ขอบคุณค่ะพี่ลี ศาลปทุมไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ว่่าแล้วก็ขอแชร์ประสบการณ์ขึ้นศาลครั้งแรกในชีวิตให้พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ำกำลังจะได้จบภาระหนี้ค่ะ
เริ่มตั้งแต่ขับรถเข้าประตูรั้วศาลจังหวัดปทุมธานี ประมาณ 7.45 น. (หมายนัด 8.45 ค่ะ แต่ว่าตื่นเต้นเลยมาเร็วหน่อย)
พอจอดรถเวลายังเหลือ ก็เลยเดินไปสักการะศาลหลักเมืองซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ศาลปทุมค่ะ ประมาณว่าหาที่พึ่งทางใจให้ตัวเองว่างั้น
เสร็จแล้วก็กลับมาที่รถมาเอาเอกสารแล้วก็เดินเข้าไปที่ประตู ....
ตั้งแต่ก้าวเข้าประตู ก็เจอ รปภ.ยืนยิ้มแฉ่งถามว่าคดีอะไรครับ เราก็ยื่นหมายศาลให้ดู เค้าบอกให้เซ็นชื่อผู้มาติดต่อก่อน แล้วไปดูรายชื่อที่บอร์ด หลังจากที่ดูเสร็จแล้ว ก็เดินมาอย่างงุนงง (ให้ไปที่ห้องไกล่เกลียตรงไหนหว่า)
รปภ.คนเดิมเห็นก็ถามว่าไปห้องไหนครับ เราก็บอกว่าห้องไกล่เกลี่ยค่ะ เค้าก็ชี้ทางไปว่าเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายครับ (น่ารักจิง ๆ เชียว
เราก็เดินไปตามทางที่ลูกศรชี้ และก็เจอแม่บ้านนั่งอยู่ตรงทางเลี้ยว ก็เลยถามว่าทางนี้ไปห้องไกล่เกลี่ยหรือปล่าวคะ แม่บ้านก็ยิ้มบอกใช่จ๊ะ แต่พนักงานเค้ากว่าจะทำงานก็ประมาณ 9.00 น. ไปหาข้าวกินก่อนเถอะ เราก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ ขอนั่งรอหน้าห้องดีกว่า เพราะเรียบร้อยมาแล้ว แม่้บ้านก็ยิ้มบอกว่ากาแฟที่หน้าห้องชงทานได้นะ (ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นเยอะเลย) เวลาประมาณ 8.20 ก็เริ่มมีพนักงานเดินเข้ามา สักพักก็เอากระดาษมาแปะที่หน้าห้อง เราก็เดินไปดูก็จะมีรายชื่อผู้ที่นัดมาไกล่เกลียของวันนี้ มีคดี UOB อยู่ 4 คน (คิดในใจมีเพื่อนแล้วเว้ยยย) ดูเสร็จก็เข้าไปถามเจ้าหน้าที่ว่าให้พี่นั่งรอหน้าห้องก่อนใช่ไหมค่ะ น้องเจ้าหน้าที่บอกว่าครับเดี๋ยวทางเราจะเรียกชื่ออีกที ระหว่างนั่งรอ มีคนแต่งตัวดีมีสง่า คิดในใจสงสัยจะเป็นทนายแน่ ๆ เค้าก็นั่งรอใกล้ๆ เราถัดไปนิดเดียว สักพักมีสาวน้อยหุ่นอวบมานั่งข้าง ๆ พร้อมหมายศาลเหมือนกัน ก็เลยหาเพื่อนคุยเพื่อความอุ่นใจ น้อง ๆ มาคดีอะไรค่ะ น้องสาวบอกว่า ของ KTC ค่ะ ยอดประมาณ 30,000 กว่า ๆ เลยถามต่อว่าแล้วน้องคิดหรือยังว่าจะทำอย่างไร น้องบอกว่าคิดไว้แล้วค่ะ พอดีหนูเข้ามาอ่านกระทู้ในชมรมนี้เหมือนกัน (มีเพืื่อนแล้ว)
ประมาณ 9.20 น. ก็มีชายคนนึ่งหอบเอกสารมาปึกใหญ่ แล้วเดินเลยเราไปนั่งตรงโต๊ะใกล้ ๆ สักพักก็เดินกลับมาพร้อมเซ็นเอกสารอะไรไม่รู้ที่หน้าห้องเจ้าหน้าที่ แล้วก็เดินมาถามเรากับน้องข้าง ๆ ว่าคดีของอะไรครับ น้องก็บอกไป... เราก็บอกว่าของ UOB ค่ะ ชายคนนั้นก็บอกว่าคดี UOB รอก่อนเพราะพูดยาก (เอาละสิ)
แล้วก็เดินไปที่โต๊ะเอกสารเค้า เราก็เลยไปถามเจ้าหน้าที่ว่าพี่คนนี้เป็นทนายโจทย์เราหรอ เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าใช่ค่ะ แล้วทนายคนนั้นก็เข้ามาคุยกับสาวน้อยว่าจะชำระอย่างไร แล้วเ้ค้าก็โทรไปที่เจ้าหนี้ ที่น้องเค้าเป็นหนี้อยู่
พอเสร็จเรื่องน้องคนนั้น เค้าก็หันมาถามเราว่าทาง UOB เค้าให้ผ่อนชำระได้แค่ 12 งวด ไหวไหม... เราก็บอกว่าส่งไม่ไหวหรอกค่ะ 12 งวด ขอ 24 งวดได้ไหม ทนายบอกว่าไม่ได้ ถ้างั้นเคยคุยกับเจ้าเหน้าที่คนไหนหรือเปล่า เราก็บอกว่ามี งั้นลองโทรต่อลองเค้าดู แล้วเราก็โทรหาเจ้าหน้าที่ที่เคยคุยกัน ว่าขอผ่อน 24 งวดได้ไหม UOB บอกไม่ได้ครับ เราก็ถามต่อว่าแล้วจะทำอย่างไร UOB บอกว่าพี่ต้องจ่ายงวดเดียวจบ จะคิดเฉพาะเงินต้น ส่วนดอกเบี้ย และ ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ประมาณ 2 หมื่นจะลดให้ ถ้างั้นพี่ก็ขอเลื่อนนัดศาลไปก่อน แล้วถ้ามีเงินมาปิดยอดก็โทรหาผมอีกที
ทนาย --- ตกลงเลื่อนนะครับ
Honey ---- ค่ะ ทางนั้นไม่ยอมให้ผ่อนยาว
แล้วทนายก็เข้าไปบอกเจ้าหน้าที่ว่า น้องเค้าขอเลื่อนคดีเพื่อขอเจรจาปิดหนี้ก้อนเดียว เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้างั้น เป็นเดือนมกราคม 2557 เลย ยกเว้น 21 กับ 23 ตกลงเราก็นัดเป็นวัน ที่ 26/1/2557
เสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็ Print เอกสารเลื่อนนัด ให้ทนาย และ เราเซ็นชื่อรับทราบ แล้วให้เรามา 1 ใบ
ทนายบอกว่าเสร็จแล้วครับ รีบไปหาเงินมาปิดหนี้ให้ได้นะครับ เสร็จธุระประมาณ 10 โมงกว่า ๆ โล่งอกไป ทีนี้ก็คิดว่าจะทำอย่างไรกับหนี้ก้อนหนี้ (ยอดเงินต้น 65,605 ยอดฟ้อง 82,186 สิ่งที่คิดไว้คือ
1.ขอยืมเงินเจ้านายมาปิด แล้วให้แกหักจากเงินเดือนเราสักเดือนละ 3000 (เจ้านายคงไม่คิดดอก)
2.ยอมให้อายัดเงินเืดือน เงินเดือน 12,000 (30% = 3,600-12,000 คงเหลือ = 8,400 แต่กฏหมายกำหนด จะต้องเหลือเงินให้ลูกหนี้เอาไว้ใช้สำหรับดำรงชีพไม่น้อยกว่า 10,000.-บาท
เพราะฉะนั้น เราก็จะโดนหักเดือนละ 2,000 [/color]
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเลือกวิธีไหน แต่คิดว่าจะขอยืมเจ้านายแล้วสักก้อน แล้วโทรขอส่วนลดอีกหน่อยน่าจะดีกว่าค่ะ
ถ้าไม่เจอชมรมนี้ เป็นวัคซีนป้องกัน ป่านฉะนี้ Honey คงสติแตกไปแล้วค่ะ ค่ะอย่างที่พี่ลีและพี่ๆ ในชมรมบอกไว้ว่า ไปศาลอย่าลืมพกพาสติไปด้วย ขอบคุณค่ะ