เรื่องเล่าชาวหนี้ จากใจกรรมการชมรม

12 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #901 โดย 0834368962
ขอเริ่มต้นจากผู้อาวุโสของชมรมก่อน เพื่อเป็นกำลังใจและเป็นความรู้ให้กับ "ชาวยิ้มสู้หนี้"
เริ่มจากพี่ Greeny พี่กรีนนี่
ย้อนรอย..ทุกคดีที่ไปศาล /รายงานสถานะหนี้

คดีแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

ทหารไทย คดีแรกของผม

คำฟ้องของทหารไทย แบบ ย่อๆ เป็นอย่างนี้

…จำเลยผิดสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี โจทก์บังคับจำเลยให้ชำระหนี้เงิน 86,xxx บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 18 ต่อปี ของต้นเงิน 75,xxx บาท นับแต่ถัดจากวันฟ้อง…

คำให้การของผม ย่อเหมือนกัน

…ธนาคารมีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด (15%) ฉะนั้นโจทก์ไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยกับจำเลย เนื่องจากเป็นดอกเบี้ยที่ผิดกฎหมาย ตกเป็นโมฆะ ยอดเงินที่ชำระไปแล้วทั้งหมดให้นำไปหักเงินต้น เหลือยอดที่จำเลยต้องชำระแก่โจทก์ 3x,xxx บาท ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความขอให้เป็นพับ…

ดีใจนะที่คำให้การออกมาได้แบบนี้ ไม่ใช่ดีใจที่ต้องจ่ายน้อยลง มันเป็นความแปลกใจมากกว่า ณ ตอนนั้นคิดในใจว่า ถ้าไม่ได้มาปรึกษาหารือ หรือได้แนวความคิดแก้หนี้ด้วยกฎหมายจากคุณอาไพโรจน์ เราก็คงไม่ได้รู้ว่า จำเลยสามารถยื่นคำให้การแย้งโจทก์ได้ เพราะไม่เคยรู้กฎหมายพวกนี้เลย ปกติเราจะชินกับการเห็นยอดหนี้ที่ต้องชำระในใบแจ้งหนี้ แล้วเราก็โอเคตามนั้น พอได้รู้ได้เห็นก็หวังเหมือนกัน ไม่ผิดอะไรนี่ ทำตามกฎหมายทุกอย่าง คิดว่ายังไงก็ต้องได้จ่ายตามที่ยื่นคำให้การนี่แหละ

แต่…คุณอาบอกว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ศาลแต่ละท่านก็มีแนวทางของตัวเอง ดุลยพินิจ การวินิจฉัยข้อกฎหมายอาจแตกต่างกันไปได้ เรื่องยื่นคำให้การก็เป็นสิทธิของเราที่จะชี้แจง แต่คำตัดสินเป็นของท่าน และอีกด้าน ท่านก็ต้องดูคำฟ้องและหลักฐานของโจทก์ด้วย ผลจะออกมายังไง ต้องยอมรับ เพราะยังไงเสีย ลูกหนี้ ก็ต้องใช้หนี้ ซึ่ง ...ผมเข้าใจ และยอมรับ

พอถึงวันนัด เดือน สิงหา 48

อ่านเรื่องเต็มๆ ของพี่ Greeny พี่กรีนนี่ ได้จาก.... www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=347&Itemid=29

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
กระทู้นี้โดนล็อคเรียบร้อยแล้ว!!
12 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #902 โดย 0834368962
เรื่องเล่าชาวหนี้ 'ชีวิตหนี้ของข้าพเจ้า' - คุณเก่ง FamilyMan

บทที่ 1. ชีวิตในวัยเยาว์ (ยังไม่เกี่ยวกับหนี้ของผม)

ชีวิตผมเริ่มต้นในครอบครัวที่ค่อนข้างลำบาก พ่อเป็นคนเชียงใหม่ แม่เป็นคนเชียงราย ทั้งสองมาเจอและรักกันที่กรุงเทพ ตอนที่ท่านแต่งงานกันใหม่ๆไม่มีบ้านอยู่ ต้องไปขอความช่วยเหลือจากป้า(พี่สาวของพ่อ) ขออาศัยบ้านเค้าอยู่ ตอนนั้นพ่อกับแม่ผมทำงานโรงแรม แม่ตื่นแต่เช้ามาช่วยป้าทำกับข้าวขาย เนื่องจากป้าผมขายข้าวแกง พอเริ่มมีลูก พ่อกับแม่ของผมก็ทำงานสลับกะกัน พ่อทำงานกะกลางคืน เพื่อที่ตอนกลางวันจะได้ดูแลลูก ส่วนแม่ทำงานกะกลางวัน เพื่อที่จะต้องช่วยงานป้า และดูแลลูกตอนกลางคืน สลับกันไปแบบนี้ ครอบครัวผมมีพี่น้อง 3 คน ผมเป็นคนกลาง และเป็นลูกชายคนเดียว พี่กับน้องเป็นผู้หญิง เนื่องจากครอบครัวผมมีเชื้อจีน ครอบครัวผมถึงแม้จะไม่สบายแต่พ่อแม่ก็ให้ความสำคัญเรื่องการศึกษา พ่อแม่ผมจบแค่ มศ.4 เองครับ ท่านก็ยังอุตสาห์พยายามส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนฝรั่ง แถวบางรัก (ถ้าบอกชื่อไปทุกคนต้องรู้จักแน่เลยครับ) พี่สาวกับน้องสาวผมก็เรียนโรงเรียนฝรั่งเหมือนกัน พอลูกๆเข้าเรียน คราวนี้รายจ่ายในบ้านเริ่มเยอะกว่ารายรับแล้ว เพราะมีลูกตั้ง 3 คน แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยบ่นให้ลูกๆฟังซักคำ สุดท้ายไม่ไหวจริงๆ พ่อผมจึงต้องดิ้นรนไปทำงานต่างประเทศ ตอนแรก็ไปซาอุดิอาระเบีย แต่อยู่ไม่ไหวเนื่องจากอากาศร้อนมากๆ ตอนหลังไปอยู่หมู่เกาะเบอร์มิวด้า ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ในโรงแรม ได้ทิปค่อนข้างเยอะ เมื่อพ่อไปทำงานต่างประเทศรายได้ของพ่อผมเยอะครับ สมัยนั้น 50,000 บาท ต่อเดือน เมื่อสมัย 20 - 30 ปีก่อน แต่พอหักค่าใช้จ่ายที่นั่นก็พอมีเงินเหลือกลับมาให้ที่บ้านพอสมควร พอพ่อไม่อยู่ ภาระการเลี้ยงดูตกอยู่ที่แม่คนเดียว ตอนเช้าต้องรีบตื่นมาช่วยป้าทำกับข้าวไว้ขาย ทำเสร็จก็รีบปลุกพวกเรา 3 คนพี่น้องให้แต่งตัว แล้วกระเตงขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียน แม่อุ้มน้องคนเล็ก จูงผม และก็ต้องคอยบอกพี่ให้เดินอยู่ใกล้ๆๆ ชีวิตเป็นแบบนี้อยู่พักนึงเหมือนกัน จนพ่อปรับตัวได้ เงินที่ส่งมาให้ที่บ้านก็เยอะขึ้น คราวนี้ก็เริ่มเก็บเงินซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ความเป็นอยู่ที่บ้านก็เริ่มดีขึ้น

อ่านเรื่องเต็มๆ ของคุณ FamilyMan ได้จาก.... www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=868&Itemid=29

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
กระทู้นี้โดนล็อคเรียบร้อยแล้ว!!
12 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #1561 โดย 0834368962
ชีวิตหนี้ของคุณ Badman หรือ คนเลวของ Bank (กรรมการชมรมรุ่นแรก)




เรื่องเล่าชาวหนี้ :ชีวิตหนี้ของตัวเอง ตอนที่ 1

เดิมทีผมก็เป็นคนๆหนึ่ง ที่พอมีพอกิน ตอนนั้นเงินเดือน 7500.- ก็ทำบัตรใบแรกในชีวิตคือ KTC ทำงานบริษัททำเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น ส่งตามห้างสรรพสินค้า ทำงานดีจนปรับให้เป็น 8000.- ทำเรื่อยๆ อีก 1 ปี หุ้นส่วนเกิดแตกมีปัญหาภายในชาวญี่ปุ่นถอนหุ้น เจ้านายท่านนี้ใจดีมีคุณธรรม ถือหุ้นหลายบริษัทใหญ่ๆ บอกไปก็ร้องอ๋อ กับเจ้าของประโยคคลาสสิคตลอดกาล ไม่มี...ไม่หนี....ไม่จ่าย...ไม่โกง
สอนอะไรให้ผมมากมายเช่น
1. การใช้ชีวิตหลายเรื่อง
2. การใช้บัตรพลาสติก
3. ทักษะการต่อรองกับเจ้าหนี้แบบมีชั้นเชิง คุยไม่รู้เรื่องบุกไปหาถึงที่
4. การยื้อ เตะถ่วง ดึงเรื่องต่างๆ
5. การตีทรัพย์สินใช้เจ้าหนี้
6. สุดยอดไม้ตายก้น***บ การเจรจาชำระหนี้แบบมีส่วนลดปิดบัญชี(Hair Cut) ซึ่งมาดัดแปลง+ต่อยอดมาใช้ในการปิดบัญชีหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อในปัจจุบัน

ท่านไม่เคยสอนให้คดโกงเจ้าหนี้ แต่สอนให้มีชีวิตรอดกับสภาวะล้มละลายเป็นหนี้นับพันล้านบาท ให้เหลือชีวิตรอดให้ได้ อย่าใช้หนี้จนไม่มีจะกินเด็ดขาด

ต่อมาได้งานใหม่ใกล้บ้านทำหลายอย่างเจ้านายก็ดีก็ได้รถมาขับคันหนึ่ง ก็ใช้บัตรเติมน้ำมันก็ดี ใช้เหมือนเดิมคือใช้เท่าไหร่ก็สิ้นเดือนจ่ายหมดไม่มียอดค้าง ชีวิตการทำงานก็ลุ่มๆดอนๆ แต่มีบางสิ่งที่ผมต้องเป็นหนี้ล้นพ้นตัวคืออะไร? มาแบบไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้ใช้แสตนด์อิน ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษ เจ็บจริง

-ติตตามตอนต่อไป-


อ่านเรื่องเต็มๆ ของคุณ BadMan ได้จาก.... www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=1517&Itemid=29

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
กระทู้นี้โดนล็อคเรียบร้อยแล้ว!!
12 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #1579 โดย 0834368962
เรื่องราวชีวิตหนี้ของคุณกอบัว ไอดอลของใครหลายๆ คน
โดยเฉพาะ เส้นทางปิดหนี้กอบัว ใบที่สอง KTC Revole บัตรกดเงินสด ปิดได้เพราะทำนม

ของบัวมีทุกบัตรเลยของเจ้าหนี้สถาบันนี้ ยอดรวม 150,000 บาท (ยอดตอนหยุด)
แล้วเจ้านี้ยังชอบฟ้องรวมทุกบัตรด้วย ตอนแรกสยดสยองมาก จะทำยังไงฟ่ะ
อาศัยอ่านจากพี่ๆในนี้ เยอะๆ ก็เลยร้อง อ๋อ.... และทำตามพี่ๆแบบตามรอยเท้าเป๊ะ
ปิดยอดตัวน้อยๆก่อน และดูส่วนลดประกอบ แต่ส่วนลดถึงจะสำคัญ แต่ก็ดูความพอใจของเราด้วย ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร
KTC บัตรสีส้ม กดเงินสดของบัวตัวนี้ ยอดอยู่ที่ 35,000 (น้อยที่สุดแล้วนะเนี้ย) ได้ปิดกันที่ 25,000 ผ่อนสองงวดๆแรก สิ้นเดือนกันยานี้ 10,000 งวดสอง 15,000 บัวก็โอเค ได้เอกสารยืนยันมาเรียบร้อยแล้ว

บัวอยากจะเล่าความขำๆ ของการขอปิดยอดเจ้านี้ให้ฟัง ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ เล่าสู่กันฟัง
ก่อนหน้านี้บัวพึ่งจะปิดยอดของ Power buy ไปหมาดๆ ยังไม่ได้หายใจเลย KTC เสนอมาทีแรก 29,000 แต่บัวบอกไม่ไหว กำลังปิดอีกตัวอยู่ ฝากดูแลบัญชีให้พี่ด้วย ถ้าได้ยอดน้อยกว่านี้ ก็โทรมาบอกกันนะคะ
หายไป ติดต่อมาอีกให้ 27,000 บัวไม่เอา มีธงในใจ ต่อมาให้ 25,000 บัวขอผ่อนสองงวด จนท.บอกไม่ได้ ให้เต็มที่แล้ว
พอดีอารมณ์ตอนนั้น เหนื่อยกับการปิดยอดเจ้าแรกซึ่งสูงพอควร (60,000) และกำลังจะตกงาน ที่ทำมากว่าสิบสามปี จากที่มีกำลังใจได้แฮร์คัทมาใบ บัดนี้มาตกงาน ช้ำใจมาก
กำลังเหนื่อยกับการเก็บข้าวเก็บของย้ายกลับบ้าน ร่ำลาเจ้านาย
มีเงินอยู่ในมือ อยากปิด อยากใช้หนี้ แต่กำลังบ่จอย ขอสองงวดไม่ได้ เลยพูดไปว่า "ไม่ได้สองงวด ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ไหว หาเงินให้ไม่ทัน พี่จะเอาเงินที่ตั้งใจจะใช้หนี้เนี้ย ไปทำนม เขากำลังมีส่วนลดพอดี"
เจ้าหน้าที่ KTC : !!!!!!!
ก่อนจะพูดออกมาว่า " ห๊า...ทำนม"



เออ...ทำนม เบื่อไม่อยากใช้หนี้แล้ว พี่เหนื่อยเต็มที พี่จะรอขึ้นศาลเลย แต่ตอนนี้ขอสวยตู๊ม ตูมไว้ก่อน
ได้ยินเสียงจนท.หายใจยาวๆ....เงียบไปอึดใจหนึ่ง แล้วบอกว่า "ตกลงพี่ ผมเห็นใจพี่ สองงวดก็สองงวด"
บัวเลยปิดเจ้านี้ด้วยการอดทำนม 555[/color][/color]

อ่านเรื่องเต็มๆ ของคุณกอบัว ได้จาก.... www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=1099&Itemid=29

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
กระทู้นี้โดนล็อคเรียบร้อยแล้ว!!
12 ปี 10 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #1580 โดย 0834368962
คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท
มูลหนี้ที่ไม่น้อย สำหรับมนุษย์เงินเดือน เรื่องราวชีวิตหนี้ของคุณแก้วจ๋า (รองประธานฯ)

ที่มาของหนี้
ตั้งแต่เล็กจนโต และจนทำงาน ชีวิตก็ประมาณคุณหนู อยากได้อะไรก็ได้อย่างนั้น เคยมีบัตรเครดิตใบแรกเมื่อตอนคุณพ่อส่งออกนอกราชอาณาจักรไทยไปอยู่เกาะใกล้ๆๆ จำได้ว่าเป็นบัตรเครดิต AMEX (วีรกรรมกับแบงค์นี้จำจนตาย) เป็นบัตรเสริมจำกัดวงเงิน เผื่อลูกตกระกำลำบาก ส่งเงินให้ไม่ทัน จะได้รูดสบายๆๆ พอเข้าทำงานก็ทำงานกับบริษัทระดับชาติ สารพัดแบงค์จึงกรูเข้ามาเชิญทำบัตรพลาสติก ต่างก็บอกว่า พี่ไม่ต้อง น้องทำให้ พี่แค่เซ็นชื่อและเตรียมเอกสารให้น้อง ทุกอย่างเป็นอันสำเร็จน้องๆ นักขาย จนบางครั้งเรายังบอกว่า พี่มีมากแล้วนะ น้องบอก ไม่เป็นไร ช่วยน้องทำยอด จนสุดท้าย พี่ก็ตายเพราะความใจอ่อน ทำให้พี่ได้บัตรเครดิตรวมสินเชื่อทั้งหมด 33 บัญชี กับ 18 ธนาคาร ทะลุเป้ามากค่ะ นี้คือคำตอบของที่มาของมูลหนี้ 4ล้านกว่าบาท เหตุผลที่ตกผลึกวันนี้ เพราะแก้วจ๋าทำผิดวินัยการเงินแบบนี้ค่ะ

1 ทุกบัญชีใช้อย่างเต็มที่ คิดดูว่า ถ้าบัตรใบหนึ่งวงเงิน 100000 บาท ใช้เต็มที่ หนี้ก็คงประมาณนี้ค่ะ เพราะตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่นักลงทุน ไม่ได้ซื้อทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน เลยสักนิด (มีแต่ของใช้ส่วนตัวที่ไม่มีค่า ที่ซื้อมาอย่างไร้สติตอนนั้น)
2 แก้วจ๋าก็เป็นเช่นสมาชิกท่านอื่นๆ ที่หลงทาง เลือกที่จะแก้หน้ามากกว่าแก้ไข พอจนตรอกก็ใช้บัตรเหล่านี้มากดเงินครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่รู้ว่า กด 1ครั้ง แบงค์ก็กินดอกไปแล้ว 3% แต่ตอนนั้นหน้ามืด มีแต่ความกลัว แทนที่จะหาข้าวใส่ท้องตัวเองกลับนั่งเครียดนอนเครียดหาเงินไปจ่ายให้แบงค์รวยๆ พวกนี้ให้ทันกำหนดเส้นตายในแต่ละเดือน
3 การรวมหนี้หวังหมดหนี้ กลายเป็นเพิ่มหนี้ค่ะ ไปขอสินเชื่อเพิ่ม และ refinance รถ เพื่อหาเงินมาปิดกลับปิดไม่ได้ ทำให้หนี้งอกงามมากค่ะ และ
4 การจ่ายขั้นต่ำ ทำให้ดอกเบี้ยได้ปุ๋ยดี แบงค์ชอบค่ะ แต่เรากรอบ หนี้บาน
ส่วนทำไมต้องใช้จ่ายเกินตัวขนาดนี้ คงตอบว่า ถ้าตัวคนเดียวคงไม่สร้างหนี้ขนาดนี้ แต่ไม่โทษคนอื่น โทษตัวเองที่คิดว่า เอาอยู่ (ขอใช้วาทะคำพูดแห่งปี)แต่สุดท้ายไม่อยู่ เมื่อวันที่วิกฤติปี 52 มาเยือน จึงทำให้ล้มทั้งยืน


อ่านเรื่องเต็มๆ ของคุณแก้วจ๋า ได้จาก.... www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=822&Itemid=29

กรรมการชมรมไม่ใช้เทวดา
ชี้ได้แต่เส้นทาง สมาชิกต้องกระทำเอง
กระทู้นี้โดนล็อคเรียบร้อยแล้ว!!
ผู้ดูแล: Badmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.451 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena