หมุนเงินไม่ทันตั้งใจจะหยุดจ่ายเดือนนี้เดือนแรกค่ะ

พึ่งเข้ามาเจอเว็บนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายนค่ะ แล้วนั่งอ่านที่ทำงานเกือบทั้งวัน ทำให้เริ่มมีทางออก หลังจากที่เครียดมากๆๆ มาหลายวัน แล้วสนใจเข้าร่วมสัมมนาวันที่ 28 แต่จองที่ไม่ทัน พออ่านก็ตั้งใจว่าจะหยุดการจ่ายเริ่มเดือนนี้เดือนแรกเลยค่ะ เพราะอยากจะมีเงินเก็บให้ลูก รายละเอียดหนี้ที่มี

1.Citiibank 2 ใบ(Big C&Themall) ประมาณ 76,000 (หยุดจ่าย)
2.กสิกรไทย ประมาณ 18,000 (เป็นบัญชีเงินเดือนกะจะจ่ายต่อค่ะ)
3.First Choice จำนวน 45,000 (หยุดจ่าย)
4.กรุงศรี Smile Cash ประมาณ 50,000 บาท (หยุดจ่าย)
5.Citi loan ประมาณ 50,000 บาท (หยุดจ่าย)

อยากรบกวนถามพี่ ๆ เพื่อน ๆ ว่าควรเตรียมตัวรับมือรายไหนมากที่สุดค่ะ จะได้เตรียมพร้อมรอรับมือค่ะ

City bank ครับ ควรเตรียมรับมือก่อนเนื่องจากมีโอกาสฟ้องเร็วและยอดเงินของคุณสูงด้วยครับ

ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้ก่อนนะครับ ผมก็เพิ่งหยุดเดือนแรกเหมือนกันครับ ^_^

เท่าที่อ่านดูนะครับมีตัวที่ฟ้องเร็วอยู่คือ citi ครับ 4-5 เดือนฟ้องแล้ว

kasikorn ก็ประมาณ 6 เดือนฟ้อง

ต้องเตรียมรับมือไว้ก่อนครับ

ส่วน FC และกรุงศรี ประมาณ 1 ปีครับ

คุณดีใจได้อย่างหนึ่งครับคือเจ้าหน้าของคุณส่วนลดดี คุยไม่ค่อยยากครับ ถึงฟ้องแล้วก็ยังคุยกันได้

แล้วตัวคุณมีแนวทางยังไงบ้างครับ เดือนนึงคุณเหลือเก็บเท่าไร

จะพยายาม hiar cut ก่อน

หรือจะรอฟ้องอายัดเงินเดือนเลยทีเดียว ซึ่งถ้าไม่มีทรัพย์สินอื่นให้ยึดได้ และคุยกับที่ทำงานะข้าใจกันดี วิธีนี้ก็เป็นผลดีอย่างนึงครับ คือเราไม่ต้องเครียดมาก ปล่อยเจ้าหนี้เข้าคิวอายัดไปทีละเจ้า 30%ของเงินเดือนรวมกับโอทีในแต่ละเดือน โบนัสอายัดได้ 50%
แถมไม่สามารถอายัดในรายที่เงินเดือนหลังหักอายัด 30% แล้วเหลือน้อยกว่า 10000 บาท เท่ากับว่าเจ้าหนี้ต้องง้อเราสุดๆ แล้วช่วงนี้ก็ยังสามารถเจรจาขอส่วนลดปิดได้เช่นกันครับ ^_^

อ่านกระทู้แนะนำเยอะๆนะครับ สู้สู้

ขอบคุณมาก ๆ นะค่ะ เงินเดือน 20,000 จะเก็บเดือนละ 10,000 บาทค่ะ (หลังหักค่าผ่อนบ้าน+ค่าใช้จ่ายลูก+ค่าใจ้จ่ายเดินทางไปทำงาน)

จะเก็บเงินและเริ่มปิดตัวน้อย ๆ ก่อนค่ะ
แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอายัดเงินเดือนค่ะ แต่จะเข้าไปอ่านศึกษาเพิ่มค่ะ

ขอสอบถามอีกนิดนะค่ะ เข้าไปอ่านกระทู้ที่ปักหมุดแล้วค่ะ แต่ยังมีข้อสงสัยเรื่องการฟ้อง เพราะเท่าที่ทราบ Update จากในกระทู้บอกว่า citi จะฟ้องเร็ว แต่มองแล้วอาจเก็บเงิน HC ไม่ทันขึ้นศาลนะค่ะ จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้างค่ะ อยากจะรีบ HC ก่อนอายัดเงินเดือนนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ

อ่านในกระทู้เยอะๆครับ

ยอดของ Citi ของคุณอยู่ที่ประมาณ 76000 บาท ถ้ามองในแง่ดีไว้ก่อนอาจได้ส่วนลดเหลือต้องจ่ายประมาณ 40000 - 50000 บาท ซึ่งนับจากนี้ถึงวันที่ถูกฟ้องถ้าคุณเก็บเงินได้เดือนละ 10,000 ตามที่ได้แจ้งไว้ก็น่าจะทันครับ เพราะ citibank ชอบให้ส่วนลดก่อนวันไปศาลครับ ถ้าตกลงกันได้ก็ยกฟ้อง แต่ถ้าคุณเก็บเงินไม่ทันการไปศาลครั้งแรกให้ไปขอเลื่อนศาล ตามสิทธิของเรา ก็จะได้เวลาเก็บเงินเพิ่มอีก 1-2 เดือนแล้วแต่ศาลจะให้เลื่อนได้เท่าไร ซึ่งช่วงนี้เป็นเวลาที่คุณมีเงินพอจ่ายแล้วก็เจรจากับเจ้าหน้าได้ง่ายขึ้นครับผม สู้ๆครับ

อีกอย่างหนึ่งคุณมีของ Citi loan ด้วย ผมไม่แน่ใจว่าจะฟ้องรวมกันหรือเปล่าเพราะถ้าฟ้องรวมกันคุณอาจเก็บเงินไม่ทัน แนะนำว่าถ้าได้หมายศาลแล้วไปปรึกษา คุณอาประพัฒน์ก่อนดีกว่าครับว่าจะเอายังไงต่อไป

เพราะกระบวนการในศาลใช้เวลาค่อนข้างนานครับ ถ้าคุณเลื่อนนัดสาลครั้งแรกแล้วยังตกลงกันไม่ได้ คุณก็มีสิทธิยื่นสู้คดี ถึงแม้อาจจะแพ้ก็ตาม แต่มองในแง่ดีเราก็มาโอกาสเก็บเงินเพิ่มอีก 5-6 เดือน และในระหว่างที่ศาลนัดสืบพยาน หรือแม้กระทั่งมีคำตัดสินมาแล้ว ก็ยังสามารถคุย HC ได้ตลอดครับ

หรือสมมุติว่าคุณมีเรื่องต้องใช้เงินทำให้เก็บไม่ทัน หลังได้คำตัดสินแล้ว ก็สามารถยื่นอุธรณ์ ต่อได้อีกครับ ได้ยืดเวลาอีกเกือบปี แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายค่าทนายและค่าธรรมเนียมต่างๆครับ เห็นไหมครับ ว่ายังมีทางออก

ตอนนี้ควรเก็บเงินให้ได้มากที่สุดครับ อย่าเพิ่งกังวลมากนัก ค่อยๆแก้ไขตามสถานการณ์ ถ้าหารายได้เสริมได้ควรทำ เพราะที่คุณบอกว่าจะเก็บเดือนละ 10,000 ฟังดูมาก แต่อาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้เราต้องใช้เงิน ยิ่งคุณมีลูกด้วย ต้องวางแผนการเงินดีๆครับ

ยังไงครอบครัวก็ต้องมาก่อนเจ้าหนี้ครับ อย่าให้ครอบครัวลำบากเกินไป เป็นกำลังใจให้ครับ

มาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ จะหยุดเหมือนกันค่ะ

สู้ๆ

ผมเคยมีประสบการณ์เรื่องอายัดเงินเดือน ถ้าเขาอายัดก็ให้อายัดไปครับ แต่เราสามารถไปทำเรื่องขออายัดที่กรมบังคับคดี โดยเอาหลักฐานค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเทอมลูกหรือค่าผ่อนบ้านลดอายัดครับส่วน โบนัสนั้นถ้าทางบริษัท ไม่ทำเรื่องหักนำส่งก็ ส่งโดยหักตามปกติที่ 30% หรือถ้าทำเรื่องอายัดก็ตามส่วนที่ได้ลดอายัดครับแนะนำว่าควรหยุดจ่ายทั้งหมดเพื่อให้เหลือเงินเก็บมากที่สุดแม้จะเป็นธนาคารที่เป็นเงินเดือนเขาก็ไม่สามารถหักได้้ครับต้องฟ้องแล้วคดีสิ้นสุด ควรให้เขารออายัดตามคิวเจ้าหนี้เพราะถ้าเขาอายัดจริงก็ได้แค่ 30% ของเงินเดือน(ทุกเจ้ารวมกันไม่เกิน 30%) และถ้าเจ้าหนี้โทรทวงก็บอกไปเลยครับว่าโดนอายัดอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นประโยชน์มั้ยครับกับคำแนะนำผมก็แก้วิธีนี้มานานแล้วตั้งแต่ปี 48 และก็เพิ่งสมัครสมาชิกเว็ปนี้ไม่ถึงปี เป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวครับแต่ถ้าไม่มีเงินหรือเงินไม่พอใช้ต่อเดือนน่ากลัวกว่าครับ สู้ๆครับ เดี๋ยวหนี่ก็หมด

ผมขอเสริมนิดนะครับ

เรื่องการหักเงินในบัญชีมี 3 แบบนะครับ

1.เป็นกระบวนการอายัด หลังจากที่คดีสิ้นสุดในชั้นศาลตามที่คุณ kendo บอก

2.มีการระบุไว้ในสัญญาตั้งแต่แรกว่า สามารถหักเงินจากบัญชีได้ หากผิดนัดชำระ

3.ไม่ใช่ทั้ง 1,2 แต่ก็จะหักอ่ะ ถามว่าผิดมั้ยก็ผิดครับ แต่ถ้าจะเอาเรื่องก็ต้องไปฟ้องร้องเอาครับ ซึ่งในส่วนของประชาชน หมายถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกก้อน และกว่าคดีจะสิ้นสุดไม่รู้อีกนานเท่าไหร่

ดังนั้นป้องกันไว้ก่อนก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่มันมีวิธีหลายอย่างนะลองศึกษาดูครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=23734&Itemid=52

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6970&Itemid=52

ในส่วนการอายัดเงินเดือนก็ไปศึกษาในนี้นะครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=28147&Itemid=52

เข้ามาให้กำลังนะคะ เป็นคุณแม่เหมือนกัน

แต่หนี้เราเยอะกว่า เงินเดือนใกล้เคียงกัน แต่คุณเก็บเงินได้เยอะกว่า

คิดไว้ว่า ถ้ามันสุดๆจริงๆ คงรอให้อายัดเงินเดือนไปเลย เพราะไม่มีทรัพย์สมบัติอะไร สำหรับช่วงนี้ก็เริ่มยักย้ายถ่ายเทบัญชีเงินออมไปที่พี่สาวหล่ะ เตรียมพร้อมไว้ก่อน พร้อมกับเก็บเงินไปเรื่อยๆ ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ประหยัดสุดๆ

สู้ๆนะคะ

มาเป็นกำลังใจให้อีก 1 คนค่ะ ดิชั้นก็ทำการเริ่มหยุดจ่ายเดือนนี้เดือนแรกเหมือนกัน สู้เพื่อลูกค่ะ

ขอบคุณทุก ๆ ข้อมูล และคุณแม่ๆ ทุกท่านนะค่ะ ใช่ค่ะสู้เพื่อลูก ที่ต้องการปลดหนี้โดยเร็วก็เพื่อจะได้มีเงินเลี้ยงเจ้าตัวเล็กนี่ละค่ะ

เตรียมพร้อมสำหรับการทวงหนี้ รายแรกที่ต้องเตรียมตัวก็น่าจะเป็นกลุ่ม Citi ค่ะ สู้ สู้ แล้วจะมา Update นะค่ะ

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ตัดสินใจจะหยุดแล้วเหมือนกัน สู้ๆไปด้วยกันค่ะ

ขอถามเพิ่มเติมค่ะ ตอนนี้อ่านข้อมูลไปค่อนข้างเยอะ แต่ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ ขอรบกวนถามว่าในกรณีที่ทำงานอยู่ที่ธนาคาร จะมีปัญหาในการทำงานไหมค่ะ แต่ธนาคารที่ทำงานก็ยังจ่ายบัตรอยู่ค่ะ และคิดว่าจะปิดภายในเดือนหน้าค่ะ เพราะยอดไม่เยอะเท่าไหร่ค่ะ ขอบคุณค่ะ

พี่เคยทำงานที่ธนาคารนะ ตอนเป็นหนี้เป็นหนี้ทุกสถาบันการเงิน ยกเว้นธนาคารที่ตัวเองทำงานอยู่

ถามว่าเวลาธนาคารเจ้าหนี้ทวง ก็ให้เขาทวงไปค่ะ ถ้าเราไม่ได้อยู่หน้าเคาว์เตอร์ เป็นเทลเล่อร์ หรือ แคชเชียร์

อันนี้ก็ไม่กระทบกับหน้าที่การงาน ยิ่งถ้าเราทำงานเกี่ยวกับ backoffice ก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินของธนาคารที่เราทำงานอยู่ แต่เราต้องแจ้งหัวหน้าเราให้เขารู้เรื่องการถูกทวงหนี้ด้วย หากมีเพื่อนในที่ทำงานที่สายโทรศัพท์ใช้ร่วมกัน ก็ควรบอกเขา เป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องหน้าอาย บอกให้คนอื่นรู้ว่าเรากำลังแก้ปัญหาใช้หนี้อยู่แต่ต้องทยอยใช้ทีละเจ้า อีกอย่างเรากับครอบครัวต้องมีกินมีใช้ในชีวิตประจำวันให้อยู่รอดก่อน พี่คิดว่าน้อยคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนจะไม่เป็นหนี้ หันซ้ายขวาเป็นหนี้กันทั้งนั้นแหละค่ะ อย่ากังวลไป บางทีการได้หยุดเพื่อแก้ไข ก็ยังดีกว่าเดินไปทั้งที่รู้ว่ายิ่งเดินเชือกยิ่งพันขาไปเรื่อยๆ

บอกจากประสบการณ์นะคะ แต่พี่ไม่รู้ว่าสถาบันการเงินที่คุณทำงานอยู่จะเป็นเหมือนของพี่หรือเปล่า อันนี้เล่าให้ฟังค่ะ เผื่อจะได้ใช้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะ

ขอให้สู้ๆค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณ balm แล้วไว้จะมา updateนะค่ะ

ช่วงนี้งานเราค่อนข้างยุ่ง มีการย้ายตำแหน่งงานแต่ทำที่เดิม เข้ามาอ่าน web นี้ทุกวันแต่ไม่ได้ Login เข้าเพราะอยู่ที่ทำงานเข้าไมได้ค่ะ

จะเข้ามา Update สถาณะตอนนี้ค่ะ หยุดจ่ายมา 2 เดือนแล้วค่ะ เริ่มจาก

First choice โทรมาวันนึง 3-4 รอบ มียิงเบอร์เข้ามาทั้ง Office และมือถือ (จำได้เพราะที่บริษัทโชร์เบอร์) ตอนนี้ยังคุยดีอยู่
citi โทรมาอาทิตย์ละ 4-5 ครั้ง ยังคุยดีอยู่ค่ะ

ตอนนี้เท่าที่เราคุยก็บอกทาง เจ้าหนี้ทั้งหลายว่าประสบปัญหาอะไรอยู่ เราอยากจ่ายแต่ตอนนี้ยังไม่มี (พอดีลูกเราเป็นผนังกั้นหัวใจรั่ว จะต้องผ่าตัด) ต้องเตรียมเงินไว้ให้ลูก
ทางเจ้าหนี้ก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ถามว่าจะนัดจ่ายได้เมื่อไหร่ เราก็บอกว่ายังไม่ขอให้คำตอบกลัวให้ไปแล้วไม่มีจ่าย แต่จะพยายาม บอกไปประมาณนี้นะค่ะ อ๋อ!!แล้วก็บอกว่าให้โทรเข้าเบอร์มือถือ
อย่าโทรเข้าเบอร์ที่ทำงาน เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว เบอร์ที่ทำงานเอาไว้ใช้ในการทำงาน เพราะเรารับโทรศัพท์ทุกสายอยู่แล้ว

ไว้จะเข้ามา Update เพิ่มเติมนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้ครับ หนี้เอาไว้ทีหลัง ชีวิตลูกและครอบครัวต้องมาก่อน