หนี้บัตรเครดิต,บัตรกดเงินสด,สินเชื่อบุคคล จะฟ้องแยกหรือหรือร่วทกันค่ะ

เป็นหนี้กสิกรค่ะ บัตรกดเครดิต5แสน บัตรกดเงินสด1ล้าน สินเชื่อพาณิช ยอดเหลือ4แสนกว่า สินเชื่อบุคคล ยอดเหลือ2แสน ตอนนี้เริ่มไปไม่ไหวแล้วค่ะ ส่วนตัวค้าขายกับครอบครับ กู้เงินมาลุงทุนให้ที่บ้าน แรกๆก็ดี หลังๆมาเริ่มไม่ไหวค่ะ อยากจะทราบว่า บัตรแต่ละบัตรจะโดนฟ้องแยก หรือรวมกันทีเดียวค่ะ 

ตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ หาทางออกไม่เจอเลย ร้องไห้เป็นเดือนๆ ช่วงต้นปียัฃพอหาผ่อนได้ แต่ช่วงปลายปีนี้ เริ่มไม่ไหว เราทำอาชีพค้าขายค่ะ ช่วงตอนปีรายได้ดีมากค่ะ พอปลายปี ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก จากรายได้ที่ได้ปกติ ค่อยๆลดลงๆ จนตอนนี้แทบไม่อะไรแล้วค่ะ รายได้ต่อเดือน ตอนนี้ก็อยู่ประมาณ13,000-20,000หักค่าเช้าบ้าน5พัน ค่าน้ำค่าไฟอีกแทบจะไม่พอแล้ว ตัดใจพึ่งจะหยุดจ่ายไป พนงทวงหนี้โทรหาทุกวันเลยค่ะ เครียดมาก อยากจะหลับยาวไม่ตื่นเลย

ใจเย็นๆนะคะ ทุกปัญหามีทางแก้เสมอค่ะ ค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ เป็นกำลังใจให้มากๆ 

เราเจอและแยู่กับสถานการณ์นี้มาสามปีแล้ว เคยคิดอยากหลับยาวๆไปเหมือนกัน แต่ค่อยๆแก้ไปทีละอย่าง ตั้งสติไว้

ผ่านมาได้ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่หมด แต่ก็มีกำลังใจสู้มาก ส่วนหนึ่งก็มาจากสมาชิกในชมรม คำแนะแนำ กำลังใจจากคนที่ประสบปัญหาเดียวกัน

และก็ผ่านมันไปด้วยกันค่ะ ถึงไม่มีคำตอบในคำถามมาให้ แต่ขอส่งพลังใจให้แทนนะคะ

หากลูกหนี้ ไม่มีทรัพย์สิน
เงินเดือนไม่เกิน 20,000- ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล

ไม่มีกำลังที่จะจ่ายหนี้ได้
มองหาหนทาง หารายได้ มาดูแลตนเองและครอบครัวดีกว่า

ปล่อยให้เจ้าหนี้ทำตามระบบ และ ข้ันตอน
(กว่าที่เจ้าหนี้จะฟ้อง มีเวลา 6 เดือน ถึง ปี ครึ่ง)

เมื่อไหร่ที่พร้อมจะใช้หนี้
ค่อยติดต่อกลับไป

จะโดนฟ้องล้มละลายมั้ยคะ ถ้าหากเรายังไม่มีจ่ายเร็วๆนี้ ที่บ้านเครียดกันมากเลยค่ะ พึ่งจะเริ่มหยุดจ่ายเดือนแรก หาเงินทุกวันปกติค่ะ แต่แค่หาไม่ได้เท่าเดิม รถก็พึ่งเริ่มหยุดจ่ายเดือนแรก แต่โทรมาทุกวันเลยค่ะ ไม่รู้จะไปขุดหาเงินที่ไหนมาแล้วจริงๆค่ะ

เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อ(1) ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว(2) ลูกหนี้ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียว หรือหลายคน เป็นจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาทหรือ ลูกหนี้ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวหรือหลายคนเป็นจำนวน ไม่น้อยกว่าสองล้านบาท