น้องใหม่^^

12 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #8017 โดย Chan1358
น้องใหม่^^ was created by Chan1358
สวัสดีคะ ทุกท่านๆ :cheer:


เริ่มจากดู กรรมลิขิต เรื่องคุณโจ มณฑาณี ทำให้คิดได้ว่า การออมเป็นสิ่งสำคัญมากๆๆๆๆๆ
จึงลองไปหาหนังสือของคุณโจ แต่ไม่มี เพราะนานหลายปีแล้ว
ก็เลยลองหาเล่มอื่นๆ สรุปได้เล่มนี้เลยคะ "ล้างหนี้ฯ ขึ้นเทพ" นี่แหละ

อ่านไปก็คิดได้ว่า ฉันเหลือบัตรเคร 3 ใบ วงเงินเต็ม 297,000 ควรจะเลิกผ่อนดอกซะที
เรื่องไปศาลก็ไม่กลัวคะ ไปประจำอยู่แล้ว จากธุรกิจที่ทำอยู่ เจ้าหนี้ฟ้องเป็นว่าเล่น

แต่อยากจะทราบว่า ที่บอกในหนังสือว่า บ.ต่างชาติ รายนั้น รายนี้ ฟ้องเร็วที่สุด
ให้ส่วนลดได้มากหรือน้อยเนี้ย คือ บ.ไรหรอคะ
เผื่อจะตรงกับที่เป็นหนี้อยู่และจะได้ตั้งหน้าสู้ปักธงใจ จะต่อเจ้าหนี้ให้สุดฤทธิ์ (ขอยืมคำคุณกอบัวมาใช้ ^^)
แต่ถ้าเรื่อง บ.ฟ้องเร็ว ถ้าให้เดา น่าจะเป็น อิสโก้ รึป่าวคะ เพราะประสพมากับตนเองเหมือนกันคะ

ขอบคุณคะ :love:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #8025 โดย Pych

สี่ตี๋ครับ

ยินดีต้อนรับ สมาชิกใหม่นะครับ ชมรมของเราให้ได้แค่แนวทาง ส่วนการตัดสินใจต้องเป็นของคุณเอง เพราะแต่ละคนมีปัจจัย ภาระ ตัวแปรที่แตกต่างกัน ไม่มีแนวทางที่ตายตัวและใช้ได้กับทุกคนนะครับ ชมรมของเรามีอยู่ 3 แนวทางหลักๆ คือ Firstway Out, Secondway Out, และ Thirdway out ซึ่งบางคน ยังสามารถเอาแนวทางหลักๆ มาใช้แบบผสมผสานกันก็ได้

เริ่มงงแล้วใช่ไหมครับ Firstway Out, Secondway Out คืออะไร ต้องอ่านกระทู้ต่อไปนี้เลยครับ


1. วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=29

2. รวบรวมกระทู้ที่น่าสนใจในการปลดหนี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=939&Itemid=29

3. สิ่งที่สมาชิกควรทำ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29

หลังจากนั้น สรุปแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง จะเป็น Firstway out หรือ Secondway out หรือ Thirdway out ก็เอาให้เหมาะกับรายรับ-รายจ่ายของคุณ ต่อจากนั้นก็แค่ทำตามที่กระทู้ข้างบนบอกไว้ครับ

ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณเลือก วิธีที่ 2 SECONDWAY OUT คุณต้องทำตามที่กรรมการแนะนำไว้ในกระทู้ ดังนี้
1. หยุดจ่ายหนี้ต้องหยุดทุกรายการและหยุดตลอด อย่าหยุดบางแบงก์จ่ายบางแบงก์ (ยกเว้นรายการที่เป็นหนี้แบงก์ที่ใช้จ่ายเงินเดือนให้ กับ หนี้กองทุน ก.ย.ศ.)
และอย่าหยุดบ้างจ่ายบ้าง เพราะจะเก็บเงินก้อนไม่ได้ ไม่มีประโยชน์เลย และนับอายุความไม่ได้ด้วย

2. ต้องบอกครอบครัวให้รู้ จะได้ไม่ตกใจ รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไร ผลจะเป็นอย่างไร และเป็นการระวังไม่ให้มีใครไปหลอกเอาเงินจากทางครอบครัวของลูกหนี้ได้ด้วย

3. ต้องบอกที่ทำงาน( หัวหน้างาน ฝ่ายบุคคล คนที่ทำงานเกี่ยวข้องประสานงาน เพื่อน คนที่อาจถูกรบกวนจากการตามทวงหนี้ที่ไม่มีมารยาท คนที่อ้างชื่อไว้ในสมัคร) ให้รับรู้ไว้ บอกให้รู้ว่าเราจะทำอะไร และจะเกิดอะไรบ้างระหว่างที่เราหยุดรอจ่ายปิดหนี้ที่ละบัญชี ห้ามอาย/ไม่อยากให้คนรู้เรื่อง เพราะยังไงๆ ที่ทำงานต้องรู้เรื่องแน่ ให้รู้จากเราไปเลยว่าเราจะทำอะไร อย่าให้เขารู้แต่ว่าเราถูกทวงหนี้ ให้เขารู้ว่าเราจะจ่ายทีเดียวปิดบัญชีหนี้ไปเลย ไม่จ่ายทีละนิดแล้วหนี้ไม่หมดสักที ให้ที่ทำงานรู้ว่าเราจะทำอะไรและผลจะเป็นอย่างไรเลยดีกว่า แล้วก็ต้องรู้จักขอโทษและขอบคุณเพื่อนร่วมงานตามความเหมาะสม

4. จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อดูว่าเมื่อเราหยุดจ่ายหนี้ทุกอย่างแล้วเราเหลือเงินเท่าไหร่ เก็บออมไว้ ห้ามใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เงินเดือน 15000 บาท ใช้จ่ายตลอดเดือน 10000 เหลือ 5000 ก็แยกเก็บไว้สัก สองบัญชี บัญชีจ่ายหนี้ 3500 และบัญชีสำรองเผื่อฉุกเฉิน 1500 อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นแต่ละคนจะเก็บได้มากได้น้อยแล้วภาระครอบครัว สำหรับบัญชีจ่ายหนี้พอเก็บได้เป็นเงินก้อนใหญ่ก็ลองเจรจาแฮร์คัทดู ส่วนบัญชีสำรองเก็บไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินในครอบครัว พยายามหารายได้พิเศษเพิ่ม

5. หาความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ ศึกษาให้เข้าใจจริงๆ นำไปใช้ให้ได้ และ เมื่อรู้แล้วจะได้ไม่ต้องกลัวรูปแบบการทวงหนี้และการข่มขู่ต่างๆ ที่มีสารพัดรูปแบบและหาอ่านเพิ่มเติมตามเรื่องที่คุณต้องการรู้ได้จากการสืบค้นด้วยแท็บด้านบนหรือจะใช้ google ช่วยค้นหาก็ได้ โดยพิมพ์คำว่า site:consumerthai.org ต่อด้วยคำที่อยากหา เช่น site:consumerthai.org แฮร์คัท หรือ site:consumerthai.org ทวงหนี้


มีอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ โชคดีนะครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Chan1358

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #8027 โดย Ly89
สโลแกนของชมรมหนี้ฯ

“เราสอนให้เพื่อนจับปลา

เราต่อต้านการทวงหนี้โหด

เราไม่ส่งเสริมการชักดาบ”


ส่วนเรื่องที่ว่าเจ้าไหนฟ้องเร็วนั้น...เท่าที่มีก็ เคลือซิตี้แบงค์ครับ 4-6 เดือนก็ฟ้องแล้ว...

แต่ก็ไม่แน่เสมอไป มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งของตัวคุณเอง ทั้งของเจ้าหนี้มาประกอบกันครับ

หนี้เจ้าเดียวกัน บางคนไม่ถึงปี หรือปีกว่าๆก็โดนละ แต่บางคนอายุความหมดไปละ ยังไม่ฟ้องเลยก็มี
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Chan1358

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #8037 โดย Nok2865
ในหนังสือเขาต้องป้องกันการฟ้องกลับของสถาบันการเงิน
แต่ถ้าคุณอ่านปักหมุดแบบที่กรรมการสองท่านบอกไป คุณจะเห็นว่า หนังสือ "ลอก" เนื้อหาจากเว็บเราไปล้วนๆ ยิ่งเว็บเราแทบไม่ปกปิดชื่อเจ้าหนี้เลย
กล้าท้าชน (แบบไม่เปิดเผยชื่อจริง :P ) หน้ามึนๆ ด้านๆ ตลอดเวลาบนเว็บออนไลน์แห่งนี้
คุณหมั่นอ่านปักหมุด ตามลิงค์ต่างๆไปเยอะๆ
เว็บนี้เป็นเว็บใหม่ กู้มาได้หลังจากล่มไป เนื้อหาก็พยายามแยกให้เป็นหมวดหมู่ หลายบทความเขียนใหม่ อัพเดทให้ทันสมัยกว่าเดิม
เนื้อหาหลายตัวไปค้นหามาเพิ่มเติมเข้าไปอีก
พยายามอ่านมากๆ ยิ่งอ่านมาก คุณยิ่งแข็งแกร่ง และปลดหนี้ได้เร็ว เป็นไทได้ไว เป็นกำลังใจให้ค่ะ

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Chan1358

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #8163 โดย meawpung
แนวทางนี้เป็นแนวทางที่ทำได้จริงๆครับ

อ่านให้มากๆ ช่วยได้ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #8598 โดย Chan1358
มีอีกปัญหานึง อยากขอคำแนะนำจากพี่ๆ จะโทรไปหาพี่นกกระจอก ก็จัดเวลาไม่ได้เลยสักทีคะ

คือ มีหนี้กับธนาคารในประเทศไทยแห่งนึง เกิดจากการทำธุรกิจรับเหมา
โอดี 2.5 ลบ. เต็มวงเงิน
เงินกู้ ผ่อนไปแล้วตอนนี้เหลือประมาณ 5 ส.

คำถามคือ ผ่อนดอกโอดีมาตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา นับแล้ว 1.1 ลบ.เห็นจะได้
ไม่อยากผ่อนต่อแล้วคะ ต้องทำอย่างไรดีคะ เพราะว่าทำงานแล้วไม่เหลือเงินเลย ต้องผ่อนดอกโอดีตลอด

แต่ปัญหาคือ หลักประกันที่เข้าแบ้งค์ เป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ (มีนายทุนนำมาเข้าแบ้งค์ให้คะ)
พอเราไม่ได้จ่ายดอกนายทุนรายนี้ ทางเจ้าของหลักประกันก็มารวนเราเลยคะ
เดิมทีเราและเจ้าของหลักประกันไม่รู้จักกันมาก่อนเลย นายทุนนำหลักประกันมาเข้าธ.
และนายทุนสนิทกับจนท.สินเชื่อของธ. ทำให้เรื่องกู้ดำเนินไปง่าย

เราจ่ายดอกธ.ไม่ทัน เคยไม่ผ่อนถึง 4 ด. (ก็จะกลายเป็นหนี้ NPL)
ทางธ.ก็ส่งหนังสือทวงหนี้ และแจ้งว่าจะฟ้องฯ
ทางเจ้าของหลักประกันก็โวยวายมาทางเราให้รีบดำเนินการเคลียร์ อย่าให้โดนฟ้อง (ประมาณขู่เราเลยคะ)
เพราะเจ้าของหลักประกันเป็นข้าราชการด้วยคะ

ปวดหัวมาก อยากปล่อยให้ยึดก็ทำไม่ได้ ดอกผ่อนธ.ต่อก็ผ่อนไม่ไหว
ทั้งขึ้นทั้งร่อง ใครพอจะมีหนทางแก้ไขได้บ้างคะ
ขอบคุณคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #8605 โดย ntps
ไม่อยากผ่อนต่อแล้วคะ
แต่ปัญหาคือ หลักประกันที่เข้าแบ้งค์ เป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ


คิดใหม่นะค่ะ คุณได้เงินมาหมุน เพราะเขาให้หลักทรัพย์มาค้ำ
คุณควรระลึกถึงบุญคุณเขาบ้างนะ วันนี้คุณทำพลาด ธุรกิจไม่
เป็นดังฝัน คุณหมุนไม่ไหว ไม่อยากจ่าย เราเห็นควรให้หยุด
แต่กรณีคุณ มีคนอื่นที่เขาจะเดือดร้อนเพราะการกระทำของคุณ

เราจึงไม่เห็นด้วยค่ะ

หนี้เกิดจากตัวคุณ อย่าดึงคนอื่นที่เขาเคยช่วยคุณมาเดือดร้อน
ด้วยดีกว่าค่ะ เข้าไปเจรจากับแบงค์ เล่าปัญหาอย่างเปิดอก
น่าจะเป็นทางออกที่ดีค่ะ ส่วนมากเจ้าหนี้จะไม่อยากฟ้องและ
ยึดทรัพย์ ถ้าไม่สุดทางที่จะได้เงินคืนค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: Badmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.342 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena