ช่วยทีครับ หาทางออกไม่เจอจริงๆ

ความเดิมตอนที่แล้วครับ
ส่วนผมเริ่มจากขายเมี่ยงปลาทอด ด้วยเงินลงทุนไม่ถึง 2000 เป็นเงินที่ได้จากการขายคอมพิวเตอร์เครื่องที่เอาไปจำนำ สรุปที่ผ่านมาวันไหนฝนไม่ตกขายดีครับ แต่วันไหนที่ขายไม่หมดก็มี ภาษาพ่อค้าเค้าเรียกว่า ปอดไม่ใหญ่ใจไม่ยาวครับ ก็คือเงินทุนหมุนเวียนน้อย สรุปง่ายๆจากการประเมินแล้ว ช่วงนี้ยังไม่เหมาะกับการค้าขายครับ แต่อย่าคิดว่าผมจะเข็ด ช่วงนี้ก็หยุดไว้สักครู่หาเงินทุนใหม่อีกก้อน

ต่อจากนั้นที่หายๆไปเพราะว่า ผมได้งานเสริมใหม่ครับ คือรับเหมาตัดหญ้า ตอนนี้ทำทุกอย่างเลยครับ เพื่อเป้าหมายที่วางไว้ ทุกวันนี้ผมตื่น 05.00 น. เริ่มตัดหญ้า 05.30 น. จนถึง 07.00 พักอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานที่บริษัท และหลังเลิกงาน 17.00-19.00 น. ก็ได้ตัดอีกรอบของวันครับ หรือแล้วแต่สภาพอากาศแดดออกไม่สน ฝนตกไม่เกี่ยว เกี่ยวก็แค่แสงที่ทำให้มองไม่เห็นก็แค่นั้นครับ ยอมรับว่าเหนื่อยมากกกกกมายยยยยเลยครับ แต่ก็ค่อนข้างที่จะคุ้มค่าปิด Job แรกแล้ว ตอนนี้ต่อ Job ที่ 2 และงาน Job ที่ 3 ก็มารอไว้แล้วครับ
สวรรค์ไม่ได้เล่นตลกกับเราตลอดหรอกครับ

สวรรค์ไม่ได้เล่นตลกกับเราตลอดหรอกครับ [/quote]



ชอบมากครับ

สู้ ๆ ครับพี่

เยี่ยมมากครับ

อ่านแล้วก็หนักใจแทนเลยค่ะ ไม่รู้จะแนะนำไง ได้แต่บอกว่าให้คุณสู้ให้มากๆอย่าถอดใจน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

tevarach เขียน: แวะมาเล่าต่อครับ

เรื่องแรก ตอนนี้ทางสหกรณ์ร้านค้ายอมหักน้อยลง แต่สหกรณ์ออมทรัพย์ ยังไม่ได้คำตอบเลยครับ

เรื่องที่ 2 วันนี้เข้าไปคุยกับทางธนาคารมาครับ เขายื่อข้อเสนอมาให้ 3 รูปแบบครับ

1.ไม่ต้องทำอะไร ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมายไปเลย รอฟ้อง รอขึ้นศาลประมาณนั้น

2.แก้ไขประวัติใหม่ ทำสัญญาใหม่ โดยต้องไม่ผิดสัญญาอีก ซึ่งตอนนี้ผมต้องรอทางออกจากสหกรณ์ ว่าเค้าจะตัดสินใจยังไง จะมีเงินส่งทางนี้หรือไม่ เพราะไม่อยากพึ่งเงินจากทางค้าขายมากเพราะว่าเพิ่งจะเริ่มต้นเอง และยอดที่ต้องส่งรายเดือนก็เท่าเดิมครับ

3.รีโดยใช้อสังหาริมทรัพย์ ให้ 1,200,000 ส่ง 14,000/เดือน (ส่วนตัวผมอันนี้ตัดไป)

อยากถามคนที่รู้ว่า ถ้าเลือกแบบที่ 1 ผลจะเป็นยังไง เราต้องเตรียมอะไรบ้าง เพราะฟังๆดูเขาก็ขู่ผมมาอย่างสุภาพเหมือนกันแต่ก็เหมือนๆกับของบัตรเครดิตเลยครับ ขึ้นศาล เสียค่าทนาย ตามสืบทรัพย์อะไรประมาณนี้แหละครับ

พี่ครับ ช่วยอธิบายข้อ3ให้ผมหน่อยครับว่าทางธนาคารเขายื่นข้อเสนอมายังไงครับ ที่ผมเข้าใจคือ พี่เป็นหนี้อยู่กับธนาคาร 1200000 ทางธนาคารให้พี่ผ่อนเดือนละ14000ต่อเดือน จนหมดหนี้ใช่หรือไม่ครับ(จำกัดว่าผ่อนกี่ปีครับ) เพราะตอนนี้ผมก็เป็นหนี้ธนารคารเช่นกันหนี้ผม 1300000 และคิดจะไปตกลงกับธนคารเช่นกัน เพราะตอนนี้ จ่ายแต่ดอกเดือนละ17000ต่อเดือนตลอด ผมทำงานธุระกิจส่วนตัวครับ จะไปยืนยันกับเค้าว่าเรามีเจตนาที่จะชดใช้หนี้ แต่อยากให้ทางธนาคารเป้นมืออาชีพหน่อย และอยากให้ช่วยเราอย่างเช่นเขาเป็นหมอรักษาเราที่เป็นคนไข้ รักษายังไงให้คนไข้ไม่ตาย ประมาณนี้ครับ ตอนนี้ตั้งเป้าว่า ถ้าข้อ3. ของพี่เป็นอย่างที่ผมเข้าใจจริงๆ ผมก็อาจจะฟื้นชีพได้ อยากจะผ่อนหนี้ดดยดอกเบี้ยชนเพดาน คิดว่าน่าจะอยู่เดือนละ20000บาทต่อเดือน ขอบคุณครับที่มาเล่าเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อผมและคนอื่นๆที่อาจเป็นหนี้ธนาคาร ไม่ใช่บัตรเคดิตครับ

พี่ครับ ช่วยอธิบายข้อ3ให้ผมหน่อยครับว่าทางธนาคารเขายื่นข้อเสนอมายังไงครับ ที่ผมเข้าใจคือ พี่เป็นหนี้อยู่กับธนาคาร 1200000 ทางธนาคารให้พี่ผ่อนเดือนละ14000ต่อเดือน จนหมดหนี้ใช่หรือไม่ครับ(จำกัดว่าผ่อนกี่ปีครับ) เพราะตอนนี้ผมก็เป็นหนี้ธนารคารเช่นกันหนี้ผม 1300000 และคิดจะไปตกลงกับธนคารเช่นกัน เพราะตอนนี้ จ่ายแต่ดอกเดือนละ17000ต่อเดือนตลอด ผมทำงานธุระกิจส่วนตัวครับ จะไปยืนยันกับเค้าว่าเรามีเจตนาที่จะชดใช้หนี้ แต่อยากให้ทางธนาคารเป้นมืออาชีพหน่อย และอยากให้ช่วยเราอย่างเช่นเขาเป็นหมอรักษาเราที่เป็นคนไข้ รักษายังไงให้คนไข้ไม่ตาย ประมาณนี้ครับ ตอนนี้ตั้งเป้าว่า ถ้าข้อ3. ของพี่เป็นอย่างที่ผมเข้าใจจริงๆ ผมก็อาจจะฟื้นชีพได้ อยากจะผ่อนหนี้ดดยดอกเบี้ยชนเพดาน คิดว่าน่าจะอยู่เดือนละ20000บาทต่อเดือน ขอบคุณครับที่มาเล่าเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อผมและคนอื่นๆที่อาจเป็นหนี้ธนาคาร ไม่ใช่บัตรเคดิตครับ

ข้อ 3.รีโดยใช้อสังหาริมทรัพย์ ให้ 1,200,000 ส่ง 14,000/เดือน (ส่วนตัวผมอันนี้ตัดไป)
เท่าที่ไปเจรจามาก็คือ เขาจะให้ผมเอาโฉนดที่ดินของใครก็ได้มาจำนอง (เพราะของผมไม่มีแล้ว อิอิ)
ซึ่งเท่าที่พิจารนาแล้วคือไม่มีของใครเลย เพราะราคาประเมินไม่ถึง ถ้าประเมินที่ดินหรือทรัพย์สินแล้วราคาประเมินได้ตามที่กำหนดเขาก็จะแก้ไขสัญญาใหม่ให้นานกว่าเดิม (ธนาคารออมสินน้ะ) แล้วก็เริ่มต้นผ่อนชำระใหม่อีกที
สรุป คือ ให้หาหลักทรัพย์มาค้ำประกัน แล้วผ่อนนานกว่าเดิม อาจจะน้อยกว่าเดิมอยู่ที่ว่าทางธนาคารให้เวลาเต็มMax ได้เท่าไหร่ สำหรับของผมที่ตัดออกจากการตัดสินใจ เพราะ 1.ราคาประเมินทรัพย์สินของผมไม่พอ และยังไม่อยากพึ่งคนอื่น 2.เอามาแล้วผมก็ต้องผ่อนเท่าเดิม (ใกล้เคียงจากเดิม) ซึ่งมันแก้ปัญหาไม่มีอะไรกินไม่ได้อยู่ดี แต่เริ่มต้นเป็นหนี้กับที่ใหม่ๆเฉยๆ
ถ้าทำแล้วคุณคิดว่ามันช่วยให้อะไรดีขึ้นก็ลองไปสอบถามเขาดูครับ อย่าลืมตั้งเป้าก่อนไปถามถ้าการเจรจาห่างไกลจากเป้าที่เราตั้งไว้ก็พิจารนาให้ถี่ถ้วนน้ะครับ ดูว่าธนาคารต้องการอะไรแล้วเราต้องการอะไรเพราะบางครั้งธนาคารต้องการเงินใช้หนี้แต่เค้าไม่สนหรอกว่าเราจะเสียอะไร เค้าได้เงินกลับมาก็คือจบ แต่เราอาจจเป้นหนี้ก้อนใหม่อีกบานตระทัยสำราญใจ ฮ่าๆๆๆๆ

สู้ๆ นะครับ
ผมคิดว่าเดินทางนี้ใช้หนี้ให้หมด พอหนี้หมด ก็เดินทางเดิมที่ช่วยให้หมดหนี้ แล้วเราก็จะได้ 1,200,000 ................

ขอบคุรมากครับที่ให้คำตอบกระผม ในกรณีของพี่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นหนี้คล้ายๆของผมหรือเปล่านะครับ ผมอยากเล่าถึงหนี้ผม และอยากให้พี่ๆที่เข้ามาอ่านช่วยแนะนำแนวทางผมหน่อยนะครับ คือ ผมเป็นหนี้ธนาคาร TMB ครับ คือเมื่อ3ปีก่อนผมได้ไปกู้เงินของธนาคารมาครับเป็นโครงการเงิน3เท่า ตอนนั้นผมกูได้2ล้านครับ แต่ได้ใช้จริง1ล้าน3แสนบาทครับ อีก7แสนเป็นเงินฟิกครับซึ่งเราไม่สามารถเอาออกมาใช้งานได้ ตรงนี้เงิน1ล้าน3แสนผมได้หมดลงไปกับธุระกิจครับ ไม่เหลือเลย ตอนนี้ผมต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ธนาคารเดือนละ17000ทุกเดือน เงินต้นไม่ได้เข้าเลยครับช่วง4-5เดือนที่ผ่านมา หนี้ของผมเป็นแบบนี้แหละครับ ผมจึงคิดว่า ผมอยากไปเจรจากับทางธนาคารเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งตรงนี้ผมคิดเอาเองนะครับว่า อยากให้ธนาคารเห็นใจเราเพราะเราต้องการจะจ่ายหนี้สิน ว่าจะมีทางออกยังไงบ้าง ว่าทางธนาคารจะรักษาเรายังไง ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่รู้หนี้ของพี่กับของผมคล้ายๆกันหรือเปล่าครับ ซึง่ผมมีแผนที่จะไปขอทางธนาคาร รวมยอดหนี้ผมที่เป็นหี้+กับดอกเบี้ยชนเพดาน ว่ามีเท่าไหร่ และเราขอผ่อนเดือนเท่าไหร่ เช่น _ณ ตอนนี้ ผมเป็นหนี้อยู่1300000+ดอกเบี้ยที่ผมตีอยู่20% =1560000 แล้วเราขอผ่อนเป็นรายเดือนไป แบบที่ผมคิดนี้มีโอกาสเป็นไปได้ไหมครับ

เมื่อตอนสิ้นเดือน ก.ค. มีสาวเสียงใสโทรผิดมาหาผมถามว่า ผมคือคุณ (...คนค้ำประกันผม..) หรือเปล่า ผมบอกว่า ไม่ครับแล้วผมก็รายงานตัว แล้วก็มีคำถามมาว่าทำไมไม่ใช้หนี้ค้ะ ไม่กลัวโดนฟ้องหรือยังไงค้ะ ไม่กลัวโดนฟ้องแล้วได้ไปขึ้นศาลใช่มั้ย ?? (ผมยังไม่ได้ตอบสักคำ แค่ฟัง) she เล่นถามเองตอบเองเรียบร้อย ก็งงอยู่เหมือนกัน เลยตอบเค้าได้คำเดียวว่า ไม่มีตังค์ครับเลยไม่ได้ใช้ แล้วสักพักคนใน(วงเล็บ)ก็โทรมาหาผม


Up date นิดหน่อย

นานมากแล้วที่ไม่ได้แวะมา เพราะมัวยุ่งอยู่กับงานครับทั้งงานราชงานหลวง ช่วงนี้วุ่นวายไปหมด
ผมก็มีความเคลื่อนไหวนิดหน่อยจากที่ทำมาก็รุ้สึกว่าทุกอย่างเริ่มจะสวนทางกันแล้ว ดีมากๆเลย
ทำงานหนักเอาแบบที่ว่านอนวันไหนตื่นวันนั้นเลย คนฝันสูงอย่างเราตั้งเป้าเหนือชาวบ้านเค้าก็ต้องทำให้ต่างจากชาวบ้านเค้าเหมือนกัน ตอนนี้กิจวัตรประจำวันก็คือ ตื่นเช้าขายของคับจนถึง 7 โมงกว่าๆถึงเวลาก็เตรียมตัวเข้างาน บริษัทตอน 8 โมง เย็นเลิกงานก็ไปตัดหญ้าเหมือนเดิม ทานข้าวเย็นเสร็จเตรียมของไว้ขายตอนเช้า ประมาณเกือบตี 1 เสร็จ ตี 4 ครึ่งตื่นอาบน้ำเตรียมของพร้อมกับเตรียมตัวไปทำงานรู้สึกว่าจะมองเห็นทางเป็นไปได้ในการค้าขายตอนเช้าซึ่งโอกาสขยายสูงมากครับ ว้าวววว โชคเริ่มเข้าข้างแล้ว
ส่วนเรื่องหนี้เหรอ """หยุด"" คำนี้ต้องทำให้ได้นะครับ และเมื่อวานวานทางสหกรณ์ร้านค้าเค้าเสนอรายการ รีไฟแนนท์มา ตอนนี้บ่องตง ผมยอมครับพอได้เหลือเงินเดิอนมากขึ้นกว่าเดิม 3xxx บาท นิสัยแต่ก่อนถ้ามีอะไรมาเสนอแบบนี้ เอาเงินมาเกินแน่นอนครับ แต่ตอนนี้เอามาพอดีกับหนี้ทุกบาททุกสตางค์ เล่นเอาเจ้าหน้าที่สหกรณ์ งงไปตามๆกัน ฮ่าๆๆ ประมาณว่าต้องถามใหม่ "เอาพอดีเลยเหรอค๊ะคุณเท (ทุกทีจัดเต็ม)??"

หยุดหนี้+หาเงินเพิ่ม=ทางออกที่สวยงามมาก (สำหรับผม)

และต้องขอขอบคุณอย่างสูง สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่จากทางเวปนี้ให้มาเป็นประโยชน์มากครับ
ยังไงเห็นร้านผมก็ช่วยอุดหนุนด้วยนะครับ ฮ่าๆๆๆ