Forum
webboard คนยิ้มสู้หนี้
ห้องเรื่องเล่าชาวยิ้มสู้หนี้ (ห้ามถามปัญหาหนี้)
คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท
คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
june
ออฟไลน์
ชื่อผู้ใช้งานถูกบล็อคไว้
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 853
ขอบคุณที่รับ: 732
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24569
โดย june
โห...คุณนายแก้วจ๋า เธอใช้เวลาในชั่วเวลาพริบตาเดียว ไต่สวรรค์ขึ้นมาเป็นคุณนายอย่างเดิม
พร้อมโดยการปลดหนี้อย่างขั้นเทพ เป็นแนวทางให้น้อง ๆ หลายคนได้ศึกษา
เป้ยินดีด้วยนะคะ ในสิ่งที่น้องแก้วเลือกที่จะทำ ถ้าสิ่งนั้นทำให้เราสบายใจ
แต่มีข้อแม้ว่าอย่าทิ้งชมรมของเราไปให้นานนัก หลังไมค์ของน้องแก้วได้ข้อมูลมากมาย
อ่านแล้วเพลิดเพลินดีค่ะ...
รักษาเกียรติของคุณไว้
เมื่อได้รับการปฏิบัติอย่างไม่สุภาพ...
Last edit: 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา by june .
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24571
โดย ntps
ขอบคุณค่ะคุณปูเป้
ก่อนที่เฮียเหนอจะเปิดตัวกระทู้ใหม่ แก้วจ๋านำข่าวมาเล่าที่นี่ก่อนค่ะ
วันนี้ เรื่องแรก เรื่องของดอกเบี้ยมาฝากค่ะ ดอกเบี้ยนโยบายลดแล้วค่ะ
17 ต.ค. 2555 นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันนี้ ว่า กรรมการฯ ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ในภาวะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังอ่อนแอและมีความเสี่ยงสูง นโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและ รักษาแรงส่งของอุปสงค์ในประเทศที่อาจจะอ่อนแรงลงในระยะต่อไป คณะกรรมการฯ จึงมีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3.00 เป็นร้อยละ 2.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ กรรมการฯ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.00 ต่อปี เนื่องจากเห็นว่าแรงส่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถรอดู ความชัดเจนในระยะต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า มีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.00 (แม้ด้วยมติที่อาจไม่เป็นเอกฉันท์ต่อเนื่อง) ในการประชุมรอบที่ 7 ของปีในวันที่ 17 ตุลาคม 2555 นี้ โดยแม้ว่าความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจจะยังคงมีน้ำหนักอยู่มาก แต่ด้วยเหตุผลหลายประการ ทำให้ช่วงเวลานี้อาจจะยังไม่ใช่จังหวะที่ กนง.จำเป็นต้องเร่งปรับจุดยืนด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงินในทันที ทั้งนี้ เหตุผลดังกล่าว ได้แก่ เศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มรักษาแรงส่งการขยายตัวได้จากแรงขับเคลื่อนของการ ใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การส่งออกน่าจะทยอยฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในระยะถัดไป นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.00 ในปัจจุบัน ก็ถือเป็นระดับที่ยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนการปรับตัวของค่าเงินบาทหลังการใช้มาตรการผ่อนคลายของธนาคารกลางหลัก ก็ยังไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นอุปสรรคต่อความสามารถทางการแข่งขันของภาคการ ส่งออก
อย่างไรก็ดี เชื่อว่า ทางการไทยคงจะติดตามพัฒนาการความเสี่ยงจากต่างประเทศที่ยังมีอีกหลาย เหตุการณ์สำคัญรออยู่ รวมไปถึงความก้าวหน้าของการใช้จ่ายภาครัฐ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยคงพร้อมที่จะปรับจุดยืนด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงินหากสถานการณ์ไม่เป็น ไปตามที่คาดหรือความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากนั้น คงต้องจับตาแรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจาก ฝั่งอุปทาน (ตามราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โลก รวมถึงนโยบายเพิ่มรายได้) แต่ทั้งนี้ ประเมินว่า กนง.จะยังพอมีช่องว่างสำหรับการใช้นโยบายเพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ เป็นหลักตราบใดที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์หรือที่เกิดจากการใช้จ่ายภาย ในประเทศไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน
แต่เรื่องที่ 2 เรื่องเสือเหลืองกำไรอื้อค่ะ คงมีหลายท่านอยากกระทืบมังค่ะ
ช่างทำเราได้
วันนี้ กรุงศรีกรุ๊ป (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ได้รายงานผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งสำหรับไตรมาส 3/2555 โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการขยายตัวของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในระดับที่สูง และหนี้ด้อยคุณภาพที่ลดลง
กรุงศรีกรุ๊ปมีกำไรสุทธิ 3.76 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 กรุงศรีกรุ๊ปมีกำไรสุทธิที่ 10.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554
สินเชื่อที่มีคุณภาพขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.8% คิดเป็นมูลค่า 28.0 พันล้านบาทเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2555 หรือเพิ่มขึ้น 10.4% คิดเป็นมูลค่า 71.5 พันล้านบาทจากสิ้นเดือนธันวาคม 2554 โดยธุรกิจรายย่อยยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ โดยสินเชื่อรายย่อยเติบโต 17.4% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
เงินฝากเพิ่มขึ้น 49.9 พันล้านบาท คิดเป็น 8% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้น 111.8 พันล้านบาท คิดเป็น 19.9% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2554 ขณะที่สัดส่วนของเงินฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อทวงถามต่อสัดส่วน เงินรับฝากทั้งหมด เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 51.9% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 เทียบกับที่ 42.4 % ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554
สินเชื่อด้อยคุณภาพ ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลง 1.7 พันล้านบาทจากไตรมาส 2/2555 โดยปัจจุบันอยู่ที่ 2.65% ของสินเชื่อทั้งหมด ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิยังคงอยู่ที่ระดับ 4.35%.
มร. มาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรุงศรีกรุ๊ป กล่าวว่า “ไตรมาส 3/2555 นับเป็นอีกไตรมาสหนึ่งที่ธนาคารมีผลการดำเนินงานที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยสินเชื่อและเงินฝากได้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนถึงความสามารถของธนาคารและบริษัทในเครือในการนำเสนอนวัตกรรมทั้งด้าน ผลิตภัณฑ์และบริการออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด ทั้งนี้ในช่วงเดือนมิถุนายนและสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารประสบความสำเร็จอย่างมากในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝาก “ออมทรัพย์ มีแต่ได้” และ “ออมทรัพย์ จัดให้” โดยสามารถระดมเงินฝากได้สูงกว่า 120 พันล้านบาท ท่ามกลางภาวะการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดเงินฝาก”
“สำหรับ แนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ธนาคารยังคงมีมุมมองเป็นเชิงบวกต่อทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากความต้องการในการบริโภคและลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรมาส 4 ของทุกปี ถือเป็นช่วงที่สินเชื่อมักขยายตัวได้สูงที่สุด” มร. อาร์โนลด์ กล่าว
ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศไทย มีสินเชื่อรวม 784 พันล้านบาทและสินทรัพย์รวม 1.04 ล้านล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 15.8% โดยเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 11.5%
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
Last edit: 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา by ntps . เหตุผล: เพิ่ม
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ploylyly
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 827
ขอบคุณที่รับ: 555
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24592
โดย Ploylyly
ข่าวเพิ่มเติมครับ
แบ้งก์กรุงไทย-ซีไอเอ็มบีไทยอู้ฟู่สุดๆ ยอดปล่อยกู้กระฉูดกวาดกำไรพุงปลิ้น
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการของธนาคารในไตรมาส 3 ปี 55 มีกำไรสุทธิ 8,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,423 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 62.33% โดยธนาคารมีรายได้ดอกเบี้นสุทธิเพิ่มขึ้น 1,476 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.07% สาเหตุหลักเกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 490 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,454 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.78%
"ผลประกอบการไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก และสามารถทำกำไรได้สุงสุดเป็นประวัติการณ์ 3 ไตรมาสติดต่อกัน โดยเฉพาะด้านสินเชื่อขนาดใหญ่ และสินเชื่อรายย่อย ที่มีอัตราเติบโตสุงกว่าธนาคารกำหนดไว้ ซึ่งธนาคารมั่นใจว่าในปีนี้ สินเชื่อจะเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8-10% อย่างแน่นอน
สำหรับยอดสินเชื่อของธนาคาร ณ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา อยุ่ที่ 1.52 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 96,984 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.81% จากสิ้นปี 2554 และมียอดเงินรับฝาก 1.64 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 361,681 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28.14% จากสิ้นปี 2554
ด้านนายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของะนาคาร ไตรมาส 3 ปี 55 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 1,048.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 728.72 ล้านบาท หรือ 227.93% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 1,421.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 565.1 ล้านบาท หรือ 66.0% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักในช่วงไตรมาส 3 มีส่วนแบ่งกำไรจากการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) และกำไรจากการขายหุ้นในบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของธนาคาร ขณะที่เงินให้สินเชื่อ สิ้นไตรมาส 3 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 127,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากสิ้นปี 54
อ้างอิง หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หน้า 9 ฉบับวันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2555
ทำไมมันกำไรมากมายมหาศาลจังเลยเนอะ
ถึงว่ามีแต่คนอยากเป็นหนุ่มแบ้งค์กันจัง ทั้งโก้ทั้งเก๋ดูแล้วมั่นคง แต่ผมมีเพื่อนทำงานธนาคารยุโอบี ที่ทำให้ผมต้องขึ้นศาลเป็นระดับซีเนี่ยร์สาขา ลาออกเพราะว่าการทำงานกดดันมาก ต้องไปก่อน7 โมง แถมยังต้องกลับหลัง 6 โมงอีก นับเงินขาดก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าเงินเกินก็ต้องหาให้ได้ว่ามาจากไหน แถมยังบังคับให้ขายพวกประกันและบัตรเครดิตด้วย ตอนนี้ลาออกมาแล้ว ทำงานร่วม 20 ปี เฮ้อ.......มันก็ไม่ได้สวยหรุอย่างที่เค้าว่ากันเนอะ
Last edit: 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา by Ploylyly .
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 872
ขอบคุณที่รับ: 872
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24911
โดย Lyncns31
เงินฝาก จ่าย 3 % ปล่อยแบบกรุณาสุดๆ 16%
ไม่รวยก็บ้า...ได้ครึ่งทิ้งครึ่งก็ยังรวย...พี่น้อง..
.ประกาศความสำเร็จกันใหญ่...พอเพียงเถอะ พอเพียง...
และแล้ว...หนี้ข้าก็สิ้นสุด..อิสรภาพมาถึงแล้ว.
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel , ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 827
ขอบคุณที่รับ: 555
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24914
โดย Ploylyly
วันอบรมแม่หญิงแก้วจ๋าไม่มาเลยไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเลยครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24916
โดย ntps
แบงค์ทำกำไรกระฉูดอีกแล้วค่ะ
ในจังหวะที่หลายฝ่ายกำลังจับจ้องกับปัญหาการประมูลใบอนุญาต 3 จี ในการปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน เมื่อเห็นชัดว่าวิธีการประมูลที่ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดนั้นเปิดช่องหรือเอื้อเอกชนจนไม่มีการแข่งขันราคาเกิดขึ้น และไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่าต้นทุนใบอนุญาตที่ต่ำของเอกชน จะส่งผ่านให้ค่าบริการที่ประชาชนจ่ายจะถูกลงตามที่ กสทช.กล่าวอ้างได้จริง
แม้ว่า กสทช.จะออกแถลงการณ์ว่าจะคุมอัตราค่าบริการ 3 จี ให้ต่ำกว่าค่าบริการปัจจุบัน15-20% นั้น แต่ดูเหมือนว่าเป็นความพยามยามแบบวัวหายล้อมคอก โดยที่ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาบังคับภาคเอกชนได้
ขณะเดียวกันนั้นในฝั่งของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ ที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจ ได้ประกาศลดดอกเบี้ยทั้งกู้และฝากเพื่อสนองต่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.75% เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา นำโดยธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3-36 เดือน ลงในอัตรา 0.10-0.20% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ลดอีก 0.125% มีผลตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2555
ส่วนธนาคารกรุงเทพก็ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.125% โดยดอกเบี้ย MLR อยู่ที่ 7.0% ฝั่งดอกเบี้ยเงินฝากปรับลดลง 0.125-0.25% และตามด้วยธนาคารกสิกรไทยที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.13% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำปรับลง 0.05-0.50%
การที่ธนาคารพาณิชย์ประกาศลดดอกเบี้ยน่าจะเรียกว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง แม้ว่าจะลดลงเพียง 0.125% เท่านั้นและก็เป็นปกติที่ว่าฝั่งของเงินกู้จะลดน้อยกว่าเงินฝาก ขณะที่เวลาดอกเบี้ยขาขึ้นฝั่งเงินกู้ก็จะขึ้นมากกว่าเงินฝาก
ดังนั้น เมื่อผลประกอบการ 9 เดือนปีนี้ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมา จะเห็นว่าทั้งระบบมีกำไรสุทธิ 131,124 ล้านบาท เรียกว่ากำไรท่วมท้นสูงกว่ากำไร
ทั้งปีของปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 131,071 ล้านบาท ซึ่งทุกธนาคารก็อธิบายว่าเป็นเพราะได้แรงส่งจากสินเชื่อที่มีการขยายตัวอย่างร้อนแรง
โดยเฉพาะธนาคารไทยพาณิชย์และกรุงไทยที่โชว์สถิติทำกำไร โดยไทยพาณิชย์ไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 10,025 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% สูงสุดเป็นประวัติการณ์เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิรวม 3 ไตรมาสของปี 2555 อยู่ที่ 30,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ธนาคารกรุงไทยไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิสูงสุด 8,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.33% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และ 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 22,676 ล้านบาท
แต่ที่น่าสนใจมากขึ้นคือส่วนต่างดอกเบี้ยรับสุทธิ (net interest margin) ที่เปิดเผยออกมาพบว่า แม้ธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายจะมีภาระเพิ่มขึ้นจากการจ่ายค่าต๋ง 0.47% ของฐานเงินฝาก ซึ่งเริ่มจัดเก็บเมื่อกลางปีที่ผ่านมา แต่ยังพบว่า NIM ของธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ยังสูงกว่าปีที่ผ่านมา
ที่นำโด่งเห็นจะเป็นของธนาคารกสิกรไทยซึ่งพบว่า NIM ในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 3.55% และเฉลี่ย 9 เดือนอยู่ที่ 3.57% ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์อยู่ที่ 3.23% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 3.22% และธนาคารทหารไทยอยู่ที่ 2.82% เป็นต้น
ทั้งนี้ อาจมองว่าธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายมีการบริหารธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ระดับของ NIM จึงเพิ่มขึ้น ในแง่ของผู้ถือหุ้นคงปลาบปลื้มกับศักยภาพความสามารถการบริหาร
แต่สำหรับประชาชนตาดำ ๆ คงรู้สึกทำใจลำบาก เพราะขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือเอ็มอาร์อาร์ยังอยู่ที่ 7.75% โดยที่ธนาคารพาณิชย์ยังมีส่วนต่างดอกเบี้ยรับสุทธิที่สูงขึ้น และยังทุบสถิติทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
Last edit: 12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา by ntps . เหตุผล: เพิ่ม
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24917
โดย ntps
ค่ายนี้ที่ทำกำไรมาก และประกาศเดินหน้าเป็นผู้นำด้านบัตรเครดิต
ใครที่ยังเป็นสาวก ขอให้คิดก่อนตัดสินใจค่ะ
หลังจากเปิดตัวรูปแบบการชำระเงินใหม่ภายใต้ชื่อ K-Merchant on Mobile โดยจับมือกับสายการบินนกแอร์เป็นการประเดิมพันธมิตรรายแรก เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่จากนี้ไปจะเป็นจังหวะสำคัญของการรุกตลาดบัตรเครดิต โดยเจาะตรงที่ "ร้านค้ารับบัตร" ซึ่งถือเป็นเรือธงลำใหม่ในตลาดบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย ซึ่ง "ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับ "ชาติชาย พยุหนาวีชัย" รองกรรมการผู้จัดการ แม่ทัพผู้ดูแลงานนี้โดยตรง ซึ่งจะเป็นผู้ตอบคำถามได้ดีที่สุดว่าแนวทางการเดินหน้าธุรกิจบัตรเครดิตของธนาคารจะเป็นอย่างไรต่อไป
"ชาติชาย" เล่าถึงระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ ที่เทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาผนวกกับบริการด้านการเงิน จะทำให้ร้านค้าต่าง ๆ สามารถรับชำระค่าสินค้าผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลตได้อย่าง
ง่ายดาย โดยเรียกระบบนี้ว่า mPOS (Mobile Point-of-Sale) คล้ายกับเครื่องรูดบัตรเครดิตแบบเดิม (EDC) แต่จะมีขนาดเล็กกว่ามาก และพกพาสะดวก เพียงเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเลต ก็ใช้งานได้ทันที
นี่คือหนึ่งในแผนงานเชิงรุก เพื่อขยายฐานร้านค้ารับบัตรให้มากขึ้น เพราะต้นทุนอุปกรณ์เชื่อมต่อที่แสนจะถูก ประมาณ 2,000 บาท เปรียบเทียบกับเครื่องรับบัตรแบบเดิมที่ต้องเสียค่าเช่าเดือนละ 450-1,000 บาท แถมยังต้องรักษายอดรูดบัตรให้ถึงเดือนละ 50,000 บาทอีกด้วย
"เครื่อง EDC เรามีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ 32% เป็นเบอร์หนึ่งในตลาด และยิ่งเรามี mPOS เข้ามาเพิ่ม จึงยิ่งมั่นใจว่าช่วยเพิ่มปริมาณร้านค้ารับบัตรและค่าธรรมเนียมยอดใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งจะทำให้เรารักษามาร์เก็ตแชร์ได้ต่อเนื่อง"
ธุรกิจที่น่าจะตอบสนองต่อรูปแบบการชำระเงินแบบใหม่นี้คือร้านอาหาร ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจบริการจัดส่ง (delivery) ธุรกิจขายตรง โรงเรียนสอนพิเศษ หรือแม้แต่ร้านขายของตามตลาดนัด นอกจากนี้ ยังสามารถกระจายฐานลูกค้าไปตามหัวเมือง 14 จังหวัดยุทธศาสตร์ของธนาคารได้อีกด้วย โดยเฉพาะร้านขายของฝากหรือของที่ระลึก ที่มีแนวโน้มจะให้ความสนใจกับ mPOS
ส่วนคำถามที่ตามมาคือความปลอดภัยของข้อมูลในบัตร ซึ่ง "ชาติชาย" รับประกันว่า mPOS จะไม่จดจำข้อมูลใดๆ ภายหลังจากทำรายการชำระเงินเสร็จสิ้นแล้ว เพราะข้อมูลจะถูกส่งไปที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลางของธนาคารทันที
และลูกค้าจะได้รับสลิปการชำระเงินผ่านจากอีเมล์หรือโทรศัพท์มือถือเท่านั้น หรือร้านค้าที่ซื้อเครื่องนี้ไปใช้ก็จะต้องสมัครและลงทะเบียนกับธนาคาร ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบตัวตน ลักษณะธุรกิจ การมีหน้าร้านไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือสถานที่ตั้งก็ตาม รวมถึงยังสามารถกำหนดเพดานวงเงินในการรับชำระด้วยวิธีนี้ได้ด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น
เขาบอกว่า ขณะนี้ธนาคารกำลังสร้าง "แอปพลิเคชั่น" ที่จะมาสนับสนุนกับระบบ mPOS ได้โดยตรง เพื่อให้ธุรกิจที่นำไปใช้งานสามารถสร้างหน้าต่างสำหรับชำระเงินที่เป็นของตนเองได้ เช่นธุรกิจร้านอาหารอาจจะถ่ายรูปอาหารแต่ละเมนูเข้าไปเป็นรายการในระบบ ในการคิดเงินก็สามารถกดรายการอาหารที่ลูกค้าสั่งจากหน้าเมนูที่ป้อนเอาไว้ ระบบจะคำนวณเงิน และถ้าลูกค้าเลือกชำระด้วยบัตรเครดิตก็สามารถรูดจากเครื่องได้ทันทีเลย
ยิ่งกว่านั้น เพื่อให้ง่ายสำหรับลูกค้าธุรกิจที่จะนำระบบนี้ไปใช้กับร้านค้าได้เร็วขึ้น ธนาคารก็กำลังทำแพ็กเกจนี้ร่วมกับผู้จำหน่ายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนบางรายให้สามารถจำหน่ายโทรศัพท์สมาร์ทโฟน พร้อมกับอุปกรณ์ต่อเชื่อมสำหรับชำระเงินและซิมการ์ดไปด้วยเลย ทั้งหมดนี้ในราคาเท่ากับค่าเครื่องโทรศัพท์
"เราเชื่อมั่นว่า อุปกรณ์เชื่อมต่อสำหรับการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเลต จะได้รับความนิยมสูงในอนาคต ทั้งธนาคารผู้ให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมี 2 แห่งในไทย และธุรกิจร้านค้า ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ซึ่งจะสามารถเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนผ่านบัตรเครดิตให้มากกว่า 9 แสนล้านบาท อย่างในสหรัฐอเมริกา เริ่มใช้ mPOS ในปี 2552 ปัจจุบันมีเม็ดเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นถึง 8 เท่าตัว จาก 1,000 ล้านเหรียญเป็น 8,000 ล้านเหรียญ"
ชาติชายยังเล่าถึงแผนเกี่ยวกับธุรกิจบัตรเครดิตเพิ่มเติมอีกว่า ธนาคารเตรียมจะนำเทคโนโลยีเพย์เวฟ (pay wave)
ให้กลับมาโปรโมตอีกครั้ง ซึ่งเป็นระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส เพียงแค่ยื่นบัตรไว้ใกล้ ๆ เครื่องรับสัญญาณก็จะทำธุรกรรมชำระเงินได้ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งธนาคารมีบัตรเครดิต K-Wave อยู่แล้วก็จะโปรโมทการทำธุรกรรมแบบ touch and go
ยิ่งกว่านั้น โปรเจ็กต์นี้จะมาพร้อมกับการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ที่ชื่อ Near Field Communication (NFC) หรือก็คือนำวิธีระบบ touch and go ให้มีอยู่ในโทรศัพท์มือถือเกือบทุกรุ่นและฝังลง
ในบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ซึ่งจะเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การชำระเงินยุคใหม่ให้ง่ายยิ่งขึ้น
"Touch and Go น่าจะเริ่มบูมในปีหน้า เพราะมีอุปกรณ์รองรับเยอะ และเป็นระบบเดียวกับบัตรสแกนบนรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT ซึ่งมีหลายธุรกิจเริ่มหันมาใช้ระบบชำระเงินแบบนี้ และร้านค้าหลายรายมีเครื่องรับชำระเงินแบบสแกนด้วย"
นี่คือสัญญาณการปรับโฉมของธนาคารกสิกรไทย เพื่อรับมือการแข่งขันทั้งจำนวนบัตรเครดิตและร้านค้ารับบัตร เพื่อกรุยทางสู่การเป็นเบอร์ 1 ในตลาดบัตรเครดิตอย่างครบถ้วนรอบด้าน ปีหน้าคงเห็นการเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้อีกมากมาย ต้องจับตาดูต่อไป...
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ploylyly , Champcyber99
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 827
ขอบคุณที่รับ: 555
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24919
โดย Ploylyly
งัดกลยุทธมาดูดเงินกันใหญ่เลยนะ สำหรับแมงเม่าทั้งหลาย
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
12 ปี 1 สัปดาห์ ที่ผ่านมา #24933
โดย ntps
มาอีก 1 กับดักค่ะ
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า “จากการศึกษาทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในปัจจุบันพบว่า ในช่วงครึ่งปีแรกคอนโดมิเนียมได้รับความนิยมสูง ดังนั้นที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง จึงมีสัดส่วนของคอนโดมิเนียมสูงถึง 47% เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด โดยมีคอนโดมิเนียมสร้างใหม่เพิ่มขึ้นถึงราว 36,000 ยูนิต ซึ่งหากแบ่งตามสัดส่วนแล้ว คอนโดมิเนียมที่มีราคาประมาณ 1-3 ล้านบาทนับเป็นตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดคิดเป็น 62% ของตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวม ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม โดยพิจารณาปัจจัยในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมจากความสะดวกสบายในบริเวณที่มีรถไฟฟ้า รวมทั้งเส้นทางส่วนต่อขยายของทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT และระยะเวลาการผ่อนชำระยาว อัตราการผ่อนชำระต่อเดือนที่สอดคล้องกับรายได้”
“ธนาคารกรุงศรีได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการแข่งขันในตลาดลูกค้ากลุ่มวัยทำงาน ซึ่งพิจารณาเลือกใช้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยจากข้อเสนอในเรื่องของวงเงินสินเชื่อ ยอดการผ่อนชำระในแต่ละเดือน อัตราดอกเบี้ย และอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมทั้งระยะเวลาและกระบวนการในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่ออีกด้วย ธนาคารจึงได้พัฒนาและต่อยอดโครงการ ‘สินเชื่อคอนโด ได้เยอะ ดอกต่ำ’ หลังจากประสบความสำเร็จจากโครงการสินเชื่อเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมในในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยยังคงมอบข้อเสนอพิเศษ ด้วยวงเงินกู้สูงสุด 100% เต็ม พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 6 เดือน ฟรีค่าสำรวจและประเมินหลักประกัน และค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรมสัญญาฯ โดยมีโครงการคอนโดมิเนียมที่ร่วมโครงการเพิ่มขึ้นเป็น 600 แห่งทั่วประเทศ” นายวิชิต กล่าว
โครงการ ‘สินเชื่อคอนโด ได้เยอะ ดอกต่ำ’ จากธนาคารกรุงศรี มอบความพิเศษด้วยวงเงินกู้สูงสุด 100% พร้อมอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 6 เดือน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2555 นี้
โปรดระวังอะไรๆ ที่ซ่อนอยู่ โปรดใช้วิจารณาญาณใน
การอ่าน และตรวจสอบเงื่อนไข อย่าหวั่นไหวแค่คำโฆษณาค่ะ
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel , Ploylyly , Champcyber99
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 827
ขอบคุณที่รับ: 555
Nok2865
ออฟไลน์
ชื่อผู้ใช้งานถูกบล็อคไว้
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1751
ขอบคุณที่รับ: 3825
12 ปี 6 วัน ที่ผ่านมา #25004
โดย Nok2865
พี่สาวแสนดี...
พี่แก้วไม่เคยเบื่อหน่ายในการช่วยเหลือชมรมเลย
บัวยังไม่ได้ครึ่งของพี่แก้วเลยค่ะ
ไม่รู้จะพูดอะไรดี
รักพี่แก้วมากๆ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ
มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
12 ปี 6 วัน ที่ผ่านมา #25025
โดย ntps
อย่าไปนับการกระทำเลยค่ะ แค่พอใจ สุขใจ ที่ช่วยให้บางคนหัวเราะได้
ก็เกินพอแล้วค่ะ แม้จะมีบางคนอาจไม่เข้าใจ แต่ไม่คิดมากค่ะ จะท้อก็เพราะ
ระบบชอบเด้ง ต้อง log in บ่อยๆ นี้แหละ
ไม่ว่าคุณแม่ลูกดกจะลอยไปไหนต่อไหนก็ตาม คิดว่าเธอคงไม่ลืมแวะมาอ่านนะค่ะ
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Nok2865
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 1071
ขอบคุณที่รับ: 1257
12 ปี 4 ชั่วโมง ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 ชั่วโมง ที่ผ่านมา #25303
โดย Champcyber99
สวัสดีครับคุณแก้ว อาการแพ้ๆๆ หายหรือยังครับ
พูดถึงคนที่มีอาการแพ้ มันคงเป็นไปตามอากาศใช้ไหมครับคุณแก้ว
พอดีผมไม่มีอาการแพ้อะไรครับ แพ้แต่ ม.สละ.ื
คุณแก้วสบายดีนะครับ
Last edit: 12 ปี 3 ชั่วโมง ที่ผ่านมา by Champcyber99 . เหตุผล: เพิ่มเติม
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #25376
โดย ntps
ช่วงใกล้สิ้นปีนี้ ดีกว่าปี 54 เยอะเลย อย่างแรก ใกล้หมดหนี้ที่ต้องจ่าย
ประมาณกลางปี 56 บรรยากาศเงียบดี ไร้คนติดตาม เงินที่ควรจะได้
เมื่อปี 54 เพิ่งได้รับตกเบิกเดือนต. ค ที่ผ่านมาค่ะ จึงอยากหวังและขอ
ให้ผ่านปี 55 ไปด้วยดี อย่าได้เกิดอุปสรรค ปัญหาไม่ว่าเรื่องใดอีกเลย
จะได้มีเงินเก็บเป้นกอบเป็นกำ ไว้เลี้ยงชีพในยามตกงาน
ได้รับเมล์เรื่อง 3G ซึ่งหากเป็นละครคงอมตะนิรันดร เป็นตำนานมาแสน
นาน เพิ่งอ่านจึงเข้าใจ แต่ไม่รู้แม่นแค่ไหน เลยนำมาฝากอ่านค่ะ แต่ไม่
ใช่เพราะจะซื้อมาใช้ แค่อ่านเป็นความรู้ค่ะ แม้มีเงินเพิ่มแต่ยังไม่คิดจะรีบ
ใช้เงินค่ะ
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
Last edit: 11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา by ntps .
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: june
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #25377
โดย ntps
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
Last edit: 11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา by ntps .
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel , Ploylyly
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #25380
โดย ntps
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel , Ploylyly
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ntps
ผู้เขียนหัวข้อ
ออฟไลน์
อดีตกรรมการ
น้อย
เพิ่มเติม
จำนวนโพสต์: 2115
ขอบคุณที่รับ: 3080
11 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #25381
โดย ntps
ท่าน Goku มาร่วมเป้นดารารับเชิญด้วยนะค่ะ
ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89 , Mommyangel , Ploylyly , june , Lyncns31 , nida
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
Forum
webboard คนยิ้มสู้หนี้
ห้องเรื่องเล่าชาวยิ้มสู้หนี้ (ห้ามถามปัญหาหนี้)
คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.263 วินาที