หมายศาล...จะถูกส่งไปที่ไหน?

12 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 5 ปี 9 เดือน ที่ผ่านมา #6974 โดย jackTs
"หมายศาล" จะต้องถูกส่งไปยังที่อยู่ของผู้ที่ถูกฟ้อง(บ้าน/ภูมิลำเนา ของจำเลย)ณ ปัจจุบันเท่านั้น...จึงจะถูกต้องตามขั้นตอนของกฏหมาย

ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์(เจ้าหนี้) ก่อนที่จะทำการฟ้องลูกหนี้(จำเลย)ให้เป็นคดีความ โจทก์จะต้องทำการเช็คทะเบียนบ้านของลูกหนี้ให้ Update และถูกต้องตามความเป็นจริงเสียก่อน ว่าลูกหนี้ที่โจทก์จะทำการฟ้องผู้นั้น อยู่ที่ใดตามทะเบียนบ้านที่ถูกต้อง ณ ปัจจุบัน โดยการไปเช็คข้อมูลที่อยู่ของลูกหนี้ ที่"กองทะเบียนราษฎร์" สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้ถูกต้องเสียก่อนที่จะส่งเรื่องฟ้อง...มิฉะนั้น อาจเข้าข่าย"ฟ้องผิดสถานที่"ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

หมายศาล จะมีลักษณะที่เป็นชุดกระดาษหนาเป็นปีกๆ (มีจำนวนกระดาษหลายๆแผ่น จึงทำให้ดูหนามากๆ)







และการปิดหมายศาลดังกล่าว จะต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของศาล (แมสเสนเจอร์ศาล) เป็นผู้นำส่ง
ไม่ใช่กระทำโดยฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายเจ้าหนี้ เป็นผู้นำส่ง โดยเจ้าหน้าที่ของศาลผู้นำส่งหมาย จะนำเอาหมายศาลมาผูกเชือก แล้วทำการหาที่แขวนหรือที่ผูกห้อยไว้ที่บริเวณหน้าบ้านของจำเลย เช่นที่ประตูบ้าน หรือที่บริเวณประตูรั้วหน้าบ้าน โดยไม่มีการใส่ซองใดๆทั้งสิ้น (คล้ายๆกับการแขวนประจานให้จำเลยต้อง
รับรู้/รับทราบ และเห็นได้ชัดๆ)
เช่นการแขวนเอาไว้ดัง"ตัวอย่าง"ในภาพนี้ เป็นต้น









แต่ในบางครั้ง หากบ้าน/ภูมิลำเนา ของจำเลยนั้น ไม่ปรากฏโดยชัดเจน(เช่นปรากฏว่าจำเลยมีที่อยู่ใน"ทะเบียนบ้านกลาง") ทางโจทก์ก็สามารถร้องต่อศาลให้จัดส่งหมายศาล ไปยังที่ทำงานของจำเลย หรือจัดส่งหมายศาลไปยังที่อยู่ของจำเลย ตามที่จำเลยได้เคยให้ข้อมูลไว้ในใบสมัคร ก็ได้

ถ้าโจทก์ส่งหมายศาลไปสถานที่ไหน จำเลยก็ต้องไปขึ้นศาล ณ.ศาลที่อยู่ในเขตพื้นที่นั้นๆรับผิดชอบอยู่
นี่คือขั้นตอนการนำส่งหมาย"ตามปกติ"นะครับ (ซึ่งส่วนใหญ่เกือบ 100% เขาก็จัดส่งแบบนี้กันทั้งนั้น)

แต่ถ้านำส่งหมายฟ้อง แบบ"ไม่ปกติ"ล่ะ...จะเป็นยังไง?

ก็เป็นตามในข้างล่างนี้ไงล่ะ

ถ้าหากจำเลยมีสถานที่อยู่โดยชัดเจน แต่โจทก์ได้ร้องขอต่อศาลให้จัดส่งหมายศาลไปยังสถานที่อื่นๆ ซึ่งมิใช่บ้าน/ภูมิลำเนาของจำเลย และจำเลยไม่สะดวกในการเดินทางไปศาลตามที่โจทก์กำหนด จำเลยสามารถร้องขอต่อศาลได้ว่า...โจทก์มีเจตนากลั่นแกล้งจำเลย และโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอนของ"การนำส่งหมาย"ที่ถูกต้องดังนั้น จำเลยสามารถร้องขอต่อศาล ให้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงสถานที่ในการพิจาณาคดีใหม่ได้ (ในกรณีที่ยังไม่ถูกพิพากษา) หรือร้องขอต่อศาลให้มีการหยิบยกการพิจาณาคดีขึ้นมาใหม่ (ในกรณีที่ถูกศาลพิพากษาแล้ว) โดยจำเลยต้องอ้างว่า...จำเลยไม่ได้รับหมายศาล เนื่องจากโจทก์ได้ร้องขอให้จัดส่งหมายศาลไป"ผิดที่" จึงทำให้จำเลยไม่ได้รับทราบหมาย และขาดโอกาสในการต่อสู้คดี พร้อมกับขอให้โจทก์ทำการจัดส่งหมายให้ใหม่อีกครั้ง ให้เป็นไปตามภูมิลำเนาที่ถูกต้อง และให้มีการรื้อฟื้นการพิจาณาคดีขึ้นมาใหม่ ตามภูมิลำเนาที่จำเลยปรากฏหลักฐานตามทะเบียน
จึงทำให้การฟ้องในครั้งที่ผ่านมานั้น ต้องเป็นอัน"โมฆะ"ตามข้อกฎหมายในทันที

เคยมี"ตัวอย่าง"ในกรณีนี้ เกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่ง มีบ้าน/ภูมิลำเนา อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งแต่เกิด แต่เธอมาทำงานอยู่ที่กรุงเทพตั้งแต่ปี 2548 โดยอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อนที่รู้จักกันในกรุงเทพ

ปี 2550 เธอได้สมัครทำสินเชื่อที่กรุงเทพ โดยกรอกที่อยู่ในใบสมัครเป็นที่อยู่ของเพื่อนเธอ เพื่อให้เจ้าหนี้ทำการจัดส่งเอกสาร"ใบแจ้งหนี้"มาให้เธอทราบเป็นระยะ...โดยในใบสมัคร เธอก็ได้ระบุที่อยู่ตามทะเบียน ที่เชียงใหม่ พร้อมกับแนบสำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประชาชน ไปพร้อมกับใบสมัครด้วยหลังจากนั้น เธอก็เริ่มมีปัญหาด้านเศรฐกิจ ทั้งตัวเธอเอง และบริษัทที่เธอทำงานอยู่ต่อมา...บริษัทที่เธอทำงานได้ปิดกิจการลง(เจ๊ง) เธอตกงาน และต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ตามเดิม...โดยไม่มีเงินมาจ่ายหนี้สินเชื่อที่ค้างชำระอยู่ผ่านไป 3 ปี...เธอได้รับข่าวแจ้งจากเพื่อนในกรุงเทพ ที่เธอเคยไปพักอาศัยอยู่ในบ้านของเขา ว่ามีหมายศาลส่งฟ้องเธอมา และให้เธอไปขึ้นศาลวันที่ xx เดือน xx ปี 25xx โดยต้องไปขึ้นศาลที่ศาลแขวงพระนครใต้(จังหวัดกรุงเทพฯ)

เธอตกใจต่อข่าวนี้มาก...เธอได้โทรปรึกษาทนาย และทนายก็ได้แนะนำให้เธอไปชี้แจงต่อศาล(ที่ศาลแขวงพระนครใต้) ว่าเธอมีหลักฐานว่าตัวเธอเอง มีบ้าน/ภูมิลำเนา อยู่ที่เชียงใหม่มาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลงที่อยู่เลย และเธอมีความประสงค์จะต่อสู้คดี แต่เธอไม่สะดวกที่จะเดินทางมาพร้อมกับทนายความ (ทนายความก็อยู่ที่เชียงใหม่เหมือนกัน) เพื่อสู้คดีที่กรุงเทพ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และค่าจ้างทนายให้มาสู้ความที่กรุงเทพก็แพงมาก จึงเขียนคำร้องขอต่อท่าน ให้ส่งเรื่องไปพิจาณาคดีตาม บ้าน/ภูมิลำเนา ที่แท้จริงของเธอแทน

ศาลได้อ่านคำร้องขอแล้ว พิจารณาเห็นว่ามีเหตุผลและเป็นไปตามข้อเท็จจริง จึงประทับรับคำร้อง แล้วทำเรื่องโอนคดีส่งต่อไปยังศาลแขวงเชียงใหม่ต่อไป

เห็นไหมครับว่า ทุกอย่างมันมีขั้นตอน และระบบของมันรองรับอยู่แล้วหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่ว่าฝ่ายเจ้าหนี้มันนึกอยากจะทำอะไรตามใจ มันก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่ใช่ว่ามันนึกจะส่งหมายฟ้องไปที่ไหนก็ได้ โดยไม่สนใจกฏกติกาที่ถูกต้อง...มิฉะนั้น มันก็สามารถส่งหมายฟ้องโดยการกลั่นแกล้ง ให้ลูกหนี้ไปขึ้นศาลที่ "ศาลพระกาฬ " หรือให้ไปขึ้นที่ "ศาลเจ้า " , "ศาลพระภูมิ " หรือที่ไหนๆก็ได้...แล้วแต่มันจะนึกเอา
.
______________________________________________________________

ปล.กฏหมายในข้อนี้ เขาออกมาเพื่อเหตุผลในการป้องกันไม่ให้โจทก์ สามารถกลั่นแกล้งฟ้องจำเลยได้ตามใจชอบ

เช่น โจทก์รู้ว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ภาคเหนือ แต่ฟ้องโจทก์กลับฟ้องให้จำเลยต้องไปขึ้นศาลที่ 3 จังหวัดชายแดนในภาคใต้...เป็นต้น

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Nok2865, Skynine

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #6977 โดย jackTs
ในอตีด...ผมเคยตอบกระทู้ที่เป็นลักษณะคำถามแบบนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว

กระทู้นั้นมีชื่อว่า "อยู่ในทะเบียนบ้านที่ไม่มีบ้านที่เป็นสิ่งปลูกสร้างจะส่งหมายและปิดหมายอย่างไร"

ถาม : อยู่ในทะเบียนบ้านที่ไม่มีบ้านที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง จะสามารถส่งหมายเรียก และปิดหมายได้หรือไม่?
ตอบ : กฏหมายระบุไว้ว่า "หมายศาลจะต้องส่งไปตาม ที่อยู่ในทะเบียนบ้านของจำเลยเท่านั้น"

อ้างโดย ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๓๘ ก
พระราชบัญญัติ วิธีพิจาณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๕๑ ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑
หมวด ๒ "วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคในศาลชั้นต้น" ส่วนที่ ๑ ว่าด้วยเรื่อง "การฟ้องคดี"


มาตรา ๑๗ ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจจะฟ้องผู้บริโภคเป็นคดีผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจ
มีสิทธิเสนอคำฟ้องต่อศาลที่ผู้บริโภคมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลหรือต่อศาลอื่นได้ด้วย ให้ผู้ประกอบธุรกิจ
เสนอคำฟ้องต่อศาลที่ผู้บริโภคมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลได้เพียงแห่งเดียว


อ่านแล้ว"งง"ไหมครับ?...มันเป็นภาษากฏหมายน่ะครับ

งั้นผมขอแปลความ จากภาษากฏหมาย ให้เป็น ภาษาชาวบ้านในมุมของ "ชาวชมรม คนยิ้มสู้หนี้" ให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นนะครับ

มาตรา 17 ถึงแม้เจ้าหนี้จะมีสิทธิฟ้องลูกหนี้ให้ขึ้นศาลอื่นๆได้ก็ตาม แต่ถ้าหากเจ้าหนี้ต้องการจะฟ้องลูกหนี้ให้ขึ้นศาลผู้บริโภค...ฝ่ายเจ้าหนี้จะต้องฟ้องลูกหนี้ ให้ขึ้นได้เฉพาะศาลที่อยู่ในเขตทะเบียนบ้านของลูกหนี้...ได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น

เข้าใจง่ายดีไหมครับ?

และการส่งหมายศาล จะต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของศาล (แมสเสนเจอร์ศาล) เป็นผู้นำส่ง
ไม่ใช่กระทำโดยฝ่ายโจทก์หรือฝ่ายเจ้าหนี้ เป็นผู้นำส่ง

และถ้าโจทก์ส่งหมายศาลไปสถานที่ไหน จำเลยก็ต้องไปขึ้นศาล ณ.ศาลที่อยู่ในเขตพื้นที่นั้นๆรับผิดชอบอยู่



ถาม : วิธีแรกศาลส่งโดยไปรษณีย์ตอบรับ ก็ส่งไม่ได้ เพราะระบุว่าบ้านถูกรื้อถอน ศาลจึงสังให้เจ้าหน้าที่ศาลไปปิดหมาย เจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่าปิดได้ ทั้งๆที่บ้านดังกล่าวไม่มี ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?
ตอบ : ชอบด้วยกฏหมายเป็นอย่างยิ่ง
ต่อให้บ้านของคุณถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง เหลือแต่เสาตอตะโก ก็ต้องไปปิดหมาย เพราะกฏหมายระบุเอาไว้เช่นนั้น






ถาม : ตัวโจทก์ทราบดี ว่าที่อยู่ดังกล่าวส่งไม่ได้ และทราบถึงที่ทำงานปัจจุบันของดิฉันด้วย แต่ก็ยังให้เจ้าหน้าที่ศาลไปส่งที่อยู่ตามทะเบียนบ้านอีก และตัวโจทก์เองก็ทราบว่า ดิฉันรู้ว่าคดีนี้หมดอายุความแล้ว แต่ก็ยังมายื่นฟ้องอีก (ผิดนัดชำระงวดแรกปี 46 จนถึงวันฟ้อง 27/1/2553) ถือว่าเป็นนิติกรรมอำพรางหรือไม่?
ตอบ : ถ้าหากขึ้นศาลแล้ว คุณไปแย้งต่อผู้พิพากษาในข้อที่ว่า บ้านไม่มีใครอยู่ เพราะคนทั่วๆไปไม่มีใครสามารถไปอาศัยอยู่ได้...แล้วไปส่งหมายศาลที่นั่นทำไม?
คุณอาจถูกผู้พิพากษา"ตวาดใส่"กลางบัลลังก์ว่า
"ในเมื่อตัวของลูกหนี้เอง ก็รู้ว่าบ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่ หรือถึงอยากจะอยู่ ก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้
แล้วทำไมถึงไม่ย้ายเอาชื่อของตัวเองออกมา? เอาชื่อไปยัดใส่ไว้ทำไม? จำเลยมีเจตนาจะเลี่ยงการรับหมายศาลหรืออย่างไร?
ถ้าไม่ให้เอาหมายศาลไปส่งที่บ้านตามที่กฏหมายเขากำหนดเอาไว้...แล้วจะให้เอาหมายศาลไปประเคนให้ที่ไหน?
ก็ในเมื่อกฏหมายเขาเขียนมาให้ต้องปฎิบัติตามนี้ แล้วจะให้ศาลทำยังไง?"


รับรองได้เลยครับ...ว่าโดน"งานเข้า"แน่ๆ

ส่วนคำว่า คดีขาดอายุความ มีความหมายว่า "ไม่สามารถเอาผิดได้ตามกฏหมายที่บัญญัติไว้"...แต่ไม่ได้หมายความว่า ฟ้องไม่ได้ หรือห้ามฟ้อง นะครับ...กล่าวคือถ้าอยากจะฟ้องก็ฟ้องไป แต่ฟ้องแล้วก็ไม่สามารถเอาผิดกับจำเลยได้
ที่สำคัญที่สุด...ถ้าคุณถูกฟ้องแล้ว และคุณมั่นใจว่าคดีนี้ขาดอายุความแน่ๆ...แต่คุณไม่ยอมไปศาลเพื่อต่อสู้คดีว่า คำฟ้องขาดอายุความตามกฏหมาย คุณจะถูกพิพากษาให้มีความผิด และต้องชดใช้หนี้ตามมูลฟ้องทันที ถึงแม้ว่าคดีจะขาดอายุความไปแล้วก็ตาม (การที่คุณไม่ยอมขึ้นไปศาล ท่านอาจจะพิจารณาว่า คุณหนีศาล...ดังนั้นศาลท่านจะไม่ช่วยเหลือคุณใดๆทั้งสิ้น)...เพราะในคดีแพ่ง ศาลจำเป็นต้องตัดสิน ให้เป็นไปตามที่ทางคู่ความฟ้องมาทุกประการ หากไม่มีผู้คัดค้าน


อ้างอิงข้อมูลจาก :
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29



ถาม : หากไม่ได้รับหมาย ในกรณีนี้จะทำอย่างไร? ขอให้ยกคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้หรือไม่?
ตอบ : ไม่ได้...เพราะการส่งหมายในครั้งนี้ กระทำภายใต้ข้อปฎิบัติของกฏหมายทุกประการ



ถาม : ดิฉันรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือน ถือเอาสถานที่ทำงานเป็นภูมิลำเนาที่ใช้ในการส่งหมายได้หรือไม่? หากได้ ทำไมตัวโจทก์ไม่ให้นำส่งหมายมาที่ทำงาน?
ตอบ : การส่งหมายศาลไปยังที่อยู่อื่น ที่มิใช่ที่อยู่ของจำเลยตามมาตรา 17 นั้น ก็สามารถกระทำได้...แต่ต้องเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้

- ที่อยู่ตามภูมิลำเนาของจำเลย ที่มีบันทึกไว้ ณ.อำเภอ/เขต ไม่ชัดเจน เช่น ไม่มีเลขที่บ้าน แต่ถูกระบุไว้เพียงแค่ หมู่ที่ x ตำบล xxxxx อำเภอ xxxxx จังหวัด xxxxxx...เป็นต้น

- จำเลยมีชื่อและที่อยู่ ปรากฏอยู่ในทะเบียนกลาง (หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ทะเบียนบ้านกลาง" )

- จำเลยไม่มี ชื่อ/ที่อยู่ ปรากฏอยู่ในสารบบของ "ทะเบียนราษฏร์" ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย


หากไม่เข้ากฏเกณฑ์ตามเงื่อนไขดังกล่าว ให้ยึดถือปฏิบัติตาม มาตรา 17 (ป.วิผู้บริโภค) สถานเดียว



ถาม : ช่วยให้ข้อมูลด้วยดิฉันจะเอาไปสู้คดี
ตอบ : คุณจะสู้คดีในประเด็นไหนล่ะครับ?...ในเมื่อคดีของคุณมันได้"ขาดอายุความ"ในการขอยื่นอุทธรณ์มานานมากแล้ว

______________________________________________________________

ปล.กฏหมายในข้อนี้ เขาออกมาเพื่อเหตุผลในการป้องกันไม่ให้โจทก์ สามารถกลั่นแกล้งฟ้องจำเลยได้ตามใจชอบ

เช่น โจทก์รู้ว่าจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ภาคเหนือ แต่ฟ้องโจทก์กลับฟ้องให้จำเลยต้องไปขึ้นศาลที่ 3 จังหวัดชายแดนในภาคใต้...เป็นต้น

.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Nok2865, Skynine

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: Badmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.440 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena