มีเจ้าหน้าที่โทรมาจะอายัดเงินเดือน รบกวนปรึกษาค่ะ

ขอแจ้งข้อมุลเกี่ยวกับหนี้ก่อนน๊ะค่ะ คือดิฉันเป็นหนี้บัตรหลายใบ แต่ล่าสุดได้รับหมายศาลของบริษัทเซทเทอเลม และไปตามใบนัดของศาล ประมาณเดือน ตุลาคม 2555 วงเงินหนี้บัตร ประมาณ 45,000.- และได้เจอกับทนายของโจทย์ ทางทนายของโจทย์แนะนำว่าให้เจรจายอมความกันก่อน ที่จะขึ้นศาล เพื่อประนอมหนี้ ดิฉันจึงได้คุยกับทางทนายและทางทนายได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจรจากับดิฉัน และเมื่อคุยแล้วทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าถ้ามีเงินก้อนให้จะลดหนี้ให้บางส่วน เหลือ 35000 แต่วันนั้นดิฉันยังไม่มีเงินก้อน จึงขอแบ่งชำระเป็นงวด ทางเจ้าหนี้ตกลงยอมให้จ่าย แต่สัญญาที่ต้องชำระ คือ 1ปี ชำระเดือนละ 3000 บาท/ เดือน
ดิฉันได้จึงตกลง เซ็นยินยอมจากเอกสารที่ทนายได้เตรียมมา หลังจากนั้นดิฉันได้จ่ายไป 2 งวด คือเริ่มจ่าย วันที่ 27 ตค.2555 เรย และงวดที3 ดิฉันได้ชำระไปเพียง 1500 บาท เพราะเงินไม่พอจิงๆ แต่หลังจากนั้นก็หยุดจ่ายไปตั้งใจจะเก็บเงินก้อนแร้วขอจ่ายทีเดียว(หลังจากที่ได้อ่านหนังสือ ของทางชมรม)เพราะคิดว่าน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จนกระทั้งวันนี้มีเจ้าหน้าที่โทรมาถามว่ายังทำงานอยู่ที่เดิมหรือเปล่า และยังจะชำระต่อหรือไม่ ถ้าไม่ชำระต่อ จะทำหนังสือเข้าบริษัทให้หักเงินเดือน ทั้งเงินเดือน และค่าคอมมิชชั่นอื่นๆ ดิฉันอยากทราบว่า ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไป รบกวนปรึกษาค่ะ

ขอแก้ไขข้อมูลค่ะ ปีที่ไปตามหมายศาลเป็นปี 2554 เดือนตุลาคมค่ะ

คุณอ่านแล้วเข้าใจไปผิดเองนะครับ

การที่คุณไปเซ็นต์ในสัญญาใหม่ เรียกว่าสัญญาประนอมยอมความ หรือ

การยอมความหน้าศาล แล้วคุณไปผิดนัดจากที่ทำสัญญาไว้ไม่ได้นะครับ

โจทก์สามารถทำเรื่องอายัดเงินเดือน ยึดทรัพย์ได้ทันทีเลย

โดยไม่ต้องฟ้องใหม่ครับ

คุณต้องโทรไปเจรจากับเขา

ว่ายินดีจะผ่อนชำระต่อ โดยด่วนเลย

มันคนละเรื่องกับการหยุดจ่ายที่หนังสือ หรือชมรมฯ ของเราแนะนำเลยครับ

ขอบคุณมากค่ะ


และสอบถามอีก 1เรืองค่ะ คือวันที่ 26 กพ.55 นี้ ต้องไปตามใบนัดของศาลอีก 1 บริษัท ของบริษัท จีอี แคปปิติล อยากทราบว่าพอจะมีวิธีแนะนำไหมค่ะ ถ้าต้องเจอกับทนาย แร้วต้องมีการคุยยอมความกันหน้าศาล
(เพราะตอนนี้ยังไม่มีเงินก้อนที่จะชำระให้เค๊าค่ะ)

รบกวนปรึกษาค่ะ

ถ้าไม่มีพอชำระ 3000/เดือน ก็ปล่อยให้อายัดเงินเดือนดีกว่าไหมค่ะ
เพราะถ้าคุณกลับไปจ่ายแบบเดิม และไม่สามารถทำตามเงื่อนไขเขา
ได้ ก็ไม่มีประโยชน์ เสียดายเงินที่ควรเก็บค่ะ

อย่างเซทเทอเลมซึ่งปิดกิจการไปแล้ว มูลหนี้ขนาดคุณ น่าต่อรอง
ได้มากกว่านี้ค่ะ

คุณควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจค่ะ เพราะเราไม่ทราบว่า เงินเดือน
หรือข้อมูลส่วนตัวมีอะไรบ้าง การอายัดทำได้เต็มที่ 30% ของเงินเดือน
แต่สามารถบังคับอายัดโบนัส ถ้ามี หรือเงินพิเศษอื่นอีก หรือ/และบัญชีเงิน
ฝาก ขึ้นกับเจ้าหนี้ค่ะ คิดว่า เขาไม่อยากอายัดคุณหรอกค่ะ ไม่งั้น
ไม่โทรมาถามหรอก น่าจะอยากได้เงินเร็วๆๆ ค่ะ

แล้วเขาให้คุณจ่ายงวดเดียว 35000 บาท แต่ทำไมให้ผ่อน
3000บาท/เดือน เป็นเวลา 12เดือน เท่ากับ 36000 บาทนะค่ะ
มีเอกสารเซ็นยืนยันเรียบร้อยหรือเปล่าค่ะ

ถามเราได้ แต่คำตอบนั้น อยู่ที่คุณเองเท่านั้นค่ะ

ngorny เขียน: ขอบคุณมากค่ะ


และสอบถามอีก 1เรืองค่ะ คือวันที่ 26 กพ.55 นี้ ต้องไปตามใบนัดของศาลอีก 1 บริษัท ของบริษัท จีอี แคปปิติล อยากทราบว่าพอจะมีวิธีแนะนำไหมค่ะ ถ้าต้องเจอกับทนาย แร้วต้องมีการคุยยอมความกันหน้าศาล
(เพราะตอนนี้ยังไม่มีเงินก้อนที่จะชำระให้เค๊าค่ะ)

รบกวนปรึกษาค่ะ

การยอมความหน้าศาล ไม่ควรเกิน 30% ของรายได้นะค่ะ การที่คุณ
ไม่สามารถชำระเจ้าแรกพอ ขาดแค่ 1500 บาท คุณคิดว่า จะสามารถ
ผ่อนเจ้าอื่นอีกได้หรือค่ะ

ไปอ่านกระทู้ปักหมุด วิธีแก้ปัญหาหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน หรือ ค้นหา
การไปศาลก่อนค่ะ

เห็นด้วยกับพี่แก้วครับ

ถ้าคุณ ngorny โดนฟ้องมากกว่า 1 ราย ไม่ควรยอมความทุกรายนะครับ
ปล่อยอายัดเงินเดือน ยังดีเสียกว่า เพราะอายัดได้ไม่เกิน 30% ของเงินเดือน และอายัดได้ทีละราย

อ่านเพิ่มเติมจากกระทู้นี้นะครับ
www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&Itemid=10&func=view&id=12878&catid=3

ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.00-16.00 น. ณ สวนลุม หลัง ร. 6 ศาลาเรือนไทย ตรงข้ามรพ.จุฬาฯ เรามีผู้เชี่ยวชาญ
ด้านกฎหมายอยู่ 2 ท่าน คือ คุณอาไพโรจน์และคุณอาประพัฒน์ นำหมายศาลไปด้วยนะ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
แต่เอ...วันที่ 26 ก.พ. เป็นวันอาทิตย์คุณไปศาลวันนี้รึ คุณจำวันผิดหรือเปล่านี่ ดูวันเดือนใหม่อีกทีนะใช่หรือเปล่า
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร

ตอนนี้ดิฉันพึ่งเปลี่ยนงานมาไม่ถึง 1 ปี ตอนนี้ ฐานเงินเดือนที่ได้รับ ก้อยู่ท่ 11345 บาทหักประกันสังคมแร้วก้เหลือ 10777 .75 สต. และมีรายได้ในส่วนของค่าคอมมิชชั่น ประมาณ เดือนละไม่เกิน3000 บาท (แต่ค่าคอม ก้ขึ้นอยู่กับยอดขายถ้าทำไม่ได้ตามเป้า ก้อดไป) รวมแร้วก้อยุ่ที่ ไม่เกิน 14000 บาท แต่ภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต้องมีแน่ๆ คือ 8500 บาท (รวมเงินที่ต้องไว้กินระหว่างเดือนแล้วค่ะ) ซึ่งเงินที่เหลือ คือ 5500 บาท ตอนนี้ เครียดมากพอมีหลายๆบริษัท โทรเข้ามา เพราะดิฉันหยุดจ่ายหนี้บัตรทั้งหมด มาได้ 2 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ เมื่อดือนที่แล้วได้มีเพื่อน เอาหนังสือของชมรมมาให้อ่านแร้วค่ะ ก้เลยคิดว่าตั้งใจจะเก็บเงินจริงๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ดี เพราะบางเดือน ค่าคอมมิชชั่นก้ไม่แน่นอน
.... สรุปว่า 1. หนี้บัตรของเซทเทเลม ดิฉัน ควรจะให้ทางบริษัท อายัดเงินเดือน เพราะไม่เกิน 30% ของฐานเงินเดือน ใช่ไหมค่ะ
2. ส่วนของหนี้บัตร จีอีแคปปิตอล ที่ได้รับหมายศาลมา คือต้องไปตามหมายศาลที่นัดไว้ วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ เป็นวันที่ศาลนัดถูกต้องค่ะ (วงเงินที่ถูกฟ้อง คือ 60000 กว่า บาท ) แต่วงเงินที่ได้รับอนุมัติคือ 45000 บาท คือวันนัด ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ (ได้เข้าไปอ่านในกระทู้ปัดหมุดแล้วค่ะ) แต่ก้ยังไม่พร้อมที่จะมีเงินก้อนไปให้เค๊า และ ถ้ายอมความขอผ่อนชำระ ก้กลัวว่าเงินจะไม่พอ


รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

ngorny เขียน: ตอนนี้ดิฉันพึ่งเปลี่ยนงานมาไม่ถึง 1 ปี ตอนนี้ ฐานเงินเดือนที่ได้รับ ก้อยู่ท่ 11345 บาทหักประกันสังคมแร้วก้เหลือ 10777 .75 สต. และมีรายได้ในส่วนของค่าคอมมิชชั่น ประมาณ เดือนละไม่เกิน3000 บาท (แต่ค่าคอม ก้ขึ้นอยู่กับยอดขายถ้าทำไม่ได้ตามเป้า ก้อดไป) รวมแร้วก้อยุ่ที่ ไม่เกิน 14000 บาท แต่ภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่ต้องมีแน่ๆ คือ 8500 บาท (รวมเงินที่ต้องไว้กินระหว่างเดือนแล้วค่ะ) ซึ่งเงินที่เหลือ คือ 5500 บาท ตอนนี้ เครียดมากพอมีหลายๆบริษัท โทรเข้ามา เพราะดิฉันหยุดจ่ายหนี้บัตรทั้งหมด มาได้ 2 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ เมื่อดือนที่แล้วได้มีเพื่อน เอาหนังสือของชมรมมาให้อ่านแร้วค่ะ ก้เลยคิดว่าตั้งใจจะเก็บเงินจริงๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ดี เพราะบางเดือน ค่าคอมมิชชั่นก้ไม่แน่นอน
.... สรุปว่า 1. หนี้บัตรของเซทเทเลม ดิฉัน ควรจะให้ทางบริษัท อายัดเงินเดือน เพราะไม่เกิน 30% ของฐานเงินเดือน ใช่ไหมค่ะ
2. ส่วนของหนี้บัตร จีอีแคปปิตอล ที่ได้รับหมายศาลมา คือต้องไปตามหมายศาลที่นัดไว้ วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ เป็นวันที่ศาลนัดถูกต้องค่ะ (วงเงินที่ถูกฟ้อง คือ 60000 กว่า บาท ) แต่วงเงินที่ได้รับอนุมัติคือ 45000 บาท คือวันนัด ดิฉันควรทำอย่างไรดีค่ะ (ได้เข้าไปอ่านในกระทู้ปัดหมุดแล้วค่ะ) แต่ก้ยังไม่พร้อมที่จะมีเงินก้อนไปให้เค๊า และ ถ้ายอมความขอผ่อนชำระ ก้กลัวว่าเงินจะไม่พอ


รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

คุณได้อ่านกระทู้ที่ผมวางลิ๊งค์แล้วใช่ไหมครับ แต่ดูเหมือนคุณจะยังไม่เข้าใจที่พี่แก้วแนะนำไว้
คืออย่างนี้ครับ ที่พี่แก้วแนะนำให้ปล่อยให้เซทเทเลมอายัดเงินเดือน นั่นหมายความว่า ของ จีอีแคปปิตอล ก็ต้องปล่อยให้อายัดด้วยเช่นกันครับ

และต่อไปนี้ ไม่ว่าเจ้าหนี้รายไหนจะฟ้องมา คุณก็ต้องปล่อยให้อายัดเงินเดือนให้หมด ห้ามไปยอมความที่ไหนอีก

ที่ผมให้คุณไปอ่านลิ๊งค์ที่ผมวางไว้ เพราะถ้าจีอีไม่อยากเข้าคิวรออายัดเงินเดือนต่อจากเซทเทเลม จีอีก็จะไปสืบทรัพย์ อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ต่อไปได้

ตอบคำถามผมต่อไปนี้นะครับ

ทำงานราชการหรือเอกชนครับ
มีทรัพย์สินบ้างไหมครับ
- มีบ้านเป็นชื่อของคุณไหมครับ รวมทั้งที่ชื่อคุณเป็นคนผ่อนด้วยนะครับ
- มีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์เป็นชื่อของคุณไหมครับ
- เป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านไหมครับ
- มีเงินฝากในบัญชีธนาคารบ้างไหมครับ

การอายัดเงินเดือนต้องมีหมายอายัดมาจากกรมบังคับคดี หมายจะไปที่ทำงานและที่บ้าน เมื่อมาที่เรา เรา
สามารถนำค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ หรือสูติบัตรบุตร ไปขอลดส่วนลดจากกรมฯได้ (อ่านลิงค์ที่พี่ๆ
เพื่อนๆ แนะนำด้วย) แต่หากเงินเดือน 12,000 บาท หักได้ 2,000 บาท เหลือให้ดำรงชีพ 10,000 บาท และหักจาก
ยอดสุทธิ ถึงจะไปหักในส่วนอื่นๆ เช่น ประกันสังคม
การอายัดเงินเดือนเป็นการใช้หนี้คืนอย่างหนึ่งเหมือนกัน ไม่น่ากลัวอะไร
ข้อดีคืออายัดได้ทีละเจ้า และค่อยๆ เก็บเงินเอาไว้ เพื่อเจ้าไหนให้ส่วนลดดี มีเงินพอปิด ก็ปิดไป หนี้หมดไวขึ้นได้
พี่อังก็โดนอายัดเงินเดือนแล้ว หลังจากไปยอมความหน้าศาลและประเมินดูแล้วว่า จ่ายเกิน 30 เปอร์เซ็นต์
ของเงินเดือน และเพื่อความยุติธรรมกับเจ้าหนี้ที่ฟ้องแล้วและยังไม่ฟ้อง พี่อังตัดสินใจให้อายัด คือ ไม่ต้อง
แย่งกัน ได้ทุกคน แต่ต้องเข้าแถวรอ และชีวิตก็มีความสุขขึ้น เจ้าแรกจะหมดหนี้กันในสิ้นปีนี้
ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆๆ พี่อัง สวยประหาร

To k.Anakin

ทำงานบ. เอกชนค่ะ

ตอบ 1. ไม่มีบ้านที่เป็นชื่อของตัวเองค่ะ
2.ไม่มีรถที่เป็นชื่อตัวเองค่ะ
3.ไม่ได้เป็นเจ้าบ้านค่ะ
4.มีเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ค่ะ แต่ไม่เยอะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

.........................................

To K.Angsuu


ขอบคุณมากค่ะ ^___________^ จะพยายามมีสติทุกครั้ง ในการตัดสินใจครั้งต่อๆไปค่ะ

งั้นปล่อยอายัดเงินเดือนดีกว่าครับ

ส่วนที่จะไปศาลจีอี ก็ขอให้ไป หรือถ้าเดินทางไปศาล ลำบาก มีค่าใช้จ่ายเยอะ ไม่ต้องไปเลยก็ได้ครับ
และคุณต้องปล่อยให้ท่านพิพากษาไปเลย ไม่ต้องไปยอมความอะไรนะครับ
ไม่ต้องไปฟังคำพิพากษานะครับ รอรับคำพิพากษาที่บ้านเลย

เอ.. แต่ที่นัดไว้วันอาทิตย์เป็นนัดไกล่เกลี่ยเฉยๆ ใช่ไหมครับ และจะมีนัดให้การและสืบพยานอีกนัดนึงใช่ไหมครับ ถ้าใช่ นัดไกล่เกลี่ยวันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ. นี้ไม่ต้องไปนะครับ

ส่วนนัดให้การและสืบพยาน ที่ผมแนะนำว่าให้ไป เพื่อขอความเมตตาจากศาลท่านให้ช่วยพิจารณาเรื่องดอกเบี้ย ค่าปรับต่างๆ

เอ.. แต่คดีจีอีแคปปิตอล เป็นคดีสินเชื่อส่วนบุคคลใช่ไหมครับ ผมว่า คุณเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุมวันอาทิตย์นี้ดีกว่าครับ น่าจะพอมีประเด็นให้สู้คดีได้เรื่องดอกเบี้ย

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=720&Itemid=29

รวมทั้งเจ้าหนี้รายอื่นๆ ที่จะฟ้องด้วยนะครับ

ส่วนเงินฝากในบัญชี สามารถอายัดได้ทั้งหมดนะครับ อ่านลิ๊งค์ที่ผมไว้หลายๆ รอบให้เข้าใจนะครับ

ไปลงชื่ออบรมวิธีการปลดหนี้ที่ มพบ.ซะนะ ความรู้จะได้แน่นขึ้น ไม่เข้าใจจดคำถามไว้ถาม


debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=5467&Itemid=29

ส่วนหมายศาลวันที่26 กุมภาพันธุ์ ศาลนัดให้ไปไกล่เกลี่ย ให้การ และสืบพยานในวันที่26 กุมภาพันธ์ วันเดียวกันเลย แล้วอย่างนี้ดิฉันจำเป็นต้องไปไหมค่ะ ถ้าต้องไปดิฉันขอคำแนะนำในการไปวันนั้นด้วยเนื่องจาก มีทั้งไกล่เกลี่ยและสืบพยานพร้อมๆกัน ซึ่งดิฉันไม่เข้าใจกระบวนการของศาลมากนักค่ะ รบกวนขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำด้วยนะค่ะ...ขอบคุณทุกๆท่านมากๆค่ะ

คุณngorny บัวอยากให้คุณสนใจอ่านข้อมูลต่างๆมากกว่านี้ กรรมการหลายท่านแนะนำแล้ว ล้วนแต่เป็นข้อมูลแนะนำที่เป็นประโยชน์ และตรงประเด็น
ลิงค์ที่แปะไว้ให้ก็ตรงเรื่อง ทำไมคุณไม่เข้าไปอ่าน และทำความเข้าใจ
คุณพลาดมาแล้ว หนึ่งบัตร กับหนึ่งคดี กับหนี้เน่าๆ โคตรจะเน่าของบริษัทที่ปิดตัวไปแล้วอย่าง "เซเทเลว"
คุณยอมความเขา โดยไม่ศึกษาที่ไปที่มาว่า มันเน่าขนาดนี้ ต่อรองหมื่นเดียว ยังมากไปเสียอีก
ไปยอมความแบบไม่รู้อิโหน่และอิเหน่ แล้วไม่ชำระให้ครบตามที่ยอมความ เรื่องจึงเข้าสู่กระบวนการอายัดเงินเดือน
คดีใหม่ จีอี น้องอนาคิน แนะนำแบบเปิดกว้าง....จนตัวคนแนะนำจะเข้าไปอยู่ในคุกอยู่แล้ว คุณได้อ่านไหม?
นัดวันที่ 26 กพ.นี้ รวมทุกนัดเป็นนัดเดียว ทั้งไกล่เกลี่ยและสืบพยาน
คำว่า "สืบพยาน" ภาษาชาวยิ้มสู้หนี้แบบเราเรียก "นัดสู้คดี" คุณต้องไปค่ะ ถึงจะไม่มีเงินจ่าย (เขายังไม่ให้จ่ายเดี๋ยวนั้นหรอก) ก็ไปขอความเมตตาต่อศาลเรื่องดอกเบี้ยได้
คุณคำนวนค่าใช้จ่ายออกมา พบว่า ค่าใช้จ่ายมันไม่พอที่จะผ่อนอะไรได้อีกแล้ว คุณก็ไม่ต้องไปยอมความอะไร ปล่อยให้ศาลท่านพิพากษาไป โดยบอกท่านว่าขอให้ท่านเมตตาดูเรื่องดอกเบี้ยให้ และค่าธรรมเนียมต่างๆให้ด้วยนะคะ จากนั้นศาลจะบอกว่าให้คุณไปรอคำพิพากษาที่บ้าน
ไม่ต้องไปสนทนายถ้ามันจะขู่ว่า ศาลต้องพิพากษาเต็มจำนวน อย่างโน้นอย่างนี้ ไม่มีศาลไหนใจร้ายคิดดอกเบี้ยเกินกว่า 15% ต่อปี หรอก
การที่ศาลบอกว่าให้ไปรอคำพิพากษาที่บ้าน เพราะหากคุณยังรอคำพิพากษาเดี๋ยวนั้น คุณต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลเดี๋ยวนั้น สู้รอที่บ้านดีกว่า ยืดเวลาได้อีกเดือน
ให้เจ้าหนี้อายัดเงินเดือนๆละ 30% ดีกว่า เพราะอายัดได้แค่ทีละราย จนกว่าหนี้เซเทเลมจะหมด ค่อยต่อเจ้าหนี้รายอื่นๆ ทีละราย
เป็นหนี้มันมีทางออกทั้งนั้นแหละ ขึ้นอยู่กับตัวของเราจะปรับเปลี่ยนชีวิตได้ไหม
หากมองแต่ทุกข์ มันก็จะมีแต่ทุกข์ แต่ในทุกข์นั้นก็สอนความมีระเบียบวินัยให้กับเราได้อย่างมากมาย
ผ่านจุดนี้ไปได้ คุณจะพบแสงสว่างของชีวิตแบบจีรังยั่งยืน...
มีอะไร Hotline สอบถามกรรมการได้เพิ่มเติม กรรมการทุกท่านยินดีเสมอค่ะ

ขอบคุณ.. พี่ กอบัว และ พี่กรรมการทุกๆท่านด้วยน๊ะค่ะ สำหรับคำปรึกษาและข้อมูลดีๆค่ะ

ngorny เขียน: ขอแจ้งข้อมุลเกี่ยวกับหนี้ก่อนน๊ะค่ะ คือดิฉันเป็นหนี้บัตรหลายใบ แต่ล่าสุดได้รับหมายศาลของบริษัทเซทเทอเลม

บ.เซทเทเลม ได้ปิดกิจการ(เจ๊ง)มานานหลายปีแล้ว โดยหนี้ทั้งหมดที่คงเหลืออยู่หลังจากปิดกิจการไป
ได้ถูก"ขายหนี้"ทั้งหมดไปให้กับสถาบันทวงหนี้ต่างๆไปหมดแล้ว โดยขายในราคาถูกโคตรๆ(ประมาณ 20% ของมูลหนี้ที่แท้จริง)

น่าเสียดาย...ที่ในกรณีนี้ คุณดันไปเลือกใช้วิธี"ยอมความ"ต่อหน้าศาล
แทนที่จะเลือกใช้วิธีสู้ต่อคดีว่าด้วยเรื่อง"อายุความ"เพื่อให้ศาลพิพากษา"ยกฟ้อง"

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=1897&Itemid=29

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29

เพราะผมเชื่อว่าคดีนี้ น่าจะ"ขาดอายุความ "ไปนานแล้ว

ตัวอย่างคำพิพากษาของศาลฎีกา ท่านวินิจฉัยออกมาว่า ธนาคารเป็นผู้ชำระเงินแทนสมาชิกไปก่อนแล้วเรียกเงินคืนจากสมาชิกในภายหลัง และสมาชิกสามารถนำบัตรไปถอนเงินสดจากบัญชีเงินฝากที่ธนาคารโดยผ่านเครื่องฝากถอนอัตโนมัติได้ ซึ่งสมาชิกจะต้องเสียดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมเป็นรายปีให้แก่ธนาคารด้วย ธนาคารจึงเป็นผู้ค้ารับทำการงานต่าง ๆ ให้แก่สมาชิก การที่ธนาคารจ่ายสำรองเงินแทนสมาชิกไปก่อน แล้วเรียกเก็บเงินจากสมาชิกภายหลังเป็นการเรียกเอาค่าที่ได้ออกเงินทดรองไปก่อน มีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34 ข้อ (7) ที่ระบุไว้ว่า “ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการบัตรกดเงินสด ถือเป็นผู้ประกอบ ธุรกิจในการดูแลกิจการของผู้อื่นหรือรับทำการงานต่างๆ เรียกเอา สินจ้างอันจะพึงได้รับในการนั้น รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไป” จึงมีกำหนดอายุความ 2 ปี…เทียบเท่ากับบัตรเครดิต
จากกรณีคำพิพากษาดังกล่าว รบกวนปรึกษา กรณีปัญหาของดิฉันค่ะ ซึ่งมีเนื้อความคล้ายกับคำพิพากษาดังกล่าว จึงยังมีข้อสงสัยในกรณีปัญหาในเรื่องของอายุความ
" เนื่องจากดิฉันได้ทำบัตร จีอี แคปปิตอล ประเภท สายด่วนเงินสด ฮัลโหลแคช ซึ่งในการได้สินเชื่อเงินสดนั้น จะต้องมีการโทรเข้าระบบ ตอบรับอัตโนมัติ เพือขอวงเงินดังกล่าว และโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงศรี เพื่อทำการกดผ่านหน้าตู้ ATM ขอธนาคารดังกล่าว(ใช้บัตร ATM ของธนาคารกรุงศรี ค่ะ)

จึงรบกวนปรึกษา เกี่ยวกับอายุความค่ะ

คุณไปเลื่อนนัดศาลวันพรุ่งนี้ก่อนนะครับ

แล้วเอาหมายศาลไปปรึกษาคุณอาที่สวนลุม บ่ายวันอาทิตย์
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=720&Itemid=29

ถึงแม้คดีจะขาดอายุความไปแล้ว แต่ถ้าจะสู้คดี ก็ต้องเขียนคำให้การในการต่อสู้คดีเรื่องนี้ครับ