ขอสอบถามครับ เรื่องธนาคารแจ้งทำส่วนลดปิดบัญชี โดยมีเงื่อนไข

ขอสอบถามครับ พอดีว่าผมหยุดจ่ายมาได้ 4 เดือนแล้วครับ

1. พอดีทาง ธนาคาร สแตนดาสชาร์เตอร์ ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล โทรมาแจ้งว่า มีโครงการส่วนลดเพื่อปิดบัญชี แต่ให้ผมชำระเงินเข้าไป 1 งวด จำนวน 1800 บาท ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อรักษาบัญชี อีกทั้งเมื่อชำระมาแล้ว จะสามารถทำส่วนลด เพื่อปิดบัญชีได้ ซึ่งมีส่วนลดให้ 30% จากยอดหนี้คงค้าง 48000 บาท กรณีถ้ามีเงินก่อน และยังแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเกินกว่านี้ก็จะหมดสิทธิ์การทำส่วนลดเพื่อปิดบัญชี
2. กรณีเช่นเดียวกัน ทางกรุงศรี เฟริชช้อย ประเภทบัตรผ่อนสินค้า โทรมาแจ้งว่าให้ชำระ 1 งวดเช่นเดียวกัน ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อรักษาบัญชี แล้วมีส่วนลดให้ เพื่อปิดบัญชี จาก 33000 บาท เหลือ 22000 บาท

อยากทราบว่า เราจะต้องดำเนินการตามที่ ธนาคารแจ้งไหมครับ เพราะทั้งหมดเป็นเพียงสนทนากันทางโทรศัพท์ ซึ่งถ้าเราชำระไปแล้ว 1 งวด เพื่อตัดรอบบัญชี ทางธนาคารจะทำการส่งเรื่องเพื่อทำส่วนลดให้ ครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ เพราะช่วงนี้ยังหมุนไม่ทันอะครับ

ถามตัวเองก่อนว่ามีเงินพร้อมจะปิดแล้วหรือครับ

kwangkt เขียน: ขอสอบถามครับ พอดีว่าผมหยุดจ่ายมาได้ 4 เดือนแล้วครับ

1. พอดีทาง ธนาคาร สแตนดาสชาร์เตอร์ ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล โทรมาแจ้งว่า มีโครงการส่วนลดเพื่อปิดบัญชี

นั่นเขาเรียกว่า Hair cut ไปอ่านซะ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=64

kwangkt เขียน: แต่ให้ผมชำระเงินเข้าไป 1 งวด จำนวน 1800 บาท ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อรักษาบัญชี

ส่วนนี่เขาเรียกว่า"จ่ายหยอด" ไปอ่านซะ
www.debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=19608&Itemid=64

kwangkt เขียน: เมื่อชำระมาแล้ว จะสามารถทำส่วนลด เพื่อปิดบัญชีได้ ซึ่งมีส่วนลดให้ 30% จากยอดหนี้คงค้าง 48000 บาท กรณีถ้ามีเงินก่อน

หนี้ของคุณมันยังเน่าไม่พอ (เพิ่งหยุดจ่ายแค่ 4 เดือนเอง จะเอาส่วนลดอะไรมากมาย)

kwangkt เขียน: และยังแจ้งเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเกินกว่านี้ก็จะหมดสิทธิ์การทำส่วนลดเพื่อปิดบัญชี

มันตอแหล Hair cut สามารถทำได้ตลอดชีพ

kwangkt เขียน: กรณีเช่นเดียวกัน ทางกรุงศรี เฟริชช้อย ประเภทบัตรผ่อนสินค้า โทรมาแจ้งว่าให้ชำระ 1 งวดเช่นเดียวกัน ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อรักษาบัญชี

ก็หลอกให้"จ่ายหยอด"เหมือนกันไง

kwangkt เขียน: แล้วมีส่วนลดให้ เพื่อปิดบัญชี จาก 33000 บาท เหลือ 22000 บาท

ถ้าหยุดจ่ายนานกว่านี้ ก็จะได้ส่วนลดครึ่งนึง(50%)...แล้วคุณอยากได้ส่วนในลดราคาแบบไหนล่ะ?

kwangkt เขียน: อยากทราบว่า เราจะต้องดำเนินการตามที่ ธนาคารแจ้งไหมครับ เพราะทั้งหมดเป็นเพียงสนทนากันทางโทรศัพท์ ซึ่งถ้าเราชำระไปแล้ว 1 งวด เพื่อตัดรอบบัญชี ทางธนาคารจะทำการส่งเรื่องเพื่อทำส่วนลดให้ ครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ เพราะช่วงนี้ยังหมุนไม่ทันอะครับ

มันเป็นเรื่องของคุณครับ...ไปตัดสินใจเอาเอง



ถ้าอยากหาทางออกเรื่องหนี้ให้กับตัวเอง ก็ไปอ่านในนี้ซะก่อน



ขอความกรุณาช่วยอ่านก่อนถามนะครับ...ไม่ใช่ถามก่อนอ่าน[/color][/size]
.

> ขอเรียนสอบถามครับ

> ผมเป็นหนี้กับธนาคารใบไม้สีเขียว มีบัตรเครดิต วงเงินอนุมัติ 24000 บาท ผมให้เชื่อย่อว่า A และ บัตรกดเงินสดสินเชื่อทันใจ 24000 ผมให้ตัวย่อว่า B
> ซึ่ง หยุดจ่าย บัตร A วันที่ 25/04/2013 ยอดคงข้างนะ ตอนนั้น 19291.94 บาท ดอกเบี้ย 20% และหยุดจ่ายบัตร B วันที่ 18/03/14 ยอดคงข้างนะตอนนั้น 24215.45 บาท ดอกเบี้ย 27% ปัจจุบันนี้ มียอดฟ้องรวม 2 บัตร 60681.44 บาท ซึ่งแบ่งเป็นเงินต้นบัตร A 21367.71 บาท ดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง 5274.44 บาท บัตร B 24715.45 ดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง 7477.44 บาท และยังคิดดอกเบี้ยเพิ่ม จากวันที่ 19/03/14 จนถึงวันฟ้อง คือวันที่ 29/09/14 เป็นเงิน 1846.52 บาท ซึ่งได้มีการไกล่เกลี่ย โดยทนายโจทย์ยืนยันยอดฟ้องเท่าเดิม ไม่มีส่วนลด และให้ผ่อนชำระขั้นต่ำ 3000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งผมคิดแล้วว่าไม่สามารถชำระได้ จึงขอเลือนนัดศาลไปเป็นนัดหน้า จากนั้นผมได้ติดต่อไปยังธนาคารโจทย์ เพื่อเจรจาส่วนลด ทางธนาคารโจทย์ ก็ยืนยันยอดฟ้องดังกล่าว ซึ่งเป็นยอดที่สามารถผ่อนชำระได้ ตามเงื่อนไขข้างต้น แต่ถ้าจะปิดบัญชี ก็จะให้ปิดที่ยอด 50000 บาท จ่ายงวดเดียว ก่อนหน้านี้บริษัทกฎหมายที่ได้รับมอบอำนาจ เสนอส่วนลดปิดบัญชีที่ 30000 บาท แต่ขณะนั้นผมไม่สามารถหาเงินได้ ผมก็ได้เจรจาขอปิดที่ยอดเดิม ทางธนาคารก็แจ้งว่า เสนอที่ยอด30000 ไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องส่งฟ้องแล้ว และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และธนาคารแจ้งเพิ่มว่า ถ้าภายภาคหน้า ยังไม่มีการประนอมหนี้ หรือปิดบัญชี ถ้าจะขอส่วนลดปิดปัญชี ยอดก็จะเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ยอด 50000 บาท เพราะดอกเบี้ยยังถูกคิดอยู่ แต่ยอดฟ้องเท่าเดิม ซึ่งทางธนาคารมีหนังสือ บอกเลิกสัญญาทั้ง2บัตร วันที่ 2/04/14 เป็นระยะเวลาค้างชำระ บัตร A 397 วัน และบัตร B 360 วัน ยอดหนี้วันที่บอกเลิกสัญญา บัตร A 25633.94 บาท บัตร B 32192.89 บาท รวม 57826.83 บาท
>
> ในเบื้องต้นผมได้ขอเลื่อนนัดศาล เพื่อเจรจานอกรอบแล้ว และได้เจรจากับทางธนาคารโจทย์ แล้วซึ่งผลการเจรจา คือธนาคารโจทย์ ยืนยันให้จ่ายตามยอดฟ้อง ในกรณีที่ผ่อนชำระ แต่เสนอยอดปิด ที่ 50000 บาท กรณีจ่ายครั้งเดียว ซึ่งถ้าเวลาผ่านไป ถ้าจะขอปิดบัญชี คือ จะเป็นเงิน 50000++ กล่าวคือแทบจะไม่มีส่วนลดอะไรเลย ผมได้พิจรณาแล้วว่าไม่สามารถหาเงิน 50000 ได้แน่ในระยะเวลา 4-5 เดือนนี้ แล้วไม่สามารถผ่อนขั้นต่ำ 3000 บาท โดยต้องชำระให้ครบ 60000 กว่าบาทภายใน 1ปี ได้แน่ ถ้าผมจะขอต่อสู้คดี จะสามารถทำอย่างไรได้บ้างครับ จะเอาเหตุผล ไหนไปต่อสู้ได้บ้างครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ

ข้อต่อสู้ในคดีแพ่ง ที่ลูกหนี้ควรศึกษา
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1897&Itemid=64


ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

จ่ายหยอด บอก 404 - Not found ค่ะ