หนทางสู่การปิดหนี้ของผมเอง มาเล่าเพื่อเป็นประสพการณ์กับท่านอื่น

สวัสดีครับ สมาชิกทุกคน ผมเป็นสมาชิกที่ค่อนข้างใหม่ ยังไม่เคยได้โพสต์อะไรเลย แต่ก็เป็นเหมือนกับทุกคนในนี้ คือ มีหนี้จากบัตรเครดิต และ สินเชื่อบุคคล จำนวนค่อนข้างมาก แถมบางบัญชียังไปทำปรับโครงสร้างแล้วอีก (ก่อนที่จะเข้ามาในเว็บนี้) แต่ก็ยังดีที่ไม่มีหนี้นอกระบบ ไม่งั้นชีวิตคงลำบากกว่านี้มากแน่
วันนี้ผมมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังในเรื่องบัญชีสี่ตี๋ ที่เพิ่งจะปิดไปสดๆ ร้อนๆ ให้ฟัง เพื่อเป็นความรุ้ให้กับคนที่เพิ่งเจอเคสแบบนี้ครับ
ผมเองได้ใช้ บัตรเครดิต สี่ตี๋ จาก Classic เป็น Gold เป็น Platinum และทำ สี่ตี๋ Ready Credit สุดท้ายเมื่อเริ่มจ่ายไม่ได้ ทาง สี่ตี๋ ก็เลยเสนอทางออกให้ทำการปรับโครงสร้างเป็น สี่ตี๋ Rewrite ซึ่งตอนแรกที่ทำก็รู้สึกดีเพราะดอกเบี้ยลดลง นึกไม่ถึงว่าตกหลุมพราง สี่ตี๋ ไปแล้ว
เมื่อผมหยุดจ่ายทุกบัญชี และผ่านการทวงถาม มาหลายตลบ สุดท้ายสิ่งที่กลัวก็เป็นจริง คือการโดนฟ้องศาล ซึ่งแน่นอนครับธนาคารแรกที่ฟ้องเร็วสุดคือ สี่ตี๋
หมายศาล ที่มีระบุเลขที่คดีดำถูกส่งมาที่บ้าน และมีการโทรมาจากทาง bank หลายครั้งให้จ่ายบ้างแล้วธนาคารจะให้ต่อรองได้บ้างในชั้นศาล แต่จากที่อ่านข้อมูลในเว็บนี้มามากก็เลยบอกไปว่ายังไม่มีจ่าย และก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อมาต่อรองเหมือนที่เคยเห็นคนอื่นเขาเคยเจอ สุดท้ายก็มีคนโทรมาจริงๆ บอกว่า จะให้ผ่อนจ่ายได้ 24 งวด โดยคิดดอกเบี้ยที่ 7% ตลอดสองปี แต่ถ้ายังจ่ายได้ไม่หมดภายใน 2 ปี 24 งวด ก็จะต้องจ่ายส่วนที่เหลือที่ดอกเบี้ย 15% หรือไม่ก็จ่ายปิดงวดเดียวที่ส่วนลด 20% ซึ่งเราก็สนใจ แต่พอจะเอาจริงเขาก็บอกว่าต้องเริ่มจ่ายก่อนเลยงวดนึงก่อนวันขึ้นศาล เราก็บอกไม่เอา จะไปเริ่มจ่ายงวดแรกตอนขึ้นศาลเลย ทางธนาคารก็ไม่ยอมเลยตกลงกันไม่ได้
สุดท้ายก็ได้ไปขึ้นศาลครั้งแรกในชีวิต ที่ศาลแพ่งธนบุรี บรรยากาศไม่เหมือนกับที่เคยคิดไว้เลยครับ
อย่างแรกสุดผมได้เช็คคดีดำว่าถูกต้อง และ วันขึ้นศาลก็ถูกต้องตามหมายเรียก วันที่มาศาลก็มาแต่วันเพื่อมาเช็คดูว่าคดีเราจะพิจารณาที่ห้องไหน คดีผมนัดไว้ 10:00 ผมไปถึง 8:00 น เช็คดูรายชื่อและไปดูห้องเสร็จก็ลงมากินข้าวแล้วขึ้นไปนั่งรอเลยตั้งแต่ 9:00 น. มีคดีอื่นพิจารณาก่อนผมด้วย แต่ใช้เวลาไม่นาน ไปนั่งที่ห้องพยายามมองหาทนายของ สี่ตี๋ แต่ไม่ยักเจอ จนเกือบจะถึงเวลาพิจารณาคดี ทนายเขาค่อยมา ส่วนผมไปกับแฟนสองคน ไม่ได้มีทนายไป เพราะตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะไปเพื่อเลื่อนพิจารณาคดีออกไปก่อน ทนายเขามาเกือบเวลานัดพอดี เลยไม่ได้คุยอะไรกัน ไม่ได้เจอการเกลี้ยกล่อมเหมือนที่เพื่อนๆ หลายคนเจอกัน แต่ทางผู้พิพากษา ที่มีอยู่ 3 คน (มีคนหนึงเด็กมาก) ก็บอกให้ไปคุยกับทนายของ สี่ตี๋ ให้เรียบร้อยก่อนข้างนอก ก็เลยเดินออกมาคุยกัน ทนายเขาถามว่ามีคนจาก bank โทรมาคุยหรือยัง เราก็บอกว่าคุยแล้ว แต่ส่วนลดให้น้อยมาก จ่ายไม่ไหว เขาก็ถามว่าแล้วเอายังไงดี เราก็เลยบอกว่าก็ขอเลื่อนนัดออกไปก่อนก็แล้วกัน ซึ่งทนายของ สี่ตี๋ ก็เออออด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร (คุยง่ายอะ) ซึ่งเมื่อถึงเวลาพิจารณาคดีผมศาลก็เรียกออกไปคุยพร้อมกับทนายของ สี่ตี๋ ว่าตกลงกันได้หรือยัง ผมก็เลยบอกว่าคุยแล้ว ทาง สี่ตี๋ ก็โทรมาคุยแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็เลยมาขอเลื่อนนัดพิจารณาคดีโดยให้เหตุผลว่า ขอไปหาทางตกลงกับทาง สี่ตี๋ ก่อน พอศาลท่านหันไปถามทนาย ทนายก็บอกโอเค ไม่มีปัญหา ศาลก็เลยเลื่อนวันนัดออกไปประมาณ เดือนกว่า ซึ่งศาลบอกว่านานแล้ว ปกติจะไม่ให้เลื่อนนานแล้ว และให้เราไปตกลงกับ สี่ตี๋ ให้เรียบร้อยเลย วันที่นัดอีกครั้งจะได้มาทำสรุปที่ศาล และศาลก็บอกว่าถ้าตกลงกันไม่ได้ ปกติศาลจะพิพากษาให้เราจ่าย Bank โดยอัตราไม่เกินกฎหมายกำหนด คือ 15% แต่ผ่อนจ่ายเป็นงวดๆ ไม่เกิน 2 ปี เราก็รับฟังไว้เฉยๆ และก็เลยรอให้หน้าบัลลังก์ทำสรุปมาให้ (อันนี้สำคัญนะครับ) และกลับบ้านไป
กลับมาบ้านทาง สี่ตี๋ ก็หายไปพักใหญ่ ก็มีผู้หญิงคนนึงโทรมาบอกว่าจะทำยังไงต่อ ก็บอกเขาไปว่าอยากเคลียให้จบเหมือนกัน ให้เขาไปถามผู้ใหญ่ของเขาว่าถ้าเราจะขายของที่บ้านและไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องมาจ่ายจะได้ส่วนลดเท่าไร ทางเจ้าหน้าที่คนนั้นหายไปสองวันก็แจ้งกลับมาว่า เขาเสนอให้ส่วนลดปิดบัญชี แบบงวดเดียวที่ส่วนลด 25% เราก็ขอส่วนลดเขามากกว่านี้ เขาก็บอกไม่ได้ แค่นี้เขาก็ยังต้องไปคุยกับเจ้านายอีกที ยังไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่า และนี่ก็ถือว่าให้เยอะมากแล้ว ปกติเขาจะไม่ให้ก็ได้ เพราะเราทำปรับโครงสร้างไปแล้ว จะขอแบ่งจ่ายก็ไม่ยอม ก็เลยบอกเขาให้ขอส่วนลดมากกว่านี้หน่อยจะได้จ่ายให้จบๆไป เจ้าหน้าที่คนเดิมหายไปอีก 2-3 วันแล้วก็โทรมาบอกว่าคุยกับเจ้านายเขาแล้ว เจ้านายเขาไม่ยอม และ ให้ส่วนลดได้แค่ 25% มากสุดแล้ว และต้องจ่ายงวดแรกก่อนเลย โดยจะยังไม่ออกหนังสือให้ด้วย ซึ่งฟังแล้วมีโอกาสโดนเบี้ยวจากทาง Bank ก็เลยไม่โอเคกัน ทางธนาคารก็ขู่ว่าสิ้นเดือนเรื่องจะถูกส่งต่อไปที่ศาลอีกครั้ง ซึ่งจะยิ่งไม่สามารถต่อรองอะไรได้อีก (ซึ่งเรามารู้ทีหลังว่าไม่ใช่เลย) หลังจากนั้นเราก็ไม่สบายใจ คิดว่าถ้าไปขึ้นศาลนัดหน้าคงต้องหาทางยืดออกไปอีกจะได้สะสมเงินได้มากขึ้น แต่จะตอบศาลว่ายังไงดี
สุดท้ายทางฝ่ายกฎหมายของ สี่ตี๋ ก็โทรมาคุย คนนี้พูดจามีเหตุมีผลกว่าก็คุยกันอยู่หลายครั้งว่าเราลำบาก ไม่มีเงินจ่ายจริงๆ แต่จะพยายามเคลียให้ได้ แต่ขอส่วนลดมากสุดจากเขา สุดท้ายก็ได้ส่วนลดที่ 35% และทาง สี่ตี๋ ยอมออกใบมาให้ว่าถ้าเราจ่ายเงินจำนวนเท่านี้ก็จะปิดบัญชีให้ ก็เลยนัดวันกันไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ธนาคาร โดยได้รับใบปลดภาระหนี้ตัวจริง พร้อมใบเสร็จที่ชำระเงินไป ทาง สี่ตี๋ บอกว่าจะไปแจ้งทางศาลให้ลบชื่อออกจากหมายศาล ผมไม่แน่ใจเลยไปศาลอีกครั้งตามนัด ปรากฏชื่อยังอยู่ สักพักทางเจ้าหน้าที่ สี่ตี๋ โทรมาคุยกับหน้าบัลลังค์ที่ศาล ผมรอจนเจ้าหน้าที่ศาลบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วจบ ผมจึงกลับบ้านด้วยความสบายใจ นี่เป็นเคสแรกของผมเท่านั้นครับ
ไว้จะมา update case ที่สองให้ฟัง กำลังดำเนินการอยู่ครับ

รอติดตามน่ะค่ะ และเป็นกำลังใจให้คะ

ขอให้ได้เป็นกำลังใจให้นะครับ:สู้::สู้: