้ปล่อยให้ผู้อื่นเช่า ที่อยู่ปัจจุบันใช้ในการจัดส่งเอกสารจะเป็นอีกที่หนึ่ง หากมีหมายศาลจะไปลงที่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านหรือที่อยู่ปัจจุบันคะ
4. มีคนตอบแล้ว
สู้ๆ ครับ
เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่าาา ขอบคุณมากนะคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ประเสริฐ เขียน: ของ จขกท... ก็ค่อนข้างเยอะมากเหมือนกัน..ต้องลำดับความสามารถ ว่าเราสามารถว่ง หรือ ปิดยอดตัวไหนได้ก่อนบ้าง.....ถ้าหยุดจ่ายพร้อมกันหมด เพื่อจุดประสงค์ เพื่อทำ แฮร์คัท..ทั้งหมด เราจะไหวหรือเปล่า? ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า จะตัดตัวไหน ? ส่งตัวไหน?ต่อไปก่อน..
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Badman เขียน: 1. สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือคุณต้องระวังหนี้ ที่ตรงกับบัญชีเงินเดือนเข้าด้วยครับคุณมีหนี้กับ BBL และK-Bank
และบัญชีเงินเดือนเข้าBBL / K-Bank ก็ต้องดูว่าเข้าแบงค์ไหน อันนี้ผมไม่ทราบ
เนื่องจากเทคโนโลยีของธนาคารทันสมัยมากขึ้น ใช้ระบบ AI ในการประมวลผล การเล่นเกมกดมีความเสี่ยงสูงมาก
การร้องเรียนแบงค์ชาติไม่ได้ผลแล้ว คุณต้องระวังตรงนี้ให้ดี
2. ส่วนเรื่องบ้านผ่อนไปตามปกติก่อนเพื่อป้องกันการถูกดูดเงินในบัญชี
3. หยุดจ่ายเตรียมเข้าคลินิกแก้หนี้เฟส 5 ช่วงไตรมาสแรกของปี 2564
4. KTC ไม่เข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ตั้งแต่เฟส 1 - 4 เฟส 5 ก็อาจจะไม่เข้าร่วม
และฟ้องเร็วมาก ผ่อนได้ 36 งวด ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี
5. ยูเมะส่วนลด 50% อันนี้น่าสนใจควรเก็บเงินรอส่วนลด
6. หมายศาลถูกส่งไปที่ไหน
debtclub.consumerthai.org/forum.html?view=topic&catid=7&id=6974
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ประเสริฐ เขียน: มันก็ยากอยู่เหมือนกันครับ ว่าทุกเจ้า จะยอมลดหนี้ให้เรา ได้มากมาย อย่างที่เราต้องการ.....ต้องเผื่อเงิน เผื่อใจไว้ด้วยครับ...แล้วถ้าถึงขั้นส่งห้อง ยิ่งยากขึ้นไปอีก เหมือนที่ผมกำลังเจรจา ต่อรอง โดยมีเจ้าหน้าที่ศาล คอยประสานงานให้ ซึ่งช่วยอะไรได้ไม่เยอะ อยู่ที่ตัวเราเองจะสามารถ ต่อรอง หรือใจสู้แค่ไหน ที่จะให้เราจ่ายน้อยที่สุด ...ศาลไม่ได้ช่วยเรื่องเงินต้น แต่ช่วยดูเรื่องดอกเบี้ย.....อาจจะน้อย หรือ มากกว่าที่เราคุยเองก็ไม่รู้......ถ้าเป็นไปได้ ตัดปิดบัญชี ตอนที่เขาเสนอมาดีที่สุด ครับ.. เป็นกำลังใจให้ครับ...
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา