“ให้จ่ายเดือนละพันยังไม่มีเลย” เมื่อหัวหน้าครอบครัวหญิงตกงานในวัย 48 ปี

7 เดือน 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #129546 โดย Badman
ที่มา:  www.bbc.com/thai/articles/cx9wdj75kpgo

“ให้จ่ายเดือนละพัน… ยังไม่มีปัญญาเลย” เมื่อหัวหน้าครอบครัวหญิงตกงานในวัย 48 ปี พร้อมหนี้บัตรเครดิต

ฝันร้ายที่ใคร ๆ ไม่อยากจะพบเจอคือ การถูกเลิกจ้างในวันที่มีอายุมากแล้ว เนตร (สงวนนามสกุล) คือหนึ่งในนั้น เธอถูกเลิกจ้างงานในวันที่เธออายุ 48 ปี
เมื่อเดือน ก.ค. 2566 ยังเป็นเดือนครบรอบการทำงาน 20 ปี ของเธอกับบริษัทของเธอ

เนื่องจากเป็นการปลดพนักงานออกแบบกระทันหัน ตามพระราชบัญญัติ คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 เธอจึงได้รับเงินชดเชย 12 เดือน
รวมถึงเงินสนับสนุนเป็นเวลา 6 เดือน จากสำนักงานประกันสังคม

แม้จะมีเงินดังกล่าวเข้ามาเยียวยา แต่สถานการณ์ทางการเงินของเนตรนั้นก็ไม่สู้ดีนัก
“ไปไม่ไหวอีกต่อไป” เธอสารภาพ
เงินเดือนเคยดี-บัตรเคยมี-หนี้ 10 ใบ
เนตรแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองกับบีบีซีไทยเพื่อเป็นกรณีตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ "การมีวินัยทางการเงิน"
อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่เธอคาดหวังคือ การช่วยให้ลูกของเธอสามารถสำเร็จการศึกษาตามที่มุ่งหวังได้ให้สำเร็จ

สำหรับสมาชิกในครอบครัวของเนตรมีกันทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย เธอ สามีของเธอที่ประกอบอาชีพพนักงานส่งของ และมีรายได้เดือนละประมาณ 15,000 บาท แม่ของสามีที่อายุราว 80 ปี และลูกของเธอที่กำลังจะขึ้นปีสี่ ในระดับอุดมศึกษา
ที่ผ่านมาเนตร เป็นหัวหน้าครอบครัว เพราะเธอมีเป็นแรงกำลังหลักในการหารายได้ โดยมีรายได้ประจำรวมกับค่าทำงานนอกเวลาราว 25,000 บาท/เดือน
ก่อนจะตกงาน เธอแจกแจงให้บีบีซีไทยฟังว่า เธอจะแบ่งเงินเดือนมาหมุนจ่ายบัตรเครดิตเดือนละ 12,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นแค่การจ่ายขั้นต่ำให้กับบัตรเครดิตที่เธอมีทั้ง 10 ใบ
เราถามเธอว่า ทำไมถึงมีบัตรเครดิตมากขนาดนี้ และการสมัครบัตรเครดิตแต่ละใบนั้นมีความยากง่ายเพียงใด
“ตอนที่เรายังทำงานอยู่ สมัครไม่ยาก เพราะเราเครดิตดีไม่เคยมีหน้าค้าง” เนตร ตอบ พร้อมเสริมว่า ส่วนมากแล้วเธอจะเข้าไปดูตามแอปพลิเคชันของธนาคารที่เธอเป็นลูกหนี้อยู่แล้ว และกดลงทะเบียนสมัครเมื่อเห็นว่ามีโครงการอะไร
…จากนั้นบัตรเครดิตใบใหม่ก็จะส่งมาถึงที่บ้าน
บัตรทั้งหมดเธอได้มาขณะที่ยังทำงานอยู่กับบริษัทเก่า ส่วนสาเหตุที่สะสมจนมีเยอะขนาดนั้น เป็นเพราะเวลาเธอเห็นธนาคารไหนที่เธอใช้บริการอยู่แล้วมีโปรโมชันอะไร เธอก็จะเข้าร่วมสมัครด้วย
บัตรเครดิตรวมไปถึงวงเงินกู้ต่าง ๆ ทั้งบนแอปพลิเคชันธนาคาร หรือ บริการธนาคารออนไลน์บนแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ซึ่งนับเป็น “นาโนไฟแนนซ์” หรือรูปแบบสินเชื่อที่ไม่ต้องมีหลักประกัน และจะมีวงเงินกู้สูงสุดต่อรายไม่เกิน 100,000 บาท เนตรนำไปใช้ในการใช้ชีวิตประจำวัน
สถานการณ์ของเนตรไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ศึกษาสภาพหนี้คนไทยไว้ในปี 2565 อ้างอิงข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือที่รู้จักกันในชื่อเครดิตบูโร และพบว่า มากกว่า 32% ของคนไทยที่มีหนี้ มีหนี้ 4 บัญชีขึ้นไป (บัญชีในที่นี้เป็นได้ทั้งบัตรเครดิตหลายใบ หรือการมีหนี้บ้าน หนี้รถยนต์)
นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของคนไทยที่เป็นหนี้ มียอดหนี้เกิน 100,000 บาท หนี้เหล่านี้ราว 40% คือสินเชื่อส่วนบุคคล และอีกเกือบ 30% คือหนี้บัตรเครดิต 10% คือหนี้รถยนต์ มีเพียงแค่ 4% เท่านั้นที่เป็นหนี้บ้าน
กลับมาที่เนตร วันที่ “ถูกปลดฟ้าผ่า” เธอมีหนี้สินอยู่ทั้งสิ้นราว 200,000 บาท
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: aor99

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: Badmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.357 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena