มือใหม่ค่ะ อยากจะรอแฮร์คัต แต่ก็อยากกู้มาโปะ

เมื่อวาน กรุงศรีมาสองบัตรเลยค่ะ โทรมาประนอมหนี้ ยอดหนี้มีแค่ 35,000 ให้กรูผ่อน 835 บาท 60 เดือน ยอดรวมคือ 50,000 จะบ้าเหรอคะ?

วันนี้มาอีกใบค่ะ UOB นานๆ จะมาที นางมาให้ประนอมหนี้อีกแล้วค่ะ
ยอดหนี้ 64,000 บาท
ให้ผ่อนเดือนละ 1800 บาท 60 งวด ยอดรวมก็ 108,000 เบาๆ โวะ
ใครจะโง่ผ่อนคะ?

เมื่อไหร่จะเลิกโทรมาประนอมหนี้ชั้นกันนะ?

ป.ล. วิธีการคุยของเรา เราทำเสียงแห้งที่สุดค่ะ เสียงแห้งคือ ....เสียงจนมาก ป่วยมาก ไม่ไหวแล้ว ห้ามคุยตอนที่ทำงานอื่นๆ อยู่นะคะ จะทำให้การต่อรองไม่มีสมาธิค่ะ
ทำเสียงให้ดูน่าสงสารที่สุดค่ะ อย่าทำเสียงลั้นลา
ยังไม่หลุดคำว่า แฮร์คัต เลยค่ะ

นอกจากสถานการณ์ทุกวันที่มีบัตรกรุงศรีสองใบ และยูโอบี โทรมาทุกวัน ตอบไปตามปกติว่า "จะพยายามนะคะ แต่ไม่มีเงินเลยจริงๆ ค่ะ ภาระหนักมาก" แล้ว
วันนี้ อยู่ๆ กรุงศรีที่เคยโทรมาแฮร์คัตให้เหลือ 60,000 จาก 94,000 จ่าย 3 เดือนจบ ค่ะ รอผลอยู่
ตอนแรก เราขอ 6 เดือน เดือนละ 10,000 เกือบปิดดีลแล้วเชียว
ดันมาบอกว่า ห้ามจ่ายต่ำกว่ายอดขั้นต่ำค่ะ
แต่ทำไมเค้าต้องถามว่าเราเงินเดือนเท่าไหร่ ทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร ภาระหนี้สินเท่าไหร่ด้วยคะ?
ละลาบละล้วงมาๆ ตอบไปแบบจริงบ้างไม่จริงบ้าง (ไม่จริงเสียส่วนใหญ่ค่ะ) เช่น เงินเดือนน้อยกว่าที่ได้จริง หนี้เยอะเกินจริง
เค้าถามไปทำไมคะ?

ตอนนี้ รอคำตอบอยู่ค่ะ เดือนละ 20,000 สามเดือนจบ ปลดหนี้เลยจ้า

มาแล้วค่า.....แฮร์คัตใบแรก
กรุงศรีวีซ่าค่าา..... หนี้ในบัตร ยอด 94,000 ค่ะ ยอดจริงๆ ก่อนหยุด อยู่ที่ 86,000 ค่ะ
หยุดจ่ายตั้งแต่เดือน มิ.ย. ค่ะ พยายามคุยเรื่องแฮร์คัต ตอนเดือนที่ 5 ค่ะ แต่ไม่สามารถตกลงยอดได้
เพราะยอดสูงเกินไปต่อเดือน

ในที่สุดวันนี้....... แฮร์คัตเหลือ 60,000 ค่ะ ถ้าคิดจากยอดปัจจุบัน ลดไป 35% ถ้าคิดจากยอดตอนหยุด ก็ลดไป 30%

เราโอเคค่ะ คิดว่าน่าจะไหว เพราะถ้าตัดใบนี้ได้จะเหลือแค่ยูโอบี และฮ่องกงเท่านั้นค่ะ ตอนนี้ฮ่องกงโทรมาทุกวันเลยค่ะ ฮืออออ ยูโอบีก็ไม่มาแฮร์คัตซะที

Babyblue เขียน: จะบอกว่า บัตรกรุงศรีฮ่องกงนั้น เพิ่งหยุดจ่ายไปหนึ่งเดือนค่ะ
ตอนนี้โทรศัพท์ที่โทรมา เลยจะเป็นบัตรนี้เสียส่วนใหญ่ (เดือนแรกๆ ก็งี้ รู้งี้หยุดพร้อมๆ กับบัตรอื่นๆ ดีกว่า จะได้มาทีเดียว)
กับบัตรกรุงศรีวีซ่า ที่โทรมาเจรจาแฮร์คัตค่ะ แต่ว่ายังไม่มีตังค์จ่าย และค่าผ่อนต่องวดก็ค่อนข้างแพง และจะเก็บเงินไม่ได้น่ะสิ เพราะตอนนี้ยังผ่อนของซิตี้แบงค์เดือนที่ 2/4 อยู่เลยค่ะ
กว่าจะเก็บเงินได้เยอะๆ อีกทีก็ธันวาโน่น เพราะจะได้โบนัสอ่ะค่ะ
แต่อุปสรรคก็ยังไม่หมดค่ะ เพราะค่าประกันชีวิต ประกันรถ ดาหน้ากันเข้ามาแล้วค่ะ
ไหนจะโอนรถช่วงธันวานี้อีก เฮ้ออออออออออ

หยุดจ่ายกี่เดือนครับ ธนาคารถึงจะเสนอให้แฮร์คัตอ่ะครับ

หยุดไป 5-6 เดือน ก็เริ่มมีเสนอแฮร์คัตละค่ะ

พี่ๆคนไหนมีประสบการณ์ citi bank บ้างครับ ว่าหยุดจ่ายกี่เดือนแล้วเค้าโทรมาตามตลอดหรือป่าวครับ เพราะว่าตอนนี้เริ่มจะผ่อนต่ำอยู่แบบนี้ไมไหนล่ะไม่หมดสะที อยากจะแฮร์คัลบ้าง

ของพี่ปิดซิตี้แบงค์ใบแรกเลยค่ะ เพราะเห็นว่าโหด แล้วของพี่ยอดไม่เยอะ

ได้จดหมายตัวจริงส่งถึงบ้านละค่ะ
ที่เค้าบอกว่าให้ไปจ่ายพร้อมสลิปเพย์อิน ไม่เห็นแนบมาด้วย หรือจ่ายแบบไหนอ่ะคะ?
จ่ายแบบบัตรปกติ ตามธนาคารเลย แต่ยอด 20,000 ตามตกลงใช่หรือเปล่าคะ?

เดี๋ยวจะหากระทู้อ่านอีกรอบค่ะ ว่าวิธีการจ่ายแฮร์คัตทำไงต่อ

ซิตี้แบงค์นี้ โหดยังไงหรอครับ

เห็นเค้าบอก ฟ้องเร็วค่ะ แข่งกับยูโอบี

ตอนนี้ผมก็หยุดจ่ายไป1เดือนล่ะ โทรตามตลอดเลย บอกว่าไม่มีครับ สิ้นเดือนเดียวจ่าย เมื่อโทรมาอีกก็บอกว่ายังไม่มี ผมก็มี City Ready ยอด 80000 บาท อยากให้เค้าเสนอ HAir Cut มาจังเลย แต่ใจหนึ่งก็กลัวโดนฟ้องศาล

ลองอ่านประสบการณ์เพื่อนร่วมซิตี้คนอื่นๆ ในบอร์ดดูนะคะ
อาจจะไม่เลวร้ายก็ได้ แต่ยอดเราน้อย พอจะปิดได้เลยจัดก่อนค่ะ
ตอนแรกๆ เพิ่งหยุดก็โทรหนักทุกเจ้าค่ะ

เมื่อกี้ยูโอบีก็โทรมาถามสั้นๆ เบาๆ แข่งเสียงแห้งกับเรา 5555
ถามว่า จะประนอมหนี้มั้ย
เราบอกว่า คงไม่สามารถทำได้อะค่ะ
นางก็วางสายไป 5555

สงสัยหมายศาลจะมาเร็วกว่าที่คิดนะ

ผมมี City Ready ยอด 80000 บาท แต่ผมจ่ายขั้นต่ำบ้าง จ่าย เป็นก้อนบ้าง แต่บ้างทีก็กดมาใช้บ้าง เท่าที่คิดๆมา การที่ผมจ่ายดอกไปเนี่ยหน้าจะเกิบๆจะเท่าเงินต้นหรือไม่ก็น่าจะมากกว่างานต้นด้วยซ่ำ เดือนนี้ผมได้เข้ามาอ่านที่เว็ปนี้เลยทำการหยุดจ่าย..........

พี่ๆทุกคนว่าผมทำถูกแล้วหรือป่าวครับ แล้วจากประสบการณ์ของพี่ๆ ถ้าผมหยุดจ่ายแล้วผมมีสิทธิ์ที่จะได้รับการ H/Cจาก City Ready หรือป่าวครับ แล้วถ้าสมุมติว่าเค้าโทรมา แล้วเค้าบอกจะฟ้องศาล ถ้าฟ้องขึ้นมาจิงๆ ศาลจะให้ผมจ่ายประมาณเท่าน๊า ลองคิดเล่นๆน่ะครับ เพราะว่าผมจ่ายดอกมาเนี่ยเยอะมากล่ะครับ ......

หยุดจ่ายถูกแล้วค่ะ มีสิทธิ์ได้รับ H/C ค่ะ ตอนนี้เก็บตังค์ให้มั่นไว้พอค่ะ

จ่ายแฮร์คัต งวดแรกแล้วค่า 20,000 น้ำตาจิไหล

หลายวันที่ผ่านมา กรุงศรีบัตรฮ่องกงโทรมายื่นให้ประณอมหนี้ค่ะ แต่ไม่ตกลง เพราะไม่พร้อมจริงๆ
แต่นางหลุดมาว่า จะทำแบบบัตรกรุงศรีวีซ่าหรอคะ? อุ่ย ทำไมนางรู้ล่ะ ว่าเราแฮร์คัตกับอีกบัตรอ่ะ

แต่เมื่อวานมี statement แจ้งยอดบัตรเครดิตของกรุงศรีใบที่แฮร์คัตมาค่ะ
ยอดว่าเราจ่ายไป 20,000 ตามที่ทางบริษัททวงหนี้ส่งจดหมายมา แต่ยอดก็คือ 95,000 เท่าเดิม
นี่คือ เราทำถูกวิธีแล้วใช่มั้ยคะ แค่ใบแจ้งยอดตามระบบใช่มั้ยคะ?
เรากลัวว่ากลายเป็นการจ่ายหยอดเดินบัญชี แล้วไม่มีส่วนลดน่ะค่ะ

ช่วยให้คำตอบเราด้วยนะคะ

มารายงานความคืบหน้าค่ะ 24 ม.ค. นี้ เราก็จะปลดหนี้กรุงศรีวีซ่าหมดงวดสุดท้ายละค่ะ เย่!
แต่ๆๆๆๆๆ วันนี้ UOB โทรมาขู่ค่ะ ว่าจะฟ้องอายัดเงินเดือน ถึงแม้เราจะอ่านกระทู้มาเยอะ แต่ก็อดหวั่นๆ ไม่ได้ค่ะ
รบกวนถามเพื่อความชัวร์อีกครั้ง การอายัดเงินเดือนจะทำได้เมื่อมีคำสั่งศาลเท่านั้นหรือไม่คะ?
หรือต้องเป็นบัตรเครดิตที่มีบัญชีธนาคารเงินเดือนเราเข้าใช่หรือไม่คะ?
เราใช้กสิกรเป็นบัญชีจ่ายเงินเดือน มันตัดเราไม่ได้ใช่มั้ยคะ?

มันโทรมาสองรอบแล้วค่ะ พูดจาวกวน เราบอกว่าปลายกุมภาจะหามาจ่ายให้ มันก็ไม่ยอม ยื้อให้เราคุยอยู่ได้
มันยั่วเราใช่มั้ยคะ?
เราบอกว่าให้ส่งฟ้องไปเลยค่ะ มันก็ยังตื้ออยู่
เราเลยบอกว่า ถ้าคุยแบบนี้ยังไงก็ไม่มีจ่ายค่ะ จะเอาหรือไม่เอาคะ
มันบอกขอขั้นต่ำก่อน เราก็บอกว่า ไม่มีค่ะ
มันยังมีที่อยู่เก่าบริษัทเราตั้งแต่ปี 2008 อยู่เลยค่ะ แล้วถามอาชีพเราปัจจุบัน เราบอกว่าขายเสื้อผ้าค่ะ
มันก็แบบทำไมต้องรอเงินเดือน

เออ เราใส่หูฟังก็แล้ว ทนไม่ไหว ตัดสาย
มันโทรมารอบที่สามแล้วค่ะ

เราจะจัดการกับมันยังไงดีคะ

UOB โทรมารบกวนจิตใจบ้างวันละ 2 ครั้ง ตั้งแต่วันจันทร์ค่ะ
ไม่ได้เจตนาไม่รับนะคะ แต่เหมือนยิงให้โทรกลับอ่ะค่ะ บางครั้งก็โทรมาสายซ้อนงี้ โอย

ส่วนกรุงศรี HSBC มีส่วนลดมาแล้วค่ะ ยอด 38,000 ลดเหลือ 20,000 บาท
แต่ต้องขอเอกสารผ่อนหนี้ของบัตรอื่นๆ ด้วย แฟกซ์ไปแล้วค่ะ รอใบแฮร์คัต ตัดจบ 15 ก.พ. นี้ค่ะ เย่!
พอดีบัตรนี้เป็นยอดหนี้ของเพื่อนน่ะค่ะ เลยเรียกเก็บได้ เพื่อนเริ่มลืมตาอ้าปากได้แล้ว

เหลือแค่ UOB แล้วสินะคะ กว่าจะพร้อมก็สิ้นมีนาอ่ะค่ะ สู้ต่อค่ะ

เมื่อวานจ่ายหนี้กรุงศรี HSBC แล้วค่ะ จากยอดเต็ม 38,xxx เหลือแฮร์คัตแค่ 20,000 ค่ะ
ระยะเวลาการจ่ายดีมากๆ พูดจาดีค่ะ (เจ้าหนี้เดียวกับบัตรกรุงศรีอันที่แล้วที่แฮร์คัตไป)
เราเลยเอาเงินภาษีมาจ่าย (จริงๆ จะรอเพื่อนใช้หนี้มาค่ะ แต่เพื่อนไม่ทัน เรากลัวดีลนี้หลุด เลยต้องเอาเงินคืนภาษีมาโปะ
ถ้าหวังพึ่งเพื่อนจ่ายคงแย่แน่ เพลียใจมากๆ แต่ก็พูดไรไม่ได้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน

แล้วเมื่อวานก็มี UOB โทรมา บอกว่าถ้าจะลดจาก 90,000 เหลือ 60,000 ต้องจ่ายงวดเดียว ภายในวันนี้ จะบ้าเรอะ!
นางก็ขู่เหมือนเดิมว่า จะส่งเรื่องฟ้องให้หักเงินเดือนนะ แล้วจดหมายจากสำนักงานกฎหมายก็ถึงบ้านเมื่อวานพอดี คือแบบ จะทำอะไรก็ทำซักทีเถอะค่ะ อยากกวนตีนกลับนะ แต่ว่ากลัวมันไม่ลดแล้วตื๊อ
รำคาญมากๆๆๆๆ ถ้าไม่ลด ก็ไม่มีจ่าย ถ้าไม่มีจ่าย ก็ฟ้องซักทีค่ะ เพราะหักเงินเดือน30% เราว่าเรายังอยู่ได้ค่ะ แต่นี่ขู่อยู่นั่นแหละ

รอดีลดีๆ ของ UOB ค่ะ บัตรใบสุดท้ายละ เย้!

จริงๆ แล้ว UOB โทรมาหาตั้งวันอังคารและวันพุธค่ะ
ขู่ว่า จะส่งเรื่องฟ้อง มันต้องเสียค่าทนายโน่นนี่นั่นอีก
บอกตรงๆ อยากปิดจ๊อบ แต่ก็ต้องยืมเงินเพื่อน (ซึ่งจนไม่แพ้กัน)
แล้วดูจะแบกรับหนี้หลายเดือน เตี้ยอุ้มค่อมมาก

เลยโทรไปหาพี่นกกระจอกเทศค่ะ พี่เค้าบอกว่า ยอมฟ้องแล้วให้เจรจาหน้าศาล
ผ่อนเงินต้นเต็ม แบบปลอดดอก กี่ปีก็ว่าไป
แล้วถ้าไม่ได้ขึ้นศาลก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายอย่างที่มันขู่ค่ะ
เออ...แฮะ
สบายใจกว่าด้วย ถ้ามีเงินค่อยเจรจาแฮร์คัตเอา ดีกว่า
ยังไงก็อยากได้เงินเราอยู่ดีเนอะ จะมาผ่อนทำไม
ส่วนเรื่องอายัดนั้น จะเกิดต่อเมื่อมีการตัดสินของศาลแล้วเราไม่ยอมจ่ายเงินเลย
ศาลเลยต้องมายึดทรัพย์สินของเรา เช่น รถยนต์ไรงี้

เครค่ะ อัพเดตเพียงเท่านี้ ยอมรับว่าตอนหาเงินจะมาปิด 60,000 นี่ บากหน้ามาก เครียดมาก

สบายใจละค่ะ รอรับหมายศาลละกัน