กรณี..เป็นเจ้าบ้าน

จริงหรือคะพี่ลี แล้วจะทำอย่างไรล่ะคะ อยากให้หนี้พวกสินเชื่อหมดไป เหลือหนี้บ้านยังผ่อนได้หลายปีหน่อย อย่างน้อยก็30ปีล่ะ ลูกเป็นคนกู้ เผื่อวันหน้าอาจมีอะไรดีขึ้น บ้านยังโปะได้ใช่มั้ยคะ
อย่างที่บอกทุกวันนี้ไม่มีรายได้เป็นเรื่องเป็นราวเลย มีแต่รายจ่าย วันนี้STDก็โทรมาแต่เช้าเลย นึกว่าเงียบไปแล้วรอทำเรื่องฟ้อง ก็ยังมาขอให้จ่ายเข้าไปบางส่วน บอกไปว่าบางส่วนก็ไม่มี แต่จะพยายาม ไม่อยากโกหกเค้าเลย เฮ้อ...

อย่าให้เป็นภาระของลูกเลย....

ถ้าคุณป้าหมู..ไม่มีรายได้เป็นหลักแหล่ง...

ไม่มีทรัพย์สินเป็นชื่อของตัวเอง....

แล้วจะไปกลัวอะไรละคะ...สู้ๆ..ค่ะ

สวัสดีค่ะท่านกรรมการและเพื่อนสมาชิก

หายไปหลายวัน เพราะไม่ค่อยสบาย แต่ไม่ได้เป็นไรมากค่ะ แค่ความดันขึ้นปวดหัว ปวดตัวบ้าง ไม่ต้องถึงกับต้องหาหมอ สบายดีทุกท่านนะคะ
ขอแจ้งความคืบหน้าหน่อยค่ะ
-Citi Advance : ยังคงจะให้ชำระที่ 6420 (จาก12400 ข้อมูลเก่า11000แจ้งผิดไปค่ะ) ดิฉันก็พยายามที่จะยืนกรานขอชำระแค่4000บาท ไม่ได้อยากให้ยืดเยื้อนะคะ แต่คำนวณจากดอกเบี้ยที่จ่ายไปแล้วมันมากพอแล้วที่เขาจะยอมนะคะ หรือไม่ก็ขอผ่อนจ่าย แต่เขาไม่ยอมค่ะ ยังยืนกราน6420 ภายในสิ้นเดือนนี้ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เอาไงดีคะ
-SCB : วันนี้ให้เจ้าหน้า(หน้ายังกับโจร) มาที่บ้าน(office) คงโทรมาแล้วดิฉันไม่ได้รับสาย แล้วก็โทรให้ดิฉันคุยกับเจ้าหน้าที่ เขาบอกว่าให้ชำระบางส่วนภายในสิ้นเดือนนี้ (ก็ยังไม่มีเลย) ทำไมต้องมาหาเลยหรือคะ
-STD : วันนี้โทรมาพูดๆๆๆๆๆ เริ่มใช้คำพูดแบบออกคำสั่ง
ป้าหมู : ตอนนี้ยังไม่สามารถชำระเข้าไปได้จริงๆ อธิบายความจำเป็นให้ทราบแล้ว ถ้าทางธนาคารไม่สามารถรอได้ ก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร ก็เข้าใจนะคะว่าต้องทำตามขั้นตอน
เจ้าหน้าที่ : แสดงว่าคุณจะให้ส่งเรื่องฟ้องร้องเลยใช่หรือเปล่า
ป้าหมู : ก็ถ้าธนาคารรอไม่ได้ก็ทำตามขั้นตอนใช่หรือเปล่า
เจ้าหน้าที่ : คุณจะให้ธนาคารส่งเรื่องฟ้องถูกต้องมั้ยคะ
แล้วดิฉันก็พยายามจะพูดอธิบาย แต่เขาไม่ยอมฟัง จะเน้นเสียงเหมือนบังคับว่า "ถูกต้องมั้ยคะ" พูดอยู่ตั้งหลายครั้ง ดิฉันรำคาญก็เลยตัดสายทิ้งไปเลย ถ้าโทรมาอีก (ไม่รู้จะโทรมามั้ยหรือไปทำเรื่องส่งฟ้องแล้วก็ไม่รู้) จะบอกว่าให้พูดจากดีๆหน่อย ไม่ต้องมาใช้น้ำเสียงออกคำสั่งแบบนี้

ท่านกรรมการ/ตุณกอบัวและเพื่อสมาชิกคะ
บอกตรงๆเลย เงินก็เก็บไม่ได้ เพราะค่าใช้จ่ายทางบ้าน ลูกสาวเพิ่งทำงานเงินเดือน13000ใช้คนเดียวก็แทบไม่พอ คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก รู้แต่ว่าไม่มีปัญญาทำH/Cแน่ๆ
คุณกอบัวจะว่าอย่างไรก็ได้ หรือคุณลีจะหาว่าเราไม่ฟังก็ได้ สิ่งที่คิดว่าจะทำได้อย่างเดียวตอนนี้ก็คือรอให้ลูกสามารถทำซื้อบ้านพ่อเขาแล้วเอาเงินออกมาทำH/C ไม่ได้ทำให้ลูกลำบากนะคะ แต่ป้าหมูกับสามีจะเป็นคนส่งบ้านเองค่ะ ลูกก็คงจะช่วยบ้างถ้าเงินเดือนเขาเพิ่มขึ้น

คุณกอบัวยังไม่มีโอกาสทำขนมไปฝากเลยค่ะ ป้าหมูทำได้แค่คุ้กกี้ บัตเตอร์เค้ก คัพเค้ก เค้กกล้วยหอมนะคะ (ไม่ได้ไปเรียน หัดทำตามเวปไซต์ค่ะ) แต่ไม่ลืมนะคะ ถ้ามีโอกาส จะไปทันทีเลยค่ะ

มีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกนะคะ

สวัสดีค่ะ คุณป้าหมู

ดิฉันแก้วจ๋า ขอมาแจมคุณป้าหมูนิดเดียว (เห็นคุณกอบัวพาดพิงถึงกระทู้ของ แก้วจ๋า)

เห็นคุณป้าหมูใจไม่นิ่งเลย ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ค่ะ

ถ้าแก้วจ๋าเป็นคุณป้าหมู แก้วจ๋าจะกระดี๋กระด๋า ไม่เดือดร้อนตามเจ้าหนี้ค่ะ

เพราะ

ไม่มีรายได้ หรือ เงินเดือนประจำ แต่ เป็นเจ้าบ้าน ซึ่งถ้าคุณป้าทำตามคำแนะนำ

คุณทั้งหลายข้างต้น คุณป้าจะนั่งทำขนมอย่างอารมณ์ดีไปแล้ว

เรื่องเปลี่ยนชื่อ ให้เป็นคนอื่นที่ไกลตัว แต่ถ้าทำไม่ได้ แค่ลูกก็ยังดีกว่าสามี หรือถ้า

ต้องเป็นสามี แนะนำให้จดหย่าก็เท่านั้นค่ะ

เรื่องหนี้บัตร ปล่อยมันไปตามระบบค่ะ ใครโทรมาถามก็บอกแค่ ไม่มี แล้วก็ค่ะ

เพราะรู้อยู่ว่า จะแก้ตัวหรือปฎิเสธเขาก็ไม่ฟัง และ ซิตี้ ฟ้องเร็วเป็นเรื่องปกติค่ะ

แค่เตรียมใจตั้งรับเท่านั้น เขาทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ หากฟ้องแล้ว จะไปก็ได้

ไม่ไปก็ได้ แต่น่าจะนำหมายศาลไปที่สวนลุมให้คุณอาดูว่า เขาฟ้องถูกหรือผิดค่ะ

เจ้าหนี้ส่วนมาก ไม่ต้องการทรัพย์สิน เพราะขายยากค่ะ ยกเว้นอยู่ในทำเลทอง

หรือที่ที่มีส่วนต่างเยอะ คุ้มที่จะยึดค่ะ

คุณป้ามีแค่บ้าน ไม่น่ากังวลมากค่ะ ทำใจสบายๆ อ่านข้อมูลเยอะๆ อย่าเอา

บ้านไปทำอะไรให้หนี้รัดตัวเลยค่ะ เพราะลำพังเงินเดือนลูก บอกว่า ไม่พอใช้

อย่าไปติดกับดัก ว่า รวมหนี้แล้วจะรุ่ง กลัวจะร่วง เพราะเราทุกคนผ่านมาแล้ว

มันไม่ง่ายค่ะ กลายเป็นดินพอกหางหมู

เรื่อง เงินเก็บ รบกวนคุณป้า ให้คุณลูกทำบัญชีรายรับรายจ่ายในบ้านและ

ส่วนตัวดีไหมค่ะ ไม่ทำไม่รู้หรอกว่า รูรั่วอยู่ที่ไหน และจะอุดยังไง

ขอบอกว่า การลดค่าใช้จ่ายดีกว่าการไปทำขนมขายซึ่งมีต้นทุน ถ้าทำแล้วขายดี

ก็ได้กำไร ขายไม่ดี ก็ติดลบ หรือ เท่าทุน ตอนนี้ขายขนมทำกำไรได้ไม่มากค่ะ

คุณป้าอย่าลืมว่า ต้นทุนขนม รวมถึงค่าน้ำค่าไฟค่ารถด้วยนะค่ะ ถ้าไม่ทำ

ค่าไฟค่าน้ำค่ารถก็ไม่เพิ่ม

มีของในบ้านที่พอจะเปลี่ยนเป็นทุนได้ไหมค่ะ เริ่มจากเล็กๆไปใหญ่ๆ ค่อยๆ

สะสมค่ะ

การปลดหนี้ที่ดี ต้องไม่ใจร้อน รักษาสุขภาพ จะได้ประหยัดค่ารักษาพยาบาลนะค่ะ

สวัสดีค่ะคุณแก้วจ๋า
ยินดีมากค่ะที่เข้ามาให้คำแนะนำ ถ้าดิฉันไม่ทำขนมไปวันๆนะ ป่านนี้บ้าไปแล้ว วันนี้ก็ร้องไห้กับสามีนะคะ ว่าทำไมเจ้าหน้าทีมันต้องมาที่บ้านด้วย
คิดว่าจะเริ่มทำตอนนี้คือหย่าก่อนค่ะ อาจทำให้สบายใจไปเปราะหนึ่ง
มันมองหาทางออกไม่เจอจริงๆนะคะ บอกตรงๆว่ากลัวค่ะ กลัวพวกเจ้าหนี้ที่จะมาที่บ้าน วันนี้ยังทำใจนิ่งยากมากเลยค่ะ ถ้าต้องให้ลูกซื้อบ้านพ่ออย่างที่บอกมาแล้วทำH/C จะได้หมดหนี้ แล้วสบายใจกว่ามั้ยคะ
ขอโทษนะคะที่ไม่นิ่งเลย จะพยายามอ่านข้อมูลเยอะๆค่ะ อ่านแล้วก็สบายใจนะคะ มีแรงฮึดสู้ไปได้สักพักค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ให้คำแนะนำ

เป็นเรื่องปกติค่ะ ขอโทษด้วยที่แก้วจ๋าอาจเป็นคนตรง ไม่อ้อม และ

ไม่ค่อยหวาน ไม่เน้นปลอบ แต่เน้นผลักให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นใจค่ะ

อย่าให้เสียชื่อ ส.ว ด้วยกันนะค่ะ

เรื่อง หย่า ถ้าทำได้ก็ทำค่ะ เพราะจะได้คลายความกังวลไป 1 ขั้น ว่า

เขาจะมาขู่เรื่อง ยึดทรัพย์ในบ้านไม่ได้ หรือ ยึดบ้านไม่ได้ ถ้าไม่ใช่

โฉนดร่วมนะค่ะ

ส่วนเรื่องมาที่บ้าน เพราะ ซิตี๋ ชอบส่งคนมาเป็นปกติค่ะ แต่ถ้ามาคุย

ถามว่ามีปัญหาติดขัดอะไร ควรรับไว้นะค่ะ แต่ถ้าเขามาไม่ดี คุณป้าแจ้ง

ความตำรวจได้ค่ะ

ส่วนเรื่องทำขนม แก้วจ๋าเข้าใจค่ะ เพื่อผ่อนคลายความเครียด แต่แก้วจ๋า

ไม่สนับสนุน สำหรับคนที่ไม่ทุนมากพอค่ะ เพราะอาจทำให้ทุนจมหายค่ะ

กว่าแก้วจ๋าจะปลดหนี้ 4 ล้านกว่าได้ ภายใน 3 ปีกว่า แก้วจ๋ายอมทน

อด ในช่วงปีแรกๆ ที่หยุด เปลี่ยนการใช้ชีวิตของตัวเองหน้ามือเป็นหลัง

มือค่ะ ไม่ใช่แก้วจ๋ามีเงินมากปีละล้านค่ะ ยิ่งเงินเดือนสูงค่าใช้จ่ายก็สูง

ตามนะค่ะ

แก้วจ๋าปลดหนี้ได้ เพราะคำว่า ชีวิตที่พอเพียงค่ะ

เราจะจนหากเราจมไม่ลง ยังใช้ชีวิตเดิมๆ ยกตัวอย่าง เช่น

แค่ยาสีฟัน ก่อนหน้าแก้วจ๋าใช้หลอดละ 100 กว่าบาท พอต้องปฏิวัติ

แก้วจ๋าใช้หลอดละ 50-60บาท ก็ใช้ได้แล้วค่ะ

แก้วจ๋าเคยใช้โทรศัพท์ขนาดเหมาเดือนละ 1000กว่าบาท มานั่งคิดว่า

เราจะเปลืองค่าโทรทำไมเยอะ ๆ ก็เปลี่ยนมาใช้โปรเดือนละ 200 บาทค่ะ

นี้คือตัวอย่างให้เห็นภาพค่ะ ขนาดเสื้อผ้า กระเป๋า สมัยก่อนซื้อเป็นว่าเล่น

แค่ชอบแต่ไม่ใส่ก็มี รวบรวมเอาไปขายเป็นของมือสองแทนการบริจาคค่ะ

แก้วจ๋าดีใจที่เห็นคนระดับเราๆ ยอมรับและเต็มใจที่จะปลดหนี้ แม้จิตใจ

แต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจใช้เวลาเพื่อปรับใจให้ไม่กลัว กล้ายอม

รับ ไม่อาย และแกร่งพอที่จะเผชิญการทวงทุกรูปแบบ แต่ไม่สายใช่ไหมค่ะ

และเป็นไปได้ที่จะทำค่ะ

ใครๆ ก็เป็นหนี้ได้ค่ะ คนไม่เป็นหนี้นะหาน้อย บทเรียนนี้ไม่ได้มาง่ายๆ

แต่ละคนล้วนเครดิตระดับเทพทั้งนั้น ไม่งั้นแบงค์คงไม่ให้เรามามาก และ

เราก็ได้ให้เขาไปมากเช่นกันค่ะ

อ้อ เรื่องลูกซื้อบ้านพ่อ ไม่เข้าใจค่ะ ว่าหมายความว่าอะไรแน่ แต่เงินเดือน

คุณลูก 10000 กว่าบาท ไม่ใช่หรือค่ะ จะแบกไหวหรือค่ะ

ส่วนเรื่องบ้าน ถ้าไม่ติดจำนอง ลองเอาไปคิดว่า ถ้าสุดสายป่านแล้ว ปล่อย

โดยประกาศขายก่อนยึด แล้วไปเช่าบ้านอยู่เพื่อรอวันที่จะซื้อใหม่ดีไหมค่ะ

ขอบคุณพี่แก้วจ๋า มากๆค่ะที่เข้ามาช่วยตอบป้าหมู
บัวไม่รู้จะเอาไม้เรียวที่ไหน ตีป้าหมู จะได้รู้สึกตัว
ดื้อและวนเป็นเรือพายในอ่างแบบนี้ ต้องโดนไม้ก้านมะยม หลายๆเพี้ยะ
ป้าหมูจะไปดิ้นรนอะไรนักหนา จะไปโยนหนี้ให้กับลูกทำไม
ลำพังตัวเขาก็จะเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว อย่าเห็นแก่เจ้าหนี้ มากกว่าครอบครัวตัวเอง
สมาชิกหรือเจ้าหนี้อ่านมาถึงตรงนี้ คงคิดว่า กรรมการให้ป้าหมูชักดาบ
บัวไม่สนับสนุนค่ะ ถ้าป้าหมูมีเงินเก็บของตัวเอง ก็ใช้หนี้คืนเขาไป
แต่นี่ที่ผ่านๆ มา ป้าหมูเป็นหนี้เพิ่มพูนเพราะหมุนบัตร หมุนเงินไปมา เป็นลูกข่าง
การรีไฟแนนซ์บ้าน โดยอาศัยชื่อของลูก ก็เหมือนกับการโยกหนี้ตัวเอง ไปเป็นชื่อลูก
แล้วป้าหมูกับแฟน ก็อายุมากแล้ว บอกจะหาเงินใช้หนี้ให้ลูกเอง
แล้วถ้าป้าหมูกับแฟน ตายไปก่อนหนี้ที่ลูกกู้มาให้หล่ะ ลูกจะทำยังไง นึกตรงนี้ไหม
ฟังดีๆนะคะ...โยกหนี้ให้ลูก เอาเงินที่ลูกกู้ให้ ไปใช้หนี้เจ้าหนี้ ที่คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด
มันยุติธรรมกับตัวเองและครอบครัว และมันเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้วเหรอ

อย่าดิ้นรนทุรนทุราย ผ่านร้อนผ่านหนาวมาขนาดนี้แล้ว
ทำให้ดีที่สุดนะคะ แต่ก็ต้องให้ถูกทาง
มีเมื่อไหร่ค่อยใช้หนี้ แล้วอย่าเอาปัญหาหนี้ไปสุมบนหัวลูก ลูกมันกลุ้มใจ
มีพี่จงดี สมาชิกเรา เขาพูดให้ฟังว่า "จริงๆแหละคุณกอบัว เวลาแม่พูดเรื่องหนี้ให้ลูกฟังทีไร ลูกมันแทบจะกลั้นใจไปกับเรา บางทีเขาแทบไม่อยากคุยกับเรา เพราะเขาสงสารและกลุ้มไปกับแม่"

ฉะนั้น...ป้าหมูอย่าทุรนทุราย ไปอ่านกระทู้ของพี่ balm อีกหลายๆรอบ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=17566&Itemid=52#30229

ถ้ามาเวิ้นเว้อ(รู้จักไหม ภาษาวัยสะรุ่น...แปลว่า พร่ำเพ้อพรรณา จิตตก คิดมาก) อีกมากๆ
บัวจะเอาไม้เรียวตีป้าหมู จริงๆด้วย...
แล้วทีหลัง...ไม่ต้องเรียกหากอบัวหรอก...ทุกวันนี้ บัวเริ่มนับถอยหลังให้กับตัวเองเช่นกัน
งานมันเยอะค่ะป้าหมู...บางทีก็ไม่ได้เข้ามาตอบ
พี่ๆ สมาชิกหลายคนก็เก่งๆ เรียกหากอบัว กอบัวไม่มา แล้วป้าหมูจะทำยังงายยยย...

auntiemoo คงบอกว่า



ป้าหมูแค่อยากเล่า แต่ไม่อยากปลดหนี้มังค่ะ มีแต่เรา 2 คนเป็นห่วง

ทั้งบ่นทั้งปลอบทั้งผลักทั้งดัน 555 คุณกอบัวเข้มมาก ถึงขั้นลงไม้

ก้านมะยม เดี๋ยว คุณป้า ไปทำขนมขายดีกว่า เบื่อไม่ฟัง 2 คนนี้



ทำไมป้าหมูยอมจมอยู่กับความกลัวเจ้าหนี้ ป้าหมูผูกพันกับเจ้าหนี้มาก

จนยอมส่งต่อหนี้ให้กับลูกสาวแบกรับเชียวหรือค่ะ ลูกสาวก็ยอมทน

เพื่อแม่ แม้หลังจะหัก เพราะเป็นลูกกตัญญูเพื่อครอบครัว

วันนี้ป้าหมูเป็นสมาชิกชมรม ฯ ป้าหมูรู้ว่า ยังมีทางอื่นให้เลือกเดิน

ทำไมไม่เลือกค่ะ



อย่าให้หนี้ ความกลัว ความอาย ทำร้ายคุณป้าหมู ทำลายสถาบันครอบครัวค่ะ

ไม่มีเรา เจ้าหนี้อยู่ได้ค่ะ เราแค่ขอเวลาเก็บเงิน สักวันจะกลับไปใช้คืน

ในวันและเวลาที่พร้อม และเป็นธรรมค่ะ


วันนี้ แก้วจ๋าก็โดน กรุงเก่าบอกว่า ไม่มีหรอกส่วนลด ไม่เคยให้นอกจาก

จ่ายตามยอมความ แต่ถ้ามีปัญหาติดขัดโทรหาได้ ฟังแล้วเหมือนโดน

ปฎิเสธ แต่เปิดประตูแงมๆ ไว้แต่ ไม่เปิดหมด แก้วจ๋าเหลืออีก 5 เดือน

จะผ่อนกรุงเก่าหมด ไม่กลัวไม่รีบไม่ลนลาน แม้จะยังไม่รู้ว่า อีก 5 เดือน

จะหาเงิน 1 แสน จ่ายที่เหลือให้ได้หรือเปล่า ปล่อยวางไว้ แล้วทำวันนี้

ให้ดีที่สุดค่ะ



ป้าหมูลองอ่านเรื่องธรรมะบ้าง เจียดเงินเล็กๆน้อยๆ ทำบุญถ้ามีโอกาส

เพื่อใจจะได้สงบ มีสติค่ะ แก้วจ๋าหมั่นสร้างบุญทุกเดือน ทุกโอกาสค่ะ

สวัสดีค่ะป้าหมู

balm เป็นสมาชิกเมื่อกลางปี 55 อ่านเจอชมรมหนี้บัตรฯ เพราะกลุ้มใจมาก เครียด (อาการของลูกหนี้ที่ดี

กลัวเจ้าหนี้อดตาย) ตกงานมา 1 ปีกว่าแล้ว อายุอานามก็เกือบ 55 ปี หนี้สินอีรุงตุงนัง 6-7 ล้านบาท

ลูกยังเรียนไม่จบทั้งสองคน อีก 3 ปี ดูสถานภาพแล้ว balm น่าจะหนักหนาสาหัสสากรรจ์กว่าป้าหมูนะคะ

(อย่างน้อย ลูกป้าหมูก็มีรายได้แล้ว)

แต่ที่ผ่านมาได้อย่างมีความสงบสุข คือ "..................." อ่านๆๆๆๆๆๆๆ กระทู้ "วิธีแก้หนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน"

เชื่อมั้ยว่า balm อ่านไม่ต่ำกว่า 10 รอบ (ขอย้ำ ไม่ต่ำกว่า 10 รอบ) ทุกๆรอบที่อ่าน (พิมพ์ออกมาความหนา

หนังสือประมาณ 1.3 นิ้ว) ความสงบมีมากขึ้นๆๆ และตัดสินใจได้ชัดเจนเลยว่า "จะเลือกวิธีแก้หนี้วิธีไหน"

ความกลัวที่มีตอนตั้งใจหยุดงวดแรก หายไปหมดเกลี้ยง เหลือแต่ความคิดที่ตกผลึกของบทเรียนราคาแพง

ที่สุดในชีวิต และต้องก้าวช่วงเวลาแต่ละวันให้ได้ อย่าง"มีความสุข"

ที่ป้าหมูยังผวา กับเจ้าหนี้ balm อยากบอกว่า (อาจไม่สุภาพเท่าไรนะคะ แต่รู้สึกอย่างนี้จริงๆ) เจ้าหนี้

"ไม่ใช่ โค..ตะ...ระ พ่อ โค..ตะ..ระ...แม่" อย่าไปกลัวเขาเลยค่ะ คนที่เราควรกังวลคือ "ความรู้สึกของลูก"

balm อยากบอกว่า "อย่าเอาหนี้ไปให้ลูกเลยค่ะ มันเป็นการส่งต่อความผิดพลาดของเราไปที่ลูก"

ในเมื่อเราผิดพลาด "ให้ความผิดพลาด มันจบอยู่ที่ตัวเราก็พอ"

สู้ๆนะคะ ขอให้จิตใจแข็งแรงก่อน อย่ากลัว จงกลัวในความผิดพลาดที่ผ่านมาของตัวเอง

แต่ "อย่ากลัว พวกทวงหนี้ มันมาหน้าบ้าน ไม่อยากออกไปก็ให้มันตะโกนไปจนคอแห้ง" ถ้ามันมา

ก็บอกไปเลยว่า ถ้ามาบ้านอีก ฉันจะใช้หนี้ธนาคารคุณ เป็นลำดับสุดท้าย ฐานทำให้ฉันไม่พอใจ

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

คุุณกอบัว คุณแก้วจ๋า คุณbalmคะ
ขอบคุณทุกท่านค่ะที่เข้ามาให้คำแนะนำ จริงๆนะเข้าเวปมาทีไรก็มีแรงฮึดสู้ทุกครั้ง แต่พอเจ้าหนี้โทรมาพูดไม่ดี มาถึงบ้าน ก็หมดแรงทุกที ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ร้องไห้ (คุณกอบัวคงตำหนิแล้วล่ะ ว่าบ้าเหรอแก่จนป่านนี้แล้ว) นิสัยมันไม่ยอมหายค่ะ มีอะไรมากระทบนิด ทำอะไรไม่ได้ก็ร้องค่ะ
ยังไงก็ตามจะลองดูสักตั้ง แต่สภาพแบบนี้อีกนานแค่ไหนจะใช้หนี้เขาหมดล่ะคะ มองแล้วมันมืดมนจัง นอกจากถูกหวยรางวัลที่1 (วันนี้ออกแล้ว ซื้อไว้1ใบเผื่อถูก)
ทุกท่านคะ สามีบอกว่าไปหย่า หรือเปลี่ยนให้ลูกเป็นเจ้าบ้าน มันไม่มีประโยชน์ เพราะเหตุมันเกิดก่อน จริงหรือเปล่าคะ สามีชอบรู้ไม่จริงแล้วก็มาแนะนำค่ะ
คุณbalmมีประสบการณ์ใช่หรือเปล่าคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ

ขอตอบนิดนึงนะครับป้าหมู

การหย่า หรือ ย้ายทรัพย์สินก่อนการฟ้องร้องทำได้ครับ และเป็นแนวทางหนึ่ง แต่หลังการฟ้องร้องไม่ควรทำเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการโดนความผิดอาญาครับ

แต่การโอนหนี้บ้านไปให้ลูกอันนี้ไม่เห็นด้วยครับ เหตุผลก็ตามที่พี่กอบัวอธิบาย หนี้บ้านก้อนใหญ่ครับ ผ่อนนาน เป็นภาระหนัก

ตัวผมเองไม่ค่อยเข้าใจ การยึดติดกับการเป็นเจ้าของบ้านเท่าไหร่ เนื่องจากตัวเองก็เช่าบ้านอยู่มาตลอด ก็สบายดีไม่ได้เดือดร้อน ถ้าเทียบราคาบ้านที่อยู่ค่าเช่ายังถูกกว่าผ่อนธนาคารเยอะ การซื้อบ้าน หรือเป็นเจ้าของบ้านสำหรับผมจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญนัก คนที่อยู่ในบ้านสำคัญกว่า บ้านก็แค่สิ่งปลูกสร้างครับมีเมื่อพร้อมก็ไม่สาย ถ้ามีไม่ได้ก็ไม่เดือดร้อนครับ HOUSE กับ HOME คนไทยแปลว่าบ้านเหมือนกันแต่ฝรั่งเขามองความหมายต่างกันนะครับ HOUSE ให้ความรู้สึกของสิ่งปลูกสร้าง HOME ให้ความรู้สึกของครอบครัว ความรัก มากกว่า (นอกเรื่องหน่ะครับ ขออภัย)

เป็นกำลังใจให้ครับ

พ่อยอด ตอบได้ถูกใจมากค่ะ สมแล้วที่คุณกอบัวชม พัฒนาการเป็นเยี่ยมค่ะ




คุณป้าหมูค่ะ ถ้าคุณป้ายังว่ายน้ำอยู่ที่เดิมแบบนี้ อาจไม่มีใครเข้ามา

ตอบนะค่ะ ถ้าไม่ดี หรือ ทำไม่ได้ เราคงไม่แนะนำค่ะ

เรื่อง บ้านอย่างที่พ่อยอดบอกค่ะ สิ่งที่คุณลุงพูดนั้นก็ไม่ผิด แต่เป็นคนละ

กรณีค่ะ และหากเจ้าหนี้โคตระขยัน อาจสืบว่า โยกย้ายเปลี่ยนเมื่อใดแต่น้อยค่ะ

เคสคดีแพ่ง เรานับจากวันที่ได้รับหมายศาลเป็นหลัก ว่า ห้ามกระทำการใด

ที่เป็นสีดำหรือเทาเข้ม คือ ห้ามโอน ห้ามย้าย หรือ อำพรางทรัพย์สิน

แต่วันนี้เรากำลังทำอยู่คือ สีเทา ซึ่งไม่ถูก 100 % แต่เพื่อความปลอดภัย

ของลูกหนี้ที่ยังยึดติดกับทรัพย์สินค่ะ หากเป็นแก้วจ๋า คงขอปล่อยสิ่งที่

กอดไว้แล้วหนักมากก่อน เพื่อรักษาชีวิตให้รอด เมื่อรอดแล้วค่อยหาใหม่

ยังทันค่ะ แก้วจ๋าขายรถ หลังได้หมายศาลแล้ว เพราะไม่มีบ้านให้ขาย

เพื่อช่วยชีวิตให้เดินต่อไปค่ะ

ศาลท่านจะมองที่เจตนาค่ะ ถ้าเรามีเจตนาขาย เพื่อนำเงินมาชดใช้ ถือว่า

ไม่ผิดค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณป้าหมู

คุณป้าคะ...น้ำมนต์เข้ามาให้กำลังใจคุณป้าค่ะ....ทุกๆท่านที่ได้อ่านเรื่องราวของคุณป้า

ก็พยายามที่จะให้ข้อคิด อีกทั้งบอกแนวทางที่สามารถทำ และ ปลอดภัย...คุณป้าต้องค่อยๆ คิดนะคะ

ต้องอาศัยประสพการณ์ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน....พินิจพิเคราะห์ให้ถ้วนถี่

น้ำมนต์ขอใช้พื้นที่นี้ในการเล่าเรื่องราวย่อๆ ของน้ำมนต์ให้คุณป้าฟังค่ะ...

น้ำมนต์ติดบ่วงหนี้สินมากมายมาได้ประมาณเกือบ ๒๐ ปีแล้วค่ะ...หมุนไปหมุนมาจนหมดหนทาง

บ้านที่มี ๓ หลัง เหลือ ๑ หลัง (แต่ก็ต้องขายให้น้องสาวไป )....

รถที่มี ๕ คัน เหลือ ๒ คัน (ไว้ใช้ทำงาน)

แต่ทรัพย์สินที่เหลืออยู่นั้น หมายถึงต้องอยู่ในสถานะที่ปลอดภัย ...

ในระหว่างที่สับสนวุ่นวายอยู่กับการหมุนเงิน...ทุกข์มากๆ แต่โชคดี...ที่น้ำมนต์ได้เจอธรรมะของ

พระพุทธองค์....เริ่มศึกษา ถึงความเป็นเหตุ เป็นผล ของสิ่งที่เกิดขึ้น....ยอมรับกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้

เพราะเราเป็นผู้ก่อ...เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้นๆ...น้ำมนต์ไม่ทุรนทุราย...

คิดแต่ว่าหากเรายังมีลมหายใจ มีงานทำ...สักวันเมื่อพร้อม..เราก็สามารถหมดหนี้ได้...

หาทรัพย์ใหม่ได้....

น้ำมนต์มีลูก ๓ คนค่ะ...คนโต ออกเรือนแล้ว....คนที่สองเพิ่งเรียนจบ..มีงานทำแล้ว

ส่วนคนเล็กนั้น เพิ่งอยู่ เกรด ๑๐ (ม. ๔) หนทางสำหรับคนเล็กยังอีกยาวไกล...

แต่เราผู้เป็นพ่อ เป็นแม่ ก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด...ถามว่าทุกข์ไหม..ทุกข์ค่ะ...

กลัวว่าจะไม่สามารถส่งเสียเขาจนเรียนจบได้...แต่เราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง...

น้ำมนต์คิดเสมอว่า...เมื่อน้ำมนต์คิดดี...ทำดี...น้ำมนต์ต้องได้ดี...

เมื่อเวลานั้นมาถึง...น้ำมนต์จึงวางทุกข์ได้....

และในที่สุด...น้ำมนต์ก็ได้เจอชมรมแห่งนี้....มีทางออกสำหรับเราแล้ว...มีกำลังใจมากมาย

มีความรู้...มีผู้แนะนำสิ่งต่างๆ ที่เหมาะสมกับปัญหาของเรา...หากแต่เราต้องเลือก และ พิจารณา

ให้เหมาะสม...ไม่อาย ที่ใครจะรู้ว่าเราเป็นหนี้...แต่ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปบอกใคร

หากบุคคลนั้นๆ มิได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ด้วย...

ระยะเวลาแห่งการเรียนรู้ ศึกษาธรรมมะ....ทำให้น้ำมนต์มีชีวิตทีดีขึ้น...มิใช่รวยขึ้น

หากแต่น้ำมนต์ สามารถรับรู้ ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น...และอยู่กับทุกข์ได้....แค่ดูมัน...

แต่ไม่เอาจิตไปผูกกับมัน.....

คุณป้าคะ...อย่าท้อแท้ใจนะคะ...กำลังใจของตัวเองสำคัญที่สุดค่ะ...

ตนเท่านั้น...เป็นที่พึ่งแห่งตน...ที่พึ่งอื่นแห่งตน...หามีไม่....

หากจะทำอะไรเกี่ยวกับทรัพย์สิน....สถานะของตนในทะเบียนบ้าน....การหย่า

ก็รีบทำ ก่อนที่จะมีหมายศาลมานะคะ...ปลอดภัยสุดค่ะ....

น้ำมนต์ขออวยพรให้คุณป้าโชคดีค่ะ....

(อ้อลืมบอก...หนี้ของครอบครัวน้ำมนต์ เฉพาะบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคล

ก็ประมาณ เกือบๆ ๔ ล้านค่ะ...หยุดมาได้ ๑ ปี..เดินไปเท่าไหร่แล้ว ไม่อยากคิด...)

ป้าหมูขา

balm อยากตอบมากเลยค่ะ แต่คงต้องขอตอบทางโทรศัพท์นะคะ

บอกทางหน้าบอร์ด อาจไม่ถนัดที่จะเขียนเท่าไรค่ะ

วิธีน่ะมีค่ะ

แต่สำคัญที่ "ช่วงเวลา" ว่า ณ ปัจจุบัน เรา อยู่ ก่อนหมายศาลมา หรือ อยู่ระหว่างไปขึ้นศาล(หมายมาแล้ว) หรือ อยู่หลังไปศาล

"ช่วงเวลา" มีความสำคัญมากๆ ในการจะกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งค่ะ

หาเบอร์ balm ได้ ลองถามคุณกอบัวก็ได้ค่ะ

อย่าลืม เจ้าหนี้ไม่ใช่โคตรพ่อ โคตรแม่ เราค่ะ อย่าไปกลัวค่ะ คนทวงเงินเป็นแค่พนักงานคนนึงเท่านั้น ถ้าเขาพูดไม่ดี ป้าหมูก็ด่าไปเลยค่ะ ไม่ต้องไปมารยาทอะไรกับคนที่ทำหน้าที่ทวงเงิน "เกินหน้าที่ของตัวเอง"

สู้นะคะ เราต้องอยู่กับสามีให้มีความสุข อย่าแบกทุกข์ไว้เลยค่ะ เงินหนี้ก็ส่วนนึงในชีวิตเท่านั้น
แต่สามีอยู่กับเรามา 30 ปี (อยู่มากกว่าเราอยู่กับพ่อแม่อีก balm อยู่กับแม่แค่ 15 ปีเอง แม่จากไปเร็ว)

ฉะนั้น สามีเราคือคนที่เราต้องแคร์ค่ะ อย่าสร้างทุกข์ให้กับคนที่ใช้ชีวิตกับเรามานานเลยนะคะ แม้ความรักจะจางไปแล้ว แต่สายใยความผูกพันมันยังมีอยู่ แม้เป็นเส้นฟางบางๆ แต่เราก็ต้องทะนุถนอมไว้นะคะ

ชีวิตจากนี้ไป ให้ปล่อยวางกับทรัพย์สินเถอะค่ะ ลองคิดว่าอะไรมันจะเกิด ก็ให้มันเกิดไปซะ
ดูซิว่า ชีวิตสุดท้ายของเรามันจะเดินไปถึงไหน ดูมันให้ลึก ดูมันให้เป็นบทเรียนสอนเราค่ะ

อย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง เพราะวันนี้เรายังมีลมหายใจ นั่นแปลว่า เรายังมีชีวิตที่จะสร้างความดี สร้างบุญให้กับตัวเรา นี่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

เห็นไหมว่า ป้าหมูไม่ได้โดดเดี่ยว มีคนอีกมากมายห่วงนะค่ะ

ไม่รู้ว่า ตอนนี้ป้าหมูมองเราอยู่หรือเปล่า

ตอนแรกว่าจะอัพในกระทู้ตัวเอง แต่อยากให้ป้าหมูอ่าน เลยขออนุญาติแชร์นะค่ะ

และขออนุญาติสมาชิกทั้ง 2 ท่านด้วยค่ะ

เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แก้วจ๋าได้รับสายจากสมาชิกชมรมฯ ท่านเคยมาเข้าอบรม

รอบเดือนเมษา 55 ที่แก้วจ๋าเป็นวิทยากรค่ะ ท่านอายุระดับส.ว มาแบบแพ๊กคู่ค่ะ

ก่อนหน้านั้น ลูกชายโทรหาแก้วจ๋า บอกถึงปัญหาหนี้ที่คุณพ่อคุณแม่กำลังเจอค่ะ

คุณลูกน่ารักมาก ไม่รู้จะปลดทุกข์ให้คุณพ่อคุณแม่ยังไง จึงค้นหาในอากู๋จนเจอ

ชมรมฯ เรา หลังจากเขาอ่านเรื่องราวชมรมและเรื่องของแก้วจ๋า จึงขอให้แก้วจ๋า

ช่วยคุยกับคุณพ่อคุณแม่เขา ท่านทั้ง 2 เป็นหนี้บัตรเครดิตคนละหลายบัตร เพราะ

ต้องการหมุนเงินมาทำธุรกิจ แรกๆ เอาอยู่เช่นทุกคน แต่พอธุรกิจหลักเริ่มไม่ดี

ทุกอย่างก็ประดังเข้ามา เงินไม่พอหมุนไปจ่ายหนี้ ทางเริ่มตัน แก้วจ๋าแนะนำว่า

ให้หยุดจ่ายบัตรในระบบ แต่ให้จ่ายหนี้นอกระบบก่อน ท่านมีหนี้ยืมนอกระบบด้วย

เพราะท่านไม่สามารถจ่ายทั้ง 2 ทางได้ในเวลาเดียวกัน แต่ท่านกลัวตามความคิด

ว่า เราเอาเงินเขามา จะหยุดจ่ายได้หรือ กลัวเขาจะยึดของ ยึดทรัพย์สิน

พอแก้วจ๋าเล่าเรื่องตัวเองให้ฟัง ท่านก็งง ทำได้ไง หนี้เป็นล้านปลดหนี้ได้ใน 2-3ปี

เพราะหนี้ของท่านทั้ง 2 ก็หลักล้านค่ะ เป็นเจ้าของกิจการในหัวเมืองภาคอีสานค่ะ

กว่าท่านทั้ง 2 จะคลายความกลัว มีความมั่นใจ เราคุยกันหลายรอบ บางครั้งภรรยา

โทรบอกว่า สามีเครียด ไม่ฟัง ใจร้อน กลัวไปหมด จนทะเลาะกัน สักพักสามีโทรมา

ถามสิ่งที่คาใจ ไม่เชื่อในสิ่งที่ภรรยาและลูกบอก แก้วจ๋าก็บอกว่า ถ้าสงสัย โทรหา

ได้ตลอดค่ะ แก้วจ๋าชวนท่านทั้ง 2 มาฟังการอบรม ท่านน่ารักมากให้ลูกขับรถจาก

ตจว . มาฟังมาหา บอกอยากเจอหน้า และสิ่งที่ท่านได้กลับไป คือความมั่นใจค่ะ

ท่านเข้าใจแล้วท่านเดินมาถูกทาง หากวันไหนท่านมีปัญหา หรือคนทวงหนี้พูด

แบบนั้น แปลว่า อะไร ท่านโทรหาแก้วจ๋าตลอด

เกือบปีกว่าแล้ว เรื่องหนี้ก็ทยอยเข้าสู่กระบวนการศาล ท่านก็ไปศาลค่ะ เรื่องคดี

ความ แก้วจ๋าแนะให้ท่านคุยกับคุณอาไพโรจน์ค่ะ และเมื่อปลายปี 55 ภรรยาท่าน

โทรมาบอกว่า หนี้ในระบบปิดเกือบหมดแล้ว ด้วยความร่วมมือช่วยเหลือจากลูกๆ

ด้วยค่ะ เห็นไหมค่ะ การเป็นหนี้มีดี ทำให้ครอบครัวรักกันสมานสามัคคีปรองดอง

เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น เป็นเกราะคุ้มกันอย่างดีเลยเป็นกำแพงแห่งรักค่ะ

เวลาทุกข์ เรายังมีคนใครอบครัวที่ไม่ทิ้งกันค่ะ

ท่านเหลือหนี้ที่ต้องผ่อนคือ หนี้นอกระบบ เป็นหนี้เช็ค ซึ่งได้ไปศาลคดีอาญา

แต่เจรจาไกล่เกลี่ยยอมความกันด้วยการผ่อนชำระหนี้ค่ะ

แก้วจ๋านำมาเล่า เพราะอยากให้ป้าหมูเห็นว่า ถ้าป้าหมูสู้อย่างมีสติ ปลดปล่อย

ความกลัว ความอายทิ้งไป ป้าหมูก็จะเจอทางสว่างทางออกได้เช่นกันค่ะ

ความสุขที่ยั่งยืนแบบปลอดหนี้รอป้าหมูอยู่นะค่ะ

คุณbalm/คุณแก้วจ๋า/คุณพ่อยอด/คุณน้ำมนต์
กรรมการทุกท่าน/เพื่อนสมาชิก

คอมพ์เสีย เหนื่อยใจเลยไปพักที่บ้านแม่ ไม่ได้เปิดคอมพ์ เลยไม่เข้ามาเลย ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ
ขออัพเดทสถานะปัจจุบันนะคะ ตอนนี้มีก็แต่ กรุงเก่ากับ ซิตีแอด ที่โทรมา รู้สึกว่าจะเปลี่ยนบริษัทฯทวงมานะคะ ถ้าฟังไม่ผิด STD ก็เงียบไปเลยค่ะ 6-7เดือนหยุดจ่าย ยังไม่น่าฟ้องใช่หรือเปล่าคะ หลายรายเงียบไปเลยไม่มีโทรมา เขาทำอะไรกันอยู่นะ เราต้องไปเช็คที่ศาลหรือยังคะ เครียดค่ะ
ตอนนี้ยังไม่ได้ไปจดทะเบียหย่าเลยค่ะ กะว่าอาทิตย์หน้าแน่นอน จะไปใจมันก็หดหู่ อย่าตำหนิกันเลยนะคะ ว่าอายุก็ป่านนี้แล้วจะมัวหดหู่จะมัวsensitiveอะไรกันนักหนา (แต่ขอโทษนะคะทำใจไม่ค่อยได้จริงๆค่ะ)
ทำอย่างไรอยากจะหลังไมค์กับคุณbalm คุณแก้วจ๋ะ เพราะป้าหมูบอกตรงๆวาหาทางออกไม่ได้จริงๆ

auntiemoo เขียน: คุณbalm/คุณแก้วจ๋า/คุณพ่อยอด/คุณน้ำมนต์
กรรมการทุกท่าน/เพื่อนสมาชิก

คอมพ์เสีย เหนื่อยใจเลยไปพักที่บ้านแม่ ไม่ได้เปิดคอมพ์ เลยไม่เข้ามาเลย ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ
ขออัพเดทสถานะปัจจุบันนะคะ ตอนนี้มีก็แต่ กรุงเก่ากับ ซิตีแอด ที่โทรมา รู้สึกว่าจะเปลี่ยนบริษัทฯทวงมานะคะ ถ้าฟังไม่ผิด STD ก็เงียบไปเลยค่ะ 6-7เดือนหยุดจ่าย ยังไม่น่าฟ้องใช่หรือเปล่าคะ หลายรายเงียบไปเลยไม่มีโทรมา เขาทำอะไรกันอยู่นะ เราต้องไปเช็คที่ศาลหรือยังคะ เครียดค่ะ
ตอนนี้ยังไม่ได้ไปจดทะเบียหย่าเลยค่ะ กะว่าอาทิตย์หน้าแน่นอน จะไปใจมันก็หดหู่ อย่าตำหนิกันเลยนะคะ ว่าอายุก็ป่านนี้แล้วจะมัวหดหู่จะมัวsensitiveอะไรกันนักหนา (แต่ขอโทษนะคะทำใจไม่ค่อยได้จริงๆค่ะ)
ทำอย่างไรอยากจะหลังไมค์กับคุณbalm คุณแก้วจ๋ะ เพราะป้าหมูบอกตรงๆวาหาทางออกไม่ได้จริงๆ

เพือนสมาชิก/ท่านกรรมการ

อึมครึมจัง หายไปไหนกันหมด หรือเบื่อป้าหมูกันหมดแล้ว ฮือ.ฮือ

อย่าเพิ่งน้อยใจไปเลยครับ ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ ยังติดตามเรื่องราวของป้าหมูอยู่ สำหรับช่วงนี้โดยส่วนตัวผม มีภารกิจต้องจัดการเรื่องต่างๆของตัวเองพอสมควรเลยไม่ได้แวะเข้ามาทักทายครับ

ในส่วนเรื่องที่ป้าหมูลำบากใจอยู่ ผมไม่มีประสบการณ์นักจึงไม่สามารถแนะนำให้ได้ แต่พอเข้าใจเรื่องที่ต้องทำใจอยู่ครับ แต่ก็นั่นแหละครับชีวิตคู่ที่อยู่กันมา คงไม่ได้เป็นเพราะกระดาษ 1 ใบที่ร่วมกันเซ็นต์ชื่อกันมาหรอก จริงมั้ยครับ เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นต่างหาก ปู่ ย่าผมไม่เห็นต้องจดทะเบียนสมรสยังอยู่รักกันได้ จน 80 ปี แม้กระทั้งยามจากไปก็ไม่เห็นมีทะเบียนสมรสเลย

สู้ต่อไปนะครับ

ปล.พี่แก้วจ๋าอาจไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้แล้วนะครับ พี่เขาแจ้งไว้ในกระทู้ก่อนหน้าแล้ว

auntiemoo เขียน:

auntiemoo เขียน: คุณbalm/คุณแก้วจ๋า/คุณพ่อยอด/คุณน้ำมนต์
กรรมการทุกท่าน/เพื่อนสมาชิก

คอมพ์เสีย เหนื่อยใจเลยไปพักที่บ้านแม่ ไม่ได้เปิดคอมพ์ เลยไม่เข้ามาเลย ยังไงก็ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ
ขออัพเดทสถานะปัจจุบันนะคะ ตอนนี้มีก็แต่ กรุงเก่ากับ ซิตีแอด ที่โทรมา รู้สึกว่าจะเปลี่ยนบริษัทฯทวงมานะคะ ถ้าฟังไม่ผิด STD ก็เงียบไปเลยค่ะ 6-7เดือนหยุดจ่าย ยังไม่น่าฟ้องใช่หรือเปล่าคะ หลายรายเงียบไปเลยไม่มีโทรมา เขาทำอะไรกันอยู่นะ เราต้องไปเช็คที่ศาลหรือยังคะ เครียดค่ะ
ตอนนี้ยังไม่ได้ไปจดทะเบียหย่าเลยค่ะ กะว่าอาทิตย์หน้าแน่นอน จะไปใจมันก็หดหู่ อย่าตำหนิกันเลยนะคะ ว่าอายุก็ป่านนี้แล้วจะมัวหดหู่จะมัวsensitiveอะไรกันนักหนา (แต่ขอโทษนะคะทำใจไม่ค่อยได้จริงๆค่ะ)
ทำอย่างไรอยากจะหลังไมค์กับคุณbalm คุณแก้วจ๋ะ เพราะป้าหมูบอกตรงๆวาหาทางออกไม่ได้จริงๆ

เพือนสมาชิก/ท่านกรรมการ

อึมครึมจัง หายไปไหนกันหมด หรือเบื่อป้าหมูกันหมดแล้ว ฮือ.ฮือ

ป้าหมูค่ะ ยังเข้ามามองอยู่ค่ะ แต่เราแต่ละคนอาจไม่สะดวกที่จะเข้ามาตอบ

บ่อยๆ เช่นเดิมค่ะ

เรื่องฟ้อง ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ค่ะ ถ้าป้าหมูอยากทราบ น่าจะโทรถามจากศาล

ในเขตทะเบียนบ้านเป็นระยะได้ค่ะ

ระยะ 6 เดือน ขึ้นไป เป็นช่วงที่เจ้าหนี้รู้แล้วว่า ป้าหมูผิดนัดชำระหนี้ถาวร

1 อาจเตรียมเสนอส่วนลดเพื่อปิดหนี้ หรือ

2 เสนอปรับโครงสร้างหนี้ หรือ

3 เสนอพร้อมคำขู่สารพัดค่ะ

แค่เตรียมพร้อมทั้งใจ และสติเพื่อฟัง ไม่ใช่ตื่นตระหนกค่ะ ทุกอย่างมาตาม

ระบบค่ะ จะขอแนะนำว่า การลดค่าใช้จ่ายยังคงทำต่อไป พร้อมกับการออม

ไปทีละน้อยค่ะ เขาถามมา ตอบได้ก็ตอบไป ไม่มีก็ต้องบอกว่า ไม่มี

หากพูดไม่ดี ก็ตัดสายจบกันไป หากไม่ยอมจบ ก็ต้องใช้ไม้แข็งบ้างค่ะ

เรื่องแยกทะเบียน ป้าหมูจะทำก็ได้เพื่อความสบายใจไร้กังวล หรือไม่ทำ

ก็ได้ ไม่มีใครบังคับ แต่ถ้าจะทำ ต้องทำก่อนได้หมายศาลเท่านั้นค่ะ

เพื่อใจไม่เครียดก็เปลี่ยนจากเจ้าบ้านมาเป็นลูกบ้านก่อน หรือย้ายตัวเอง

ไปอาศัยญาติสนิทเพียงชื่อชั่วคราว จนกว่าจะเรียบร้อยค่ะ


ถ้าป้าหมูต้องการคำปรึกษา ป้าหมูโทรสายด่วนตามชื่อ เบอร์ และเวลา

ของกรรมการนะค่ะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

ขอบคุณนะคะ พ่อยอด คุณแก๋วจ๋า
ตอนนี้มีกรุงศรี ที่เดียวโทรมา พูดดี๊ดี อธิบายอะไรก็ฟัง กรุงศรีมีสองบัญชี โทรมาบัญชีเดียว (แปลก) นอกนั้นหายเงียบ ทั้งสบายใจและไม่สบายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่รอ (เพราะยังไงก็เก็บเงินไม่ได้จริงๆ)
ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านนะคะ