อายัดเงินเดือน

หลังจากความผิดพลาดของตนเองที่ไม่ได้ไปศาลตามหมายทำให้ต้องยอมรับเงื่อนไขทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด แต่ได้เจรจากับจนท.ธนาคารสามารถจ่าย500บาทเพื่อรักษาบัญชี จ่ายมาได้ 3 เดือน พอเข้าเดือนที่ 4 จ่ายช้า มีหมายศาลมาให้ชำระทั้งหมด ภายใน 30 วัน ไม่ฉะนั้นจะบังคับคดีต่อไป ณ ตรงนี้กลุ้มใจมาก+++ หาเงินคืนไม่ทั้น จะลาออกจากงานเอาเงินสวัสดิการมาชำระ ก็ยังหางานใหม่ไม่ได้
**ใครมีคำแนะนำบางค่ะ ช่วยหน่อยค่ะ

.
ไปอ่านก่อน

ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

ชบาแก้ว เขียน:
หลังจากความผิดพลาดของตนเองที่ไม่ได้ไปศาลตามหมายทำให้ต้องยอมรับเงื่อนไขทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด แต่ได้เจรจากับจนท.ธนาคารสามารถจ่าย500บาทเพื่อรักษาบัญชี จ่ายมาได้ 3 เดือน พอเข้าเดือนที่ 4 จ่ายช้า มีหมายศาลมาให้ชำระทั้งหมด ภายใน 30 วัน ไม่ฉะนั้นจะบังคับคดีต่อไป ณ ตรงนี้กลุ้มใจมาก+++ หาเงินคืนไม่ทั้น จะลาออกจากงานเอาเงินสวัสดิการมาชำระ ก็ยังหางานใหม่ไม่ได้
**ใครมีคำแนะนำบางค่ะ ช่วยหน่อยค่ะ

ช่วยแจ้งรายละเอียดส่วนตัว เพิ่มเติมด้วยครับ ทำงานอะไร(ข้าราชการหรือพนักงานเอกชน) มียอดหนี้เยอะไหม หนี้แต่ละตัวอยู่ในกระบวนการใดแล้วมีทรัพย์สินไหม
การอายัด เงินเดือน ก็เป็นกระบวนการใช้คืนหนี้อีกวิธีหนึ่งนะครับ
ค่อยๆคิด เดี่ยวก็พบทางออก การลาออกจากงานจะยิ่งเป็นการทำให้มีปัญหามากขึ้นหรือไม่ครับ ต้องพิจารณาให้ดีนะครับ

ทำงานเป็นพนักงานเอกชนค่ะ หนี้สินธนาคารทหารไทย เงินต้น 85996.69 พิพากษาให้ชำระ 115,568.12 + ดบ.ร้อยละ 12/ปี ค่ะ

หลังจากไม่ได้ไปศาล จนท.ธนาคารโทรมาว่าสะดวกปิดยอดบัญชีหรือไม่ด้วยค่ะ

ผมก็พึ่งขึ้นศาลกับทหารไทยไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ยอดของคุณชบาแก้ว ใกล้เคียงกับยอดของผมมากเงื่อนไขของทหารไทยไม่ยอมให้ผ่อนแบบขั้นบันไดแต่ยอมให้ผ่อนได้สูงสุด 36 งวด ดอกเบี้ย 12% ยอดของคุณชบาแก้วน่าจะผ่อนเดือนละ สามพันต้นๆต่อเดือน
แต่ผมมีข้อสงสัยเพิ่มเติมครับ
ศาลนัดคุณเมื่อไหร่และคุณได้รับคำพิพากษาฉบับจริงแล้วหรือยังครับ เพราะถ้าศาลพิพากษาและลดดอกเบี้ยของคุณที่ 12% นับว่าท่านเมตตามากแม้คุณไม่ได้ไปศาลครับ
จำเลยจะต้องปฎิบัติตามคำสั่งศาล 15 วันนับแต่ได้รู้คำพิพากษา(ไปขอคัดเองหรือ คำพิพากษาส่งไปที่บ้าน)

เอกสารมาที่่บ้านมีคนมาส่งให้ลงวันที่ 4 ส.ค. 56
เอกสารนัดไกล่เกลี่ยมีตั้งแต่วันที่ 23 มีค 56 แต่พลาดไม่ได้ไป จำวันผิด ค่ะ
สินเชื่อเงินสด can to go อ่ะ ค่ะ ไม่แน่ใจว่าตอนที่สมัครได้โปรดอกต่ำหรือเปล่า ถ้าสมัครก้อคิดว่าผ่อนไหว แต่หลังจากน้ำท่วม ก้อไม่ไหว เฮ้ออ

ดบ.12% ดิฉนก้อยอมรับว่าน้อย แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม ทำไมที่เจรจาว่าขอจ่าย 500 เพื่อรักษาบัญชีแล้ว ธนาคารยังแจ้งให้บังคับจ่ายภายใน 30 วัน ในเอกสารแจ้งถ้าไม่ จะบังคับคดีต่อไป
เข้าใจนะค่ะ ว่าเป็นหนี้ต้องชดใช้ แต่เราก้อไม่ได้หนีไปไหน และปีนี้ก้อไม่สะดวก

ดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี ของเงินต้น 85,996.69 บาท = 10,319.60 บาทต่อปี
หรือคิดเป็นดอกเบี้ย 859.97 บาทต่อเดือน

แต่คุณจ่ายไปแค่เดือนละ 500 บาทต่อเดือน...มันยังไม่พอไปตัดค่าดอกเบี้ยรายเดือนด้วยซ้ำ
ไหนยังจะมีค่า ฤชาธรรมเนียมศาลและค่าทนายโจทก์อีก ที่คุณยังไม่ได้จ่ายเลยสักบาท

ถ้าคุณจ่ายแบบนี้...ไม่มีเจ้าหนี้รายไหนมันยอมหรอกครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบ

ไม่ทราบว่าเหตุการณ์อย่างดิฉันสามารถทำ Hair-cut ได้หรือไม่ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ

Hair-cut ทำได้ตลอดชีพค่ะไม่มีวันหมดอายุ ขอเพียงกำลังเงินพร้อม+ความพอใจทั้ง2ฝ่าย การHair-cut ก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้น่ะค่ะ พยายามศึกษาลิงค์ที่พี่นกได้วางไว้ให้มากๆน่ะค่ะ จะสามารถช่วยคุณได้มาก

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ
หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลต่างๆๆในwebboardนี้ จึงได้พบว่าตนเองขาดความรู้เรื่องการปลดหนี้สิ้นอย่างมาก
ปัจจุบันมีคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล....มาแล้ว ซึงคาดว่าขั้นตอนของดิฉันจะต้องได้พบกับจนท.กรมบังคับคดีแน่นอน จึงอยากจะสอบถามว่าหนี้สินทั้งหมด 115568.12 พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี ของเงินต้น 85996.69 นั้น ดิฉันจะขอเจรจากับจนท.กรมบังคับคดีให้จ่ายเป็นเงินต้นอย่างเดียวได้หรือไม่ (ไม่ทราบว่ามีบทความเป็นกรณีศึกษาหรือไม่ถ้ามีรบกวนแนบไฟล์ในด้วยค่ะ จะได้เข้าไปศึกษาได้*ขอบคุณค่ะ)

ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
*มีจนท.โทรมาเสนอปิดบัญชี 87000 ซึ่งยอดมากกว่าเงินต้น โชคดีที่เป็นสมาชิกwebboardนี้ มิฉะนั้นคงต้องเป็นหนี้เพิ่มหรือตัดสินใจสั้นๆได้แล้ว
**ขอบคุณผู้ดูแลและก่อตั้งwebนี้ขึ้นมาค่ะ

****** เข้าใจอย่างมากว่าการไม่มีหนี้คืนลาภอันประเสริฐ แต่เมื่อเดินทางผิด และหาหนทางกลับได้ จึงขอโอกาสในการดำเนินชีวิตใหม่ที่ถูกต้อง

เจรจากับกรมบังคับคดีให้จ่ายแต่เงินต้นอย่างเดียวไม่ได้
กรมบังคับคดีจะอายัดเงินเดือนตามคำพิพากษา บวกค่าธรรมเนียมกรมบังคับคดี ดอกเดินรายวัน
ถ้าจะติดต่อกรมบังคับคดี คือ ขอลดยอดอายัดต่อเดือน ถ้ามีความจำเป็น รายได้ไม่พอใช้จ่าย

เค้าเสนอยอด haircut ให้ 87000 ซึ่งมากกว่าต้นเงิน 85996.69 อยู่ 1003.31
คุณลองเอายอดที่ศาลตัดสินตั้ง 115568.12 คุณได้ส่วนลดอย่างน้อย 25% นะ
ยังไม่รวมดอกที่คุณไปเอาเงินเจ้าหนี้มาอีกตั้งหลายเดือน
คนที่ขอ haircut ได้มากๆแม้มีคำพิพากษาเเล้วน่ะ มี แต่ชั่วโมงบินของคุณเท่ากับเค้าไหมล่ะ

กรมบังคับคดีไม่ได้มีหน้าที่มาลดยอดหนี้ให้คุณ หรือจะมาเจรจาเรื่องหนี้ให้กับคุณได้ ไม่ใช่หน้าที่ของเขา
คุณลองประเมินเงินในกระเป๋าตัวเองก่อนค่ะ ก่อนที่จะพูดคำว่า แฮร์คัท
ในเมื่อเริ่มต้น มันก็พลาดจากความไม่รู้ ขอให้เส้นทางต่อไปนี้ของคณชบาแก้ว ต้องใช้ "สติ" ในการแก้ปัญหา
ประเมินเงินในกระเป๋าตัวเองแล้ว ถ้าวันนี้ ยังไม่มีหนทางไป ก็ต้องก้มหน้ายอมรับ ไปก่อน
วันนี้สิ่งที่คุณจะทำได้คือ
ถ้าไม่มีเงินก้อนปิด ก็รอคำบังคับมาที่ทำงาน ซึ่งบอกระยะเวลาไม่ได้ว่า ใช้เวลานานแค่ไหน
บางคนหลังจากคำพิพากษาออก ก็ภายในสองถึงสามเดือน
บางคนก็ครึ่งปี ปีเดียว ปีครึ่ง เคยเจอนานที่สุดคือ เจ็ดปี แต่เขามีระยะเวลาในการยื่นบังคับคดี 10 ปี
ฉะนั้นในระหว่างนี้ หยุดวิตกกังวล(เพราะเรื่องมันผ่านมาแล้ว) แล้วเก็บเงินให้ได้ มากน้อยก็ขอให้เก็บ อย่าใช้ชีวิตแบบที่ผ่านๆมา อย่าลืมว่า หนี้เรา เราสร้างเอง
ชมรมไม่เคยถามที่ไปที่มาของหนี้ เรามีแนวทางให้ ขอแต่คุณอ่านมากๆ แล้วเดินไปด้วยใจอดทน รับรองว่า หนี้หมดแน่นอน เข้าใจไหมคะ
-พอคำบังคับมา ให้ทีทำงานอายัดไปก่อน 1 เดือน ค่อยไปขอลดอายัดเงินเดือน ไปอ่านกระทู้นี้นะคะ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64 ไขข้อข้องใจ “การอายัดเงินเดือน”

อย่าบอกว่าอันนั้นไม่ได้ อันนี้ไม่ได้ ทุกๆคนมีเหตุจำเป็นในชีวิตทั้งนั้น
เราต้องยอมรับว่า เราเอาเงินเขามาจริง เราก็ต้องใช้ แต่การใช้ต้องอย่าให้ตัวเองเดือดร้อนซ้ำอีก
อ่านมากๆนะคะ อะไรที่มันผ่านไปแล้ว ช่างมัน ขอแต่เดินหน้าต่อไป อย่าท้อถอย
บทเรียนในวันวาน ล้วนทำให้เราเข้มแข็ง และเติบโตได้ดีกว่าเดิม

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และกำลังใจค่ะ