มีหมายศาลมาแล้ว จะHair cutเลยหรือไปตกลงที่ศาลดีครับ

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #28999 โดย krit
อ่านมาแล้วครับจากความรู้เบื้องต้นเรื่อง Hair Cut ว่าสามารถทำได้แม้จะได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล

มีหมายศาลมาสัปดาห์ก่อนนะครับ ของฮ่องกงแบ้งค์
เงินต้น 56600 รวมดอกเบี้ยแล้วให้จ่าย 99000 ครับ
วันนัดเจรจาที่ศาล 25/1/2556 ครับ

ตอนแรกก็จะปล่อยไปก่อนเพราะไม่มีเงินเลยครับ (ตอนนี้จ่ายของกรุงไทยครับ ตามสัญญายอม)
แต่ฟ้าช่วยเหลือ สิ้นปีที่ผ่านมานี้ถูกหวยครับได้ 43000 (มีเงินส่วนตัวอีก 5000 บาทครับ) เลยตัดสินใจจะจ่ายแบบ Hair cut ตัวนี้ครับ

ขอคำแนะนำว่าผมควรโทรไปเจรจาต่อรองก่อนหรือไปเจรจาที่ศาลดีครับ (ศาลต่างจังหวัดครับ คราวก่อนที่ไปของกรุงไทย ท่านไม่ค่อยช่วยเลยครับ) จะมีความแตกต่างกันไหมครับ

**รบกวนอีกเรื่องครับ ทุกวันนี้ผมเก็บเงินสดไว้กับตัวตลอดเลยครับ ถ้ามีเงินบ้างจะสามารถเก็บในธนาคารที่เราไม่มีหนี้กับธนาคารนั้นได้ไหมครับ (เก็บให้ได้จำนวนเพื่อเอาไป Hair cut) เราจะโดนสืบเจอแล้วอายัดไหมครับ**

ผิดพลาดอันใดขออภัยด้วย และขอขอบคุณนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #29039 โดย krit
คงเป็นคำถามเห่ย ไม่ควรปรึกษาสินะ
:crying:
:sweat:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #29045 โดย poop42685
ลองอ่านดูนะครับอย่าพึ่งน้อยใจเลย สู้ๆเข้าไว้เดียวก็มีท่านผู้มีประสบการณ์มาตอบให้ที่ผมยกมาให้นี้ก้ได้มาจากกระทู้ในนี้แหละครับ อ่านแล้วลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ
กลยุทธ์และคำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการทำ Hair-Cut 1.คุยดีๆ กับคู่สนทนา แสดงจุดยืนว่าอยากจะแก้ปัญหาหนี้ 2. แสดงถึงความลังเลเล็กๆมีลูกล่อลูกชน ว่าจะจ่ายเจ้าหนี้ที่กำลังคุยอยู่ หรือว่าจ่ายเจ้าอื่นดี (ที่ให้ส่วนลดเยอะกว่า) ถ้าคุณไม่เอาก็ไปต่อท้ายแล้วค่อยว่ากันใหม่ 3. กำหนดเวลาให้เจ้าหนี้ตัดสินใจว่าจะยอมตามเงื่อนไขที่เราเสนอหรือมีเงื่อนไขที่ดีกว่าหรือไม่ 4.อธิบายเจ้าหนี้ว่าได้เงินจากเรา ดีกว่าการฟ้องร้องถึงศาลเรามีเวลาไปสู้คดีและรู้ เข้าใจกฎหมายคดีแพ่งพอสมควร เจ้าหนี้จะฟ้องไม่ยอมลดจริงหรือ? 5. ถ้ามีเงินก้อน อยากทำ Hair-cut แล้ว และมีตัวเลขในใจที่อยากได้ส่วนลดแล้ว เจรจากับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เราโดยตรงก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องติดต่อกับสำนักงานกฎหมายเสมอไป เพราะสถาบันการเงิน เจ้าหนี้จะตัดสินใจได้ง่ายกว่า เพราะสำนักงานกฎหมายจะได้ค่าคอมพิวเตอร์ หรือซื้อหนี้เราต่อมาจากสถาบันการเงินอีกที ดังนั้นถ้าเรามีเงินก้อนแล้ว ยังไงเสียสถาบันการเงินก็ต้องเสียค่าคอมให้สำนักงานกฎหมายอยู่ดี เค้าจึงลดหนี้ ตัดสินใจลดหนี้ให้เราได้ไม่อยากครับถ้าติดต่อกับสำนักงานกฎหมาย เค้าก็เป็นเพียงตัวกลางที่จะไปคุยกับสถาบันการเงินให้เท่านั้นเองดังนั้นในมุมมองของผมคุยโดยตรงเองเลยดีกว่าครับ ทั้งนี้ลดได้มากน้อยขึ้นอยู่กับการคุยเจรจาต่อรองด้วยครับ ย้ำไปเลยครับว่าลดตามที่เราต้องการ เราจ่ายได้ทันที 6. เงินที่จะนำมา Hair-Cut ต้องเงินที่ไม่ได้มาจากการกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยนะครับ หรือเป็นเงินเก็บ หรือ โบนัส เพราะถ้าไปกู้มาอีก ก็ไม่จบไม่สิ้นซักทีซักหน้าไม่ถึงหน้าอีกเหมือนเคย 7. ถ้าเจ้าหนี้เป็นฝ่ายเสนอลดมาเอง อยากให้มองว่าอย่างกลางๆ ครับว่าเงื่อนไขที่ทางเจ้าหนี้เสนอมานั้น เราจ่ายไหวไหม? น่าสนใจและรับได้และพอใจหรือเปล่า? อย่าไปมองเพียงแค่ต้องการให้ได้ส่วนลดเยอะๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ให้พิจารณาว่าถ้าเราจ่ายไปแล้ว เราลดเจ้าหนี้ไปอีกหนึ่งราย(ได้ลดภาระหนี้ไปทีละจุดๆ)ที่เหลือก็ค่อยๆมาปลดหนี้ที่ละรายต่อไป ตามกำลังและความสามารถ(แต่ต้องจ่ายไหวด้วยตัวเองจริงๆนะ ไม่ควรไปกู้หนี้ยืมสินที่ต้องเสียดอกเบี้ยจากที่อื่นมาปิด Hair-Cut อีก มิฉะนั้นจะไม่มีวันจบสิ้น) ถ้าสามารถทำได้เช่นนี้ ก็จะสามารถค่อยๆปลดหนี้ได้สำหรับการ Hair Cut หนี้นั้นสามารถทำได้ตลอดทุกช่วงเวลา หลังจากที่หนี้ของเราเน่าเต็มที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในช่วง 1. ก่อนได้รับหมายฟ้อง(ต้องไม่จ่ายนานๆหลายเดือนพอสมควร) 2. ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล 3. ขึ้นศาลแล้วยังไม่ได้พิพากษา แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี 4. ศาลพิพากษาเรียบร้อยแล้ว และรอการจ่ายชำระเงินคืนตามคำพิพากษาก็ Hair-cut ได้อยู่ 5.ศาลพิพากษาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการถูกอายัด อายัดทรัพย์สินหรือเงินเดือน ก็ Hair-cut ได้อยู่ สรุปว่าถ้าตนยอม ยังไงก็ Hair Cut ได้ครับ ข้อพึงระวังก่อนตัดสินใจทำ Hair-Cut ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญของการทำ Hair Cut คือ จะต้องให้ทางเจ้าหนี้ทำเอกสารยืนยันการปลดหนี้ หรือหมดซึ่งภาระหนี้ ซึ่งกันและกันด้วยทุกครั้ง โดยเราต้องได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหนี้ก่อนที่จะทำการชำระ Hair Cut ใดๆ เมื่อเจรจา Hair Cut ไม่สำเร็จ Hair Cut ไม่สำเร็จไม่เป็นไรครับ เพราะเรามีเงินก้อนถือว่าเป็นต่อแล้ว ถ้าไม่ไปเจรจาเจ้าอื่น เพราะมีหนี้ก้อนนี้ก้อนเดียว เก็บเงินสดไว้ก่อนครับ พร้อมกับบอกให้เจ้าหนี้ส่งเรื่องฟ้องศาลได้เลย หลายท่านคงถามว่าบ้าหรือเปล่าเร่งให้ฟ้องศาล การเจรจาต่อรองหนี้เหมือนเกมวัดใจครับ เหมือนเล่นไพ่ poker เหมือนกัน เพราะจิตวิทยาเจ้าหนี้ส่วนใหญ่รู้ว่าคนส่วนใหญ่กลัวโดนฟ้อง ลูกหนี้ไม่อยากขึ้นศาล วุ่นวายใหญ่โต ถ้าเราโชว์ให้เห็นไปเลยครับว่า เราพร้อมไปศาล เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เสนอเงินคืนให้คุณก็ไม่เอา เจ้าหนี้ฉุกคิดแล้วครับ เพราะการเจรจา Hair Cut ถ้าเราได้ทำเอกสารแจ้งเจ้าหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้วและนำเอกสารนี้ไปแสดงต่อศาลว่าเรามีความพยามยามที่จะจ่ายแล้ว แต่เจ้าหนี้ไม่รับ ศาลก็เห็นใจเราครับ สู้คดี ค่อนข้างได้เปรียบ อย่าลืมว่า Hair Cut ทำเมื่อไหร่ก็ได้ ศาลตัดสินแล้วยังทำได้เลย...ดังนั้นถ้ายอดที่เราเสนอไปครอบคลุมเงินต้นที่เราค้างชำระอยู่ บวกกับดอกเบี้ย ที่เจ้าหนี้ควรจะได้ในอัตราที่เหมาะสม (อย่างน้อยร้อยละ 15 ต่อปี) ถ้าเราเสนอยอดสูงกว่ายอดนี้และแสดงให้เห็นว่าเรายื่นข้อเสนอนี้ไปแล้ว ศาลอาจคำนวณยอดหนี้และดอกเบี้ยให้อย่างเป็นธรรม...ยังไงเราปลดหนี้ได้ในยอดที่น่าจะใกล้เคียงกับที่เสนอ Hair Cut ครับเพียงแต่ช้ากว่าหน่อยเท่านั้นเองครับ :สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ: :สู้ๆ:
:bye: :bye: :bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #29068 โดย balm
ดีใจด้วยค่ะ ที่ถูกหวยนะ โชคดีรับปีใหม่เลย ฟ้ากำลังเปิดทางให้แล้วค่ะ

ถ้าพี่มีเงินก้อนแบบคุณนะ พี่จะดูว่ายอดหยุดเท่าไร ถ้ายอดที่พี่หยุดคือ 50000 บาท(สมมติ) และยอด ณวันนี้คือ 95000 บาท (สมมติ) พี่จะไม่คุยเรื่องดอกเบี้ยที่เกิดกับเขาคะ

พี่จะอ้างเงินต้นที่ค้างเขาเท่านั้นคือ 50000 บาท (สมมติ) และจะต่อรองจากเงินต้นที่ค้างเขา อาจต่อไปที่ 40000 บาท(สมมติ) หรือ 20000 บาท(สมมติ) และจะบอกเขาว่า

"คุณจะเอามั้ย แค่ 20000 บาท(สมมติ) ผมมีเท่านี้ เพราะยังไง 10 ปีผมรอสืบทรัพย์ได้เนื่องจากไม่มีทรัพย์อื่นให้ยึด พอดีคุณโชคดีนะที่ผมถูกหวย เลยนึกอยากคืนคุณขึ้นมา และผมก็อยากทำให้คุณได้เงินบ้าง แต่มากที่สุดเท่าที่ผมจะหามาให้คุณได้น่ะครับ เจอกันครึ่งทางเถอะครับ"

พี่ก็จะคุยแบบนี้แหละ เอามั้ย ไม่เอาเราก็ไม่เป็นไรเก็บเงินนี้เอาไว้ใช้ประจำวัน ยามเดือดร้อน ก็ดีค่ะ

ลองดูนะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 4 เดือน ที่ผ่านมา #29084 โดย krit
เย้ๆๆๆ มีคำแนะนำแล้ว

ขอบคุณนะครับคุณ Poop42685 และคุณ balm ครับ (o_O)

แผนตอนนี้คือตอนนี้มี 40000 เดือนหน้ามีแต๊ะเอีย น่าจะพอรวมได้สัก 60000 ครับ
ตอนแรกผมกะจะโทรหาสำนักทนายความ แต่พออ่านจากคุณ Poop42685 ก็ตัดสินใจว่าจะโทรเจรจากับทางฮ่องกงแบ้งค์โดยตรงครับ โดยเป้าหมายในใจขอชำระแค่ 40000 ตามที่คุณ balm แนะนำครับ

แต่ถ้าปิดยอดที่ 50000+ คงต้องรอช่วงกลางเดือนกุมพาพันธ์ แต่หมายนัดไปศาล 25/1/2013
แบบนี้ควรขอเลื่อนนัดศาลดีไหมครับ หรือว่าถ้าเราจะจ่ายยังไงไปหรือไม่ไปศาลก็ไม่มีผลครับ

ขอบพระคุณมากเลยครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29280 โดย krit
มาอับเดทครับ
โทรไปแล้วครับ แต่ตอนนี้ฮ่องกงแบ้งค์ถูกโอนเป็นของบัตรกรุงศรีไปแล้วครับ
คนที่คุยด้วยคือ Call center ครับแล้วก็ไม่ยอมโอนสายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
แต่แนะนำให้ไปคุยกับสำนักงานกฏหมายที่ฟ้องเราอ่ะครับ
พรุ่งนี้คงต้องต้องโทรคุยกับสนง.นั้น

:sweat:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29304 โดย Rider V1
สู้ๆๆๆ ครับ มีเงินอยู่ในมือก็เสียงดังได้ อัตราเป็นต่อก็สูงอยู่แล้วครับ o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29318 โดย mlek
เข้ามาเป็นกำลังใจค่ะ

สู้สู้นะคะ :สู้ๆ:

เล็กก็มี HSBC เหมือนกันค่ะ ตอนนี้เค้าเปลี่ยนผู้ดูแลแล้วนะคะเป็นกรุงศรี (อย่างที่คุณรู้)
ยอดที่เล็กค้างอยู่ 9X,XXX.- หยุดจ่ายเดือน เมย.55 ที่ผ่านมาค่ะ
สงสัยยอดปัจจุบันตอนนี้คงทะลุแสนแล้วล่ะค่ะ 5555.... :เฮ้อ:

แต่ก็นะคะ ถ้าคุณมีเงินสดอยู่ในมือคุณก็เสียงดังค่ะ เพียงแต่ต้องแน่ใจนะคะว่า
จ่ายเงิน h/c ไปแล้วยังคงมีเงินเหลือพอกินพอใช้
ยังงั้ยไปศาลครั้งแรกนี้ก็สามารถขอเลื่อนศาลได้นะคะ (ลองอ่านจากผู้มีประสบการณ์ดู)
แล้วก็ค่อยถอยมาตั้งหลักดูใหม่ว่าตัวเรายังโอเคมั้ยที่จะจ่าย
แล้วก็ติดต่อไปยังธนาคารหรือสำนักงาน หรือหากคุยกับทนายที่ศาลก็ขอเบอร์ผู้ดูแลคุณจากทนายซะเลย

สำหรับปีนี้เล็กเองก็คงจะได้รับหมายศาลเป็นของตัวเองแล้วล่ะค่ะ
เพราะยอดเฉียดแสนทั้งน๊านนนนน....

สู้สู้นะคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29338 โดย krit
โทรไปคุยกับสนง.กฏหมายมาแล้วครับ
ยอดหนี้ 99000 เงินต้น 56600

ตอนแรกแจ้งยอดปิดบัญชี 62000 บาท
ถ้าจะขอ 60000 ต้องเขียนคำร้อง

แต่ผมสู้ครับ
ผม - มี 40000 ครับจ่ายได้เลย
จนท. - บอกได้เลยค่ะว่าไม่ได้ แต่เดี๋ยวขอเช็กก่อนนะคะ (ไปคุยกับหัวหน้า) อีก 5 นาทีโทรกลับ

---5 นาที---
จนท. - เต็มที่เลยนะคะ 55000 แต่ต้องจ่ายก่อนนัดสืบ 25/1/13 นี้นะคะ
ผม - 45000-50000 ก็ไม่ได้หรือครับ
จนท. - ไม่ได้เลยค่ะ ยอดแรก 62000 นั้นคือลด 40%แล้วนะคะ ที่คุณขอมา 50000 นั้นเป็นส่วนลดกรณีลูกค้าเสียชีวิตแล้วนะคะ
ผม - คุณครับ ถ้าผมตายคุณก็ไปเอาตังจากไหนไม่ได้หรอกครับ ผมไม่มีทรัพย์สินที่ไหน คุณไม่สามารถเอาจากครอบครัวผมได้หรอก
จนท. - สตันไปพักนึง
ผม - เอาอย่างนี้ 53000 ได้มั้ย ลดอีก 2000 จ่ายกลางเดือนกุมพาพันธ์ (เพราะคิดว่าไหนๆก็ต่ำกว่าเงินต้นแล้ว)
จนท. - ถ้าจะจ่าย 53000 ต้องเขียนใบคำร้องมานะคะ และต้องจ่ายก่อน 25/1/13 นี้ (น้ำเสียงครุ่นคิดกระเดียดไปทาง ok แต่ขอเล่นตัว)
ผม - 53000 จ่ายกลางเดือนกุมพาพันธไม่ได้หรือครับ
จนท. - ไม่ได้ค่ะ เพราะนัดสืบ 25/1 นี้ หลังจากศาลพิพากษาแล้วดอกเบี้ยอาจจะเปลี่ยน จะต้องคำนวนใหม่อีกที

สรุปคือ
1. 55000 จ่ายก่อน 25/1/13 นี้
2. 53000 จ่ายก่อน 25/1/13 นี้ - แต่ต้องเขียนคำร้อง ซึ่งอาจจะไม่ได้
3. XX,XXX จ่ายกลางเดือนกุมพาพันธ หลังวันนัดสืบ
4. ไปขึ้นศาล ได้จ่ายยอด XX,XXX <---- เพื่อนๆครับ ถ้าไปขึ้นศาลผมจะได้จ่ายถูกกว่านี้อีกมั้ยครับ ใจจริงๆอยากจ่าย 40000-45000 ครับ

ผมจะเลือกข้อไหนดี :vomit:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29339 โดย พ่อยอด
เท่าที่ผมอ่านมา มันมีแนวทางในการขึ้นศาลเพื่อขอเลื่อนโดยใช้เหตุผลว่ากำลังอยู่ระหว่างเจรจากับทางธนาคาร ซึ่งปกติศาลจะให้เลื่อนได้ จะมากน้อยไม่เท่ากัน ในกรณีของคุณต้องการเวลาเพิ่มอีกไม่ถึงเดือนไม่น่าจะมีปัญหา ยังไงคุณลองเอาหมายศาลไปขอคำปรึกษาที่สวนลุมก็ได้ครับ หรือลองโทรสายด่วนหากรรมการตามเวลาแล้วสอบถามข้อมูลดูครับ


:say: :say:

(ทำไมเอารูปที่ผมชอบออกเนี่ย)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29353 โดย krit
ขอบคุณครับคุณ Rider V1 คุณ mlek
คุณพ่อยอดครับ
ประเด็นคือต้องกลับบ้านตจว. ซึ่งไม่สะดวกเลยครับ
ใจจริงก็อยากจะจ่ายเลยอ่ะครับ ในกทม.นี้
แต่ถ้าจะกลับบ้านตจว.เพื่อเลื่อนนัดศาลก็คิดว่าน่าจะเจรจาตกลงจ่ายเลยอ่ะครับ
(จะอ้อนวอนศาลท่านให้เหลือสัก 45000-50000)
แต่เอ ถ้าตกลงจ่ายไรกันแล้ว ณ 25/1 จะกำหนดวันจ่ายเป็นกลางเดือนกุมพาได้มั้ยนะ :เฮ้อ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29357 โดย Nok2865

krit เขียน: ขอบคุณครับคุณ Rider V1 คุณ mlek
คุณพ่อยอดครับ
ประเด็นคือต้องกลับบ้านตจว. ซึ่งไม่สะดวกเลยครับ
ใจจริงก็อยากจะจ่ายเลยอ่ะครับ ในกทม.นี้
แต่ถ้าจะกลับบ้านตจว.เพื่อเลื่อนนัดศาลก็คิดว่าน่าจะเจรจาตกลงจ่ายเลยอ่ะครับ
(จะอ้อนวอนศาลท่านให้เหลือสัก 45000-50000)
แต่เอ ถ้าตกลงจ่ายไรกันแล้ว ณ 25/1 จะกำหนดวันจ่ายเป็นกลางเดือนกุมพาได้มั้ยนะ :เฮ้อ:

ไม่ใช่หน้าที่ของศาล ที่จะมาลดหย่อนหนี้ให้ ไปอ่านกระทู้นี้วันละหลายๆรอบ เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน
ถ้าอยากจบก่อนขึ้นศาล เพราะคุณพึ่งมาบอกว่า ไม่อยากเดินทางไปตจว. ก็ต้องเลือกเอา
อยากปิดจบแต่เสียดายเงิน งู้นงี้ ฮ่วย! เราเอาเงินเขามาจริง แค่ได้หยุดหมุนเงิน และได้จ่ายคืนในราคาที่เหมาะสมก็ดีถม
เลือกเอาว่าจะยื้อ หรือจะจบ
อย่าลืมนะ ไปอ่านกระทู้นี้หลายๆรอบ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=52 ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล By: พี่นกกระจอกเทศ

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: june

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29358 โดย krit
คุณกอบัวครับ ขอบคุณมากนะครับ
:laughing:
คืนนี้ขอติดไว้ก่อนครับ ตาจาปิดเล้ว
จะทำความเข้าใจให้ดีเลยครับ ^_^

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29405 โดย Ketsara9652
ถ้ามีเงินพร้อมปิด และไม่ลำบาก ก็ปิดก่อนวันที่ขึ้นศาลดีกว่าครับ ถ้าโชคไม่ดีศาลไม่ให้เลื่อน ออกคำพิพากษามาแล้วเจ้าหนี้เค้าถือไพ่เหนือกว่าเรา คราวนี้ยอดที่ปิดสูงกว่าเดิมอีก ต่อให้เลื่อนนัดได้ ดอกเบี้ยธนาคาเค้าก็เดินอีก ทำไปทำมายอดมันเพิ่มขึ้น ลดลงมาก็ไม่ต่างกัน
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: krit

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29432 โดย krit
ประเด็นคือก่อน 25/1/13 ผมจะมีเต็มที่ก็ 41000 เองอ่ะครับ
ถ้าจะ 55000 ต้อง 11/2/13 อ่ะครับ
อยากจะจ่ายให้จบๆไปเหมือนกันแล้วครับ 55000 ก็โอแล้วตอนนี้
:laughing:
ยังมีเวลาอีก 10 วัน ตรึกตรองๆ :pray:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29445 โดย พ่อยอด
ตามความเห็นผมนะครับ คุณน่าจะลองโทรไปอีกครั้ง ถ้าคุณยอมรับที่ 55000 หรือ 53000 ก็ลองขอจ่ายเป็น 2 งวด งวดแรก 40000 จ่ายก่อน 25/01 ที่เหลือก็หลัง 11/02 ไปแล้ว
ให้เขาออกหนังสือรับรองมาให้ ลองคุยดูครับยังไงคุณก็มีเจตนาจะจ่ายคืนอยู่แล้ว แต่ถ้าเขากลัวคุณเบี้ยวงวด 2 เขาอาจไม่ยอมเนื่องจากเขาไม่สามารถฟ้องซ้ำได้ หรือทางทนายโจทย์อาจขอเลื่อนเองเพื่อรอให้คุณชำระครบตามเงื่อนไข

ส่วนเรื่องว่าถ้าเจรจากันเรียบร้อยมีหนังสือชัดเจน แล้วคุณยังต้องไปศาลหรือเปล่านี่ผมไม่แน่ใจนะครับ ถ้าให้ชัดเจนคุณลองโทรสายด่วนปรึกษาคุณกรรมการ ตามเวลาอีกครั้งดีกว่าครับยังพอมีเวลา

ขออภัยที่ยังฟันธงให้คุณไม่ได้ชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดของประสบการณ์ผมเองที่มีไม่มากนัก ยังไงก็ยังเป็นกำลังใจให้ครับ

:bye: :bye:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29446 โดย jackTs

krit เขียน: ประเด็นคือต้องกลับบ้านตจว. ซึ่งไม่สะดวกเลยครับ
ใจจริงก็อยากจะจ่ายเลยอ่ะครับ ในกทม.นี้
แต่ถ้าจะกลับบ้านตจว.เพื่อเลื่อนนัดศาลก็คิดว่าน่าจะเจรจาตกลงจ่ายเลยอ่ะครับ

แต่เอ ถ้าตกลงจ่ายไรกันแล้ว ณ 25/1 จะกำหนดวันจ่ายเป็นกลางเดือนกุมพาได้มั้ยนะ

ประเด็นคือก่อน 25/1/13 ผมจะมีเต็มที่ก็ 41000 เองอ่ะครับ
ถ้าจะ 55000 ต้อง 11/2/13 อ่ะครับ
อยากจะจ่ายให้จบๆไปเหมือนกันแล้วครับ 55000 ก็โอแล้วตอนนี้
ยังมีเวลาอีก 10 วัน ตรึกตรองๆ


ยังมีอีกวิธีหนึ่ง

ให้ทางฝ่ายเจ้าหนี้ ออกเอกสาร Hair cut ยืนยัน โดยมีเนื้อหาให้สามารถผ่อนชำระได้เป็น 2 งวด (สองงวด) ตามนี้

1. ชำระงวดแรก ก่อนวันที่ 24/ม.ค./56 จำนวนเงิน 40,000.-บาท (ชำระก่อนวันนัดสืบพยาน)
2. ชำระงวดที่สอง ก่อนวันที่ 24/ก.พ./56 จำนวนเงิน 15,000.-บาท (เป็นการชำระหนี้ที่เหลือจนหมด)
หากไม่ชำระตามนี้ สัญญาฉบับนี้เป็นอันโมฆะหรือยกเลิก

ซึ่งการชำระเงินทั้งสองงวดนี้ รวมแล้วเป็นจำนวนเงิน 55,000.-บาท ตามที่ทางฝ่ายโจทก์ต้องการพอดี
เมือถึงเวลานั้น ตัวคุณเองก็สามารถจ่ายได้ตามข้อตกลง แถมไม่ต้องไปเดินทางขึ้นศาลที่ต่างจังหวัดอีกด้วย

เมื่อคุณชำระเงินงวดแรกไปแล้ว(ภายในวันที่ 24/ม.ค./56) คุณก็ส่ง Fax หลักฐานการชำระเงินจำนวนนี้ ไปให้มันดู
แล้วคุณก็โทรบอกมันว่า ให้เลื่อนคดีออกไปก่อนเป็นนัดหน้า
(เลื่อนเป็นวันใดก็ได้ ให้เป็นวันหลังจากวันที่ 24/ก.พ./56)

ถ้าหากถึงวันนัดครั้งที่สองแล้ว คุณยังไม่จ่ายเงินงวดที่สอง จำนวนเงิน 15,000.-บาท ให้กับมันอีก (ซึ่งตามสัญญาจะต้องจ่ายก่อนวันที่ 24/ก.พ./56)
มันก็สามารถดำเนินการฟ้องสืบพยานได้เลยตามปกติ ภายในวันนั้น

แต่ถ้าคุณจ่ายชำระเงินงวดที่สองไปก่อนถึงวันที่ 24/ก.พ./56 คุณก็ส่ง Fax หลักฐานการชำระเงินของงวดที่สองไปให้มันดู
แล้วคุณก็โทรไปบอกมันว่า จ่ายหนี้หมดตามสัญญาแล้วนะ มีหลักฐานส่ง Fax ไปให้ดูถึงสองงวดแล้วด้วย
...เท่านี้ก็จบ

พอเมื่อถึงวันนัดสืบพยานใน"นัดที่สอง" ทางทนายฝ่ายโจทก์ก็จะต้องรีบทำการ"ถอนฟ้อง"คดีดังกล่าวออกจากศาลทันที ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการสืบพยานต่อไป

มิฉะนั้นจะเป็นการ"ฟ้องเท็จ"ต่อศาล ...เพราะต่างฝ่ายต่างก็หมดหนี้ซึ่งกันและกันแล้ว
.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel, june, พ่อยอด, krit

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29462 โดย พ่อยอด
ชัดเจนมากครับ ขอบคุณคุณนกกระจอกเทศมากๆ ที่มาช่วยผมตอบครับ ต้องรบกวนจนได้


:sweat: :sweat:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29489 โดย krit
ติดต่อสนง.กฏหมายแล้วครับ
เพื่อจะขอจ่าย 2 งวดตามที่คุณนกกระจอกเทศแนะนำครับ
งวดแรกก่อนนัดสืบ 25/1 และงวดสองหลังนัดสืบ ประมาณวันที่ 15/2

แต่ทางสนง.แจ้งว่าทำไม่ได้ครับ
เพราะหลังวันนัดสืบแล้วศาลพิพากษาแล้วยอดจะเปลี่ยนแปลง
(ซึ่งผมก็ยังไม่มีข้อมูลมาโต้แย้งในส่วนนี้ครับ ไม่ทราบว่าถ้าทางสนง.ยอมทำให้ก็ทำได้หรือเปล่านะ)
ทางเลือกคือ
1.หายืมมาจ่ายให้ครบ 55000 ก่อน 25/1 (ถ้าเขียนคำร้องอาจได้ที่ยอด 52000 ครับ ปล.แอบต่อรองลงอีกนิดนึง)
2.จ่ายครั้งเดียวหลัง 25/1 ซึ่งยอดจะเปลี่ยนแปลง อาจจะเพิ่มขึ้นครับ

แต่ว่าไม่ได้คุยเรื่องที่ให้สนง.กฏหมายเลื่อนคดีออกไปก่อนอ่ะครับ
ก่อนนี้เคยคุยเรื่องวันนัดสืบ ทางสนง.กฏหมายแจ้งว่าถ้าจะเลื่อนนัดศาลเราต้องไปเลื่อนที่ศาลด้วยตนเองอ่ะครับ ซึ่งผมยังไม่มีความรู้ในส่วนนี้ครับ บอกตามตรงครับ แต่เดี๋ยวจะหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ

:เฮ้อ:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #29514 โดย jackTs

krit เขียน: ติดต่อสนง.กฏหมายแล้วครับ
เพื่อจะขอจ่าย 2 งวดตามที่คุณนกกระจอกเทศแนะนำครับ
งวดแรกก่อนนัดสืบ 25/1 และงวดสองหลังนัดสืบ ประมาณวันที่ 15/2

แต่ทางสนง.แจ้งว่าทำไม่ได้ครับ
เพราะหลังวันนัดสืบแล้วศาลพิพากษาแล้วยอดจะเปลี่ยนแปลง
(ซึ่งผมก็ยังไม่มีข้อมูลมาโต้แย้งในส่วนนี้ครับ ไม่ทราบว่าถ้าทางสนง.ยอมทำให้ก็ทำได้หรือเปล่านะ)
ทางเลือกคือ
1.หายืมมาจ่ายให้ครบ 55000 ก่อน 25/1 (ถ้าเขียนคำร้องอาจได้ที่ยอด 52000 ครับ ปล.แอบต่อรองลงอีกนิดนึง)
2.จ่ายครั้งเดียวหลัง 25/1 ซึ่งยอดจะเปลี่ยนแปลง อาจจะเพิ่มขึ้นครับ

แต่ว่าไม่ได้คุยเรื่องที่ให้สนง.กฏหมายเลื่อนคดีออกไปก่อนอ่ะครับ
ก่อนนี้เคยคุยเรื่องวันนัดสืบ ทางสนง.กฏหมายแจ้งว่าถ้าจะเลื่อนนัดศาลเราต้องไปเลื่อนที่ศาลด้วยตนเองอ่ะครับ ซึ่งผมยังไม่มีความรู้ในส่วนนี้ครับ บอกตามตรงครับ แต่เดี๋ยวจะหาข้อมูลเพิ่มเติมครับ

:เฮ้อ:


ก็โทรมาถามผมสิครับ...จะบอกวิธีให้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_content&view=article&id=70:hotline-new&catid=4:2008-12-16-19-39-10&Itemid=21

ไม่ต้องไปค้นหาในกระทู้ที่ไหนหรอกครับ เพราะว่า...มันไม่มี
.

.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: june, krit

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.788 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena