ได้รับหนังสืออายัดเงินเดือนจาก กรุงไทย

สวัสดีค่ะพี่ๆ ชมรม วันนี้มีเรื่องปรึกษาค่ะ ทาง hr ได้เรียกไปแจ้งว่าได้รับหนังสืออายัดเงินเดือนจากกรม บังคับคดีมา ซึ่งอ่านแล้ว ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อดีค่ะ

มียอดคือ 66,607.73 กับ 35,370.82 บาทบัตร สองใบของ กรุงไทยคะ

ซึ่งส่งฟ้องมาตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2553 แต่เพิ่งได้รับเอกสารฉบับนี้ครั้งแรก และมีกรลงวันที่หมายฉบับนี้คือเดือนมีนา 2556

หนี้ก้อนนี้เป็นบัตรที่เอาไปจ่ายค่า รพ ของ อดีตสามี รพ แห่งหนึ่ง เมื่ออดีตสามีออกมาก็เบิกประกันแต่ไม่ยอมใช้คืน จนดิฉันได้หยุดการชำระเงินมาตั้งแต่ ปี 2551

มาถึงตอนนี้ ทาง hr ก็ต้องการคำตอบว่าเราจะต้องดำเนินการยังไงในวันพรุ่งนี้ เพราะเค้าจะทำเรื่องงเงินเดือนแล้วก็จะหักเรา 30% ในทันที เบื้องต้นติดต่อไปทางกรมบังคับคดี ว่าจะทำเรื่องลด เหลือ 15% เพราะว่าเรามีลูกมีค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระ ภายในบ้าน และเลี้ยงลูกแต่เพียงผู้เดียว

และได้มีการติดต่อไปทางกรุงไทย จนท แจ้งว่า จะให้ผู้ที่ดูแลบัญชีเราติดต่อเรามาอีกที ซึ่งไม่รู้วันไหน แบบนี้เราควรจะไปทำเรื่องที่กรมบังคับคดี เพื่อลดทันทีเลยมั้ยหรือว่าอย่างไรดี ตอนนี้เงินเดือน ประมาณ สองหมื่นถ้าหัก ก็หักไป 6000 บาทค่ะ ไม่พอแน่นอน

รบกวนช่วยให้คำปรึกษาด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ใจเย็นๆๆๆ ตั้งสติ คิดถึงลูกไว้นะค่ะ ยังงัยลองอ่านบทความนี้ดูค่ะ หรือตามลิงค์นี้ค่ะ debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=28147&Itemid=52#28154



บทสรุปส่งท้าย

ตามข้อกฏหมายแล้ว...การอายัดเงินเดือนสามารถทำได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายรับรวมทั้งหมดของจำเลย(ลูกหนี้)ในแต่ละเดือน

และถ้าหากจำเลยมีรายรับต่อเดือนที่ไม่สูงมากนัก จำเลยสามารถไปขอทำเรื่องขอลดหย่อนการอายัดดังกล่าว โดยไปเขียนคำร้องที่กรมบังคับคดี ให้ลดลงมาเหลือเพียง 15% ได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการดำรงชีวิตในแต่ละเดือนของจำเลย

แต่...

ตามข้อกฏหมายที่ถูกต้อง จำเลยจะไม่สามารถไปร้องขอที่กรมบังคับคดี ให้ทำการลดหย่อนการอายัดเงินประเภทอื่นๆ ที่มิใช่เงินเดือนได้เลย...อาทิเช่น

- เงินตอบแทนจากการออกจากงาน (เงินค่าชดเชยที่บริษัทนายจ้างจ่ายให้ โดยการเชิญให้ลูกจ้างออกจากงานโดยที่ไม่มีความผิด หรือที่ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า"เงินจ้างออก") เงินจำนวนนี้จะต้องโดนอายัด"ทั้งหมด"(100%)...ขอลดอายัดไม่ได้

- เงินโบนัส (เงินปันผลกำไรจากบริษนายจ้าง ซึ่งนานๆจะจ่ายให้สักครั้ง) เงินจำนวนนี้จะต้องโดนอายัด"ครึ่งหนึ่ง"(50%)...ขอลดอายัดไม่ได้

แต่ถ้าหากมีการจ่ายเงินปันผลกำไรจากบริษัทนายจ้าง(Bonus) โดยการจ่ายให้กับลูกจ้างเป็นประจำทุกๆเดือน หรือที่เรียกว่า Profit sharing รายเดือน ในกรณีนี้จะเข้าข่ายลักษณะเสมือนกับเป็นการจ่ายค่า"คอมมิชชั่น"...ก็จะสามารถทำการขอลดหย่อนได้ เพราะถือว่าเป็นรายรับประจำเดือนเช่นกัน

..........................................................................................................................

อนึ่ง...หากจำเลย(ลูกหนี้)ได้รับการลดหย่อนการอายัดเงินเดือนจากกรมบังคับคดี ให้ลดลงมาเลือเพียง 15% ได้แล้ว แต่ถ้าจำเลยยังไม่พอใจต่อการลดหย่อนดังกล่าว(15%)อีก จำเลยสามารถไปเขียนคำร้องยื่นต่อศาลแพ่ง ให้พิจารณาการลดหย่อนจาก 15% ลงมาได้อีก

แต่กระบวนการดังกล่าว ศาลอาจให้การพิจารณาในความเห็นต่อคำร้อง โดยอาจไม่ให้มีการลดหย่อนเพิ่มเติมตามที่ร้องมาก็ได้ หรืออาจพิจารณาให้การลดหย่อนลงมาได้อีกก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น(เช่นลดลงมาอีก 5% เหลือการอายัดเพียง 10% ก็เป็นไปได้)
ทั้งนี้...อาจรวมไปถึงรายรับอื่นๆด้วย เช่นการขอลดอายัด โบนัส และรายรับอื่นๆที่จำเลยได้ยิ่นคำร้องขอแนบไปด้วย ศาลอาจจะพิจารณาให้ลดหรือไม่ลดให้เลยก็ได้เช่นกัน

ดังนั้น ทางชมรมฯจึงไม่แนะนำการร้องขอต่อศาลในกรณีเช่นนี้ หากจำเลยได้รับการลดหย่อนสูงสุดตามกฏหมายจากทางกรมบังคับคดี(ได้รับการลดหย่อนถึง 15%)แล้ว เพราะการร้องขอดังกล่าวต่อศาล อาจทำให้จำเลยต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายไปฟรีๆ แต่กลับไม่ได้รับการลดหย่อนใดๆจากศาลเลย

ยกเว้น...จำเลยจะมีเหตุสุดวิสัยต่อชีวิต หากไม่ได้รับการลดหย่อนเพิ่มอีก เช่น จำเลยเป็นโรคร้ายแรง และจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการรักษาโรคดังกล่าว ถ้าหากจำเลยไม่ได้รับการลดหย่อนเพิ่ม(จาก 15%) จำเลยอาจต้องเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ(ตายหรือพิการ) โดยมีเอกสารทางการแพทย์ยืนยัน...เหตุดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายให้ศาลรับพิจารณาเห็นใจ ให้เพิ่มการลดหย่อนตามที่ร้องขอมาได้

ขอบคุณสำหรับคำตอบมากค่ะคุณ ชบาแก้ว

เช้านี้ได้ไปที่กองบังคับคดีแล้วได้ทำเรื่องลดอายัดเงินเดือน 15% เรียบร้อยแล้ว
และก็ได้ติดต่อคุยกับธนาคารสำหรับยอด และการประนีประนอมดู
ปรากฏว่ายอดรวม ทั้งหมด ต้นอยู่ที่ประมาณ 72k แต่รวมดอกเบี้ยแล้วอยู่ที่ 145 k !!!! บ้าไปแล้ว
ซึ่งถ้าเรายอมให้โดนหักไปเรื่อย ก็ต้องจ่ายที่ยอดนั้น ก็เลย ต่อรองกันไป ได้ที่ 80k ค่ะ โดยจะชำระ 2 งวด งวละ 4 หมื่น ซึ่งคิดว่ายังดีกว่าที่ต้องไปจ่าย ยอดขนาดนั้น มีเงินเก็บอยู่บ้าง และก็มีญาติพี่น้องที่พอจะช่วยเหลือกันอยู่ได้ เลยได้ตกลงกับธนาคารไปแบบนี้ค่ะ

ต้องมีหนังสือยืนยันการปิดยอดหนี้ที่ถูกต้องเเล้วจึงจ่าย ให้ระบุมาด้วยว่าจะรับผิดชอบการถอดอายัดให้

ช่วงนี้ citi โทรมาทวงบ่อยจริง ซึ่งจริงๆก็ค้างจ่ายมาพอๆกับ กรุงไทย เค้าบอกว่ายอด 40k ถ้า จะจ่ายเลยก็ให้ที่ 20k ตัวนี้จะทำออะไรได้รึป่าวคะ

หลังจากเคลียร์หนี้กับกรุงไทยไปเรียบร้อยแล้วที่ยอด 80000 บาท 2 งวด ได้รับเอกสารการยืนยันการชำระหนี้เป็นที่สิ้นสุด ทางกรุงไทยแจ้งจะไปถอนคดีให้ ภายในเดือนนี้ และสามารถไปรับเช็คคืนได้ ที่มีการหักจากเงินเดือนไปแล้ว
จากที่ไปชำระหนี้งวดหลังจึงได้ไปขอ ดูรายการบัญชีจากเครดิตบูโร ซึ่งมีรายการที่อ่านแล้วยังไม่เข้าใจอยู่หลายรายการ ซึ่งจะเอามาแจกแจงให้ช่วยอธิบายเพิ่มเติมอีกครั้ง
ซึ่งมีของ UOB, citibank, กรุงศรีฯ, กสิกร, ซึ่งทุกรายหยุดชำระหนี้มาตั้งแต่ ปี 2552 รายละเอียด เดี๋ยวจะชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ แต่ละรายยอดอยู่ที่ประมาณ 2-4 หมื่น

ซึ่งช่วงนี้กลายเป้นว่า เจ้าหนี้รายอื่นๆติดต่อเข้ามาที่ออฟฟิศ UOB, citibank, กรุงศรี แต่ยังไม่ได้คุย เบื้องต้นมีคุยกับทาง ซิตี้ไปว่า ตอนนี้ติดคดีอยู่ ยังไม่สามารถชำระได้ แล้วจะติดต่อไป รายอื่นยังไม่ได้คุยค่ะ

ตอนนี้เราควรจะคุยหรือดำเนินการอะไรได้บ้างคะ หรือรอเวลาไปก่อน หรือแจ้งว่าติดบังคับคดีอยู่ไปเลย เพราะตั้งใจว่าจะค่อยๆเก็บเงินไปก่อนเพื่อไปทำการ ชำระหนี้ทีเดียว เพื่อปิดต้นค่ะ

iamkiw เขียน: หลังจากเคลียร์หนี้กับกรุงไทยไปเรียบร้อยแล้วที่ยอด 80000 บาท 2 งวด ได้รับเอกสารการยืนยันการชำระหนี้เป็นที่สิ้นสุด ทางกรุงไทยแจ้งจะไปถอนคดีให้ ภายในเดือนนี้ และสามารถไปรับเช็คคืนได้ ที่มีการหักจากเงินเดือนไปแล้ว
จากที่ไปชำระหนี้งวดหลังจึงได้ไปขอ ดูรายการบัญชีจากเครดิตบูโร ซึ่งมีรายการที่อ่านแล้วยังไม่เข้าใจอยู่หลายรายการ ซึ่งจะเอามาแจกแจงให้ช่วยอธิบายเพิ่มเติมอีกครั้ง

ลองไปเทียบรายละเอียด "รหัสสถานะ" ของเครดิตบูโรดูก็ได้นะครับ

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร (Credit Bureau)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=1372&Itemid=64

iamkiw เขียน: ซึ่งมีของ UOB, citibank, กรุงศรีฯ, กสิกร, ซึ่งทุกรายหยุดชำระหนี้มาตั้งแต่ ปี 2552 รายละเอียด เดี๋ยวจะชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ แต่ละรายยอดอยู่ที่ประมาณ 2-4 หมื่น

หยุดจ่ายมานานขนาดนี้ ถ้ายังไม่ถูกฟ้อง หนี้ก็"ขาดอายุความ"ไปแล้วล่ะครับ

อายุความในการฟ้องร้อง คดีแพ่ง (หนี้เงิน)
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=813&Itemid=64

iamkiw เขียน: ซึ่งช่วงนี้กลายเป้นว่า เจ้าหนี้รายอื่นๆติดต่อเข้ามาที่ออฟฟิศ UOB, citibank, กรุงศรี แต่ยังไม่ได้คุย เบื้องต้นมีคุยกับทาง ซิตี้ไปว่า ตอนนี้ติดคดีอยู่ ยังไม่สามารถชำระได้ แล้วจะติดต่อไป รายอื่นยังไม่ได้คุยค่ะ

ตอนนี้เราควรจะคุยหรือดำเนินการอะไรได้บ้างคะ หรือรอเวลาไปก่อน หรือแจ้งว่าติดบังคับคดีอยู่ไปเลย เพราะตั้งใจว่าจะค่อยๆเก็บเงินไปก่อนเพื่อไปทำการ ชำระหนี้ทีเดียว เพื่อปิดต้นค่ะ

ถ้าคุณมีเจ้าหนี้หลายรายที่เข้าสู่กระบวนการ"อายัด"แล้ว แต่คุณมีแค่เงินเดือนเป็นรายได้เพียงอย่างเดียว โดยไม่มีทรัพย์สินอย่างอื่นเลย
คุณน่าจะปล่อยให้เจ้าหนี้ทั้งหมด"เข้าแถว" รออายัดเงินเดือนที่ 15% จะดีที่สุด
เพราะเจ้าหนี้ในรายหลังๆ พอมันรู้ว่าคุณถูกอายัดเงินเดือนอยู่ โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึง"คิว"ของมันเอง
คุณจะได้ราคา Hair cut ในแบบที่งามสุดยอดเลยแหละ
แต่ถ้ามีเจ้าหนี้รายใดที่ฟ้องศาลหลังจาก"คดีขาดอายุความ"ไปแล้ว ก็ไปสู้คดีตามขั้นตอน

ถ้าอยากรู้รายละเอียดในเชิงที่่ลึกกว่านี้ ให้โทรมาถาม เบอร์โทรของผมอยู่ใน Hotline สายด่วน

ขอบคุณ คุณนกกระจอกเทศมากค่ะ วันนี้เอา รายละเอียดของ เครดิตบูโรบางรายการมาให้ช่วยดูรายละเอียดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปค่ะ

- citi สินเชื่อส่วนบุคคล - ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 23-07-2551 วันที่เริ่มต้นผิดชำระนัด 13-08-2551 ยอดหนี้คงเหลือ 40,214
สถานะ 20- หนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน

- citi สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี (คืออะไร?) ชำระหนี้ครั้งสุดท้าย 24-07-2551 วันเริ่มต้นผิดชำระนัด 02-06-2552 ยอดวงเงินเกินกำหนด 57,796
สถานะ 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

- HSBC บัตรเครดิต ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 18-07-2551 สถานะบัญชี 42-โอนหรือขายหนี้ ยอดเป็น 0

- UOB บัตรเครดิต ชำระหนี้ครั้งล่าสุดย 06-06-2551 วันเริ่มต้นผิดชำระนัด 01-01-2556 ยอดวงเงินเกินชำระ 39,743
สถานะ 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

- UOB สินเชื่อบุคคล ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 22-07-2551 วันเริ่มต้นผิดชำระนัด 01-01-2556 ยอดหนี้เกินกำหนดชำระ 37,854
สถานะ 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

- KBank บัตรเครดิต ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 11-07-2551 วันเริ่มต้นผิดชำระนัด 15-08-2551 ยอดหนี้เกินกำหนดชำระ 44,438
สถานะ 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

- กรุงศรึ บัตรเครดิต ชำระหนี้ครั้งล่าสุด 18-07-2551 วันเริ่มต้นผิดชำระนัด 08-08-2551 ยอดหนี้เกินกำหนดชำระ 24,649
สถานะ 40-อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อปิดบัญชี

ที่สงสัยสุดคือ UOB ทำไมถึงผิดชำระนัดเป็นปี 2556
ในทุกบัตร ตอนนี้ จะมีการดำเนินการอะไรต่อไปหรือไม่ค่ะ เคลียร์ กรุงไทยไปแล้ว จะค่อยเคลียร์เจ้าอื่น คิดว่าแต่ละค่ายก็จะ HC อย่างเดียวแต่คงต้องใช้เวลาหน่อย

อดีตสามี ทิ้งหนี้ไว้ท่วมหัว ถือซะว่าเคยไปเอาของเค้ามาก่อน ต้องรีบใช้ให้หมดค่ะ

ขอคัดคำพิพากษา (ถ้ามี)

ขอคัดคำพิพากษา (ถ้ามี)