หยุดจ่าย มันนี่ทันเดอร์ และจะต้องไกล่เกลี่ย 28 พ.ย. 67 นี้

ผมมีอาชีพหลักเป็นข้าราชการ แต่เพราะทางบ้านธุรกิจล้ม จึงแบกหนี้สินของครอบครัว จนรวบหนี้ทั้งหมดมาไว้กับตนเองได้ ที่พอจะจ่ายชำระไหวก็เพราะทำอาชีพเสริมต่างๆ หลายทาง

จัดสรรค์รวบหนี้ไปหลายตัว แต่ยังเหลือพวกหนี้ตระกูลบัตรเดรดิตต่างๆ อยู่พอควรที่ยอดจ่ายต่อเดือนสูงแต่ก็ยังพอไหว กระทั้งเมื่อประมาณเกิบๆ 1 ปี รายรับจากอาชีพเสริมก็ไม่มีเข้ามาเลย จึงเริ่มมีปัญหาเรื่องการหยุดชำระ พยายามทั้งปรับโครงสร้าง รีไฟแนนซ์ พยายามกู้เพื่อปิดรวบหนี้บัตร แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย

ถึงจะขาดส่งบ้าง แต่ก็พยายามกู้ฐานะการเงินตนเอง จน ณ ตอนนี้พอจะกลับมาส่งไหวตามที่ตกลงกันไว้ ยกเว้นตัวเดียวที่หยุดไปนานประมาณ 6 เดือน คือ มันนี่ทันเดอร์

ยอดหนี้มันนี่ทันเดอร์ที่ผมมี คือ ประมาณ 100,000 บาท

ระหว่างหยุดไป ก็มี SMS ให้สิทธิ์ปรับโครงสร้างหนี้ แต่พอเข้าไปแล้ว ไม่มีให้เลือกอะไรทั้งการปรับยอดชำระต่อเดือน หรือยืดระยะเวลาการชำระ ณ ตอนนี้พึ่งล้มจากการที่เสียรายรับเสริมไป จึงหยุดไป มีเจ้าหน้าที่โทรฯ มาบ้าง ก็แจ้งเรื่องของ SMS นั่นไป แต่ก็โดนย้ำว่าให้ไปปรับ ซึ่งก็บอกตลอดว่ามันไม่มีอะไรให้ปรับ เป็นแบบนี้ยืดเยื้อหลายเดือน

จนเมื่อเร็วๆ นี้เห็นว่าทาง มันนี่ทันเดอร์ ขายหนี้ให้บริษัทอื่น แล้วเขาแจ้งว่าจะมีการฟ้อง โดยจากมูลหนี้ที่เหลือจากการชำระบ้างอยู่ที่ประมาณ 99,000 รวมดอกอีกเบ็ดเสร็จแล้วยอดอยู่ที่ 120,000 โดยประมาณ

เอาตามตรงว่าที่ล้มไป 6 เดือน ก็พยายามหาช่องทางรายรับอื่นๆ มาเพื่อเตรียมจะกลับมาชำระหนี้สินให้ได้ หนี้ทั้งหมดที่มีทุกๆ ตัว ทั้งเจรจาบ้าง จัดสรรค์เงินบ้าง วนหนี้บ้าง ณ ตอนนี้ คือ อยู่ในระดับที่ชำระไหวโดยไม่ขาดแล้ว ซึ่งก็เตรียมกันเงินไว้ให้ มันนี่ทันเดอร์ที่จำฟ้องเนี่ยประมาณเดือนละ 3,000 คิดว่า ชีวิตจะได้เดินหน้าต่อละ

พอวันนี้ 5 พ.ย. 67 สดๆ เลย ทางบริษัททวงหนี้ของมันนี่ทันเดอร์ โทรฯ มาสอบถามเรื่องหมายศาล ที่นัดไกล่เกลี่ยวันที่ 28 พ.ย. 67 ช่วงประมาณ 17.00 น. ผมก็ตอบไปตามตรงว่า ได้รับแล้ว จะเตรียมไปพบในวันนี้

ซึ่งทางบริษัททวงหนี้แจ้งมาว่า บริษัทมีนโยบายให้ปิดยอดหนี้ ภายใน 12 งวด ตกเฉลี่ยงวดละ 12,000 กว่า................................. ผมนี่สตันเลย มีหนี้หลายตัวมาก จากการวิ่งเต้นสู้รวบหนี้ของทางบ้าน รวมๆ แล้วเกิบ 3 ล้าน

สู้มาจนหมด จนทั้งหมด ภาระการผ่อนชำระอยู่ในขอบเขตของเงินเดือนเราแล้ว เหลือแต่มันนี่ทันเดอร์ตัวเดียว เหลือแค่ตัวเดือนเท่านั้น ทั้งๆ ที่ทุ่มกันเงินที่เหลือ 3,000 ไว้เตรียมใช้หนี้ต่อเดือน เงินกิน เงินดำรงชีพ รับจ้างเอา ขอแค่ให้ชีวิตมันเดินหน้าได้

ตามตรงว่าเจอแบบนี้................. นิ่งเลยละครับ เดือนละ 12,000 ส่งไม่ไหวแน่ๆ ครับ เคยแจ้งกับบริษัททวงหนี้ไปก่อนแล้วว่าไหวที่เดือนละ 3,000 โดยประมาณ

แบบนี้........... ผมควรทำอย่างไรต่อดีครับ?? ขอรบกวนปรึกษาด้วยนะครับ บันไดขั้นสุดท้ายแล้วแท้ๆ

ขอบคุณอย่างสูงมากๆ จริงๆ ครับที่ตอบกลับ

ขอโทษครับ ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ ขออนุญาติปรึกษาเพิ่มเติมนะครับ ตอนนี้ทรัพย์สินที่เป็นชื่อผมเองเลย มี

1) คอนโด ที่อยู่อาศัยกับคุณพ่อ อันนี้ติดอยู่กับ ธอส. ครับ

2) รถจักรยานยนต์ ที่ใช้ไปทำงาน อันนี้ติดอยู่กับเงินติดล้อครับ

3) ที่ดิน ที่คุณย่าให้ 1 ไร่ อันนี้ไม่ได้ติดภาระหนี้สินใดๆ แต่ราคาประเมินต่ำ ได้ประมาณ 50,000 เท่านั้นเอง ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นขายกันประมาณไร่ละ 500,000 ขึ้น พยายามประกาศขายแล้ว แต่ยังไม่มีคนซื้อครับ

กรณีของผมนี้ เขาจะอายัดทรัพย์อะไรของผมได้บ้างหรือเปล่าครับ?

ตามที่คุณให้ข้อมูลมา หากเขาอายัดเงินเดือนผมไม่ได้ แต่หากผมทำ OT ทุกเดือน แล้วมีค่าตอบแทนพิเศษ P4P เขาจะสามารถอายัดตรงส่วนนี้ได้ไหมครับ?

คือ หนี้สินก้อนนี้ ก็ได้ช่วยครอบครัวผมให้รอดพ้นจากการทวงหนี้นอกระบบ หากรายได้พิเศษไม่สะดุจ ผมตั้งใจจะใช้คืนแน่นอน ที่พยายามพื้นตัวมาก็พื้นจะใช้คืนหนี้เขาให้ได้ แต่หากเจอเดือนละ 12,000 นี่คือ ยังไม่ไหวครับ ถ้าจะหัก OT หรือเงินพิเศษผมไป ผมก็ยินดีที่จะทำ OT ทุกๆ เดือนให้เขาหักนะ

อย่างที่เรียนไป หนี้ดูแลจนพอจะอยู่ในขอบเขตรายรับที่หาได้ต่อเดือนแล้ว เหลือแต่ของมันนี่ทันเดอร์นี้ที่เดียว

แบบนี้ตอนไกล่เกลี่ย ผมควรจะเตรียมตัวอย่างไรไปเจรจากับเขาดีครับ?

ขอความกรุณาด้วยนะครับ

ตอนนี้ที่ผมพยายาม คือ พยายามหารายรับประจำเพิ่ม จากการรับงานพิเศษนอกเวลาราชการอยู่ จะให้ได้รายรับเพิ่มขึ้นอีกซัก 3000-5000 ก็น่าจะพอได้ แต่หากจะให้ได้หลัก 10,000 เพื่อมาดูแลหนี้ก้อนนี้ ก็น่าจะไกลเกินไป

ปัจจุบันลดเหลือกินข้าววันละ 1 มื้อ นอน 22.00 น. ตื่น 6.00 น. โดยทำงานตั้งแต่ตื่นยันนอนอยู่แล้วเพื่อจัดการหนี้สิน แต่หากจะลดเวลานอนลงไป เพื่อสู้กับที่จะต้องจ่าย 12,000 เป็นเวลา 1 ปี ก็ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องสุขภาพเท่าไรครับ ตอนนี้อายุ 39 ปีแล้ว ยิ่งใกล้ 40 ยิ่งรู้สึกว่าสุขภาพตนเองทรุดโทรมลงอย่างมากๆ

กับพยายามหาเงินกู้จากธนาคารภายในจังหวัด เพื่อที่มีที่ใดยอมให้กู้รวบหนี้ได้บ้าง แต่ทั้ง 2 ก็ออกแนว ไม่ค่อยจะมีหวังเลยน่ะครับ

ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่ให้คำปรึกษา ให้คำชี้แนะ

เช่นนั้นก็เลือกแค่ทางเดียว คือ สู้กับมัน............ เจ็บใจจริงๆ ขอแค่ได้ผ่อนเท่าเดิม จะคิดดอกยังไงก็ได้ เจอแบบนี้ สู้มาตั้งมากมาย เหลือแค่อีก้าวเดียว อีกก้าวเดียวจะปีนขึ้นจากหลุมนี้ได้ซักที เจอแบบนี้เข้าไป เหมือนโดนยิงแสกหน้าเลย

ผมจะลองสอบถาม ธอส. เรื่องรีไฟแนน คอนโดดูอีกรอบ ขอให้พอได้ส่วนต่างมาปิดหนี้ก้อนนี้ให้ได้ หรือไม่ก็จะลองตะเวนไปแต่ละธนาคาร ช่วงนี้เห็นพอมีโครงการรวบหนี้ของข้าราชการ ถ้าทั้ง 2 ไม่ได้จริง ก็จะต้องพยายามทำงานให้หนักขึ้น จะอายุสั้นลงยังไงก็ช่างมัน สู้กับมันแค่เพียง 1 ปี ฟ้าจะได้เปิด ชีวิตจะได้เดินหน้าซักที

ฮ่าๆ แอบคิดเล่นๆ ขำๆ เหมือนกันนะครับ แบบนี้ไม่ต้องไปเป็นแก้งคอลเซนเตอร์หลอกเงินใคร รับซื้อหนี้เสียมา แล้วยืมมาศาลบี้ลูกหนี้ เอาหนี้แบบ 5 ปีขึ้น แล้วบีบให้ปิดใน 1 ปี ยังไงก็ใช้ไม่ไหว ถึงจะใช้ไหว ยังไงก็กำไลแฮะ ฮ่าๆ

สอบถามหน่อยค่ะ  บริษัทืี่ซื้อหนี้ฟ้องศาลหลังจากซื้อหนี้มากี่เดือนคะ 

ไม่มั่นใจเรื่องเวลาที่แน่นอนครับ แต่ไม่ถึง 1 ปี คาดว่าน่าจะประมาณ 6-8 เดือน จากที่หยุดส่งครับ, ในตอนนั้นธุรกิจที่เป็นอาชีพเสริมพึ่งจะล่มไม่มีเงินเข้า เลยวิ่งวุ่นเรื่องพยายามปรับโครงสร้างหนี้ตัวอื่นๆ กับวิ่งหางานเสริมอยู่น่ะครับ