ขอคำแนะนำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ครับ

มีหนี้ก้อต้องจ่ายคืน ไม่คิดหนี
ผมมีรายการหนี้ประมาณ 10 รายการ
ผมก็ไม่ต่างจากท่านอื่นๆที่เข้ามาขอคำแนะนำครับ
เพียงแต่รู้ตัวและมั่นใจว่าไม่สามารถจ่ายขั้นต่ำได้แล้ว
คิดไว้ว่าจะขอยื่นปรับโครงสร้างหนี้เลย ก่อนที่ดอกมันจะเพิ่มพูนไปกว่านี้
ผมไม่อยากลุ้นหมุนเงินโป่่่ะไปโป่ะมา ทำให้ดอกงอกออกมาเพียบ
อย่างกรณีบัตร firstchoice 100,000 นิดๆถ้าปรับโครงสร้าง กลายเป็น147000 ประมาณนี้
ผ่อน2400x60เดือน ผมลองต่อลองดูขอ 120000 ไม่ยอมแหะ เลยยังไม่ตัดสินใจ

ผมเลยคิดว่า ถ้าตัดสินใจปรับเสียแต่เนิ่นๆ ผ่อนน้อยๆแต่นานๆ น่าจะดี
แต่ภายใต้คำแนะนำของรุ่นพี่ๆคือ ไม่ควรปรับโครงสร้างหนี้ เพราะอนาคตอาจจะไม่รอด
น่าจะไปลุยที่ศาลกันเลย เพราะเขาจะฟ้องเป็นเรื่องๆไป แต่ละยอด พอยอดนี้หมด เราก็ไปศาลต่อเป็นแบบนี้ใช่หรือไม่ครับ
ไม่ได้หนีหนี้ แต่ค่อยๆจ่ายให้ชีวิตดำรงได้

คราวนี้หมายศาลจะมาแปะที่หน้าบ้านหรือเราไปรับหรือส่งไปรษณีย์หรือส่งมาที่ทำงาน
พอดีที่บ้านตามทะเบียนบ้านไม่มีใครอยู่น่ะครับ

หรือแฮร์คัทดี ผมยังงงว่าแฮร์คัท ต้นคงเดิมเพียงแต่ลดส่วนดอกลง หรือต้นดอกรวมกันแล้วจ่ายเท่าที่ทำได้
ผมเข้าใจถูกหรือไม่ สมมุติว่าเราเป็นหนี้ 1 แสนดอก 4 หมื่น แฮร์คัท 8 หมื่น ใช่มั๊ยครับ หรือมันออกแนวไหน

ประมาณนี้ก่อน คงได้แลกเปลี่ยนแนวควคิดกันครับ

ผมขออภัยสำหรับกระทู้ของผม รบกวนผู้ดูแลช่วยลบออกด้วยครับ เพราะความรีบร้อนทำให้รีบโพส ทั้งๆที่อ่านแล้วอ่านอีกนะ แต่บางทีมันเหมือนไม่ได้ระบายความคับอก

คำแนะนำแต่ละอย่างจะแทรกอยู่ที่กระทู้โน่นนั่นนี่ จนพบคำตอบนั่นแหละครับ อย่างตัวอย่างของผมคำตอบมีในกระทู้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=37825&Itemid=52

และเรื่องแฮร์คัท หรือเรื่อง ปรับโครงสร้างหนี้สัญญานรกก้อกระทู้นี้ครับ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=52

คงต้องค่อยๆอ่านคำตอบมีอยู่เยอะมากมายครับ
ขอบคุณครับ

marukoเข้ามาเป็นกำลังใจครับ อย่าทำประนอมหนี้, อย่าจ่ายหยอด, อย่าทำยอมก่อนขึ้นศาล(ถ้าดูแล้วจ่ายไม่ไหวหรือไม่สามารถจ่ายได้ภายในครั้งเดียว) marukoกันคุณไว้ก่อน..จากนั้นค่อยๆทำความเข้าใจสาระความรู้ใน web นี้ให้หมด เดี๋ยวคุณจะหลวมตัวทำหรือจ่ายไปเสียก่อนความรู้จะมา marukoขอกันตัวคุณไว้ก่อน เหตุผลรีบอ่านครับ..สู้..สู้

maruko เขียน: marukoเข้ามาเป็นกำลังใจครับ อย่าทำประนอมหนี้, อย่าจ่ายหยอด, อย่าทำยอมก่อนขึ้นศาล(ถ้าดูแล้วจ่ายไม่ไหวหรือไม่สามารถจ่ายได้ภายในครั้งเดียว) marukoกันคุณไว้ก่อน..จากนั้นค่อยๆทำความเข้าใจสาระความรู้ใน web นี้ให้หมด เดี๋ยวคุณจะหลวมตัวทำหรือจ่ายไปเสียก่อนความรู้จะมา marukoขอกันตัวคุณไว้ก่อน เหตุผลรีบอ่านครับ..สู้..สู้

ขอบคุณ คุณmarukoมากๆครับ ความตั้งใจเดิมคือผมจะปรับโครงสร้าง เพราะคิดว่าสุดท้ายยังไงก้อต้องจ่าย แต่พอมีดอกร่วม 4หมื่นผมว่ามันมมากเกินไปนิดนึง ที่สำคัญมันผ่อนจ่ายทีละเจ้าไม่ได้นี่ซิ ถ้ารวม 10 เจ้าผมคงเหมือนเดิม

ผมสงสัยครับว่า การไปศาลแล้วตกลงนี่ เราจ่ายต้นเต็มบวกดอกเบี้ย ด้วยงวดผ่อนมาก จำนวนเงินต่องวดน้อย และจ่ายให้ทีละเจ้า หรือ ต้นลดลงบวกดอกนิดหน่อย แต่อ่านข้อมูลของพี่ๆ ก็มีแบ่งจ่ายเหมือนกัน ครับ

nop63 เขียน: ผมสงสัยครับว่า การไปศาลแล้วตกลงนี่ เราจ่ายต้นเต็มบวกดอกเบี้ย ด้วยงวดผ่อนมาก จำนวนเงินต่องวดน้อย และจ่ายให้ทีละเจ้า หรือ ต้นลดลงบวกดอกนิดหน่อย แต่อ่านข้อมูลของพี่ๆ ก็มีแบ่งจ่ายเหมือนกัน ครับ

คำตอบอยู่ในนี้ครับ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=52

Anakin เขียน:

nop63 เขียน: แนวทางการไปศาล ฉบับย่อของผม

1. เลื่อนนัดศาลเพื่อไปเจรจา Hair-Cut กับเจ้าหนี้ต่อ (เป็นการเลื่อนนัดปากเปล่าด้วยตัวจำเลยเอง จะเลื่อนได้ ประมาณ 1-2 เดือน เต็มที่ไม่เกิน 3 เดือน)
2. ยื่นคำให้การเพื่อสู้คดี โดยเฉพาะถ้ามีประเด็นเรื่องขาดอายุความ หรือดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด(สามารถไปสวนลุม ปรึกษาคุณอา ที่ปรึกษาของชมรมหนี้ โดยท่านจะให้คำปรึกษาที่สวนลุมทุกวันอาทิตย์ช่วงบ่าย)
3. ทำประนอมยอมความหน้าศาล (มีเจ้าหนี้ที่ฟ้อง หรือมีโอกาสจะฟ้อง น้อยราย และมั่นใจว่าสามารถจ่ายได้ตลอดรอดฝั่ง)
4. ให้ศาลท่านพิพากษาเลย หลังจากคุณได้รับคำพิพากษาแล้ว คุณจะ
4.1 หักคอจ่าย (เจรจากับโจทก์ไม่ลงตัว แต่ก็ฝืนที่ะจ่ายให้เจ้าหนี้เข้าไป โดยยอดที่ชำระ ต้องชำระภายใน 15 วันหลังจากได้รับคำพิพากษา และเป็นยอดที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อคุณได้คำพิพากษา ผมจะช่วยคำนวณให้คร่าวๆ แต่วิธีนี้ไม่รับประกันว่าโจทก์จะไม่ไปอายัดเงินเดือนต่อหรือไม่ - เป็นวิธีที่ต้องวัดดวงเอา)
4.2 เจรจากับโจทก์เพื่อขอจ่ายแบบผ่อนชำระ xx งวดๆ ละ xxxx บาท (โจทก์จะยื่นข้อเสนอให้ผ่อนเท่ากันเป็นงวดๆ หรือเป็นขั้นบันได อาจจะปลอดดอกเบี้ย หรือมีดอกเบี้ยก็จะไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี)
4.3 รอให้โจทก์ไปทำเรื่องให้กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือน อายัดบัญชีเงินฝาก สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ (การอายัดเงินเดือนจะทำได้ทีละเจ้าหนี้ๆ ที่ฟ้องทีหลัง ต้องรอจนกว่าเจ้าแรกได้รับชำระจนครบ หรืออาจไปสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์แทนเลย และข้าราชการจะไม่โดนอายัดเงินเดือน)

ขอขอบคุณ คุณพี่Anakin ที่กรุณาแนะนำ ผมจะรีบศึกษาครับ เวลามันน้อยเต็มที

นกกระจอกเทศ เขียน: คำตอบอยู่ในนี้ครับ
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=9240&Itemid=52

ขอบคุณพี่นกกระจอกเทศครับ ข้อมูลแน่นปึกจะรีบศึกษาเช่นกันคับ
ผมอ่านบทความที่พี่เขียน ทำให้ผมเริ่มวางแนวทางของตัวเองบ้างแล้วคับ