ถูกบังคับคดี เพื่อตัดเงินเดือน แต่ไม่สามารถจ่ายได้เต็มจำนวน(30%) ของเงินเดือน จะทำอย่างไรคร

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36663 โดย reflex
ผมมีภาระหนี้สินเชื่อ กับ UOB ดังนี้นะครับ

- บัตรเครดิต เงินต้น = 39,980.45
- บัตรกดเงินสด เงินต้น = 38,104.37

ยอดหนี้ที่ทางหมายแจ้งมารวม 116,963.98 (รวมดอกเบี้ย)

ถ้าให้ชำระ 30% ของเงินเดือนผม 31,000 ก็ประมาณ 9,300
จะเหลือหลังอายัด = 21,700
หักภาษี + ประกันสังคม = 1,640

เหลือจ่ายให้ผม = 20,060

ผมมีรายจ่ายทุกๆเดือน แบบนี้ครับ
- ส่งให้แฟนเรียนค่ากิน / อยู่ = 12,000
- ค่าเช่าหอพัก = 5,200
- ค่าเดินทาง = 1,500
- ผมใช้ทั้งเดือน = 3,000
- เก็บเป็นค่าเทอม = 5,000 (เทอมละ 20,000 / เฉลี่ยเดือนละ 5,000)

รวมรายจ่าย = 26,700

ซึ่งมันต่างกันประมาณ 6,700 บาท ในส่วนนี้ผมไม่สามารถจะหาเพิ่มได้
ถ้าจะขอลดจาก ยอด 9300 เป็น 6,000 โดยทั่วไปทำได้หรือเปล่าครับ เพราะมันถึงขั้นบังคับคดีแล้ว
เนื่องจากผมไมไ่ด้รับหมายศาล เพราะย้ายบ้านและผิดที่ผมเองไมไ่ด้ตามเรื่องมา 2 ปี

พอมีคำแนะนำอย่างอื่นไหมครับ โทรไปทาง UOB บอกว่าถ้านำเงินก้อนมาตัดได้จะถูกลงกว่านี้มาก แต่เค้าไมไ่ด้แจ้งตัวเลขมาว่าเท่าไหร่ เป็นประมาณการ 80,000 ผมคิดว่าถ้าทำ refinance กับธนาคารอื่น ผมจะชำระต่อเดือนต่ำกว่านี้(5,000 - 6,000 ต่อเดือน) แต่ยังไม่ทราบว่าควรทำอย่างไรต่อดีครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36671 โดย momo551715
ต้องถามก่อนครับว่าแฟนนี้คือคนที่แต่งงานกับเราใหมหรือแค่คบกับไปเพราะถ้าเป็นแฟนกันผมคงไม่ส่งหรอกครับอันนี้ความคิดผมนะครับแค่ถ้าภรรยาร่วมทุกร่วมสุขกันเรียนต่อเพื่ออนาคตก็โอเคครับแต่จากที่ดูนี้คุณส่งแฟนเยอะเกินไปครับต้องตัดลดตรงส่วนนี้ครับ รอท่านอื่นมาแนะนำต่อ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36673 โดย ntps
คิดจะหาหนี้ใหม่มาแทนหนี้เก่าหรือค่ะ เขาเรียกว่า ย้ายหนี้ ไม่ใช่ปลดหนี้ค่ะ

เรื่องภาระของคุณ หากไม่ลด คุณคงอยู่ไม่รอดหรอกค่ะ

ส่วนเรื่องถึงกรมบังคับคดีแล้ว คุณสามารถขอลดหย่อนกับกรมได้ แต่ต้อง

มีเหตุเนื่องจากคุณมีภาระเลี้ยงดูบุพพาการี เลี้ยงดูบุตร ประมาณว่าด้วยความ

กตัญญูกตเวที ไม่ใช่เลี้ยงแฟนด้วยความสิเน่หาค่ะ ^^

การขอลดหย่อนต้องเขียนคำร้องต่ออธิบดี แล้วอยู่ที่ดุลยพินิจของท่าน

จะลดหรือไม่ค่ะ

อีกแนวทางคือ คุณอยากจ่ายน้อยต่อเดือน ในฐานะไม่มีเงินปิดจบ

คุณก็ต้องเจรจากับเจ้าหนี้ ให้เขารับข้อเสนอของคุณ แล้วทำข้อตกลง

เป็นลายลักษณ์อักษรกัน ถ้าเขายอม เขาก็ไปถอนอายัด ส่วนใครจ่าย

ค่าถอน ก็ขึ้นอยู่กับฝีปากของคุณค่ะ แต่คุณต้องมั่นใจว่า ต้องทำให้ได้ครบ

ทุกงวด และอาจลดลงกว่า ยอด 30% ไม่มากจนน่าเกลียดค่ะ และไหวค่ะ



ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36676 โดย reflex
แฟนผมยังไม่ได้จดทะเบียนกันครับ เค้าส่งผมเรียนจนจบ ป.ตรี ตอนนี้ก็คราวผมส่งเค้าเรียนบ้าง

ผมลองโทรไปที่ UOB แล้วเค้ายืนยันจะให้จ่ายเป็นก้อนอย่างเดียว ไม่ก็ให้ผมไปทำเรื่องที่ หน่วยงานบังคับคดีเอง ตามที่คุณ kaewja แนะนำผมเข้าใจว่า ผมไม่สามรถขอลดหย่อนได้เนื่องจาก ไม่ได้จดทะเบียน ใช่หรือไม่ครับ ผมต้องเจรจากับทาง UOB ให้เค้ายอมรับข้อเสนอของผม คือทางออกที่ดีที่สุด ใช่ไหมครับ


ปล. ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมาร่วม 10 ปี ทางผู้ใหญ๋รับรู้โดยตลอด และชื่อผมก็อยู่ทะเบียนบ้านเดียวกับแฟน(บ้านพ่อแฟน) ส่วนนี้จะใช้อ้างอิงได้หรือเปล่าครับประกอบการขอลดหย่อน

ขอบคุณที่สละเวลาแนะนำครับ ทั้งสองท่าน

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา - 10 ปี 11 เดือน ที่ผ่านมา #36687 โดย jackTs

reflex เขียน: ถูกบังคับคดี เพื่อตัดเงินเดือน แต่ไม่สามารถจ่ายได้เต็มจำนวน(30%) ของเงินเดือน จะทำอย่างไร

ไปเขียนคำร้องขอลดหย่อนการอายัด จาก 30% ให้ลดลงมาเหลือ 15%
รายละเอียดอยู่ในกระทู้นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=28147&Itemid=52#28153


reflex เขียน: ผมลองโทรไปที่ UOB แล้วเค้ายืนยันจะให้จ่ายเป็นก้อนอย่างเดียว ไม่ก็ให้ผมไปทำเรื่องที่ หน่วยงานบังคับคดีเอง

Hair-cut สามารถทำได้ตลอด

ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว
...ไม่ว่าจะเป็น

- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้

เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ

รายละเอียดอยู่ในกระทู้นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52


reflex เขียน: ผมเข้าใจว่า ผมไม่สามรถขอลดหย่อนได้เนื่องจาก ไม่ได้จดทะเบียน ใช่หรือไม่ครับ

ก็อ้างค่าใช้จ่ายอื่นๆแทนสิครับ...ไปอ่านรายละเอียดดูให้ดีๆ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=28147&Itemid=52#28153


reflex เขียน: ผมต้องเจรจากับทาง UOB ให้เค้ายอมรับข้อเสนอของผม คือทางออกที่ดีที่สุด ใช่ไหมครับ

สูตรสำเร็จของการ Hair-cut...พูดง่ายๆก็คือ

ถ้ามีตังค์ ก็เสียงดัง-เสียงใหญ่ ในการเจรจาขอลดหนี้ได้ง่าย
แต่ถ้าไม่มีตังค์ ก็ไม่ต้องไปคุย...เอาไว้ให้มีเงินก้อนอยู่มือซะก่อน แล้วค่อยมาคุยกันใหม่

รายละเอียดอยู่ในกระทู้นี้
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52#16371


reflex เขียน: ปล. ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมาร่วม 10 ปี ทางผู้ใหญ๋รับรู้โดยตลอด และชื่อผมก็อยู่ทะเบียนบ้านเดียวกับแฟน(บ้านพ่อแฟน) ส่วนนี้จะใช้อ้างอิงได้หรือเปล่าครับประกอบการขอลดหย่อน

ถ้าไม่จดทะเบียนสมรสกัน ในทางกฏหมายเขามองเป็นเพียงแค่"กิ๊ก "กันเท่านั้นครับ...มิใช่คู่ สามี/ภรรยา ที่กฏหมายยอมรับ
ต่อให้คุณอยู่ด้วยกันมา 30 ปี ถ้าไม่จดทะเบียนสมรสกัน...ในทางกฏหมายก็มองเป็นเพียงแค่"กิ๊ก "วันยังค่ำ


.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.453 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena