หนทางสูู่อิสรภาพ มือใหม่เริ่มปลดหนี้

หยุดจ่ายมาแล้วหลายเดือน
อบรมก็ไป "อบ" มาแล้ว...กลัวอะไรกับการถูกฟ้อง
โครงการผ่อนที่ว่า มันคือ "การประนอมหนี้ และให้เราทำ สัญญานรก" ค่ะ
เดือนละสองพัน มันเป็นต้นเท่าไหร่ ดอกเท่าไหร่ คำนวณออกมาหรือยังคะ
น้องอาจจะคิดว่ามัน "ชลอการฟ้อง" ไม่จริงค่ะ เรามีตัวอย่างมากมายในนี้ ที่จ่ายหยอด โดยคิดว่า จะยืดการฟ้องออกไป มันก็ฟ้องอยู่ดี เพราะการรับเงินจากลูกหนี้ทีละนิด กับการใช้อำนาจทางกฎหมายฟ้อง อะไรที่ทำให้ได้เงินเร็วกว่า เจ้าหนี้จะเลือกทางไหน คิดดู
ยิ่งหากประนอมหนี้ไปแล้ว เงินเอาไปแปะเนื้อช้าง ต้นก็ไม่ลด
เงินที่น่าจะเก็บเพิ่มได้เดือนละ สองพัน ก็ต้องไปจ่ายให้เขา คุ้มแล้วเหรอคะ
Citi ฟ้องเร็วจริง แต่ไม่ฟ้องรวม และมีบัตรเครดิต visa และ master เท่านั้นที่ฟ้องเร็ว (อายุความเพียง 2 ปี)
ค่อยๆเคลียร์ทีละตัว ทีละใบดีไหมคะ เก็บเงินแฮร์คัทดีกว่า
ต่อให้เขาฟ้อง ฟ้องแล้วเราก็ไกล่เกลี่ยจ่ายแบบผ่อนต่อเดือน ขอความเมตตาศาลให้ดูเรื่องดอกเบี้ย ให้ศาลตัดสินให้ดอกเบี้ยที่เขาคิดมั่วๆ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
แล้วเราผ่อนจ่ายแบบมีวันจบ จะดีกว่าไหม?
เดินมาได้ขนาดนี้แล้ว ถอดใจทำไม พี่บัวไม่เข้าใจอ๊ะ...

ขอบคุณมากค่ะที่มาเตือนสติ แอบมีหวั่นไหวบ้างอ่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ

หายไปนานเลยเพราะเริ่มงานใหม่แล้วยุ่งมากๆๆๆ ประกอบกับไม่อยากคิดอะไรปวดหัวมาก วันนี้ขอมาอัพเดทสถานการณ์ค่ะ

ตัวเองหยุดจ่ายทุกบัตรตั้งแต่เดือนมิถุนายน มีเก็บ HSBC ไว้โดยจ่ายขั้นต่ำ แต่ก็กดออกมาใช้ตลอด ยอดเลยไม่ลดแต่ไม่เป็นไร อันนี้จะเคลียร์เป็นใบสุดท้าย เพราะอยากเก็บไว้หนึ่งบัตร ก็โดนโทรถามตลอดเลย แต่ว่าพูดจาดี เราก็บอกว่ารอเก็บเงินปิดบัญชี ไม่หนีไปไหนแน่ อยากเคลียร์หนี้ค่ะ

เริ่มงานใหม่มาได้สี่เดือนยังไม่มีเงินก้อนเลยค่ะ แต่ว่าเจรจาขอส่วนลดและปิดบัตรใบแรกไปแล้ว เป็นสำนักกฎหมายลำดับ 2 เสนอมาแล้วให้ผ่อนจ่ายได้ ก็เลยตกลง ชีวิตก็ลำบากหืดขึ้นคอแต่ 3 เดือนปลดหนี้ไปหนึ่งบัตร ดีใจมากค่ะ เพิ่งชำระยอดสุดท้ายไปเมื่อสิ้นเดือนต.ค.ค่ะ เป็นบัตรเครดิตเซ็นทรัลการ์ด ยอดค้างอยู่ที่ประมาณแสนหกพัน เจรจาปิดได้ที่ หกหมื่นห้าพันบาท โดยแบ่งจ่ายสามงวด 20,000/20,000/25,000 บาท ตอนนี้รอใบปิดหนี้อยู่

ตอนนี้บัตรกรุงไทย ส่งฟ้องแล้วค่ะ ไม่มีการเจรจามอบส่วนลด ไม่เซ้าซี้ ทวงดี แต่ฟ้องเลยค่ะ เป็นบัตรเครดิตและสินเชื่อ ฟ้องรวมกันอยู่ที่แสนสอง ศาลนัด 28 พ.ย. นี้ค่ะ กะว่าจะไปขอเลื่อน เผื่อมีเงินโบนัสมาปิดปลายปีค่ะ แต่ได้ยินมาว่า รายนี้ไม่ค่อยลดใช่มั้ยคะ จริงๆ ก็ยังปวดหัว ไม่รู้จะชำระได้ ไง ถ้าไม่มีโบนัส ไม่มีส่วนลดดิชั้นคงปล่อยฟ้องและอายัติเงินเดือนไป

ซิตี้แบงค์ มียอด เรดดี้อยู่ตอนนี้ปาเข้าไปเป็น เก้าแสนกว่า วันนี้เจรจาได้ส่วนลดที่หกหมื่นบาทด้วยจ่ายงวดละ หนึ่งหมื่นบาท จำนวนหกงวด รถใบเสนอลดหนี้อยู่ จะเริ่มจ่ายสิ้นเดือนนี้
ส่วนบัตรเครดิตยังทวงหยู่เรื่อยๆ ยอดประมาณแสนนึง

CIMB เค้าโทรมามอบส่วนลดให้แล้ว ยอดเกือบเก้าหมื่น แต่ตอนนี้ไม่มีเงินปิด ถ้าเค้าให้ผ่อนเดือนละห้าพันซัก 10 งวดก็จะผ่อน ถ้าไม่ได้ก็รอไปก่อน ยังไม่มี

UOB มีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ยอดรวม แสนหก เค้าโทรมามอบส่วนลดเหลือแสนสี่ ให้ผ่อน สามงวด เราไม่มี ลดมากไม่ให้เพราะเราเพิ่งใช้บัตรไม่ถึงปีก่อนผิดสัญญา พรุ่งนี้คงบอกเค้าว่าคงต้องปล่อยฟ้องตามระบบตามที่เค้าแจ้งมา ถ้าจะโดนอายัดเงินเดือน ก็รอต่อจากกรุงไทยละกัน เพราะเค้าฟ้องก่อน

พ่อเห็นหมายศาลก็ตกใจโทรมา แต่เค้าก้ไม่ว่าไร เราบอกว่าเราตั้งใจปล่อยและรู้อยู่แล้วว่าวันนี้จะมาถึง ตอนนี้เก็บเงินไม่ได้เลยค่ะ เพราะเจรจาได้ส่วนลดแบบผ่อนได้ก็เลยผ่อนก่อน กำจัดศัตรูหนี้ไปทีละหน่อย แอบปวดหัวเหมือนกันเพราะถ้าฟ้องพร้อมกันวั้นก็สนุกเลย แต่ดิชั้นไม่มีสมบัตรอะไรค่ะ ไม่มีรถหรือบ้านให้มายึด มีแต่ตัวกับเงนเดือนนี้แหละค่ะ

อยากถามค่ะ

1. ว่าหากโดยฟ้องและอายัดเงินเดือน มันจะส่งผลให้เงินผ่อนหนี้แต่ละเดือนลดลง อย่างตอนนี้ดิชั้นได้ส่วนลดแต่จ่ายหกงวดของซิตี้แบ๊ง และอาจจ่ายต่อของ ซีไอเอ็มบี ถ้าได้ส่วนลดดี แล้วถ้าโดยอายัดเงินเดือน มันจะเป็นไงคะ เพราะศักยภาพการเงินจะน้อยลง และเราก็จะผิดนัดกับบัตรข้างบนไม่ได้

2. ดิชั้นควรทำไงกับ UOB ดีคะ ปล่อยไปตามระบบให้ฟ้องเลยดีมั้ย ถ้าจะอายัดก็ต้องรอต่อคิวจากกรุงไทยนั่นแหละ คงรออีกนาน

3. KTC ดิชั้นคิดว่าคงไม่มีเงินก้อนไปปิดบัญชีแน่ๆ เพราะดิชั้นจ่ายบัตรอื่นที่มอบส่วนลดและให้ผ่อนอยู่ และไม่น่ามีโบนัสปลายปีด้วย ดิชั้นควรทำไงดีค่ะ เมื่อไปศาล ควรขอเลื่อน หรือทำยอมเลยดี

4. ถ้าCIMB ให้ส่วนลดเหลือห้าหมื่นและผ่อนได้ห้างวด ดิชั้นควรทำดีมั้ย ดิชั้นตั้งใจจะเก็บเงินจ่ายหนี้เดือนละสองหมื่นอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะได้รับเสนอส่วนลดเร็วและผ่อนได้ เลยไม่มีเงินเก็บเลยค่

ปลดหนี้ได้หนึ่งเจ้า แสนกว่าบาท หลังหยุดจ่ายสีเดือน รู้สึกใกล้อิสรภาพไปอีกนิด แต่ปัญหายังไม่หมด ไม่ท้อเลยค่ะ แต่บางทีก็อยากได้ความเห็นจากรุ่นพี่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

KTC ฟ้องรวม สองแสนค่ะ ไม่ใช่แสนสอง

ขอบคุณมากค่ะคุณ Anakin

โทษทีค่ะยอดเก้าหมื่น อืมก็ไม่อยากโดยอายัดเงินน่ะคะ เพราะเป็นหลักหมื่นกว่าบาทแน่ะ อาจกระทบกระทบ Hair cut ที่ตกลงไว้

ก็วันนี้ก็แจ้งซีไอเอ็มบีไปว่าตอนนี้ยังไม่พร้อม ขอลองไปศาลนัดแรกก่อนว่าเป็นไง

ขอบคุณมากๆ สำหรับความเห็นและคำแนะนำค่ะ

เมื่อวันอาทิตย์แวะไปปรึกษาคุณอาประพัฒน์ที่สวนลุมมา มีกำลังใจขึ้นค่ะ พุธนี้จะไปศาลครั้งแรกในชีวิต ไปคนเดียวด้วย ตื่นเต้นเล็กน้อย แต่ไม่กลัวค่ะ

ขอให้โชคดีนะครับ

ขึ้นศาลไม่น่ากลัวครับ

ไปศาล..ไม่น่ากลัวคะ...

พี่ลีไปมาแล้ว 2 บัตร 7 ครั้ง...ชิวๆ...

คนที่น่าสงสารคือทนายของโจทย์มากกว่า...เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเราลงได้ยังไง...

หาอ่านกระทู้เรื่องราวการไปศาลเยอะๆ นะคะ....

สู้ๆ ค่ะ...ขอให้โชคดี

สวัสดีค่ะทุกท่าน

หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน วันนี้ขอกลับมาอัพเดทนสถาณการณ์ค่ะ หลังจากที่เข้ามาตั้งกระทู้ไว้เกือบปีที่ผ่านมา ได้ไปสะสางหนี้สินที่ลดลงอย่างช้าๆ แต่ก็คืบหน้าดีค่ะ จากศัตรู 10 เจ้า ยอด 8 แสนกว่าตอนนี้เป็นดังนี้ค่ะ ขอใส่สถานกาณ์ไว้ในวงเล็บค่ะ

1. Citibank Visa/ 101,xxx (ไม่ยอมลดให้เท่าไหร่ ต่อแล้วไม่ได้ก็ปล่อยให้ฟ้องไปก่อน ก้อรอหมายศาลอยู่ค่ะ พนง พูดจาดี สุภาพ)

2. Citibank Ready credit/ 80,xxx (เพิ่งได้ใบปิดหนี้มาวันนี้ดีใจมากค่ะ ถึงแม้ได้ลดไม่เยอะแต่เราโอเคค่ะ กำจัดได้ก้อเหมือนศัตรูหายไปอีกหนึ่ง เราต่อเหลือจ่าย หนึ่งหมื่นบาท จำนวนหกเดือน/งวด)

3. HSBC Visa/ 98,xxx จ่ายขั้นตำปกติ (ตอนนี้กลายเป็ย กรุงศรีแล้ว ยังเก็บไว้ใช้อยู่ จ่ายข้ำต่ำทุกเดือน แต่ก้อรูดทุกเดือน กะว่าจะจ่ายให้หมดเป็นใบสุดท้าย ตั้งใจเก็บไว้ใช้)

4. CIMB Personal Loan/ 105,xxx ผ่อนเดือนละ 3,xxx มาเกือบ 2 ใน 5 ของหนี้แล้ว แต่หักเงินต้นออกไปไม่เท่าไหร่เลย ค้างเข้าเดือนที่สามแล้ว แต่มีจ่ายงวดปลายเมษาไป (เจราจาได้เหลือ หกหมื่น จ่ายให้หมดภายในหกเดือน/งวด สิ้นเดือนนี้เป็นงวดที่สาม)

5. UOB Visa/ 80,xxx ค้างเข้าเดือนที่สอง จ่ายล่าสุดปลายต้น พ.ค. (ลดน้อยมากๆๆๆๆ ทวงร่วมกับสินเชื่อ ยังเจรจาไม่ได้ เลยปล้อยให้ลอยนวลไปก่อน ไม่รู้จะฟ้องเมื่อไหร่)
6. UOB Cash Plus/60,xxx ค้างเข้าเดือนที่สอง จ่ายล่าสุดต้นเดือน พ.ค. (เหมือนข้างบน)

7. KTC Personal Loan/ 76,xxx ค้างมาแล้วสองงวด แต่จ่ายงวดนึงปลายเดือนเมษายน (ไม่ลด ฟ้องเร็ว เราไปศาลมาแล้ว และทำยอม โดนโดนฟ้องรวม สามบัญชี สรุปว่าเราขอจ่ายปีแรก พันห้า ปีที่สองสามพันห้า และที่เหลือจ่ายหมดในปีที่สาม จนท บอกว่ามีเงินเมื่อไหร่ โทรไปเจรจาขอส่วนลดได้เลย อันนี้เราก็ซื้อเวลาไว้หายใจ เพราะจัดการอันนี้ได้ก้อเท่ากับกำจัดศัตรูไปสามราย)
8. KTC Visa/ 63,xxx ค้างเข้าเดือนที่สอง แต่จ่ายล่าสุด ต้น พ.ค. (เหมือนข้างบน)
9. KTC Master card/59,xxx สถานการณ์เหมือนข้างบน (เหมือนข้างบน)

10. Central Card/101,xxx (เป็นใบแรกที่เราปิดได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ภายในสี่เดือนที่หยุดจ่าย ได้ลดเหลือประมาณหกหมื่น)

ณ ปัจจุบัน เราเหรือศัตรูอยู่ สองเจ้า สามบัญชี คือแม่นางยู และซิตี้ วีซ่าแพลต เราจะปิดซีไอได้ภายในสิ้นเดือนสิงหานี้ เราอาจไม่ได้ส่วนลดเยอะมากมายแต่เราก้อพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ เราไม่มีเงินเหลือเก็บแต่เรามีกิินตลอดแถมบางมื้อก้อกินดีด้วย เราไปปารตี้สังสรรค์กับเพื่อนตามสมควร แต่งดการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ โชคดีที่ได้เดือนทางในประเทศบ้างเรื่องงาน เลยพอโอเค

เราไม่มีโบนัส ไม่มีเงินก้อน สองเจ้าที่ปิดได้และอีกเจ้าที่จะหมด รวมถึงบัตรที้โดยฟ้องแล้วและทำยอม และบัตรที่ใช้อยู่ ทุกอันมาจากเงินเดือนแต่ละเดือนล้วนๆ ถ้าเจ้าไหนยอดลดและให้เราผ่อนได้ซัก หกเดือน เราก็จ่ายอันนั้นก่อน ใตรไม่ลด ไม่ให้ผ่อนก้อรอไป เราก้อบอกว่ายังไม่มี ถ้าคุณไม่ลดและไม่ให้ผ่อน ก้อจนปัญญา ปล่อยฟ้องไปก่อน แต่ดิชั้นโดนหนึ่งเจ้าฟ้องไปแล้ว คุณก้อรอต่อไปละกัน เมื่อต้นปีโทรศัพท์หายก้อต้องเจียดเงินเดือนละสองพันกว่าบาทมาผ่อนโทรศัพท์ไปอีกสิบเดือน บางคนอาจมองว่าเราฟุ่มเฟือยเรื่องโทรศัพท์แต่เราชินกับการใช้ไอโฟน ในการทำงาน รวมถึงข้อมูล เบอร์โทรใน iCloud มีค่ามาก เลยต้องซื้อเครื่องนี้มา

สรุปว่าวิธีหลักของเราคือเจรจาให้ได้ส่วนลดและเอาเงินเดือนมาผ่อนเป็นงวดๆ ไป ไม่เกิอนหกงวด ได้ที่โดนฟ้องแล้วก้อขอผ่อนน้อยมากๆ ในปีแรกและเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได้ ผ่อนยาวๆ มีเมื่อไหร่ก็ค่อยเจรจา hair cut

เราอยากจะบอกว่าขอบคุณทุกคำแนะนำและกำลังใจจากทุกคน เรากำลังทยอยปลดหนี้ด้วยแนวทางของชมรม อาจมีวิธีการต่างกันบ้าง ความเครียดก้อไม่ค่อยมี ใช้ชีวิตก้อสบาย อาจไม่ได้ส่วยลดเยอะแต่เราจ่ายหมด ปิดหนี้ได้เราก้สบายใจ คนที่บ้านเราเข้าใจ เพื่อนที่ทำงานเราก้อบอกอย่างไม่อาย แถมภูมิใจที่เราปลดหนี้ได้เสียอีก

เราคิดว่าอีกไม่เกินสองปีเราน่าจะเป็นอิสระ เราจะได้ซื้อบ้านซักทีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ

สวัสดีค่ะ ห่างหายไปนานวันนี้ขอกลับมาอัพเดทสถานการณ์และแบ่งปันเรื่องราวความตื่นเต้นค่ะ

เราได้ปิดไปหลายเจ้าแล้วดีใจมาก เก็บบัตรไว้หนึ่งใบ และตอนนี้ประสบการณ์ใหม่ในการถูกอายัติเงินเดือนกำลังเข้ามาประชิดค่ะ เราทำยอมกับ ktc โดนตอนนี้เป็นปีที่สองที่ชำระและต้องชำระให้หมดภายในสามปี ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะมีเงิน ก้ออดูก่อน ส่วนซิตี้แบงค์เครดิตคาร์ดก้อไปทำยอมที่ศาลไว้เมื่อเดือนพฺฤษภาคม ตอนนี้จ่ายอยู่สามพัน ปีหน้าจ่ายหกพัน มีการเสนอส่วนลดมาให้ค่ะ อยากปิดมากแต่ไม่มีเงิน เหลือ U​OB สุดโหดที่เรามีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ฟ้องรวมประมาณ 140,000 พร้อมดอกเบี้ย 28 และ 20% โหดมากๆๆๆๆ (เราไปศาลสองวันติดกันเบยกับของซิติ้แบ้งค์) เราไม่สามารถเจรจาได้เลยปล่อสให้ศาลตัดสิน และได้รับการลดดอกเบี้ยเหลือ 10 และ 12% มันเลอค่ามากค่ะ ที่นี่ธนาคารก้อจะเอาแต่ให้เราจ่ายเงินก้อนเดียวลดให้นิดหน่อยคือดอกเบี้ย เราไม่มีหรอกค่ะ ก้อเลยมาถึงการอายัติเงินเดือน 30% อยู่ที่ประมาณ 15,000 ต่อเดือน ช่วงนี้บริษัทเราสถานการณ์ไม่ดี พนงเลยต้องลาหยุดแบบไม่รับเงินเดือนประมาณ 4 วันต่อเดือน ระยะเวลาสามเดือมในเบื้องต้น ทีนี้ขอถามค่ะ

1. ช่วงที่เราต้องลาแบบไม่รับเงินเดือน ทำให้เงินเดือนลดลง การอายัติจะคิดจาก 30% จากเงินที่เราไดรับจริงใช่มั้ยคะ ไม่ใช่จากเงินเดือนปกติ
2. ควรหยุดจ่าย ktc ที่จ่ายเข้าปีที่ 2 แล้ว และ city​bank ที่จ่ายมาสามงวดแล้ว มั้ยคะ ถ้าต้องจ่ายทั้งหมดก้อพอไหวแต่ใช้ชีวิตแบบลำบากแน่ แต่อยู่ได้
3. ถึงแม้จะเริ่มโดยอายัติเงิเงินเดือน เราก้อสามารถคุยกับ uob ขอส่วนลดปิดอยู่ได้ใช่มั้ยคะ ถ้าเราจะปิดควรปิดเจ้าที่อายัติเงินก่อน หรือเจ้าที่ยอดน้อยกว่าก่อนดี สำหรับเราทุกเจ้าหนี้นับเป็น 1
4. เราจะคุยกับ uob ได้มั้ยว่าเราขอจ่าย (30% ที่อายัติ) ตรงที่เค้าและไม่ต้องอายัติเงินเดือน คือเรากำลังวางแผนเปลี่ยนงานน่ะค่ะ เลยไม่อยากให้มีการอายัติที่ทำงานใหม่หากเราเปลี่ยนงาน
5. ถ้าทำการอายัติเงินเดือนแล้ว จะมีการอายัติบัญชีเงินฝากเรามั้ยคะ เราไม่ได้มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์อะไรเลยไม่มีบ้านหรือรถ ไม่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารเจ้าหนี้เลย

เราบอกเรื่องนี้กับหัวหน้าและ HR แล้ว เค้าเข้าใจและไม่มีปัญหา เราก้อคุยเรื่งหนี้แบบเปิดเผยกับบางคนที่ทำงานเพราะก้อมีบางคนที่เป็นหนี้เหมือนเราแต่สถานการณ์และยอดหนี้เรา advance ที่สุด ตื่นเต้นปนเครียดเรื่องอายัติเงืนเดือนถึงแม้จะคาดเดาไว้แล้วว่าจะเกินขึ้น แต่ไม่มีประสบการณ์เลยแอบตื่นเต้นค่ะ

สู้ต่อไปค่ะ