เจรจาปรับโครงสร้างหนี้

ปัจจุบันยังไม่เป็นหนี้เสีย แต่เริ่มผ่อนขั้นตำไม่ไหวแล้ว จึงได้ขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด KTC แต่ธนาคารไม่ยอมลดดอกบี้ยให้เลย บัตรเครดิต คิดที่ 15.75 % ให้ผ่อนได้ 48 เดือน บัตรกดเงินสด คิดที่ 25% ให้ผ่อนได้ 60 เดือน อยากขอแนวทางค่ะ ว่า เราควรเจรจาอย่างไรดีเพื่อให้ธนาคารปรับลดดอกเบี้ยต่อปีลงได้อีกค่ะ (เบื่องต้นเจรจาแล้วธนาคารไม่ยอมค่ะ)

กะปุ๊กลุก เขียน: ปัจจุบันยังไม่เป็นหนี้เสีย แต่เริ่มผ่อนขั้นตำไม่ไหวแล้ว จึงได้ขอเจรจาปรับโครงสร้างหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด KTC แต่ธนาคารไม่ยอมลดดอกบี้ยให้เลย บัตรเครดิต คิดที่ 15.75 % ให้ผ่อนได้ 48 เดือน บัตรกดเงินสด คิดที่ 25% ให้ผ่อนได้ 60 เดือน อยากขอแนวทางค่ะ ว่า เราควรเจรจาอย่างไรดีเพื่อให้ธนาคารปรับลดดอกเบี้ยต่อปีลงได้อีกค่ะ (เบื่องต้นเจรจาแล้วธนาคารไม่ยอมค่ะ)

เท่าที่รู้มาคือดูจากหลายๆช่องใน TT กล่าวว่า ถ้าเรายังสามารถจ่ายได้(ไม่ได้เป็นหนี้เสีย จ่ายขั้นต่ำ) ทางธนาาคารไม่มีทางลดดอกเบี้ยให้หรอกครับ เค้าก็กินดอกเบี้ยเรื่อยๆ K.ซี ยิ่งแล้วใหญ่
เจ้านี้ไม่ร่วมคลิกนิกแก้หนี้ ถ้าปล่อยหนี้เสียไม่ชำระ 3 เดือนก็ฟ้องแล้วครับ 

ลองดูกระทู้พวกนี้ครับ 
debtclub.consumerthai.org/forum.html?view=topic&catid=5&id=51046 (หนี้ K.ซี ) 
คอมเม้น คุณ Bambam (น่าจะเปนหนี้เสียแล้ว)
จากประสบการณ์ของเรายอมรับข้อเสนอแปลงหนี้ค่ะ ยอดหนี้ 160,000 บาท จ่ายเดือนละ 3,900 บาท 48 เดือน รวมยอดเป็น 187,200 เท่ากับดอกเบี้ยรวม 4 ปี= 27,000 บาท
ลองเอามาเปรียบเทียบกับฟ้องศาล ที่ได้ดอกเบี้ย 10% จ่าย 60 เดือน ตกเดือนละ 3,400 บาท ดอกเบี้ยรวม 5 ปี=43,000 บาท เลยตัดสินใจยอมรับข้อเสนอ กัดฟันส่งต่อเดือนเพิ่มขึ้น 500 บาท แต่ดอกเบี้ยต่างกันเยอะ แถมหมดเร็วกว่า 1 ปี ลองพิจารณาดูนะคะ บางทีการรับปรับโครงสร้างหนี้ก้อดีกว่าแล้วแต่ข้อเสนอที่เราได้อ่ะค่ะ

debtclub.consumerthai.org/forum.html?view=topic&catid=5&id=51029 (ขึ้นศาลวันนี้ K.ซี ไม่มีจ่ายขั้นบันไดแล้ว)

ขอบคุณคะ

สอบถามอีกรอบค่ะ ตามเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต (16% ) และบัตรกดเงินสด (25% )แต่ถ้าเราปล่อยให้ธนาคารฟ้องและไปขึ้นศาล
1. โดยปกติศาลท่านจะทำการปรับลดดอกเบี้ยบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด ลงให้เราเหลือประมาณเท่าไหร่คะ 
2. และโดยปกติถ้าธนาคารส่งฟ้อง จะคิดดอกเบี้ยได้แค้่ 15%ต่อปีหรือเปล่าค่ะ

ศาลเขาตัดสินภายใต้กฎหมาย เมื่อดอกเบี้ยเป็นไปตามกฎหมาย ดอกเบี้ยจะลดลงหรือไม่มันขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้นะครับ ศาลเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยครับ ปัจจุบันยังไม่เป็นหนี้เสียอาจจะลองกู้สินเชื่อที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันมาปิดดูครับ แต่ถ้าไม่มีทรัพย์สินก็ใช้หนี้ไปก่อนครับ ถ้าจะรอฟ้องศาลเจ้าหนี้สามารถฟ้องยึดทรัพย์สินรวมทั้งสินสมรส อายัติเงินเดือนกรณีเงินเดือนเกิน 2 หมื่นได้ครับ ซึ่งผมว่าอาจจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ