- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
NickP เขียน: Update 16/7/56 คร้าบบบ
วันนี้ คุณกรุงศรี โทรมาบอกว่า
GE : มีเงินจ่ายไหมครับ เงินเกิดยอดแล้วครับ จ่ายแบบไหนดีครับ ขั้นต่ำ หรือ ส่วนลดปิดบัญชี ดีครับ บลาๆๆๆๆ (คือ พูดยาวมากอ่ะ ติดกัน ไม่เว้นจังหวะให้เราพูดไรเลย) มาได้ยินใจความสำคัญว่า อ่ะ ถ้าปิดบัญชี ผมขอแค่เงินต้น ดอกเบี้ยไม่เอา ตัดตัวเลขเล่น ๆ นะ ครับ ผมขอ 21,xxx แบ่งจ่าย 4 งวด แล้วจบกันเลย พร้อมอธิบาย ถึงเอกสารที่จะออกให้ อย่างนั้น อย่างนี้ ว่าไม่ได้ทำปากเปล่า พี่ต้องได้เอกสารจากผมก่อน ในใจก็นึกว่า เออ! รู้แล้ว แต่ก็ต้องสงบปากสงบคำไว้ ตามคำสอนพี่ๆ
ผม : คือ ตอนนี้ผมไม่มีถึง 21,xxx ครับ มีแค่ หมื่น ต้น ๆ สัก 15,000 ถ้าพอลดให้ผมได้ ผมจ่ายให้เลย วันนี้ พรุ่งนี้ พอจะได้มั๊ยครับ
GE : โอ๊ยพี่ไม่ได้หรอกครับ เยอะเกินไป งั้นจ่ายขั้นต่ำมั๊ย (เริ่มเสียงห้วน)
ผม : ขั้นต่ำไม่มีจ่ายครับ
GE : เรื่องพี่เข้าเดือนที่ 5 แล้วนะ แล้วของพี่เนี่ย ยอดมันเกิน 30,xxx มันฟ้องได้อยู่แล้ว ตามกฎหมาย ถ้าไม่จ่าย ผมดำเนินตามระบบนะ (เสียงห้วนมากสุดๆ)
ผม : ครับ ตามระบบ เลยครับ
GE : งั้นรอรับหมายศาลได้เลยพี่ หวัดดี (ไม่มีครับ ด้วย จริง ๆ หูไม่ฝาด)
ไหนว่ากรุงศรี เจรจาง่ายไง ลดเยอะ นี่อะไรกัน
แต่แอบยอมรับ ว่ายังพูดตะกุกตะกักอยู่ เพราะพึ่งกล้ารับสาย ยังไม่กล้าต่อรอง เลยดูไม่เนียนมั๊งครับ แล้วเขาจะโทรมาให้ส่วนลดผมอีกมั๊ยอ่ะ หรือจะฟ้องจริง ๆ ไหนว่า ปีกว่า งายยยยยย ชะเอิงเงย
ยิ่งหยุดจ่ายนานเท่าไหร่
หนี้ก็ยิ่งเน่ามากขึ้นเท่านั้น
หนี้ยิ่งเน่ามากเท่าไหร่
ก็ยิ่งได้ส่วนลดมากขึ้นเท่านั้น
หลายๆคนชอบเข้ามาตั้งคำถามที่ว่า
หยุดจ่ายมาได้ 3 เดือนแล้วครับ...จะได้ส่วนลดแล้วหรือยังครับ และถ้าได้ลด จะได้ส่วนลดกี่เปอร์เซนต์ครับ
คำตอบที่ชัดเจนก็คือ
ยัง!...และไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย
เพราะการหยุดจ่ายเพียงแค่ 2-3 เดือน มันเป็นเพียงบันไดก้าวแรก ที่จะไปสู่กระบวนการ Hair-cut อันแท้จริงต่อไป
การ Hair-cut ที่แท้จริง มันต้องหยุดจ่ายนาน 8-10 เดือนขึ้นไปเป็นอย่างน้อย หรือบางทีอาจต้องรอเป็นปี หรือจนถึงขั้นได้รับหมายศาลแล้วนั่นแหละ
สำหรับส่วนลดที่ทางเจ้าหนี้เสนอมาให้ ก็มีตั้งแต่ 30% , 40% , 50% , 60% , 70% แล้วแต่เงื่อนไขการเจรจา , เทคนิคการต่อรอง , นโยบายส่วนลดหนี้ของสถาบันการเงินนั้นๆ และ ความ“เน่า ”ของหนี้ที่หยุดจ่าย
แต่การ Hair-cut ที่ได้ราคางามที่สุด (หรือที่เรียกว่า "นาทีทอง" นั้น...มักจะอยู่ในช่วงของเวลาดังต่อไปนี้
- หยุดจ่ายนานเกิน 10 เดือนขึ้นไป
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาลในนัดแรก
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี อีกหลายนัด (ยังไม่ได้พิพากษา)
ถ้าพ้นกำหนดช่วงเวลาดังกล่าวนี้ไปแล้ว โปรโมชั่น "นาทีทอง" อาจหมดไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำ Hair-cut ไม่ได้...เพียงแต่ว่า อาจไม่ได้ราคางามๆตามโปรโมชั่นของ "นาทีทอง" ก็เท่านั้นเอง
- โทรศัพท์มาทวงหนี้
คือการตืดต่อทวงหนี้ด้วยการใช้โทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของลูกหนี้ , โทรศัพท์เข้าที่ทำงานของลูกหนี้ , โทรศัพท์ไปที่บ้านของลูกหนี้ แล้วใช้คำพูดข่มขู่ว่า หากไม่ชำระหนี้ ก็จะทำการส่งเรื่องต่อไปตามระบบ หรือส่งเรื่องออกไปให้สำนักงานข้างนอก(ส่งเรื่องไปให้บริษัทรับจ้างทวงหนี้) หรือ ขู่ว่าจะส่งเรื่องส่งฟ้องศาล(ทั้งๆที่ลูกหนี้เพิ่งจะหยุดจ่ายแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น)
หากลูกหนี้ยังเพิกเฉยต่อการข่มขู่ต่างๆเหล่านี้ ในสัปดาห์หน้าและสัปดาห์ต่อๆไป นักทวงหนี้ก็จะโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ด้วยถ้อยคำเดิมๆทุกครั้งไป...เช่น
๐ สัปดาห์ที่ 1...คุณหยุดจ่ายมา 3เดือนแล้วนะ หากวันนี้คุณยังไม่จ่ายเข้ามา พรุ่งนี้เราจะทำเรื่อง
ส่งฟ้องศาลแล้วนะ
๐ สัปดาห์ที่ 2...ผมบอกให้คุณจ่ายตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว คุณก็ยังไม่เชื่อฟังอีก งั้นอาทิตย์นี้เราจะทำเรื่อง
ฟ้องศาลจริงๆแล้วนะ
๐ สัปดาห์ที่ 3...นี่คุณ ทำไมถึงยังไม่จ่ายอีก จะให้เราส่งฟ้องศาลจริงๆใช่ไหม?
๐ สัปดาห์ที่ 4...ถ้าคุณยังไม่ยอมจ่ายดีๆ คราวนี้เราจะทำเรื่องฟ้องศาลจริงๆแล้วนะ
๐ สัปดาห์ที่ 5...คุณต้องจ่ายเข้ามาก่อนบางส่วน ไม่อย่างนั้นเราฟ้องคุณจริงๆแล้วนะ ไม่ได้โกหก
๐ สัปดาห์ที่ 6...ได้รับหมายศาลแล้วหรือยัง? อ๋อ ยังไม่ได้รับเหรอครับ งั้นก็เตรียมตัวไปขึ้นศาลได้เลยนะครับ
๐ สัปดาห์ที่ 7...มีเจ้าหน้าที่จากศาลโทรมาหาคุณหรือยัง ว่าจะให้ไปขึ้นศาลวันไหน? อ๋อ ยังเหรอครับ
ถ้างั้น วันนี้คุณจ่ายเข้ามาก่อนบางส่วน เราจะไปถอนฟ้องให้ แต่ต้องจ่ายให้ได้ภายในเย็นวันนี้นะ
๐ สัปดาห์ที่ 8...เมื่อไหร่คุณจะจ่ายซะที ไม่งั้นเราจะฟ้องคุณจริงแล้วนะ ฟ้องจริงๆด้วย ไม่ได้ขู่
๐ สัปดาห์ที่ 9 และสัปดาห์ถัดต่อไปเรื่อยๆ ทุกสัปดาห์...จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...จะฟ้องแล้วนะ...
จะฟ้องจริงๆแล้วนะ...จะฟ้องจริงๆด้วย...ฯลฯ
หากลูกหนี้รู้สึกเบื่อหน่ายกับคำพูดข่มขู่ที่ซ้ำซากแบบนี้ ลูกหนี้สามารถตอบกลับไปได้ว่า
เออ...กูรู้แล้ว มึงก็ฟ้องจริงๆซะทีสิวะ
เอาแต่พูดอยู่ได้ ว่าฟ้องแล้วนะ ฟ้องแล้วนะ ฟ้องแล้วนะ
กูรอรับหมายศาลมานานจนเบื่อแล้วนะโว้ย
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
NickP เขียน: จากที่อ่านเรื่องการไปขึ้นศาลแล้วนั้น ในกรณีที่เราเลื่อนนัดไม่ได้ ต้องให้ศาลท่านพิจารณานั้น
ผมอ่านไม่เจอว่า ในกรณีที่ต้องให้ศาลท่านพิจารณาเลย
1.เขาจะมีเอกสาร ระบุเงื่อนไขในการผ่อนชำระ ไว้เลยมั๊ยครับ ว่าเราต้องผ่อนชำระเท่าไหร่ / ดอกเบี้ยเท่าไหร่ / กี่งวด
2.ถ้าศาลท่านพิพากษาแล้ว เรายังมีโอกาส แฮร์คัท ได้อีกเหรอครับ ในเมื่อเราหยุดจ่ายไม่ได้แล้ว เพราะถ้าเราหยุดจ่ายอีก ก็เหมือนเราดื้อแพ่ง เจ้าหนี้ก็จะบังคับคดี เราทันที เราจะมีโอกาสไหน แฮร์คัท ได้อีก หลังจากศาลท่านพิพากษา แล้ว
3.ถ้าศาลท่านพิพากษา ให้เราผ่อนชำระตามโจทก์ฟ้องนั้น เราสามารถต่อรองกับทางทนาย หรือ ศาลท่าน ได้มั๊ยครับ ว่า เรามีกำลังที่จะส่งได้ เดือนละ XXX เท่านี้ เท่านั้น บาท เพราะเกรงว่า ถ้าเขากำหนดมาเลยว่า แล้วเราส่งไม่ไหวอีกล่ะครับ จะทำยังไง
เพราะที่ผมอ่าน ประสบการณ์ที่แชร์นั้น ดูเหมือนบอกแค่ว่า เรามีโอกาสพูดให้ศาลท่านเมตตา แต่ไม่เห็นข้อความที่ว่า ศาลท่านไกล่เกลี่ยให้อย่างไร สามารถขอความเมตตาท่าน ให้เราส่งตามกำลังที่เราส่งไหว ได้อย่างไร
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
NickP เขียน: เครียดอ่ะ ต่อรองส่วนลดไม่ได้ดั่งใจเลย เงินที่มีอยู่ ถ้าได้ส่วนลดแค่นี้ ก็คิดว่าไม่พอปิดได้ทุกเจ้า แหงๆ
กลุ้ม
ทำไม อ่าน ในประสบการณ์พี่ ๆ เพื่อน ๆ เค้าให้ส่วนลดดีจัง นี่เรา ก็ทำใจดีสู้เสือ ใช้สารพัดวิธี อ้อนวอน บู๊บ้าง บุ๋นบ้าง แล้ว แต่ก็ยัง ให้ส่วนลด เหมือนปัดเศษทิ้งไป แล้วก็จะชวนประนอมหนี้อย่างเดียว
เราก็เข้าใจนะ ว่าพี่ๆ เขาไม่สนับสนุนให้ประนอมหนี้ แต่คำพูดที่เขาเสนอมา พูดมา ดูเหมือนดี๊ดี อ่ะ
"ดอกเบี้ยลดนะคะ จ่ายยอดแค่นี้ แล้วมีเงินค่อยมาขอส่วนลด" พูดงี้เหมือนทุกที่
ที่บอกว่า ช่วงนาทีทองอย่างที่ว่า สำหรับเราแล้ว ก็ไม่เห็นจะลดมากมายเลย จะขึ้นศาลเดือนหน้านี้แระ สงสัยต้องลองไปขึ้นดูสักที ว่าจะเจรจาต่อรองได้ยังไง เพราะถ้าให้ส่วนลดแค่นี้ แล้วไม่พอปิดหมดทุกเจ้างี้ ก็ไม่รู้ต่อรองขอส่วนลดไปเพื่ออะไร
พอบอกไม่ประนอมหนี้ นะ ก็บอกว่า งั้นเข้าสู่กระบวนการนะคะ ,ส่งสำนักกฎหมายนะคะ
เราก็เอ้อ นี่ก็เข้า 5 เดือนแล้ว ถ้ามันจะทำงั้นจริง ๆ จะเป็นไงต่อนะ สงสัยต้องรอให้แต่ละเจ้า ยื่นฟ้องรับหมายศาลเป็นเจ้าๆไปแล้ว อย่างน้อยก็ยืดระยะเวลาเก็บเงินไป ถ้ายังให้ส่วนลดกันแบบนี้ อย่าให้ดีกว่า
ไม่เข้าใจว่า กระทู้เรานี่ เรื่องมันดูไม่น่าสนใจหรือไร ยังไงนะ ถึงไม่ค่อยมีคนมาเสนอแนะ ความคิดเห็น ให้กำลังใจ กันบ้าง กระทู้ปักหมุดก็อ่าน ๆๆๆๆ จนไม่รู้กี่รอบแล้ว ถ้าเอาออกมาทำเป็นข้อสอบ ก็คงทำได้เกือบเต็มแล้วล่ะมั๊ง
เหนื่อยโว้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา