maruko สมาชิกใหม่ขอขอบคุณพี่ๆที่ให้กำลังใจ

ผม บุญยอด ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้ครับ

เข้ามาเป็นกำลังใจให้คะ

เพื่อลูกเหมือนกัน สู้ๆนะคะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากคุณพ่อยอด,คุณcherroom วันนี้ขอแจงความคืบหน้าในภาระกิจปลดหนี้ของmaruko นะครับ หลังหยุดจ่าย 1 เดือนได้รับการเสนอปรับโครงสร้างหนี้จากสถาบันการเงินเจ้าหนี้ต่างๆดังนี้ครับ
1. power buy : มูลหนี้หยุดจ่าย 317,000บาท(โดยประมาณ) เสนอดอกเบี้ย 15% ผ่อนได้ 5ปีส่งเดือนละ 7,400บาท ผมสอบถามว่าผมเป็นสมาชิกครั้งแรกเมื่อไหร่จะอ่อมแอ้ไม่ตอบ บอกเพียงแต่สัญญาล่าสุด เมื่อ มิ.ย.2553 แต่ผมรู้ว่าเมื่อ 8ปีที่แล้ว(ผมมีประวัติดีตลอดทุกบัตรจนกระทั่งหยุดจ่ายพร้อมกันในครั้งนี้)
2. Standard Charter : เนื่องจากไม่ยอมจ่ายเป็นเดือนที่2 จึงต้องปรับดอกเบี้ยใหม่จาก 19% เป็น 28% เรียบร้อยแล้ว หากเข้าโครงการฯจะมีอัตราดอกเบี้ย 16.75% ผ่อนยาว 5ปี ยอดหยุดจ่าย 310,000 บาทโดยประมาณ เป็นสมาชิกเมื่อประมาณปี พ.ศ.2553 ไม่นานครับ(เพื่อนำมาโปะบัตรอื่น)
3. City bank : เสนอดอกเบี้ยโครงการปรับโครงสร้าง 13% ยอดหยุดจ่ายที่ 730,000บาทโดยประมาณ รวมทุกบัตรในเครืือ(Ready credit, VISA Sellect และ Macro) ผ่อนนาน 53งวด(ยังไม่สรุปเนื่องจากยังไม่คุยกับฝ่ายโครงการฯ) ผมเป็นสมาชิก City Bank ครั้งแรกเมื่อ เม.ย.2536(20ปีพอดี) ปกติดอกเบี้ย 28%
4. กรุงศรีสไมล์แคช(โอนจากฮ่องกงแบงก์) : ยังไม่มีโครงการปรับโครงสร้าง ยอดหนี้ 280,000บาทโดยประมาณ ต้องส่ง 8,600บาท/งวด
5.Tesco-Lotus : เสนอโครงการดอกเบี้ย15% ยอด160,000บาทโดยประมาณ ผ่อน5ปี ที่ 3,600บาทต่อเดือน
นอกนั้นเพียงโทรทวงหนี้ตามระบบ marukoมีแผนจะโทรไปสอบถามวันแรกที่เป็นสมาชิกแต่ละบัตร ยอดหยุดจ่ายเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไปพลางๆ เผื่อจะมีประโยชน์บ้างในการขึ้นโรงขึ้นศาลในอนาคต ไม่เข้าใจนิดหน่อยคือทำไมแต่ละbankเสนอโครงการปรับโครงสร้างเร็วมากไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เคยอ่านจาก web นี้เลย แต่เนื่องจากคิดแล้วหากปรับโครงสร้างทุกบัตรตอนนี้แต่ละเดือนต้องจ่าย 6หมื่นบาทโดยประมาณคงต้องพาลูกอดตายแน่นอน เนื่องจากจากเงื่อนไขคือไม่มีเครดิตเหมือนเดิมอีกแล้ว หากจ่ายไปแล้วไม่สามารถกดเงินได้เช่นเดิมก็คงแย่ จึงจำใจต้องยอมปล่อยให้เป็นไปตามนี้ก่อนเรื่อยๆ เพราะยังรวบรวมเงินไม่ได้เพราะเพิ่งผ่านมาแค่ 1 เดือน จึงต้องสู้ต่อไป...ครับ

ยอดหยุดจ่ายคุณตรวจสอบจากใบแจ้งหนี้ล่าสุดก่อนหยุด บัญทึกไว้ก็ได้ไม่ต้องถึงกับเป๊ะๆ

ส่วนวันที่สมัครถ้าหมายศาลมา เอกสารใบสมัครจะมาพร้อมกับหมายศาลแหละครับ

ขอบคุณคุณพ่อยอด(จำชื่อได้แล้วแม่นยำ) ที่กรุณาแนะนำ ขอupdateสำหรับวันนี้นะครับ มี Speedy cash ของไทยพาณิชย์เสนอปรับโครงสร้างหนี้ 7ปี(มากกว่าใคร) ยอดหยุดจ่ายที่ 320,000โดยประมาณ ส่งเดือนละ 6,000กว่าบาท แต่ก็ยังไม่รับข้อเสนอเพราะคิดแล้วหากตกลงกับทุกเจ้าก็ไม่สามารถจ่ายได้อยู่ดีครับก็ปล่อยให้เป็นไปตามกรรมตามเวรไปก่อนครับ ตกลงตอนนี้เจ้าหนี้ 12ที่มีเสนอปรับโครงสร้าง 5ที่แล้วครับ หากมีความคืบหน้าประการใดจะเข้ามาบอกเรื่อยๆ เพื่อเป็นกรณีศึกษาสำหรับชมรมฯของเราต่อไปครับ

วันนี้มีเรื่องมา update ให้ทางสมาชิกรับทราบต่อนะครับ เนื่องจากการหยุดจ่ายผ่านมา 1 รอบเดือนกำลังเข้ารอบที่2จะมีการนำเสนอแผนปรับโครงสร้างหนี้มาให้พิจารณาสมัครเป็นบางแห่งให้ผ่อนจ่าย5ปี,7ปี ขึ้นกับนโยบายแต่ละสถาบันตามที่ลงกระทู้ที่ผ่านมาแล้ว แต่สำหรับ citybank จะยังไม่เดินแนวนี้ครับ จะเสนอสินเชื่อส่วนบุคคลตัวใหม่ 5เท่าเงินเดือนปกติแต่ดอกเบี้ยจะต่ำ(เมื่อก่อนไม่เห็นเสนอแบบนี้ รอจนกระทั้งมีสภาพไม่ไหวจึงเสนอ มันทำไมต้องเป็นแบบนี้นะคนเรา) ไม่ทราบว่าจะมีผลต่อการต่อสู้ในศาลหรือไม่ เนื่องจากเสนอต่ำกว่ากฎหมายกำหนดให้แล้วก็ไม่รับ? ขืนรับทุกเจ้าก็จ่ายไม่ได้อยู่ดีครับเนื่องจากเกิน 70% เงินเดือน แต่อุณหภูมิการทวงหนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่เจ้าหนี้ยังสามารถเก็บอารมณ์ได้ดี

ไม่ต้องไปสนใจครับ แค่ตัวล่อตัวใหม่

GOKU เขียน: ไม่ต้องไปสนใจครับ แค่ตัวล่อตัวใหม่

ขอบคุณคุณGOKUที่เข้ามาแนะนำ การเสนอดอกเบี้ยปรับโครงสร้างหนี้(ประนอมหนี้)จะไม่เกิน15%เลยสำหรับทุกเจ้าที่เสนอเข้ามา อันนี้ทำให้เดิมที่สงสัยว่า15%เป็นดอกเบี้ยที่เราสามารถนำไปสู้คดีได้ ก็ไม่ต้องสงสัยอีกต่อแล้วใช่หรือไม่ครับ? อีกประเด็นหนึ่งสำหรับเจ้าหนี้บางรายที่เราเพิ่งกดเงินสดมาจ่ายบัตรอื่นนั้นเช่นกรณีUOBวงเงิน100,000บาทกดมาแล้ว6x,xxxบาท(วงเงินยังเหลือ) และถึงรอบจ่ายรอบแรกจ่ายไปแล้ว 2,xxxบาท หลังจากนั้นก็หยุดจ่ายและไม่ใช้บัตรอีกต่อไป อย่างนี้หากเรื่องถึงศาลกรณีดอกเบี้ยเกิน15%กรณีศาลตัดสินเราชนะและสมมุติศาลให้คิดดอกเบี้ยที่7.5%(ซึ่งเวลาคงผ่านไปนานเงินต้นยอดฟ้องคงมากขึ้น) กรณีนี้เนื่องจากการจ่ายของเรายังน้อยน่าจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปล่อยให้เน่านานๆจริงไหมครับ? น่าจะพิจารณาปิดไปก่อนใคร(อันนี้ผมคิดเอง-หากเก็บเงินได้ช่วงแรกนี้)ขอความเห็นเพิ่มเติมประเด็นนี้ครับ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

maruko เขียน:

GOKU เขียน: ไม่ต้องไปสนใจครับ แค่ตัวล่อตัวใหม่

ขอบคุณคุณGOKUที่เข้ามาแนะนำ การเสนอดอกเบี้ยปรับโครงสร้างหนี้(ประนอมหนี้)จะไม่เกิน15%เลยสำหรับทุกเจ้าที่เสนอเข้ามา อันนี้ทำให้เดิมที่สงสัยว่า15%เป็นดอกเบี้ยที่เราสามารถนำไปสู้คดีได้ ก็ไม่ต้องสงสัยอีกต่อแล้วใช่หรือไม่ครับ? อีกประเด็นหนึ่งสำหรับเจ้าหนี้บางรายที่เราเพิ่งกดเงินสดมาจ่ายบัตรอื่นนั้นเช่นกรณีUOBวงเงิน100,000บาทกดมาแล้ว6x,xxxบาท(วงเงินยังเหลือ) และถึงรอบจ่ายรอบแรกจ่ายไปแล้ว 2,xxxบาท หลังจากนั้นก็หยุดจ่ายและไม่ใช้บัตรอีกต่อไป อย่างนี้หากเรื่องถึงศาลกรณีดอกเบี้ยเกิน15%กรณีศาลตัดสินเราชนะและสมมุติศาลให้คิดดอกเบี้ยที่7.5%(ซึ่งเวลาคงผ่านไปนานเงินต้นยอดฟ้องคงมากขึ้น) กรณีนี้เนื่องจากการจ่ายของเรายังน้อยน่าจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปล่อยให้เน่านานๆจริงไหมครับ? น่าจะพิจารณาปิดไปก่อนใคร(อันนี้ผมคิดเอง-หากเก็บเงินได้ช่วงแรกนี้)ขอความเห็นเพิ่มเติมประเด็นนี้ครับ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ถ้าว่าตามสิ่งที่ควรจะเป็นก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแต่ แต่จริงๆก็ไม่เสมอไปทุกเจ้าหรอกครับ

เนื่องจากในการจัดการหนี้ของแต่ละธนาคารมีหลักไม่เหมือนกัน บางที่ก็จะพิจารณา

ประวัติการชำระด้วย แต่บางที่ก็ไม่ได้พิจารณาตรงนี้แต่ใช้การบริหารภาพรวมของยอดหนี้เป็นหลัก


สำหรับ UOB ถ้าคุณไม่สะดวกให้เรื่องถึงศาลก็ต้องรีบจัดการก่อน คิดว่าคุณน่าจะศึกษามาบ้างแล้ว

เพราะช่วงนี้ ฟ้องเร็วและเคี่่ยวมาก

พ่อยอด เขียน:

maruko เขียน:

GOKU เขียน: ไม่ต้องไปสนใจครับ แค่ตัวล่อตัวใหม่

ขอบคุณคุณGOKUที่เข้ามาแนะนำ การเสนอดอกเบี้ยปรับโครงสร้างหนี้(ประนอมหนี้)จะไม่เกิน15%เลยสำหรับทุกเจ้าที่เสนอเข้ามา อันนี้ทำให้เดิมที่สงสัยว่า15%เป็นดอกเบี้ยที่เราสามารถนำไปสู้คดีได้ ก็ไม่ต้องสงสัยอีกต่อแล้วใช่หรือไม่ครับ? อีกประเด็นหนึ่งสำหรับเจ้าหนี้บางรายที่เราเพิ่งกดเงินสดมาจ่ายบัตรอื่นนั้นเช่นกรณีUOBวงเงิน100,000บาทกดมาแล้ว6x,xxxบาท(วงเงินยังเหลือ) และถึงรอบจ่ายรอบแรกจ่ายไปแล้ว 2,xxxบาท หลังจากนั้นก็หยุดจ่ายและไม่ใช้บัตรอีกต่อไป อย่างนี้หากเรื่องถึงศาลกรณีดอกเบี้ยเกิน15%กรณีศาลตัดสินเราชนะและสมมุติศาลให้คิดดอกเบี้ยที่7.5%(ซึ่งเวลาคงผ่านไปนานเงินต้นยอดฟ้องคงมากขึ้น) กรณีนี้เนื่องจากการจ่ายของเรายังน้อยน่าจะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปล่อยให้เน่านานๆจริงไหมครับ? น่าจะพิจารณาปิดไปก่อนใคร(อันนี้ผมคิดเอง-หากเก็บเงินได้ช่วงแรกนี้)ขอความเห็นเพิ่มเติมประเด็นนี้ครับ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยแนะนำ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ถ้าว่าตามสิ่งที่ควรจะเป็นก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแต่ แต่จริงๆก็ไม่เสมอไปทุกเจ้าหรอกครับ

เนื่องจากในการจัดการหนี้ของแต่ละธนาคารมีหลักไม่เหมือนกัน บางที่ก็จะพิจารณา

ประวัติการชำระด้วย แต่บางที่ก็ไม่ได้พิจารณาตรงนี้แต่ใช้การบริหารภาพรวมของยอดหนี้เป็นหลัก


สำหรับ UOB ถ้าคุณไม่สะดวกให้เรื่องถึงศาลก็ต้องรีบจัดการก่อน คิดว่าคุณน่าจะศึกษามาบ้างแล้ว

เพราะช่วงนี้ ฟ้องเร็วและเคี่่ยวมาก

ขอบคุณมากครับคุณพ่อยอด marukoจะพิจารณาเป็น2แนวครับ ตามที่เคยอ่านกระทู้ของหลายๆท่านที่ผ่านมาประเมินแล้วน่าจะออกมาเป็นดังนี้นะครับ
1. ปิดบัตร UBO ก่อนบัตรอื่นๆ หรือ
2. รักษาสภาพบัตรไว้ก่อน เพราะพนักงาน UOB ท่านหนึ่งบอกว่า พี่ยังมีวงเงินเหลือสามารถนำมาจ่ายขั้นต่ำได้นะ(เพิ่งเริ่มใช้ก่อนหยุดเพียงเดือนเดียว เพื่อจ่ายบัตรอื่น)
เนื่องจากตอนนี้ไม่มีบัตรเครดิตใช้เลย ต้องใช้เงินตนเองทั้งสิ้น จริงๆแล้วไม่มีปัญหาอะไรสามารถเก็บออมได้บางส่วน ติดตรงที่ต้องพกเงินติดตัวมากกว่าปกติ(เผื่อฉุกเฉิน บางครั้งก็คิดถึงบัตรเครดิตเหมือนที่คุ้นเคยนะครับ)

หายไปหลายวันครับ maruko ขอมาupdateสถานะการณ์ปลดหนี้ต่อนะครับ ก่อนอื่นขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุข ประสบแต่ความสมหวังดังที่ปราถนาเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของไทยนะครับ และที่สำคัญขอให้ทุกท่านทั้งเจ้าหนี้-ลูกหนี้เดินทางกลับมาทำงานด้วยความปลอดภัยทุกท่าน กลับมาทำหน้าที่ ใคร หน้าที่มันกันต่อนะครับ เพื่อความสำเร็จของเราทุกฝ่าย(อย่าคิดว่าเป็นพวกเจ้าหนี้นะครับ เพียงแต่เห็นว่าเจ้าหนี้มีส่วนให้การปลดหนี้สำเร็จลงได้) marukoขอupdateที่ผ่านมาดังนี้นะครับ
การทวงหนี้
1. ไทยพานิชย์ : ขอให้เราพยายามต่อไปจัดส่งอย่าให้เกิน3เดือน จะส่งตามระบบ(ซึ่งระบบอะไรนั้นเป็นที่ทราบดี)
2. Tesco : ไม่โทรมาเลย หลังจากคุยกันล่าสุดหลังการเสนอการปรับโครงสร้างหนี้(ประนอมหนี้) น่าจะหลังสงกรานต์
3. CIMB : อยากให้เราพยายาม(สุภาพอยู่มาก)
4. กรุงศรี smile cash: ไม่โทรนานนับ 2อาทิตย์แล้ว
5. City bank : โทรมาบ่อยขึ้นวันละครั้ง 2ครั้งได้ ให้พยายามส่งหากต้องการให้เครดิตยังคงสภาพอยู่ ตอบไปว่าจะพยายามครับ ล่าสุดหลังจากอุบไต๋มาระยะหนึ่งก็ให้เจ้าหน้าที่ประนอมหนี้โทรมาเสนอ คิด 13%/ปี 52งวดโดยประมาณ ต้องจ่ายอย่างต่ำ 2.5% อยู่ที่เดือนละ(งวดละ) 18,xxxบาทโดยประมาณ เป็นแค่เงื่อนไขคร่าวๆ หากติดต่อเข้าไปเจรจาจะได้เงื่อนไขดีกว่านี้ก็เป็นไปได้ พร้อมมอบเบอร์ตรงฝ่ายประนอมหนี้(โดยจะนำ3บัตร ready,visaและmakroมารวมกัน ยอด 7xx,xxxบาท) และหลังจากประนอมหนี้จะไม่สามารถใช้บัตรทั้ง3ใบ และข้อมูลจะส่งเครดิตบูโรซึ่งจะไม่สามารถทำธุระกรรมการเงินกับสถาบันใดๆไม่ได้หรือไม่สะดวก
6. Speedy cash(ไทยพานิชย์อีกตัว) : ไม่โทรมา
7. Power buy : โทรมามีท่าทางทวงเข้มข้น ดูเหมือนจะใช้คำที่ท่องมาจากสัมมนา เช่น "ดูเหมือนคุณไม่จริงใจในการใช้หนี้", "ใจเขาใจเรา คุณเอาเงินเขาไปแล้วคุณต้องรับผิดชอบนำมาจ่ายคืน" marukoก็ตอบไป "ผมจริงใจเสมอในการใช้หนี้ ผมเป็นสมาชิกpower buy มา 10ปีแล้วไม่เคยจ่ายช้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งนี้ผมไม่ไหวจริงๆ และความรับผิดชอบยังคงเป็นเช่นเดิมคือจะรับผิดชอบหามาจ่ายแน่นอน" เจ้าพนักงาน(หญิง)ท่านนั้นก็ตอบมาว่า "ไม่พูดถึงเมื่อ10ปีที่ผ่านมาพูดแค่ช่วงนี้เท่านั้น" marukoตอบไปว่า"เป็นเพียงจะบอกคุณว่าผมเป็นคนแบบไหนให้คุณพิจารณาเท่านั้น" จากนั้นก็ผ่อนอารมณ์ลงได้คุยกันด้วยดี....
8. UOB : โทรมาค่อนข้างเข้มเช่นกัน โทรมาบ่อยครั้ง เนื่องจากเพิ่งจะกดไปจ่ายบัตรอื่นมาหมาดๆ โดยที่จ่ายงวดแรกแค่ 2,xxxบาทเท่านั้น ยอดกด+ซื้อของ 66,xxxบาท ก็หยุดจ่าย เจ้าหน้าที่(ชาย)โทรมาให้จ่าย 6,xxxบาทเป็นขั้นต่ำ แล้วจะสามารถกดคืนได้ 6,000บาทถ้วน ภายในเย็นนี้ แต่marukoคิดแล้วคงไม่มีประโยชน์อะไรจึงไม่จ่าย วันรุ่งขึ้นมีพนักงาน(ชาย)อีกท่านหนึ่งโทรมาอีกให้จ่าย13,xxxบาทรวม2งวดที่หยุดจึงจะสามารถกดคืนได้ไม่ใช่6,xxxบาทซึ่งเป็นขั้นต่ำ คุณไม่สามารถกดคืนได้เนื่องจากคุณถูกยกเลิกใช้บัตรชั่วคราวไปแล้ว marukoจึงเห็นว่าปล่อยไปก่่อนดีกว่า..แต่ก็เห็นใจUOBนะครับเนื่องจากยังไม่คืนเขาเลย หากมีโอกาสจะปิดให้ทันทีเนื่องจากไม่มากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กำลังเก็บเงินครับ
9.กสิกรไทย: โทรมาปละปลายแค่ให้พยายามเท่านั้น โทรมาตามระบบนะคะ
ขอupdateเท่านี้ก่อนครับ สุขสันต์วันสงกรานต์ทุกท่านครับ

วันนี้ขอมา update ผลจากการหยุดจ่ายของmarukoต่อนะครับ
Tesco: ให้จ่ายเข้ามาก่อนวันที่12เม.ย.56 จำนวน 5,xxxบาท เพื่อรักษาสภาพ ตอบไปว่า"จะพยายามครับ"
กสิกรไทย: มาแปลกครับพนักงานทวงหนี้เสนอทำปรับโครงสร้างหนี้ คิดดอกเบี้ย20%ต่อปี รวม60งวด เราตอบไปว่า"จะนำไปพิจารณาครับ"
Speedy cash: ให้ส่งเข้ามารวมทุกงวดที่ขาดส่งจำนวน 47,xxxบาท วันรุ่งขึ้นสามารถกดออกได้ 31,xxxบาท แล้วสามารถทำเรื่องปรับโครงสร้างได้(ต้องจ่ายก่อนจึงจะทำเรื่องปรับโครงสร้างให้) เราตอบไปว่า"จะพยายาม"ตามเดิมครับ
นอกนั้นยังมี Citybank โทรมาขณะประชุมเลยขอให้โทรใหม่แต่ก็ยังไม่โทรมา สำหรับรายอื่นๆจะใช้ message ส่งเข้ามือถือแทน ที่น่าสนใจคือcaseกสิกรไทยที่พนักงานเสนอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยอัตราเท่ากับที่ปล่อยกู้ปกติ(หรือว่าหลอกเราก็ไม่รู้นะครับ เพราะยังไม่ยื่นเรื่องจริงๆแค่ถามขอข้อมูลคร่าวๆเท่านั้น) สรุปว่า maruko ยังไม่สามารถปิดบัตรเครดิตได้เลยหลังการหยุดจ่าย2เดือน แต่ก็ดีกว่าจ่ายปกติทุกเดือนซึ่งต้องหาเงินมาจ่ายเพิ่มทุกเดือนมีแต่จะเพิ่มหนี้โดยไม่เห็นทางจะปลดได้เลย แต่ทางนี้เรายังพอโอกาส..ก็สู้ต่อไปครับ

ขอเปงกำลังใจสู้ สู้นะคับคนหัวอกเดวกัน

maruko หายไปนานงานมีมากช่วงนี้(ยังพอประคองตัวได้บ้างหลังที่หมดสิ้นซึ่งเครดิต) ขอบคุณท่าน tor1234 ที่เข้ามาเป็นแรงใจ ขอให้สำเร็จเร็วๆชีวิตจะได้ปกติไวๆเช่นกันนะครับ ขอ update สถานะการณ์หลังหยุดจ่ายได้ 3 งวด การโทรทวงหนี้ก็ซาไปบ้างครับ แต่ก็ยังมีมาเรื่อยๆไม่บ่อย มีบางรายยิงเบอร์มาไม่ยอมคุยรับไม่ทันสายตัดไปก็มี 3เดือนผ่านไปยังเก็บไม่ได้เท่าที่ต้องการเนื่องจากค่าใช้จ่ายเรื่องลูกกำลังจะเปิดเทอมต้องเริ่มกันใหม่ แต่เจ้าหนี้คงไม่รอเราแน่โดยเฉพาะรายที่เราเพิ่งไปเป็นหนี้มาไม่นาน เช่น ยูโอบี และ สแตนดาร์ดฯ ล่าสุด2เจ้าที่ว่าโทรมาพูดห้วนแปล่งๆ...ตกลงไม่จ่ายใช่ไหม..จะได้ส่งเรื่องตามระบบต่อไป marukoก็เฉยๆไม่ตอบ ปล่อยให้เข้าใจเองก็แล้วกัน แต่สำหรับเจ้าหนี้รายเก่าหลายสิบปียังคุยเรื่อยๆเป็นกันเอง บางครั้งก็ปลอบใจก็เป็นคนใจอ่อนเป็นทุนก็หวั่นไหวสิเรา(นึกเห็นใจเขาหนะ) แต่นึกขึ้นได้ก็ต้องรีบขึ้นจากห้วงพวัง marukoก็ขอพักหลังจากเหนื่อยมานานหลายปีสักระยะก่อนนะครับเจ้าหนี้ทั้งหลาย ขอเอาชีวิตตนเองพร้อมลูกๆก่อนครับ หลังจากใช้เงินตัวเองมาสักระยะ2เดือนกว่าๆ มันมีค่าจริงๆเลยเห็นใครเขาใช้บัตรเครดิตมันมีความรู้สึกอย่างไรบอกไม่ถูก อยากบอกเขาไปว่ามันเหมือนหอกข้างแคร่ใช้ไม่รู้เรื่องแล้วหอกมันจะทิ่มเราเองนะ(แต่ก็พูดไม่ได้) ประโยชน์มันมีจริงแต่หากกระพริบตา(หรือละสายตาไปทางอื่นชั่วประเดี๋ยว)มันจะมีโทษมหันต์ทันที เห็นคนเขาใช้บัตรเครดิตจ่ายแทนเงินสดแล้วรู้สึกแหยงๆพิกลหละครับ marukoกลับมีแนวคิดใหม่ว่าอยากออกระเบียบ,กฎกระทรวง,ประกาศกรม อะไรอย่างนี้หนะ คือว่าอยากให้คนที่จะเป็นสมาชิกบัตรเครดิตใหม่ ที่จะสามารถยื่นขอมีบัตรได้ต้องผ่านการอบรมเข้ม 3วัน3คืน(ที่resortไหนก็ได้)ต้องผ่านมีใบประกาศจัดโดยหน่วยงานกขค.ทำนองนี้มาก่อน แบงก์ที่จะออกบัตรให้จึงจะรับพิจารณาความเป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะมีบัตรเครดิตได้...อย่างนี้ไม่ทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆสมาชิกชมรมพอจะเห็นด้วยกับ marukoไหม๊หละครับเนี้ยะ...marukoเป็นห่วงลูกหลานที่จะก้าวเข้ามาอยู่ในวังวนหาตังค์ให้แบงก์อย่างเราๆ marukoว่าสังคมจะดีกว่านี้นะ เม็ดเงินจะได้อยู่ที่ตัวลูกๆหลานๆมากกว่าที่จะอยู่กับแบงก์...มันเป็นปัญหาสังคมอย่างหนึ่ง เอาหละทางแบงก์ผู้ได้รับผลประโยชน์ก็อาจจะบอกว่า...ก็พวกคุณใช้ไม่ดูตาม้าตาเรือเอง..คุณมาโวยอย่างนี้ไม่ได้นา..ไอ๊ marukoก็มาคิดว่า(คิดเอาเองนี่แหละไม่ได้ขอความเห็นใครมา)แบงก์ก็แอบเอาจุดไม่ระวังในการใช้จ่ายตรงนี้ไปเป็นผลประโยชน์ เนื่องจากmarukoคิดย้อนกลับไปตอนนั้นรู้สึกมันจ่ายง่ายมากๆๆๆไม่ระวังตัวเลย จึงตกเป็นเหยื่อ(แรงไปหรือเปล่าไม่รู้)สำหรับหลุมพลางหรือป่าเขาวงกตอันนี้...อันนี้marukoเสนอเชิงปรึกษาเพื่อนๆสมาชิกชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลนะครับ...marukoอยากทราบว่าเห็นด้วยหรือว่าเห็นแย้งอย่างไร..ประการใด..เมื่อตกหลุมพลางที่ว่านั้นเมื่อไหร่แล้ว..หากมาคิดได้ว่าอยากย้อนอดีต(เหมือนmarukoตอนนี้)ก็..สายไปเสียแล้ว...ตายแล้วเราเหมือนคนหลงป่าเดินย้อนไปย้อนมาก็กลับมาที่เดิมวนอยู่อย่างนี้..อยู่เนินนาน ช่วงที่หลงป่าก็จ่ายแบงก์ซิ..จ่ายไปเรื่อยกดมาใหม่เรื่อย จ่าย100กดได้80บ้าง70บ้าง60บ้าง หายไป20,30,40บ้าง(ขนาดนั้นเจ้าหน้าที่ทวงหนี้มาที่marukoยังแอบอ้างว่า..คุณเอามาจ่ายก็จริง..คุณก็กดออกไง..marukoกดออกจริงแต่กดได้ไม่หมดที่ได้จ่ายไปแล้ว..นะคุณ..ไอ้ 20,30,40ที่หายไปทำไงหละทีนี้...ก็กระเสือก..กระสน..ไปหากู้แบงก์ใหม่เนื่องจากเครดิตดีมากๆๆๆ class super gold(มันน่าจะมี class diamond ได้แล้วนะท่านผู้ดูแลแบงก์ทั้งหลาย) เพิ่งมารู้จากพื่ๆที่ชมรมแห่งนี้หละว่า super gold ไม่น่าภูมิใจอะไรเลย เป็น class ของคนที่หาเงินให้แบงก์ระดับยอดเยี่ยมระดับ super gold..ภูมิใจไหม๊หละทีนี้ ขอmarukoระบายความอัดอั้นตันใจมานานหน่อยนะรบกวนเพื่อนสมาชิกสำหรับ post ข้อความครั้งนี้ ก็ขอจบเพียงแค่นี้ก่อนละกัน...อ้อ!!marukoไม่ได้postให้อ่านเฉยๆนะครับรบกวนขอแนวคิดทุกท่าน(ไม่สงวนสิทธิ์แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ทางฝั่งแบงก์ อย่าด่าก็แล้วกัน)เข้ามาอ่านหน่อย ไอ้เรื่องใบประกาศณียบัตรการผ่านอบรมเรื่อง "หลักสูตรบัตรเครดิตสำหรับผู้ไม่อยู่ในแวดวงการเงินและธนาคาร" เห็นด้วยกับmarukoหรือไม่?อย่างไรด้วยนะ..ขอบคุณทุกท่านครับ

อยากให้อ่าน ช่วยเว้นวรรคได้ไหม คนดี...ตาป้ามันลายไปหมดแย้วววว
เว้นบรรทัดด้วย พิมพ์ใส่ใน word ดีแล้ว ช่วยเว้นให้ป้าด้วย ป้าอ่านไปอ่านมา ป้าจะเปงลม...

แนวคิดของคุณ "เป็นไปไม่ได้ค่ะ"
สถาบันการเงิน ธนาคารมันเห็นแก่ตัวค่ะ มันโหมโฆษณา โปรโมททุกอย่าง เพื่อให้คนทำบัตรง่ายๆ เยอะๆ
ชมรมฯ ออกแรงไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เราไม่ได้เป็น "นักเลงคีย์บอร์ด" ด่าการเมือง ด่าเจ้าหนี้อย่างเดียวในเว็บบอร์ดนะคะ ไปดู

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=6&id=31987&Itemid=52 ตำนานมีชีวิต คนยิ้มสู้หนี้

นอกจากเว็บบอร์ด ที่กู้มาแล้วหลายรอบ กรรมการไม่มีเงินเดือน ความรู้ไอทีแต่ละท่าน เรียนรู้กันเอาเอง
มีอนาคินคนเดียว ที่จบโทมาทางไอที นอกนั้น งูๆปลาๆ แต่เราก็ช่วยกันกอบกู้ข้อมูลให้กลับมามากที่สุด
เราเคยไปยื่นหนังสือ ไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ รู้ทั้งรู้ว่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ก็ทำ
มันเป็นเรื่องของความโลภ ตั้งแต่เจ้าของธนาคาร ตัวผู้หลักผู้ใหญ่ในธปท. รวมไปถึง เราๆท่านๆที่อยากเป็นเจ้าของบัตร
ขนาดตั้งฐานเงินเดือนให้สูงแล้ว ก็ปรับให้ 15,000 บาท ทำบัตรได้ อนาถใจดีแท้ หนุ่มสาวโรงงานเป็นหนี้เพียบ...
เวลาอบรม ถึงมีสมาชิกสมัครกันเพียบ อย่างไรล่ะคะ
ปรับที่ตัวเราก่อน ให้บทเรียนทีมี บอกลูก สอนหลาน สอนตัวเอง ให้เดินไปอย่างมั่นคง อย่าหลงมาติดในกับดักวังวนเวรๆนี้อีก
ส่วนหน้าที่อื่นๆ กว้างๆ ใหญ่ๆ มาเป็นกรรมการดิ...จะพาไปล้อมธนาคารแห่งประเทศไทย ฮ่าๆ

ขอบคุณพี่กอบัว(idolของผมและภรรยาอีกท่านหนึ่ง) เรื่องพี่กอบัวสนุกมากๆๆ ติดใจมุกตรง"ไม่เอาจะเอาไปทำนม" แล้วH/C สำเร็จนะครับ เรื่องการเป็นสมาชิกบัตรเครดิตต้องผ่านการอบรมก่อนนั้นผมทราบดีว่าเป็น "ฝันที่ไม่อาจเป็นจริงได้" เนื่องด้วยผู้มีอำนาจส่วนใหญ่(ย้ำนะครับว่า..ส่วนใหญ่)อยู่ฝ่ายเงิน แต่หากกระทุ้งหรือจุดประกายไปเรื่อยๆย้ำๆซ้ำๆมันก็ไม่แน่หนะพี่กอบัว คนรุ่นใหม่มีแนวคิดด้านสังคมดีนะพี่ จุดประกายไปอย่างนี้หละ สำหรับลูกๆmarukoแน่นอนว่าได้คุยกันแล้วเล่าให้ลูกๆฟังหมดแล้ว ก่อนที่จะหยุดจ่ายเป็นห่วงที่สุดก็ลูกนี้แหละครับ โชคดีว่าลูกเข้าใจ..อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด..ลูกคนโตว่าอย่างนั้น แต่ก็อดคิดถึงคนอื่นไม่ได้...เดี๋ยวเกรงจะมีเพื่อนสมาชิกท่านอื่น..กระทุ้ง..เอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วกัน ก็เลยจะขอแอบฝันไปอย่างนี้ก่อนนะครับพี่..ขอบคุณมากครับสำหรับ promt reply ดีๆขอบคุณมากครับ..ขอกลับไปอ่าน link ที่พี่ปะไว้ให้ก่อนครับ..สวัสดีครับ

เรียน พี่กอบัว...หลังจากmaruko ได้อ่านlink ที่พี่ปะไว้ให้ข้างบน บังเอิญไปเห็น..วุฒิสภาเรียนเชิญกรรมการชมรมของเราไปเป็นวิทยากร(พอดี)ครับ ข้อความมีว่า
13 กุมภาพันธ์ 2556 : วุฒิสภาโดยประธานคณะอนุกรรมการเสริมสร้างความรู้ในวงงานนิติบัญญัติ ขอเชิญประธานชมรมหนี้ฯ ไปเป็นวิทยากรในการเสวนาว่าด้วยเรื่อง “ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจบัตรเครดิต” ณ.อาคารรัฐสภา๒ เพื่อร่างกฎหมาย พ.ร.บ.บัตรเครดิตให้มีความเป็นธรรม โดยมีคุณเชาวเลิศและคุณปูเป้เข้าร่วมรับฟังในการเสวนา
ไม่ทราบว่าวาระประชุมอยู่ในขั้นตอนไหนหนอ..จะฝากเรื่องบรรจุคุณสมบัติผู้ที่จะถือบัตรเครดิตเพิ่มตรงที่ ต้องผ่านการอบรมผลกระทบหรือการใช้บัตรเครดิตที่ถูกต้องเสียก่อน..คือต้องมี Certificate ว่างั้นเถอะ หากกรรมการท่านใดมีโอกาศช่วยผลักดันให้ด้วย ที่แล้วๆมาไม่ติดใจแต่หลังจากนี้ก็อยากให้เปลี่ยนแปลงครับเพื่อชนรุ่นหลัง สถาบันการเงินก็ไปหาช่องทางอื่นชดเชยก็แล้วกันทราบว่าท่านเก่งๆกันอยู่แล้ว..

โทรถามประธานดิ...

อ่านให้เก่งๆ มีแนวทางการปลดหนี้ชัดๆดิ

มีผลงานเข้าตากรรมการ

จะให้ไปสภาคู่กะพี่นกเลย ฮ่าๆ

ต้องขอโทษพี่กอบัว ที่พี่ตอบนานแล้วยังไม่ตอบกลับเลย marukoหายไปทำงานสำคัญชิ้นหนึ่งคือทำเอกสารส่งโรงงานเข้าประกวดพลังงานระดับประเทศอยู่ครับ มันผ่านช่วงนั้นไปแล้วกำลังรอผลตัดสินอยู่ จากที่พี่กอบัวตอบมานั้นก็ขอรับไปพิจารณา marukoไม่ได้คาดหวังเรื่องนี้จะให้เกิดขึ้นในชั่วประเดี๋ยวนี้ แต่ก็แค่มองเห็นทางที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชะตากรรมในอนาคต เพื่อลดจำนวนปัญหาให้เหลือเฉพาะที่ไม่ใส่ใจในการใช้จ่ายผ่านบัตรจริงๆ เพราะรู้ทั้งรู้ก็ยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เรื่องการเป็นกรรมการชมรมต้องรออีกนานครับยังมีประสบการณ์น้อย อ่านมากก็จริงแต่ยังมีประเด็นหยิบย่อยอยู่มากที่เป็นประเด็นล่อแหลม ต้องชัดเจนจริงๆจึงจะสามารถแนะนำเพื่อนๆสมาชิกผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากได้อย่างถูกต้อง เพราะmarukoเห็นว่าปัญหาแต่ละคน แน่นอนว่าเหมือนกันตรงที่ เป็นหนี้ไม่สามารถจ่ายได้ เครียดมากไม่รู้จะจัดการอย่างไร แต่จุดต่างมีมาก เรื่องครอบครัว, รายละเอียดหนี้, นิสัยใจคอ, รายรับ, เรื่องส่วนตัว, สายสัมพันธ์กับผู้หลักผู้ใหญ่ฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง เหล่านี้มีความยาก หากไม่แม่นเหมือนพี่ๆ เช่นท่านประธานนกกระจอกเทศของเรา, พี่กอบัว อย่างนี้ คือผ่านมาทุกห้วงจังหวะทั้งที่เป็นส่วนของปัญหาจริงประสบการจริงโดยตนเอง และได้รับรู้มาจากสมาชิกชมรมอย่างมากมาย แต่ก็ขอสดุดีในความเสียสละของกรรมการทุกรุ่นที่อยู่ช่วยเหลือพวกเรา หากไม่แล้ววันนี้ไม่รู้ว่าจะมีคนชื่อmarukoอยู่บนโลกนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ด้วยเหตแค่เป็นหนี้มากไม่สามารถจ่ายได้ปกติ กลับมีชีวิตอยู่อย่างสบายๆไม่มีความเครียดอย่างนั้นอีกแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่สามารถเคลียร์ได้แม้นแต่บัตรเดียว ขอบคุณกรรมการทุกท่านจริงๆครับ

maruko ขอ update สถานะการณ์ภารกิจปลดหนี้ต่อไปนะครับ
สถานะการปลดหนี้ : หนี้ 13ใบ จำนวน 2.7ล้าน-->ยังไม่สามารถปิดได้เลยแม้แต่ใบเดียว
ระยะเวลาหยุดจ่าย : 3เดือนเข้าสู่เดือนที่ 4(ณ.เดือน พ.ค.56)
ประวัติสมาชิกบัตรเครดิต : ก่อนหยุดจ่ายมีประวัติดีมาก จ่ายมาโดยตลอดไม่เคยมีประวัติเสียเรื่องจ่าย เป็นสมาชิกบัตรเครดิตนานที่สุดคือ 20ปี(CityBank)
สรุปการทวงหนี้ : 1.ทวงบ่อยที่สุด อันดับ1 คือ สแตนดาร์ชาร์เตอร์ อันดับ2คือ บัตรTesco รองลงไปคือ UOB
2. ทวงโหด : อันดับ1 คือ บัตรTesco-->ชอบใช้ประโยค "เวลากดไปใช้อย่างมีความสุขแล้ว คุณต้องมีความรับผิดชอบหามาจ่ายสิ", "คุณจ่ายเข้ามาแล้วคุณก็กดออกไปไม่ใช่หรือ?" รองลงไปคือ Powerbuy ชอบใช้ประโยค "คุณไม่มีความรับผิดชอบในการหามาจ่าย ก็ในเมื่อคุณกู้เงินเขาไปแล้วเพื่อใช้จ่ายอย่างสนุก" ประเด็นเหล่านี้ maruko ได้ตอบไปดังนี้ "ใช่ผมจ่ายแล้วก็กดออก แต่จ่าย100กดได้ 70บ้าง 80บ้าง ที่เหลือ 30บ้าง20บ้างนั้นก็ทำให้ผมต้องหามาเพิ่มโดยการไปหาเป็นสมาชิกบัตรใหม่มาใช้จ่าย" และ "เรื่องไม่มีความรับผิดชอบไม่น่าใช่ครับ ผมจ่ายคุณมา 10ปีไม่เคยผิดนัดจ่ายแม้แต่ครั้งเดียว นั่นแสดงว่าผมมีความรับผิดชอบแน่นอน แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆครับ"
3.ทวงสุภาพ : อันดับ1 คือ กสิกรไทย อันดับ2 คือ CIMB อันดับ3 คือกรุงศรีสไมล์แคสครับ รองลงไปคือ City Bank
4.ห่างโทร : อันดับ1 คือ กสิกรไทย อันดับ2คือ กรุงศรีสไมล์แคส รองลงไปคือ City Bank
5.บัตรที่ให้ส่วนลด haircut : เจ้าแรกคือ Tesco(แต่ไม่มีเงินเก็บพอ เพราะต้องเก็บไว้จ่ายค่าเทอมลูกๆ) ส่วนลด 37%โดยประมาณหลังหยุดจ่าย 3เดือนเข้าสู่เดือนที่4 นอกนั้นไม่มีแต่จะให้เข้าโครงการประนอมหนี้แทน แต่ดั่งที่ทราบกัน maruko ทำประนอมหนี้ทุกเจ้าต้องจ่านเดือนละ 6หมื่น หากเครดิตไม่มีพ่วงมาด้วยแล้ว ไม่สามารถทำประนอมกับใครได้ ต้อง haircut อย่างเดียวหรือปล่อยสุดกู่ไปเลยดีกว่า ดอกเบี้ยประนอมหนี้ประมาณ 13-15%, จำนวนงวดส่วนใหญ่ 60เดือน(5ปี)
ขอ update เท่านี้ก่อนเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆชมรมใช้เป็นหนึ่งในแนวทางปลดหนี้ของตนเองนะครับ หากมีความคืบหน้าประการใดจะ post ให้ทุกท่านเรื่อยๆ โดยเฉพาะลูกหนี้ ล้านup อย่าง maruko ก็สบายๆไม่มีอะไรจะคิดมากแล้ว สามารถยิ้มสู้หนี้ได้..ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านชาวชมรมจงมีกำลังที่เข้มแข็ง...หนี้ของเรา...เราดูแล..ใช้คืนเขาให้ได้..ด้วยกำลังที่มีอย่างเต็มความสามารถโดยไม่กระทบต่อชีวิตการเป็นอยู่ของครอบครัว..สู้..สู้ครับ