ผมอยากช่วยแม่ปลดหนี้ครับ

สวัสดีครับผมเป็นสมาชิกใหม่ แม่ผมเป็นหนี้ผมอยากช่วยแม่จึงรบกวนขอคำปรึกษา ต้องขอรบกวนสมาชิกท่านอื่นๆ ด้วยนะครับ ซึ่งผมมีข้อมูลเกี่ยวกับหนี้และเรื่องราวต่างๆ ดังนี้

**หนี้บัตรเครดิตโดยประมาณ**
- Krungsri credit card --> 30,000 บาท
- KTC cash --> 24,000 บาท
- KTC Krungthai card --> 30,000 บาท
- AEON --> 54,000 บาท
- First choice --> 50,000 บาท
- Krungsri Smile cash --> 22,000 บาท
- UOB (บัญชีแรก) --> 31,000 บาท
- UOB (บัญชีที่ 2) -->30,000 บาท
- Umay+ -->58,000 บาท

**หนี้บัตรอื่นๆ โดยประมาณ**
- หนี้ ธกส. --> 50,000 บาท (เงินกู้ระยะยาว)
- หนี้เพื่อนที่ทำงานคนที่ 1 --> 130,000 บาท (ดอกร้อยละ 6/เดือน)
- หนี้เพื่อนที่ทำงานคนที่ 2 --> 85,000 บาท (ดอกร้อยละ 20 /เดือน)
- หนี้เงินออมทรัพย์(ของหมู่บ้าน) -->70,000 บาท (ดอกร้อยละ 2 /เดือน)
- หนี้เจ้านาย --> 20,000 บาท (ไม่มีดอก)
รวมแล้วหนี้ทั้งหมดมีประมาณ 684,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ย)

ซึ่งแม่และพ่อ 2 คนมีรายได้รวมกันประมาณเดือนละ 19,000
โดยที่เงินเดือนของทั้งพ่อและแม่จะเข้าบัญชีเดียวกันเป็นชื่อแม่ เนื่องจากเป็นที่ทำงานเดียวกัน แม่เป็นแม่บ้านทำงานบนออฟฟิศ พ่อทำงานที่โรงงาน เวลาทำบัตรเครดิตแม่จะใช้ยอดเงินเดือนนี้ในการสมัคร มาถึงช่วงหลังแม่หมุนเงินไม่ทัน ผมจึงค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตจนมาเจอชมรมนี้ ผมจึงนำเอาวิธีจากชมรมมาแนะนำให้แม่ฟัง ซึ่งวิธีที่ผมแนะนำมีดังนี้
ขั้นแรก หยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิตทุกบัตร
ขั้นที่สอง จ่ายหนี้เพื่อนที่ทำงานก่อนเพราะดอกแพงหูฉีก

แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายรายเดือนแล้วเป็นดังนี้
เงินเดือนพ่อกับแม่ 19,000
-ค่าใช้จ่ายในครอบครัว 3 คน (ค่าอาหารข้าวของเครื่องใช้) 13,000
-คืนเจ้านาย 2,000
-จ่ายหนี้เพื่อนร่วมงาน 2 คน 9,000
-จ่ายหนี้บัตรเครดิตรวมทุกบัตร 33,000 (จ่ายขั้นต่ำแล้วครับ)
สรุปแล้วติดลบ 38,000
แล้วถามว่าเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายและใช้หนี้ คำตอบคือเข้าวังวนจ่ายเจ้าโน้นแล้วกู้มาจ่ายเจ้านี้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งผมคิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้คงไม่จบไม่สิ้น

สิ่งที่ผมอยากขอคำแนะนำคือ วิธีที่ผมใช้เหมาะสมหรือเปล่าครับ

ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ ต้องรบกวนมากๆ เลย
ปล. ผมไม่ได้เป็นหนี้โดยตรงแต่ก็เหมือนเป็น ผมขอเป็นตัวแทนแม่มาสอบถามได้ไหมครับ เพราะแม่เองก็ไม่สันทัดใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ วันอาทิตย์ถ้าว่างผมจะพาแม่ไปที่สวนลุม ไปลองฟังเรื่องราวคนอื่นๆ ดูนะครับ

วันอาทิตย์ถ้าว่างผมจะพาแม่ไปที่สวนลุม
ดีมากลูกเอ๋ยเรื่องทุกเรื่องมันมีทางออก

จะพยายามอ่านให้เยอะๆนะครับ (ตอนนี้อ่านไปพอสมควรแล้ว) และจะลองเอามาปรับใช้ดูนะครับ ขอบคุณครับ

ดีมากเลยครับน้อง ที่ไม่ทอดทิ้งพ่อแม่เมื่อยามเดือดร้อน

แต่น้องยังไม่ได้ทำงานใช่ไหมครับ...ยังเป็นนักเรียนอยู่เหรอ

อ่านกระทู้นี้ก่อนเลยนะ อ่านซ้ำๆ จำให้ขึ้นใจ ตามลิงค์ด้วย

วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=52

เป้นกำลังใจให้นะน้อง

อ่านเยอะๆ แล้วค่อยๆคิด มีอะไรก็มาปรึกษาพี่ๆในนี้ได้ครับ

ขอบคุณพี่ๆ ที่มาให้คำแนะนำและกำลังใจนะครับ ผมทำตามคำแนะนำของกระทู้ต่างๆ บ้างแล้วครับถ้าเจอปัญหาอะไรจะมาขอคำแนะนำ คำปรึกษาต่อนะครับ (ตอนนี้ส่วนหนึ่งผมแนะนำให้แม่แก้ปัญหาเท่าที่ทำได้ก่อน อีกส่วนคือรอรับมือกับเจ้าหนี้ทั้งหลายแหล่ครับ )

ดีใจที่เจอลูกกตัญญูแบบคุณ แถมขอชม ทำการบ้านมาดีมากค่ะ

สิ่งแรก คงต้องทำบัญชีหนี้แยกแบบที่คุณทำ แต่ลงรายละเอียด

มากขึ้นหน่อยค่ะ ต่อมา ทำบัญชีรายรับ-จ่ายของครอบครัวและตัวเอง

เพื่อดูว่า สิ่งไหนควรลด สิ่งไหนควรยกเลิก สิ่งไหนควรเปลี่ยนค่ะใน

เวลาที่การหารายได้เพิ่มยังทำไม่ได้ค่ะ การลดค่าใช้จ่ายช่วยได้มากค่ะ

ส่วนหนี้ในระบบธนาคาร หยุดจ่ายแล้วตัดบัตรทิ้งได้ดีที่สุดค่ะ แต่สิ่งที่

ท่านต้องไปดู คือ หนี้นอกระบบ หรือหนี้ที่ยืมมาค่ะ และธกส. คิดว่า

ต้องไปจับเข่าคุยกับเจ้าหนี้นะค่ะ

หนี้ ธกส. --> 50,000 บาท (เงินกู้ระยะยาว) ขอลดการผ่อนต่อเดือน
- หนี้เพื่อนที่ทำงานคนที่ 1 --> 130,000 บาท (ดอกร้อยละ 6/เดือน)
- หนี้เพื่อนที่ทำงานคนที่ 2 --> 85,000 บาท (ดอกร้อยละ 20 /เดือน) สำหรับเพื่อนขอลดจาก 9000
- หนี้เงินออมทรัพย์(ของหมู่บ้าน) -->70,000 บาท (ดอกร้อยละ 2 /เดือน) ขอลดการผ่อนต่อเดือน
- หนี้เจ้านาย --> 20,000 บาท (ไม่มีดอก) -2000 บาท หรืออาจมากกว่าจะได้หมดเร็ว เพื่อความเจริญก้าวหน้าและเพื่อเป็นที่พึ่งในอนาคตค่ะ

ขอร้องเขาว่า คุณแม่คุณมีปัญหาด้านการเงิน แต่ไม่คิดหนี คิดเบี้ยว จึง

ขอเข้าไกล่เกลี่ย ขอลดหนี้การชำระต่อเดือนลง เพื่อให้มีเงินกินอยู่อย่าง

พอเพียง และมีเงินจ่ายทุกคนด้วยค่ะ แต่ต้องทำข้อมูลให้เห็นภาพนะค่ะ

ว่า คุณแม่คุณมีความสามารถแบ่งเงินออกมาก้อนหนึ่งเพื่อจ่ายหนี้พวกเขา

โดยเฉพาะ หักค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ค่ารถที่จำเป็น

จริงๆ ออกก่อนค่ะ คงต้องดูและลงรายละเอียดการใช้จ่ายอย่างเข้มงวดนะ

ค่ะ เพื่อจะได้มีเงินเก็บจากเล็กๆ ไปใหญ่ๆ ค่ะ

ขอให้สำเร็จนะค่ะ อดทน อดออม และอดกลั้นค่ะ

การเป็นหนี้ไม่ใช่อาชญากร เราแค่ทำผิดพลาด ไม่มีวินัย การแก้ไขดีกว่า

การแก้ตัวแก้หน้าไปวันๆ ค่ะ

เป็นกำลังใจให้ครับ

พี่เป็นกำลังใจให้นะครับ น้องจะได้ไม่ตกหลุมพรางบัตรเครดิต เรียนรู้ไว้เพื่อแก้

แนะนำให้คุณแม่หยุดทุกบัตรเลย และจ่ายของเพื่อนไปก่อน และพยายามเก็บเงินครับ เพื่อรอ H/C งามๆ บอกคุณแม่หมั่นรับสายพวกทวงหนี้ซักหน่อยเดี๊ยวก็ชิน

พี่มีประโยคมาบอกแบบนี้ครับ พูดสั้นๆครับ ( ยังไม่มีขอเก็บเงินก่อน ไงก็ติดต่อมาใหม่นะ ) แค่นี้ครับ ของพี่หยุดมา ครบ 1 ปีแล้วเพิ่งได้หมายศาลแรก (จะดีใจหรือเสียใจดีก็ไม่รู้ อิอิ) แต่ไม่มีความกลัวเลยครับ

เหมือนว่า เป็นประสบการ์ณของเราอีกอย่างนึงในชีวิต เพื่อที่เราจะได้ไม่ก้าวพลาดอีก ความผิดพลาดเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ

สู้ๆครับ