เมื่อคุณแม่พาลูกในท้องไปขึ้นศาลครั้งแรกและจะขอยอมความเพราะหมดหนทางแล้ว

สวัสดี่ค่ะท่านสมาชิกทุกท่าน ดิฉันเพิ่งสมัครเป็นสมาชิกวันนี้เองค่ะหลังจากที่ได้อ่านเรื่องของหลายๆท่านสมาชิกใน webboard และแล้วก็มาถึงวันที่ดิฉันต้องไปขึ้นศาลหมายแรกของกสิกรไทยยอดฟ้อง 86,xxx บาท ซึ่งเป็นบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดค่ะ และตอนนี้ดิฉันตกงานคะและท้องได้ 5 เดือนแล้ว จากที่ได้อ่านมาก็คือดิฉันเข้าข่าย..ลูกหนี้ที่ไม่มีรายได้และไม่มีทรัพย์สินอะไรเป็นของตัวเองเลย...จึงมีแนวทางที่จะยอมความให้ท่านพิพากษา แต่ทังนี้ทังนั้นดิฉันไม่ได้จงใจจะหนีหนี้นะคะแต่ตอนนี้ยังไม่มีเงินเก็บในมือเลย เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทางเลือกนี้แล้วค่ะ
ขอเรียนถามเพื่อเป็นแนวทางกังนี้ค่ะ
1.จะต้องแจ้งกับทนายโจทก์เลยใช่ไหมคะว่าเรายอมความให้ศาลท่านพิพากษาเลย
2.ศาลท่านจะถามอะไรเราไหมว่าทำไมเราถึงไม่ประนีประนอมยอมจ่ายขั้นต่ำให้กับเจ้าหนี้
3. หลังจากนั้นต้องรอกี่วันถึงจะเข้ากระบวนการบังคับคดีและมีผลต่อการสืบทรัพย์
รบกวนตอบให้เห็นแนวทางด้วยค่ะ....ขอบคุณค่ะ

อย่ากังวลครับ รักษาตัวรอดก่อน ตกงานหางานก่อน เอาใจช่วย

ขอบคุณค่ะคุณ Badman ที่เป็นกำลังใจให้
แต่ตอนนี้คงยังไม่ได้งานแน่ๆเพราะท้องอยู่ค่ะ แต่จะสู้เพื่อลูกค่ะ

ยิ้มแย้ม เขียน: 1.จะต้องแจ้งกับทนายโจทก์เลยใช่ไหมคะว่าเรายอมความให้ศาลท่านพิพากษาเลย

คุณกำลังตั้งท้องอยู่ และอยู่ในระหว่างตกงาน
อย่าใช้แนวทางที่ 2.เลยครับ ใช้แนวทางที่ 3.ดีกว่า

หรือไม่งั้น...ก็ไม่ต้องไปศาลเลย แล้วปล่อยให้ศาลพิพากษาไปตามปกติ

ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับหน้าที่ของศาล
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=9240&Itemid=64

ยิ้มแย้ม เขียน: 2.ศาลท่านจะถามอะไรเราไหมว่าทำไมเราถึงไม่ประนีประนอมยอมจ่ายขั้นต่ำให้กับเจ้าหนี้

ถ้าศาลท่านถาม ก็บอกความจริงไปเลยครับ ว่าจำเลยกำลังตั้งท้องอยู่และไม่มีรายได้
ถึงเซ็นต์"ยอมความ"ไป ก็ไม่มีเงินผ่อนจ่ายอยู่ดี

ยิ้มแย้ม เขียน: 3. หลังจากนั้นต้องรอกี่วันถึงจะเข้ากระบวนการบังคับคดีและมีผลต่อการสืบทรัพย์

ไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอน
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64#28148

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำจาก คุณนกกระจอกเทศ และ คุณAnakin ขอบคุณมากๆนะคะ
นอกจากบัตรกสิกรที่ฟ้องมาแล้วนั้น ดิฉันมีอีก 6 ใบ จากเจ้าหนี้ 4 สถาบันค่ะ และคาดว่าน่าจะได้รับหมายศาลในเร็ววันนี้อย่างแน่นอนซึ่งดิฉันเองก็คงจะเลือกที่จะไม่ไปศาลค่ะ
แต่ดิฉันเพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองมีชื่อในการผ่อนรถยนต์ค่ะ แต่รถยนต์เป็นของเพื่อนค่ะเนื่องจากเพื่อนของดิฉันทำงานอิสระไม่มีสลิปเงินเดือนเค้าก็เลยมาขอให้ดิฉันช่วยเรื่องการใช้ชื่อในการเช่าซื้อรถยนต์ รถที่ผ่อนนั้นมีระยะเวลาผ่อน 7 ปี ซึ่งเพื่อนผ่อนได้ 3 ปีแล้วค่ะในเบื้องต้นดิฉันได้บอกเรื่องที่ดิฉันเป็นหนี้และโดนฟ้องแล้ว เขาก็รับทราบแต่เขาก็ยังไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีเพราะจะเปลี่ยนชื่อเช่าซื้อตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วเนื่องจากมีหมายศาลฟ้องแล้ว ก็คงต้องรอจนกว่าดิฉันจะหาเงินมาใช้หนี้ให้หมดก่อนที่เขาจะผ่อนรถหมดใช่ไหมคะคิดถึงตอนนี้แล้วเหนื่อยใจขึ้นมาทันทีค่ะไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง แต่ก็ยังดีที่เพื่อนยังเข้าใจไม่มีเรื่องบาดหมางใจกัน
ใครมีข้อคิดอย่างไรกับเรื่องนี้บ้างค่ะ

รถไม่น่าโดนเพราะยังผ่อนไม่หมด ผู้ถือกรรมสิทธิ์ยังเป็นไฟแนนซ์

ความรู้เสริมเพิ่มเติม

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=2247&Itemid=52#2249

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=7238&Itemid=52

www.consumerthai.org/debt/index.php?option=com_fireboard&func=view&catid=2&id=44622&Itemid=10

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=7414&Itemid=52


สรุป

รถที่ยังผ่อนอยู่ ยึดไม่ได้ เพราะรถยังมีชื่อของ ไฟแนนซ์/ลิสซิ่ง เป็นเจ้าของอยู่

(สามารถดูชื่อเจ้าของได้จาก สำเนาสมุดจดทะเบียนรถคันดังกล่าว)

จนกว่าจะจ่ายค่าผ่อนจนหมด แล้วเปลี่ยนชื่อจากผู้ที่จ่ายผ่อนชำระ ให้เป็นเจ้าของรถที่แท้จริง

เมื่อนั้นแหละ...หากผู้ที่ผ่อนชำระเป็นลูกหนี้(จำเลย)ตามคำพิพากษาของศาล

แล้วเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ดันไปสืบเจอว่ารถคันนี้ ลูกหนี้ได้เป็นเจ้าของที่แท้จริงแล้ว

เจ้าหนี้(โจทก์)ก็จะไปแจ้งหลักฐานต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ให้มายึดรถไปขายใช้หนี้ได้ตามกฏหมาย

ผ่อนจบนิละปัญหา ยังไงขอให้ได้งานเร็วๆนะคะ

ขอบคุณค่ะคุณ dnbb

ก็กังวลตอนที่เพื่อนผ่อนรถหมดแล้วเรายังใช้หนี้ไม่หมดนี่ละคะ รถก็ไม่ใช่ของเราซะด้วย เฮ้อ แต่ยังไงก็ต้องสู้ต่อไปค่ะมันไม่มีอะไรเกินความพยายามของเราหรอกจริงไหมคะ ส่วนเรื่องงานก็คงต้องรอให้คลอดเจ้าตัวเล็กออกมาก่อนถึงจะเริ่มหางานได้ แต่ตอนนี้ก็ขายของตามตลาดนัดเป็นอาชีพหลักไปก่อนค่ะ ก็พอได้ค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ ไปในแต่ละเดือน สู้ต่อไปค่ะ

สวัสดีเพื่อนๆสมาชิกอีกครั้งนะคะ หลังจากที่ได้แต่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเพื่อนๆสมาชิก. และตัวเองก็มุ่งมั่นกับการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กและทำงานค้าขายของตามตลาดนัดไปด้วย และสามารถปลดหนี้ไปได้แล้ว 1 เจ้า แต่ความวัวยังไม่ทันหายควรมควายก็เข้ามาแทรกค่ะ. ที่ดิฉันเคยเล่าไปแล้วว่าเพื่อนรักใชัชื่อดิฉันเป็นผู้เช่าซื้อรถยนต์ เมื่อวานได้รับเอกสารจากไฟแนนซ์รถค่ะ มีข้อความว่าไฟแนนซ์ได้ยึดรถจากเพื่อนไปแล้วและได้นำไปขายทอดตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้วมีส่วนต่างที่ต้องชดใช้ให้กับไฟแนนซ์จำนวน 75,383 บาท ดิฉันนี่หมดกำลังใจเลยค่ะ เพราะคงไม่มีปัญญาไปรับผิดชอบได้ และที่ร้ายไปกว่านั้นเพื่อนก็ไม่ยอมรับสายหรือติดต่อมาเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะทำยุงไงต่ดดีเลยค่ะ หนี้ของตัวเองก็เยอะพออยู่แล้ว. คือถ้าเป็นอย่างนี้อีกซักพักก็คงมีหมายศาลมาหาใช่ไหมคะ ดิฉันควรเตรียมตัวรับมือกับปัญหานี้ยังไงดีคะ รบกวนเพื่อนสมาชิกช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เผืีอจะเป็นแนวทางชี้นำทางสว่างในการแก้ปัญหาต่อไปค่ะ