- จำนวนโพสต์: 8
- ขอบคุณที่รับ: 0
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
yingjuta เขียน: คือ มีหนี้เป็นแบบบัตรสินเชื่อเงินสดนะคะ มี ไทยพาณิชย์ / เฟริซช้อย / อีซี่บาย / ควิดแคช / ซิตี้แบงค์ / ซิตี่โลน / นครหลวง ซึ่งวงเงินประมาณ บัตรละ หมื่นกว่าบาท แต่เนื่องจากมีปัญหาคือขาดระเบียบในการใช้เงินและได้ตกงาน ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ โดนผิดนัดจ่ายเกือบทุกบัตรตั้งแต่ปี 50 แตรพอได้งานก็มีการทวงเข้ามาเป็นรอบ ๆ แต่รายรับกับรายจ่ายมันไม่พอที่จะชำระหนี้ได้คะ ปัจจุบันรายได้เดือนละ 9500 บาท คือ เจ้าหนี้เคยขอเจรจาให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1000 เคยจ่ายไปบ้างเดือนสองเดือนแรก แต่ไม่ไหว เลยไม่ได้จ่ายต่อ คือ จริง ๆ อยากใช่หนี้นะคะ มีช่วงที่เคยได้ยินข่าวว่าธนาคารจะปล่อยกู้พวกหนี้บัตรเครดิต เคยไปเจราแต่ไม่ได้เพราะติดแบล็คลิส อยากทราบว่ามีอะไรแนะนำไหมคะ คือ ถ้าจะให้จ่ายทุกบัตรในอัตราที่เค้าบอก คือ 500-1000 บาท คงไม่ได้เพราะรายได้คงไม่พอแน่ ๆ เคยบอกให้เค้าฟ้องจะได้จ่ายเฉพาะส่วนที่เนเงินต้นจริง ๆ แต่เค้าก็ไม่ฟ้อง รบกวนช่วยแนะนำด้วยคะ ตอนนี้ลำบากใจมาก
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
yingjuta เขียน: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คือ ตอนนี้ก็ทำตามที่แนะนำอยู่อะคะ คือ ไม่ยอมเซ็นเอกสาร แต่เค้าโทรมาที่ทำงาน คือ เค้าจะให้เซ็นเอกสารประนอมหนี้ แต่มีคนบอกว่าอย่าไปเซ็นเพราะจะถือว่าตั้งหนี้ใหม่ ที่ คุณ Anakin ถามว่ามีทรัพย์อะไรเป็นของตัวเองไหม คือ ไม่มีอะไรเป็นชื่อตัวเองคะ เพราะซื้อไรไม่ได้คะ มีบ้านแต่เป็นชื่อแฟน จดทะเบียนกันแต่ไม่ได้แก้ไขรายการคะ มีบุตรด้วย 1 คน คือ ทุกอย่างเป็นชื่อแฟนหมดคะ จะมีผลอะไรไหมคะถ้าเค้าฟ้อง แต่เค้าก็ไม่ฟ้องสักทีมีแต่หนังสือเตือนมาว่าจะส่งฟ้อง แต่ที่แปลกใจคือ เคยโทรไปที่ธนาคารที่เป็นหนี้ เค้าบอกว่าหนี้เป็น 0 และเค้าโอนหนี้ไปให้บริษัททวงหนี้นะคะ แล้วอ่านที่กระทู้ปักหมุดที่เค้าแนะนำให้เช็คบูโร เรื่อง จ่ายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ พูดถึงอายุความนะคะ คือ จ่ายครั้งสุดท้ายจะเป้นปี 2550 หมดเลยแล้วนี้ปี 2555 ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าฟ้องจะมีผลเรื่องอายุความไหมคะ แล้วทำไมเค้าถึงทราบว่าเราทำงานที่ไหน ถึงโทมาถูก ส่วนมากเค้าบอกเช็คจากการส่งเงิน สปส แบบนี้ไม่ผิดหรอคะ บอกข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
yingjuta เขียน: บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ
อะไรที่ได้มาก่อนแต่ง ไม่ใช่สินสมรส และมันก็ไม่ใช่ชื่อคุณอยู่แล้ว
คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ
ถ้าฟ้องจริงมันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าหนี้เขาคำนวณไว้อย่างไรเท่าไหร่ ในหมายศาลจะระบุละเอียด
ซึ่งเราสามารถนำมาคำนวณเีรื่องดอกเบี้ยได้ ถ้าเกินก็สู้คดีไปค่ะ (แต่ยังไม่โดนฟ้องเลยกลัวอะไร)
แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด
เข้าใจค่ะ ก็เพราะไม่ไหวนี่แหละถึงต้องมาพึ่งชมรมใช่ไหมหละ
ก็อ่านปักหมุดจิ บอกไว้หมดแล้ว
อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า
ให้มันพล่ามไปค่ะ มันเป็นหน้าที่ของเค๊าที่จะต้องร่ายให้เรางง ให้เราสำนึกผิดและไปจ่ายตามแผน
คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ
ดีแล้วค่ะที่มีสติ แต่ถ้าเหนื่อยจะคุยก็ไม่ต้องคุยก็ได้ รับบ้าง ไม่รับบ้าง สิทธิของเราค่ะ
บางครั้งฟังเจ้าหนี้ทวงมากๆ ก็พาลท้องอืด จิงป่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
yingjuta เขียน: บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Anakin เขียน:
yingjuta เขียน: บ้านมีก่อนที่จะจดทะเบียนนะคะ ถือว่าเป็นสินสมรสไหมคะ คือ เรื่องฟ้องก็ไม่อยากให้ฟ้องจริง ๆ หรอกคะ แต่ที่พูดถึงการฟ้อง คือ เพื่อนบอกว่าหนี้จะตั้งอยู่ที่เงินต้นที่ยืมมา เพราะถ้าทำแบบที่เจ้าหน้าที่ทวงหนี้แนะนำ เค้าจะรวมดอกซึ่งมันเกือบ 2 เท่าตัวที่ยืมมานะคะ แล้วอย่างที่บอกคือมีหลายบัตร ถ้าจะให้จ่ายพร้อมกันทุกบัตรไม่ไหวอะคะ คือ จะจ่ายบัตรเดียวให้หมด อีกทีเหลือก็ทวงเหลือกเกินไม่ฟังว่าชำระอีกบัตรอยู่ เค้าใช้คำพูดที่แบบฟังแล้วเหนื่อยคะ แบบว่าถ้าไม่มีก็ให้ยืมมาจ่ายเค้า คือ เข้าใจนะคะไม่โกรธเค้าหรอกเพราะเราเป็นหนี้แต่ก็ลำบากใจเหมือนกัน นะคะ
ก็ยังน่าห่วง ที่เจ้าหนี้จะถือว่าหนี้ที่คุณก่อขึ้น นำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ดังนั้น หนี้ก็ไม่ใช่ของคุณคนเดียว แต่สามีของคุณต้องร่วมรับผิดชอบด้วย
ส่วนเรื่องที่เพื่อนคุณแนะนำ ก็ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะบ่อยครั้งที่เจ้าหนี้ฟ้องตามเงินต้นและดอกเบี้ยตามที่ธปท.กำหนดไว้ คือ อัตราดอกเบี้ยรวมกับค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมของสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกินร้อยละ 28 ต่อปี โดยแบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ที่เหลืออีกร้อยละ 13 คือค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Nana2208 เขียน: ขอนิดนึงนะค่ะ .... อืม แต่ส่วนใหญ่หนี้บัตรเครดิตจะตามเอากับเฉพาะคนค่ะ
เพราะเป็นหนี้ส่วนบุคคล แต่จะมีบ้างที่จะมาขอไล้เบี้ยเอากับคู่สมรสซึ่งไม่ค่อยเกิด
(หาอ่านได้จากกระทู้เก่าๆ) แต่มักจะมีการหลอกให้เซ็นต์ยินยอม ซึ่งถ้าสามีไม่ทราบ
ก็มักจะไปเซ็นต์ยินยอม(เป็นหมู)
แต่จากที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะปิดหนี้ได้ก่อน
คงไม่ถึงขั้นบังคับคดีค่ะ และอีกอย่างเหมือนบางตัวใกล้ หรือ หมดอายุความไปแล้วด้วย
(ผิดถูกอย่างไรแย้งได้นะพี่ดาบเลเซอร์)
เจ้าหนี้เคยขอเจรจาให้ผ่อนจ่ายเดือนละ 1000 เคยจ่ายไปบ้างเดือนสองเดือนแรก แต่ไม่ไหว เลยไม่ได้จ่ายต่อ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Anakin เขียน:
Nana2208 เขียน: ขอนิดนึงนะค่ะ .... อืม แต่ส่วนใหญ่หนี้บัตรเครดิตจะตามเอากับเฉพาะคนค่ะ
เพราะเป็นหนี้ส่วนบุคคล แต่จะมีบ้างที่จะมาขอไล้เบี้ยเอากับคู่สมรสซึ่งไม่ค่อยเกิด
(หาอ่านได้จากกระทู้เก่าๆ) แต่มักจะมีการหลอกให้เซ็นต์ยินยอม ซึ่งถ้าสามีไม่ทราบ
ก็มักจะไปเซ็นต์ยินยอม(เป็นหมู)
แต่จากที่อ่านข้อความของเจ้าของกระทู้แล้ว คิดว่าไม่น่ามีปัญหา น่าจะปิดหนี้ได้ก่อน
คงไม่ถึงขั้นบังคับคดีค่ะ และอีกอย่างเหมือนบางตัวใกล้ หรือ หมดอายุความไปแล้วด้วย
(ผิดถูกอย่างไรแย้งได้นะพี่ดาบเลเซอร์)
ก็อย่างที่พี่บอกไว้ไงจ๊ะ สาวน้อย ว่ายังน่าห่วง ก็มันเสี่ยงอยู่ ไม่ได้หมายความว่า จะโดนแน่ๆ นี่จ๊ะ
พอดีพี่เห็นเงินเดือนแค่ 9,500 บาท เลยเป็นห่วงน่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา