ขอคำชี้แนะในการหยุดจ่าย

สวัสดี ทุกท่านครับ
ตอนนี้ผมจะเริ่มหยุดจ่าย เริ่มตั้งแต่สิ้นเดือนนี้ จึงอยากขอคำชี้แนะครับว่าจะทำอย่างไรดี
เงินเดือนผ่าน ธนาคารไทยพานิชย์

หนึ้ของผมทั้งหมดดังนี้

1. ธนาคารไทยพานิชย์ 61677 จ่ายงวดละ 2490
2. ไทยพานิชย์ เครดิต 16909 จ่ายงวดละ 1600
3. กสิกรไทย เครดิต 29000 จ่ายงวดละ 1600
4. กสิกรไทย บัตรเงินสด 28000 จ่ายงวดละ 1500
5. แสตนดาร์ตชาร์เตอร์ 45863 จ่ายงวดละ 2000
6. อิออน 34000 จ่ายงวดละ 3400
7. ซิตี้แบงค์ 50000 จ่ายงวดละ 3000
8. เฟิร์สช้อย 29184 จ่ายงวดละ 2000
9. กรุงศรี 48000 จ่ายงวดละ 2000

รวมทั้งหมดจ่ายขั้นต่ำทุกที่ อยู่ที่ 19590 บาท แต่เงินเดือน 20000 เหลือกินแค่ 410 บาท ซึ่งผมต้องทำการหยุดจ่ายเลยเดือนนี้ ( แต่ก่อนคิดผิดมาก ๆ ที่ไม่มีกินก็รูดบัตรอย่างเดียวจนบัตรเต็มไป 2 แล้ว )
และหลังจากทำการหยุดจ่ายแล้วสิ่งที่เริ่มทำคือ จะเก็บเงินให้ได้เดือนละ 15000 เป็นอย่างต่ำเลยมอยากขอคำชี้แนะครับว่าจะทำควรทำ H/C อย่างไหนก่อนดี และสิ่งที่กังวลคือ ดอกเบี้ยต่าง ๆที่ตามมาในแต่ละที่

ขอคำชี้แนะครับ
ขอบคุณครับ

marukoบังเอิญเข้ามา web board นี้อีกครั้งหลังจากหายไป 3อาทิตย์ อ่านมาเจอสมาชิกใหม่ ก็ขอกล่าวคำต้อนรับสู่ชมรมฯของเรา ที่เปรียบเสมือนบ้านที่พักใจชาวลูกหนี้ที่มีความร้อนใจ..คุณมาอยู่ที่นี้แล้ว marukoยืนยันคุณจะคลายความกังวล และขอให้ทำการบ้านที่ต่อจากนี้จะมีพี่ๆแนะนำ และหมั่นเข้าไปอ่านสาระความรู้ที่รุ่นพี่จัดเตรียมไว้ครบแล้วทั้งหมด ทุกหมวดที่เกี่ยวข้อง ขาดเพียงเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ที่เป็นเฉพาะปัญหาพิเศษบางคนเท่านั้น ก็ให้ post ข้อข้องใจผ่านกระทู้เดิมนี้ จะมีคนที่มีประสบการณ์เข้ามาตอบให้...อาจจะไม่เร็วดั่งใจปราถนาเท่าไรนัก แต่รับรองว่าไม่ช้าไม่นานก็จะมีผู้รู้แวะเวียนมาหานะครับ
เรื่องหยุดจ่ายmarukoเห็นด้วยอย่างยิ่ง หยุดเลยครับ หยุดให้เด็ดขาดไปเลย...แต่อย่าลืมสัญญานะครับว่า 15000ต่อเดือนจะเก็บเพื่อปลดหนี้ หากทำได้ maruko เห็นว่าไม่นานเท่าไหร่คุณจะปลดหนี้ได้ อย่าลืม รุ่นพี่เราบอกไว้ว่าคนที่จะปลดหนี้ได้ประกอบไปด้วยผู้ที่มีคุณสมบัติ 4 ประการ
1. อดทน
2. อดออม
3. อดกลั้น
4. รู้จักรอ/รอให้เป็น
สู้..สู้..นะครับ

ตามคุณ Maruko เลยค่ะ แต่เพิ่มเติมควรจะอ่านข้อมูลในเวปเยอะๆนะจ๊ะ เอาไว้เป็นข้อมูลแล้วก็วิธีรับมือต่างๆค่ะ สู้ๆนะ

ขอบคุณ ครับ พี่ ๆ ทุกท่านที่ให้คำชี้แนะและเป็นกำลังใจให้
แต่ผมมีปัญหาอีกอย่างครับ คือ ผมเป็นตัวแทนบริษัทกับพี่ที่ทำงานอีกคนหนึ่งเซ็น 2 /3 ในการเบิกทอนเงินจากธนาคารไทยพานิชย์ ในตรงนี้ ถ้าผมทำการหยุดจ่ายของไทยพานิชย์ด้วยจะมีผลกระทบต่อการเบิกทอนเงินให้บริษัทเปล่าครับ

ขอสอบถามผู้รู้ครับ

- ในกรณี มีเงินเดือนผ่านธนาคารไทยพานิชย์ที่เป็นหนี้อยู่ ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ( ซึ่งเท่าที่อ่านมาบอกว่าห้ามหยุดจ่ายที่มีเงินเดือนผ่าน )
- แต่ผมได้เปลี่ยนชื่อ และ เปลี่ยนบัญชีเงินเดือนเข้า เท่ากับว่า ผมจะมีอยู่ 2 บัญชีด้วยกันคือ
บัญชีเงินเดือนผ่าน (อันใหม่ที่เปลี่ยนชื่อ)
บัญชีเก่า ( ซึ่งเป็นบัญชีที่เคยมีเงินเดือนผ่านและได้ให้ธนาคารหักจากบัญชีนี้ ) ตอนนี้ไม่ได้โอนเงินให้หักแล้ว

และผมเองได้ทำการหยุดจ่ายไปแล้ว 3 เดือน จะมีผลอย่างไรบ้างครับ แต่ในการป้องกันคือผมจะกดเงินออกก่อนเลยในวันที่เงินเดือนเข้า

** ผมได้เปลี่ยนชื่อและบัญชีก่อนหยุดจ่ายได้ประมาณ 7 เดือน **

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ

หยุดจ่าย ไปได้สักพักก็จะมีแผนกเร่งรัดหนี้สินโทรทวงถามครับ
หยุดแล้วหยุดให้ตลอดครับ ถ้าเดือนใดมีเงินให้เขาหักจากบัญชี อายุความมันจะไม่สะดุดหยุดลง
จะถือว่าเราชำระหนี้แล้วก็รับสภาพหนี้ต่อไป หลบได้2ปีโดยไม่มีการฟ้องคดี ก็ฟิน ครับ

การหนีไม่ใช้แนวทางชมรมครับ หยุดให้ยาวๆๆนะทำได้ถ้าคุณไม่พร้อม แต่หยุดไปก็เก็บเงินว่างแผนชำระหนี้ตามแนวทางที่ชมรมบอกนะครับ
คุณ elninho111 ถ้าดูจากภาพแล้ว ตุณไม่น่าให้คำปรึกษาเช่นนี้ครับ อย่างไรก็ต้องเห็นใจเจ้าหนี้ด้วยครับ ดอกผิดกฎหมายก็ว่ากันไปแต่เอาเงินมาแล้วก็ต้องคืนครับ

ถ้าบัญชีเงินเดือนตรงกับบัญชีหนี้ที่เรามีผมว่าควรจ่ายขั้นต่ำเพื่อไม่ให้ถูกยึดเงินในบัญชี
เพราะไม่แน่ไม่นอน อย่าประมาท อนาคตอาจมีกรณีนี้ก็ได้

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ

ผมได้เซ็นยินยอมให้หักบัญชีเก่าไป แต่บัญชีใหม่ไม่ได้เซ็นยินยอม แบบนี้ทางธนาคารยังสามารถดูดเงินจากบัญชีใหม่ไปได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ผมใช้วิธีเล่นเกมส์กดเอา คือ ทุกวันเงินออกผมจะไปกดเงินก่อนเลยก่อนที่ธนาคารจะเปิดทำการ เพราะเท่าทีรู้มาทางธนาคารไม่มีระบบหักเงินอัติโนมัติ ยังคงให้พนักงานเป็นผู้หักเงินอยู่ แบบนี้ผมคิดถูกหรือไม่ครับ

จากที่ผมได้อ่านสัญญาของไทยพานิชย์ดูแล้ว ในเรื่องดอกเบี้ย 28 เปอร์เซ็นต่อปีและค่าธรรมเนียม และ ค่าจิปาถะต่าง ๆ ต้องให้ผู้กู้รับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งเขาได้เขียนครอบคุมไว้ทั้งหมดแล้ว และถ้าหากผิดสัญญา ทางธนาคารมีสิทธิหักเงินในบัญชีที่เกี่ยวข้องได้ แล้วแบบนี้จะมีวิธีใดบ้างในการจัดการหนี้กรณีนี้บ้างครับ

Update คร๊าบ หลังหยุด มา 3 เดือน

1. ธนาคารไทยพานิชย์ โทรทวง เป็น หย่อม ๆ แต่ ดอกขึ้นเร็วมาก ๆ
2. ไทยพานิชย์ เครดิต โทรทวง เป็น หย่อม ๆ
3. กสิกรไทย เครดิต โทรทวง เป็น หย่อม ๆ
4. กสิกรไทย บัตรเงินสด โทรทวง เป็น หย่อม ๆ
5. แสตนดาร์ตชาร์เตอร์ เข้าเดือน 3 เริ่มโทรบ่อยขึ้น
6. อิออน พยายามให้ปรับโครงสร้างหนี้ หว่านล้อมต่าง ๆ บอกว่าเราเป็นลูกชั้นดี ปรับลดดอกเบี้ยให้ ( ตบหัวลูบหลัง )
7. ซิตี้แบงค์ มาเยียมบ้านแหละ วันนี้ ร้อน ๆ เราบอกว่าจะฟ้องก็ฟ้อง ทำตามระบบไป แต่ พยามกล่อมบอกให้สิ้นเดือน แล้วกัน ยืดให้อีก 1 เดือน ก็ตามใจท่าน แต่เราไม่สน เพราะนาทีทองกำลังใกล้เข้ามา
8. เฟิร์สช้อย โทรมาเริ่มบ่อยขึ้น ล่าสุดพยามให้เราปรับโครงสร้างนี้อย่างเดียว
9. กรุงศรี โทรทวง เป็น หย่อม ๆ

สรุปแล้วเริ่มให้แต่ละที่คงเริ่มให้ปรับปรุงโครงสร้างนี้กันเป็นแถวตามระเบียบ พยายามทำถูกกฏหมาย

Update วันนี้ ธนาคารไทยพาณิช์ โทรมาถวงเงิน ว่าให้จ่ายก่อน 1 งวด ผมก็บอกว่าไม่มีตามประสา และก็ผลัดกันไป แต่เจ้าหล่อนคราวนี้ท่าทางโมโหยั้ว น่าดู ก็เราดันแกล้งบอกไปว่า พอดีที่อื่นให้ส่วนลดเยอะ เลยเอาไปปิดยอดบัญชีหมดแล้วไม่มี จากนั้นเจ้าหล่อนก็ว่าแล้วเอาเงินที่ไหนไปปิดหนี้ที่อื่น เราก็บอกว่าไปกู้นอกระบบไปปิด ( หลอกมันที่จิงเรามีอยู่แต่ก็เตรียมให้เจ้าอื่นอยู่แหล่ะ ก็เขาเริ่มให้ส่วนลดนี ) เจ้าหล่อน ได้ยินดังนั่น ฟังจากน้ำเสียง ของขึ้นทันที พอถึงเวลาผมกลับไปบ้าน แม่บอกว่า วันนี้มีธนาคารไทยพาณิชย์โทรมาบอกว่า ด้วยความกระวนกระวายของคนแก่ ( แม่งทำร้ายจิตใจคนแก่หว่ะ ) ให้เราเอาเงินไปจ่าย 3000 ไม่งั้นจะฟ้องดำเนินคดี เพราะไม่จ่าย มา 6 เดือนแล้ว ผมเองก็ฉุนขึ้นมาทันที กูเพิ่งหยุดจ่ายยังไม่ถึง 5 เดือนแม่งบอกว่า 6 เดือน และบอกจะดำเนินคดี เชิญเลยคุณ..... เชิญมึงฟ้องซะกูจะได้ให้ศาลเป็นธรรมกับกูเรื่องดอกเบี้ยที่พวกมึงขี้โกงไป และเงินแค่ 19000 กูกำลังจะเก็บเงินปลดหนี้มันอยู่เจอแบบนี้ สุดท้ายเลยพี่น้อง มึงรอไป เดรดิต สีม่วง คิดแล้วโมโห ทวงเราไม่ได้ไปถวงที่บ้าน แบบนี้ต้องเล่น คำว่าหนี้ส่วนบุคคลแล้วมึง

กลับมารายงานตัวหลังจากไปสุ่มปลดหนี้มาเป็นเวลา 10 เดือน 4 สัปดาห์

จากหนี้ทั้งหมดที่มีอยู่และได้เดินตามแนวทางของชมรม ได้ผลดังนี้


1. ธนาคารไทยพานิชย์ จากยอด 70000 ต้นเดิม 60000 มีการเสนอส่วนลด 50000 แต่ยังไม่พร้อมปิด
2. ไทยพานิชย์ เครดิต จากยอด 27000 ด้นเดิม 19000 มีการเสนอส่วนลด 19000 แต่ยังไม่พร้อมปิด
3. กสิกรไทย เครดิต 29000 กสิกรไทย บัตรเงินสด 28000 สองบัตรนี้รวมกัน 6 หมื่นกว่าบาท ลดให้เหลือ 3 หมื่น และทำการปิดไปเป็นที่เรียบร้อย
4. แสตนดาร์ตชาร์เตอร์ 45863 จากยอด 55000 ต้นเดิม 45000 ยังไม่มีการเสนอส่วนลด มีแต่ขู่ฟ้องอย่างเดียว
5. อิออน ไม่มีการแจ้งยอดปัจจุบันมา ซึ่งหายไปนานมากหลายเดือน แต่ยอดเดิม 34000
6. ซิตี้แบงค์ 5000จากยอด 57000 ต้นเดิม 49000 มีเสนอส่วนลด 35000 ซึ่งได้ปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
7. เฟิร์สช้อย จากยอด 32000 ต้นเดิม 29184 มีเสนอส่วนลด 18000 ซึ่งปิดเป็นที่เรียบร้อย
8. กรุงศรีที่ได้โอนจากฮ่องกงแบงค์ จากยอด 64000 ต้นเดิม 50000 มีเสนอมา ให้ 50000 เจ้านี้เจรจายากมาก เลยยังไม่พร้อมปิด

สรุป ได้ปิดไปแล้ว 4 ใบ คงเหลือ 5 ใบ แต่ที่หนักใจคือ อันสุดท้าย ของ กรุงศรีที่โอนมาจากฮ่องกงแบงค์ ส่วนที่เหลือ กำลังเตรียมเงินปิด ซึ่งต้องดูว่า ให้เหลือ ฟ้องอะไรดี

ท่านใดมีคำแนะนำช่วยบอกด้วยน่ะครับ

ขอแชร์ประสบการณ์ของบัตร HONG KONG BANK นะคะ
เมื่อเดือนมีนา57 ที่ผ่านมา pfs ก็ได้รับเอกสารยืนยันการลดหนี้ของบัตรกรุงศรี (HONG KONG BANK เดิม) ยอดล่าสุดวิ่งไป 78,XXX บาท ต่อรองได้ H/C ที่ยอด 26,000 บาท
แบ่งจ่าย 2 งวด @ 13,000 บาท ตามเอกสารแนบไฟล์มาแชร์เพื่อนสมาชิก จะได้มีกำลังใจในการต่อสู้อดทนรออย่าเป็นฝ่ายง้อขอส่วนลดเมื่อถึงเวลาเขาจะเสนอเราเอง เพียงแต่ตัวเราต้องเก็บเงินเตรียมพร้อมรอโอกาส เพราะถ้าไม่พร้อมถึงเขาให้ส่วนลดเราก็จ่ายไม่ได้
ขอให้เพื่อนสมาชิกโชคดีได้ส่วนลดงามๆ นะคะ

หลังจากผ่านไป 1 ปี กับอีก 8 เดือนผมสรุปออกมาว่าตัด H C ไปได้หลายตัว เหลือตัวสำคัญพี่ม่วงเล่นฟ้อง และสรุปมา ต้องชำระเงินทั้งหมดไม่ลดหย่อนแม้แต่บาทเดียว ให้คำตอบมาว่า เขาคิดแบบนี้มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงินก้อนหรือเครดิต มีฎีการองรับ สู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์ ผมเจอคำนี้ก็อึ้ง สรุปก็เป็นไปตามนั้นจิง ๆ สุดท้ายคงต้องยอมให้อายัดเงินเดือนไป ที่ 30 เปอร์เซน

ผมมีเงินเดือน 21000 หัก 30 เปอร์เซ็นอยู่ที่ 6300 ใช่หรือไม่ครับ คงเหลือใช้ประมาณ 14000 บาท

sarankrit เขียน: ผมมีเงินเดือน 21000 หัก 30 เปอร์เซ็นอยู่ที่ 6300 ใช่หรือไม่ครับ คงเหลือใช้ประมาณ 14000 บาท

ไปทำเรื่องขอลดหย่อนสิครับ

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

maruko กำลังถูกอายัดเงินเดือนอยู่โดยแบงก์ม่วงนี่แหละ marukoไปขอลดหย่อนจาก 30% เป็น 15% ได้รบกวนนำหลักฐานภาระที่ต้องดูแลไปปรึกษา.ยื่นเรื่องร้องขอที่กรมบังคับคดีที่ดูแลเรา
1. ลดหย่อนอายัดเงินเดือนเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ที่กรมบังคับคดี
2. รายได้พิเศษ เช่นเงินจ้างออก, เงิน bonus เป็นสิทธิเจ้าหนี้....(ต้องขอกับเจ้าหนี้โดยตรง)
อ่านเยอะๆครับ.............สู้..สู้....