ช่วยทีครับ หาทางออกไม่เจอจริงๆ

ผมควรทำยังไงก่อนดีครับสบสนจนคิดอะไรไม่ออกเลยครับ
ตอนนี้เกล้ากระผมเป็นหนี้
1.สหกรณออมทรัพย์ของบริษัท 750,000 B
2.สหกรณ์ร้านค้า 40,000 B
3.สินเชื่อธนวัฏ(ธ.กรุงไทย) 175,000 B
4.สินเชื่อเพื่อพนักงาน 150,000 B
5.จำนองที่ดิน 50,000 B
6.จำนำบัตร ATM 20,000 B
7.จำนำคอมพิวเตอร์ 6,500 B
8.เพื่อน (ไม่มีสัญญา) 15,000 B

รวม 1,206,500 บาท

รายรับ 18,000 บาท
รายการหักจากสหกรณ์+ธ.กรุงไทย ทั้งสิ้น 17,000 ตอนนี้เงินไม่พอหักหนี้ ATM ได้คุยให้เจ้าหนี้ทบดอกเป็นเงินต้นเมื่อเดือนที่แล้วครับ และไม่มีเงินเหลือไม่จ่ายรายเดือนจำนองที่ดิน + ธ.ออมสิน +ดดอกเบี้ยคอมฯ +เพื่อน +ค่าเช่าบ้าน เลยครับ และออมสินไม่ได้จ่ายมาก็ 5 เดือนแล้วตอนนี้มีหนังสือไปถึงบุคคลค้ำประกันบอกว่าจะเรียกเก็บหนี้ทั้งหมดครับทั้งของผมและคนค้ำจะมีผลยังไงครับ ตอนนี้หนักใจมาก เงินจะกินยังฝืดๆเลยกำลังมองหารายได้เสริมงานพาร์ททามเพื่อให้พออยู่รอดแต่ก็ยังไม่มีที่มันลงตัวกับงานประจำครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำชี้แนะครับ

ลืมบอกไปครับ รายการ 1,2,3 หักผ่านธนาคาร รวมแล้ว 17,000 B ครับ สรุปเงินไม่ถึงมือสักกะบาทเลยครับ

ต้องกราบขอโทษ Admin ในการตั้งหัวข้อกระทู้นะครับ ที่มีคำว่าช่วย เข้ามาเจอ web ก็รีบสมัครสมาชิคแล้วตั้งคำถามโดยไม่ทันได้ดูมารยาท พอมาอ่านมารยาทแล้วรู้สึกผิดมากเลยครับ
ขอคำแนะนำจาก Admin ด้วยนะครับว่าผมควรตั้งกระทู้ใหม่หรือรอไปก่อน ถ้ารอไปในหัวข้อกระทู้นี้จะมีคนเมตตาผมมั้ยครับ ขอบคุณครับ

เท่าที่ดูไม่เกี่ยวกับบัตรเครดิตรเลยครับ

หนี็ของคุณ น่าจะเป็นราชการ หรือเปล่าค่ะ ถึงได้มากมาย เกินเงินเดือนอ่ะค่ะ
เท่าที่ดู ต้องหารายได้พิเศษ เพื่อใช้จ่ายในครอบครัวให้เพียงพอก่อนนะคะ
แล้ว ลองมองหางานใหม่รายได้มากกว่าเดิมดีมั้ยค่ะ น่าเป็นห่วงนะคะ เพราะ
หนี้โดนหักจากเงินเดือนหมดเลย

ก่อนหน้ามีบัตรกดเงินสด 3 แห่ง ผมปิดหมดแล้วครับ

ผมเป็นพนักงานบริษัทเอกชนครับ แต่ทางบริษัทมีชื่อเสียง ทางธนาคารเขาเลยยอมให้กู้ อีกอย่างใช้บัญชีผ่านทางธนาคารที่กู้ครับผม

tevarach เขียน: ผมควรทำยังไงก่อนดีครับสบสนจนคิดอะไรไม่ออกเลยครับ
ตอนนี้เกล้ากระผมเป็นหนี้
1.สหกรณออมทรัพย์ของบริษัท 750,000 B
2.สหกรณ์ร้านค้า 40,000 B
3.สินเชื่อธนวัฏ(ธ.กรุงไทย) 175,000 B
4.สินเชื่อเพื่อพนักงาน 150,000 B
5.จำนองที่ดิน 50,000 B
6.จำนำบัตร ATM 20,000 B
7.จำนำคอมพิวเตอร์ 6,500 B
8.เพื่อน (ไม่มีสัญญา) 15,000 B

รวม 1,206,500 บาท

รายรับ 18,000 บาท
รายการหักจากสหกรณ์+ธ.กรุงไทย ทั้งสิ้น 17,000 ตอนนี้เงินไม่พอหักหนี้ ATM ได้คุยให้เจ้าหนี้ทบดอกเป็นเงินต้นเมื่อเดือนที่แล้วครับ และไม่มีเงินเหลือไม่จ่ายรายเดือนจำนองที่ดิน + ธ.ออมสิน +ดดอกเบี้ยคอมฯ +เพื่อน +ค่าเช่าบ้าน เลยครับ และออมสินไม่ได้จ่ายมาก็ 5 เดือนแล้วตอนนี้มีหนังสือไปถึงบุคคลค้ำประกันบอกว่าจะเรียกเก็บหนี้ทั้งหมดครับทั้งของผมและคนค้ำจะมีผลยังไงครับ ตอนนี้หนักใจมาก เงินจะกินยังฝืดๆเลยกำลังมองหารายได้เสริมงานพาร์ททามเพื่อให้พออยู่รอดแต่ก็ยังไม่มีที่มันลงตัวกับงานประจำครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำชี้แนะครับ

ไม่ใช่ไม่อยากตอบนะครับ แต่หนี้ของคุณมันไม่อยู่ในขอบเขตของชมรมเรา มีแค่รายการที่ 3 ที่พอใกล้เคียง นอกนั้นก็คล้ายๆหนี้นอกระบบนะครับ เนื่องจากถ้าไม่ใช่หนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อ ข้อกฎหมายที่ใช้มันไม่เหมือนกันครับ ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้แตกฉานในหนี้ประเภทนี้ แนะนำไปก็เกรงจะไม่ถูกต้อง

ที่แนะนำได้เบื้องต้น คือการใช้การเจรจาเพื่อลดภาระหนี้ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ก่อน ส่วนแนวทางแก้ไข คงต้องใช้ช่องทางอื่นนะครับ

ขอบคุณมากนะครับ มาดูเวปนี้ได้อะไรมากมายเลยครับ

ผมมีหนี้รวม 1,206,500 บาท รายรับ 18,000 บาท รายการหักจากการผ่านบัญชีทั้งสิ้น 17000 รายจ่ายต่อเดือน รวมรายการหัก ประมาณ 30000 กว่า (จริงๆแล้วรายการหนี้ผมไม่ได้เกี่ยบกับบัตรเครดิตเลยแม้แต่น้อย) อยากขอบคุณเวปนี้จริงๆ ยอมรับเลยในช่วงจิตตก คิดมากจนอยากทำอะไรโง่ๆ แต่ก็ได้เวปนี้ช่วยไว้ ขอบคุณจริงๆครับ ตอนนี้ชีวิตก็ยังไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างไรมีก็กินไม่มีก็ไม่กิน ไม่กู้เพิ่มเริ่มเก็บตังค์ แต่จิตที่ตก ดีขึ้น 1,000,000 %
ผมตั้งเป้าไว้จะใช้หนี้ให้หมดภายใน 3 ปี (+ - * /) ดูแล้วต้องหาเงินเพิ่มอีกวันละประมาณ 1100 บวกเพิ่มจากเงินเดือน ซึ่งมันอาจเป็นไปไม่ได้ในช่วงแรก แต่หลังจากอยู่ตัว 1100 คงหยุดผมไม่อยู่ คงได้มากกว่านั้น นั่นหมายถึงกำไรชีวิต

หลักการง่ายๆ (ประกาศให้โลกรู้ว่าคุณจะทำแบบนี้ ถ้าคุณทำไม่ได้คุณก็เสียหมาแหละทีนี้ ท้ายที่สุดคุณจะพยายามทำให้ได้เอง เพราะไม่อยากเสียหมา)

คิดถึงเป้าหมาย แล้ววิธีการจะตามมา (แต่อย่าหลงทางจากที่ทางกรรมการท่านบอกไว้นะครับ)

เชียร์ทุกคน "ไปถึงเป้าหมายให้ได้นะ"

ขอบคุณมากมายสำหรับกำลังใจที่มีให้เพื่อนพ้องมากครับ

tevarach เขียน: ผมมีหนี้รวม 1,206,500 บาท รายรับ 18,000 บาท รายการหักจากการผ่านบัญชีทั้งสิ้น 17000 รายจ่ายต่อเดือน รวมรายการหัก ประมาณ 30000 กว่า (จริงๆแล้วรายการหนี้ผมไม่ได้เกี่ยบกับบัตรเครดิตเลยแม้แต่น้อย) อยากขอบคุณเวปนี้จริงๆ ยอมรับเลยในช่วงจิตตก คิดมากจนอยากทำอะไรโง่ๆ แต่ก็ได้เวปนี้ช่วยไว้ ขอบคุณจริงๆครับ ตอนนี้ชีวิตก็ยังไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างไรมีก็กินไม่มีก็ไม่กิน ไม่กู้เพิ่มเริ่มเก็บตังค์ แต่จิตที่ตก ดีขึ้น 1,000,000 %
ผมตั้งเป้าไว้จะใช้หนี้ให้หมดภายใน 3 ปี (+ - * /) ดูแล้วต้องหาเงินเพิ่มอีกวันละประมาณ 1100 บวกเพิ่มจากเงินเดือน ซึ่งมันอาจเป็นไปไม่ได้ในช่วงแรก แต่หลังจากอยู่ตัว 1100 คงหยุดผมไม่อยู่ คงได้มากกว่านั้น นั่นหมายถึงกำไรชีวิต

หลักการง่ายๆ (ประกาศให้โลกรู้ว่าคุณจะทำแบบนี้ ถ้าคุณทำไม่ได้คุณก็เสียหมาแหละทีนี้ ท้ายที่สุดคุณจะพยายามทำให้ได้เอง เพราะไม่อยากเสียหมา)

คิดถึงเป้าหมาย แล้ววิธีการจะตามมา (แต่อย่าหลงทางจากที่ทางกรรมการท่านบอกไว้นะครับ)

เชียร์ทุกคน "ไปถึงเป้าหมายให้ได้นะ"

แนวคิดน่าสนใจครับ

นิดนึงนะ ... ช่วยกลับมาต่อกระทู้เดิมของตัวเองนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่องกัน ครั้งนี้ผมย้ายให้ก่อนนะครับ

อยากจะเล่าประวัติพอสังเขปเพื่อเป็นกำลังใจ ชีวิตที่อยู่ตัวคนเดียวของผมอยู่คนเดียวแบบคนเดียวจริงๆ พ่อเสียตอนผมอายุ 14 ปี แม่เสียตอนผม 26 ปี พี่ีๆไปมีครอบครัวและต่างคนก็มีภาระ โดยแบบว่าโทรหาแต่ละครั้งก็ได้แค่คุยเรื่องอื่นเพราะผมรู้อยู่แล้วว่าถ้าจะขอให้ช่วยก่อนคือนอกจากจะถูกปฏิเสธแล้ว โดนด่ากลับมาอีกจนทุกวันนี้ผมชินกับสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว สรุป พึ่งตัวเองให้ถึงที่สุด แล้วมันจะดีที่สุด

ผมเริ่มตั้นจากเงินเพียงน้อยนิดจากส่วนที่หาได้ จากการขายทรัพย์สินที่มีอันไหนขายได้ขาย มาจนถึงขั้นนี้แล้วอย่าเสียดายไม่ตายเด๋วก็ซื้อใหม่ได้ แล้วนำทรัพย์สินส่วนนั้นไปซื้อของที่จะมาขายอีกที เริมจากการนั่งกลุ้มแทนที่จะกลุ้มอยู่ที่ห้องที่ปิดตัว ก็ออกไปนั่งกลุ้มที่แหล่งชุมชน วิเคราห์ตลาดไปด้วย หลังจากนั้นก็มาเริ่มต้นจากการพิจารนาความชอบของตัวเองว่าทำอะไรได้ดีที่สุด 1,2,3,4 ลิสสมันออกมาแล้วเลือกมาอย่างเดียว มาเทียบกับตลาดที่ไปดูตอนนั่งกลุ้มนั่นแหละว่าจะขายอะไรได้ ส่วนผมเริ่มจากขายเมี่ยงปลาทอด ด้วยเงินลงทุนไม่ถึง 2000 เป็นเงินที่ได้จากการขายคอมพิวเตอร์เครื่องที่เอาไปจำนำ โดยโทรไปคุยกับเค้าหลังจากหักค่าต้น ค่าดอกเบี้ย เหลือมา 2000กว่าๆ (นิดๆ) หักส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่าย อีกส่วน เอามาลงทุน ซื้อปลานิลกับเครื่องมาทำน้ำจิ้ม โชคดีที่ผมอยู่เป็นเขตโรงงานจึงมีคนพลุกพร่านแบบไต้องเดินทางไกลๆ ผมขายหลังเลิกงานจนถึง 3 ทุ่ม ตอนนี้ได้กำไรวันละ 200-300 บาท


"และแล้วทุกอย่างมันก็เริ่มขึ้น"

หากก้าวแรกไม่ได้เริ่มขึ้น ก็อย่าคิดว่าก้าวสุดท้ายจะจบลง

สวัสดีค่ะ หากคุณ ลองเจรจากับสหกรณ์เพื่อ ลดเงินงวดในการผ่อนแต่ละเดือน
บอกเหตุผลความจำเป็น พอไหวหรือไม่
ลองเจรจากับแบงค์ออมสิน ว่่าพอที่จะลดผ่อนหนักให้เบาได้อย่างไรบ้าง
เพื่อผู้ที่ค้ำประกัน เค้า จะได้ไม่เดือนร้อน ด้วยน่ะค่ะ

ขอให้ผ่านพ้นไปให้ได้น่ะค่ะ

ตอนนี้ส่งหนังสือขอรีไฟแนนท์กับทางสหกรณ์ครับ แต่ยังไม่รู็้้้ผลเลยครับว่าจะยังไง

ขอบคุณมากครับ

สู่ๆ นะครับ คนสู้ชีวิต ไม่มีทางอับจนครับ

สู้ต่อไปนะครับ...มีทางออกสมอ..

แวะมาเล่าต่อครับ

เรื่องแรก ตอนนี้ทางสหกรณ์ร้านค้ายอมหักน้อยลง แต่สหกรณ์ออมทรัพย์ ยังไม่ได้คำตอบเลยครับ

เรื่องที่ 2 วันนี้เข้าไปคุยกับทางธนาคารมาครับ เขายื่อข้อเสนอมาให้ 3 รูปแบบครับ

1.ไม่ต้องทำอะไร ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมายไปเลย รอฟ้อง รอขึ้นศาลประมาณนั้น

2.แก้ไขประวัติใหม่ ทำสัญญาใหม่ โดยต้องไม่ผิดสัญญาอีก ซึ่งตอนนี้ผมต้องรอทางออกจากสหกรณ์ ว่าเค้าจะตัดสินใจยังไง จะมีเงินส่งทางนี้หรือไม่ เพราะไม่อยากพึ่งเงินจากทางค้าขายมากเพราะว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเอง และยอดที่ต้องส่งรายเดือนก็เท่าเดิมครับ

3.รีโดยใช้อสังหาริมทรัพย์ ให้ 1,200,000 ส่ง 14,000/เดือน (ส่วนตัวผมอันนี้ตัดไป)

อยากถามคนที่รู้ว่า ถ้าเลือกแบบที่ 1 ผลจะเป็นยังไง เราต้องเตรียมอะไรบ้าง เพราะฟังๆดูเขาก็ขู่ผมมาอย่างสุภาพเหมือนกันแต่ก็เหมือนๆกับของบัตรเครดิตเลยครับ ขึ้นศาล เสียค่าทนาย ตามสืบทรัพย์อะไรประมาณนี้แหละครับ

ไปเจอมาพอดี ทางออกที่ 2 จากทางธนาคาร

มันจะเป็นแบบนี้ป่าวครับ


www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=6343&Itemid=64

ที่บริษัทมีสำรองเลี้ยงชีพหรือป่าวครับ ถ้าทำมาหลายปีเงินมากพอ แนะนำให้ลาออก เป็นท่ายากท่าสุดท้ายครับสำหรับ(คน)ที่ไม่ที่ทางออกและไม่ต้องหาหนี้เพิ่ม (ผมทำมาแล้ว ) ที่ผมแนะนำให้ลาอออกเพราะว่าเห็นบริษัทคุณมีสหกรณ์พนักงานเมื่อลาออกก็ค่อยเพิ่มทุนหุ้นเมื่อพร้อมเวลาออกจากงานยังได้เงินสหกรณ์คืนแทนสำรองเลี้ยงชีพ ส่วนเงินเดือนก็เพิ่มขึ้นไม่ต้องโดนหักจากบัญชีเงินเดือนเข้าแล้วมีเงินเพิ่มขี้นนิดนึง
พอได้เงินมานำไปจ่ายเพื่อนฝูงและสหกรณ์อาจจ่ายส่วนนึงเพื่อให้ยอดหนี้ผ่อนต่อเดือนน้อยลงลองคำนวนดูนะครับสวนหนี้ในระบบให้ขึ้นรอขึ้นศาลไปเลยครับ..จะได้ส่วนลดผ่อนขั้นบันได้ ผ่อนปลอดดอกเบี้ยแล้วแต่ครับ ผมแนะนำผิดถูกไงขออภัยด้วยนะครับ....
โชคดีนะครับ