จะป้องกันไม่ให้คุ่สมรสไปก่อหนี้ได้อย่างไรบ้าง

ตอนนี้ผมทำงานอยู่บริษัทเอกชน มีเงินเดือนรับอยู่ 57000 บาท
ส่วนภรรยาเคยทำงานอยู่ แต่ตอนนี้ได้ออกจากงานมาหนึ่งปีแล้ว
และมีลูกด้วยกัน 2 คน จดทะเบียนสมรสมา 10 ปีแล้ว

ผมถาระหนี้ที่ต้องผ่อนบ้านกับธนาคารตกเดือนละ 30,000 บาท
อยากให้บ้านหมดไวๆ ตอนนนี้เหลือหนี้บ้านประมาณสองล้าน

ให้ภรรยาใช้จ่ายภายในบ้าน เดือนละ 20,000 บาท
ผมใช้เองส่วนตัว เดือนละ 7,000 บาท
หนี้บัตรเครดิตไม่มีค้างชำระ จ่ายหมดเกือบทุกเดือน


ส่วนภรรยาหลังจากที่ออกจากงานมา ผมเองก็ไม่ทราบเลยว่าเธอมีหนี้ส่วนตัว หนี้บัตรเครดิต อะไรเท่าไหร่บ้าง
ถ้าสอบถามก็จะทะเลาะกันทุกที จดหมายแจ้งหนี้ก็จะเก็บซ่อนไว้และให้ส่งทาง E-mail

จนมีอยูวันนึงเธอเปิดเมล์ทิ้งไว้ ทำให้ผมได้เธอได้ไปกู้เงินสิ้นเชื่อส่วนบุคคลกับทาง Non bank อยู่ 3 บัญชี
รวมเงินทั้ง 3 บัญชีประมาณ 300,000 บาท

คำถามที่ผมอยากจะเรียนถามก็คือว่า

1.จะมีวิธีการอย่างไรไม่ให้เธอก่อหนี้ได้อีกครับ
เนื่องจากที่ผ่านมาเธอเคยทำแบบนี้มาแล้วเมื่อสามปีก่อน และผมก็ให้เงินเธอไปปิดบัญชีกับทางกรุงไทยธนวัตเกือบๆแสน และก็ยังมาทำซ้ำแบบนี้อีก

2.พวกบัตรเครดิตและเงินกู้ส่วนบุคคล เขาไม่ต้องให้สามีสามารถเซ็นรับรู้ได้ด้วยเหรอครับ ?



3.ถ้าครังนี้ผมจะปล่อย ไม่ชำระหนี้ให้ แล้วปล่อยให้เธอติด Black list เพื่อที่เธอจะได้ไม่ไปก่อหนี้อีก
จะดีไหมครับ หนี้เธอสามแสนจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่

4.ถ้าเธอไม่บอกหนี้ให้ผมทราบ ทำอย่างไรผมจะทราบข้อมุลหนี้สิ้นของเธอได้บ้าง
กลัวว่าวันหนึ่งนึง หากเกิดเหตุการไม่สามารถชำระหนี้ได้ขึ้นมาจริงๆ ลูกๆจะไม่มีบ้านอยู่ครับ

ตอบ
1. ตอนนี้คงสร้างเพิ่มไม่ได้แล้วมั้งคะ เพราะไม่มีเอกสารประกอบ แต่ถ้าเป็นหนี้นอกระบบก็พึงระวังคะ

2. ได้สิคะ ไม่เกี่ยวกันสักหน่อยว่าถ้าจะสมัครบัตรอะไรต้องให้สามีรับรู้ เรื่องจะมาแดงก็ตอนที่ต้องชดใช้หนี้นี่แหละค่ะ

3. อันนี้แล้วแต่พิจารณาค่ะ แต่ตอนนี้คงเป็นหนี้เพิ่มไม่ได้แบ้ว คำตอบตามข้อ 1

4. ถ้าไม่บอก ไม่เช็คเครดิตบูโร ก็จะไม่ทราบค่ะ จะทราบอีกทีก็ตอนขึ้นศาลค่ะ

คำตอบของแอนอาจจะรวบรัดไปหน่อย หรืออาจไม่สมบูรณ์ทั้งหมด พี่ๆ กรรมการช่วยมาชี้แนะเพิ่มเติมด้วยค่ะ

"Thesun" post=27397คำถามที่ผมอยากจะเรียนถามก็คือว่า

1.จะมีวิธีการอย่างไรไม่ให้เธอก่อหนี้ได้อีกครับ
เนื่องจากที่ผ่านมาเธอเคยทำแบบนี้มาแล้วเมื่อสามปีก่อน และผมก็ให้เงินเธอไปปิดบัญชีกับทางกรุงไทยธนวัตเกือบๆแสน และก็ยังมาทำซ้ำแบบนี้อีก
ตอบ คุณต้องจับเข่าคุยกันแบบเปิดอก และคุยด้วยเหตุและผล อย่าใช้อารมณ์ อ่านข้อมูลในนี้มากๆ โดยเฉพาะห้องรู้ทันกฎหมายหนี้ คุณจะได้ไปอธิบายกับเธออย่างมีหลักการ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=2 วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน

บัวขอพูดในมุมมองของบัวในฐานะเป็นเมียที่ต้องบริหารการเงินในบ้าน
คุณผู้ชายมักพูดเสมอว่า เงินทองก็ให้หมด ตัวเองเหลือใช้นิดเดียว แล้วเงินไปไหนหมด
บัวเคยโดนพ่อบ้านถามคำถามนี้มาแล้ว ช้ำใจมาก
ให้เงินมา เราเป็นเมียก็ไม่เคยให้ผัวกินแกลบแทนข้าว ไม่เคยให้ถูฟันด้วยเกลือ ซักผ้าด้วยขี้เถ้า เช็ดตูดด้วยฟาง
ค่าใช้จ่ายสากกะเบือยันเรือรบ อยู่ในเงินก้อนที่โยนให้
ถามหน่อยเงินพันหนึ่ง ไปห้างซื้อยาสระผม นมลูก โกเต็กก็หมดแล้ว
เมียจะขอเพิ่มอีกก็เกรงใจผัว เลยไปหยิบยืมรูดบัตรมาใช้จ่าย ยิ่งมีลูกมันจิปาถะ ทำบัญชีไม่ถูกเลยคุณเอ๊ย...
พยายามเปิดใจให้กว้าง และหาความรู้ในนี้เพื่อหาทางออกร่วมกัน ดีกว่าชี้นิ้วว่ากัน
อย่าให้คำว่าหนี้ พังทะลายครอบครัวคุณได้นะคะ

2.พวกบัตรเครดิตและเงินกู้ส่วนบุคคล เขาไม่ต้องให้สามีสามารถเซ็นรับรู้ได้ด้วยเหรอครับ ?

ตอบ เงินกู้ส่วนบุคคล ชื่อก็บอกอยู่แล้ว จริงๆต้องมีสามีเซ็นยินยอมในกรณีมีคู่สมรส แต่การทำบัตรปัจจุบันเน้นทำยอด เมสเสจเจอร์เซ็นสมอ้างเป็นผัวปลอมๆให้เสร็จสรรพ

3.ถ้าครังนี้ผมจะปล่อย ไม่ชำระหนี้ให้ แล้วปล่อยให้เธอติด Black list เพื่อที่เธอจะได้ไม่ไปก่อหนี้อีก
จะดีไหมครับ หนี้เธอสามแสนจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่
ตอบ ดอกเบี้ยจะเดินตามตูดเลยล่ะคุณเอ๋ย แต่ไม่ไหวก็ต้องหยุดจ่าย ไปอ่านในนี้ก่อนค่ะ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29 นิยามคำว่าแฮร์คัท

4.ถ้าเธอไม่บอกหนี้ให้ผมทราบ ทำอย่างไรผมจะทราบข้อมุลหนี้สิ้นของเธอได้บ้าง
กลัวว่าวันหนึ่งนึง หากเกิดเหตุการไม่สามารถชำระหนี้ได้ขึ้นมาจริงๆ ลูกๆจะไม่มีบ้านอยู่ครับ

ตอบ คุณเอาสำเนาบัตรปชช.ของเธอ หลอกว่าจะเอาไปทำธุรกรรมอะไรสักอย่าง แล้วไปขอเช็คเครดิตบูโรได้ตามเคาเตอร์ ธนาคาร ตามรายละเอียดนี้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=1372&Itemid=29 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร หนี้หมดแล้วต้องรอถึงสามปีหรือไม่ ถึงจะทำธุรกรรมกับทางธนาคารได้ กระทู้นี้มีคำตอบ

สิ่งที่บัวอยากเพิ่มและถือว่าเป็นหมัดเด็ดที่สุดที่จะให้เธอสำนึกกับการกระทำที่ปกปิด ปิดบังคู่ชีวิตด้วยวิธีผิดๆคือ
หนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้ส่วนบุคคลก็จริง แต่หากหยุดจ่ายและเก็บเงินแฮร์คัทไม่ทัน เจ้าหนี้ฟ้องขึ้นมา ภรรยาคุณก็ดื้อแพ่งไม่ชดใช้หนี้ โจทก์หรือเจ้าหนี้จะถือคำพิพากษาเข้าสู่กระบวนการบังคับคดี คืออายัดเงินเดือนและทรัพย์สิน
ภรรยาไม่มีงานทำ กรมบังคับคดีจะทำการสืบทรัพย์แทน พอรู้ว่าคุณและภรรยาจดทะเบียนสมรสกัน เขาสามารถบังคับขายบ้านทอดตลาดได้ แม้จะผ่อนอยู่ก็ตาม และเมื่อขายได้ จะหักครึ่งคืนให้คุณครึ่งหนึ่ง ส่วนของภรรยาจะถูกนำไปชำระหนี้ แล้วแต่ว่าใครฟ้องมาก่อน
แต่ขายบ้านคนที่ได้สิทธิ์ก่อนคือเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์ เหลือค่อยทอนให้คุณและภรรยา

บัวจะไม่อธิบายละเอียดมาก เพราะคุณอาจงง อ่านแล้วยิ่งจะท้อใจกว่าเดิม
อ่านเพื่อรู้และหาทางออกร่วมกัน อย่าซ้ำเติมกัน มองไปข้างหน้าดีกว่า
บทเรียนคราวนี้จะสอนให้เธอรู้ และอาจจะเข็ดหลาบ ถ้าเธอไม่เห็นแก่ตัวจนเกินไป รายละเอียดเรื่องส่วนตัวคุณจะรู้ดีกว่า เราให้ได้แต่คำแนะนำตามแนวทางของชมรม ที่เหลือไปประเมินและตัดสินใจเอง
ก่อนอื่นอ่านปักหมุดมากๆ จะได้เข้าใจและมีแผนคร่าวๆในการแก้ปัญหา
ถ้าคุณประหยัดอดออม ภรรยาปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต คุณแฮร์คัทได้ทัน การฟ้องร้องในชั้นศาลก็ไม่เกิดขึ้น
อย่าคิดมาก อย่าคิดไปไกล มองจุดหมายแค่ปลายเท้าก็พอค่ะ เป็นกำลังใจให้สามีแสนดีคนนี้นะคะ