ตัดสินใจหยุดจ่ายแล้วจ้า

หลังจากเป็นหนี้เรื้อรังเหมือนแผลติดเชื้อมาเป็นเวลาหลายปี จากหลักพันกลายเป็นหลักหมื่น และจากหลักหมื่นกลายเป็นหลักแสน...หนี้งอกมันร้าวรานจริงๆ ช่วงหลังมันวุ่นวายกับการกดบัตรนี้ไปจ่ายบัตรโน้น กดบัตรโน้นมาจ่ายขั้นต่ำบัตรนี้วุ่นวายไปหมดแล้วค่ะชีวิต ในที่สุดก็หมดทางดิ้น แต่ละบัตรก็โทรมาให้จ่ายขั้นต่ำเพื่อรักษาสถานะทางบัญชี 3 พันบ้าง 4 พันบ้าง เช้า สาย บ่าย เย็น จนสุดท้ายเบอร์ไม่รู้จักไม่รับเลย...พอไม่รับก็เริ่มโทรเข้าที่ทำงาน หมดทางจริงๆ ค่ะ สุดท้ายเลยต้องพึ่งอากู ผู้ชี้ให้เห็นว่ายังมีเพื่อนมนุษย์ผู้ร่วมชะตากรรม ด้วยการค้นหาจากคำว่า "หนี้สินล้นพ้นตัว" ไปเจอกระทู้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งซึ่งแปะ link ของสมาคมไว้ เข้ามาอ่านแล้วทำให้รู้สึกมีกำลังใจที่จะสู้ชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง มีความหวังที่หนี้สินจะหมดได้ โดยพิจารณาแล้วว่า วิธีจัดการหนี้วิธีที่ 2 น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด

วันนี้ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกค่ะ บอกเพื่อนที่ทำงานถ้ามีโทรศัพท์เข้ามา ให้บอกให้โทรเข้ามือถือ ทำบัญชีหนี้สิน และเริ่มทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายแล้วค่ะ

สรุปยอดหนี้
บัตรเครดิต city bank 32,717
บัตรเงินสด city bank 80,494
บัตรเครดิต กรุงศรี 30,000
บัตรเครดิตกสิกรไทย 37,000
บัตรเงินสดกสิกรไทย 17,000
บัตรเครดิต uob 32,000
บัตรเงินสด uob 30,000
บัตรเครดิตกรุงไทย 50,000
บัตรเงินสดกรุงไทย 40,000
รวม 349,211

เริ่มรับโทรศัพท์ทวงหนี้ของธนาคารในรอบเดือนกว่าๆ ประเดิมด้วย ซิตี้แบงค์โทรมาเมื่อบ่ายแจ้งว่าบัตรเครดิตจะครบ 2 รอบบัญชีในวันพรุ่งนี้ และบัตรกดเงินสดกำลังจะเข้ารอบที่ 3 เจ้าหน้าที่พูดดีมาก พร้อมกับเสนอว่าธนาคารมีโปรแกรมพิเศษในการปรับโครงสร้างหนี้โดยจะรวมยอดหนี้ 2บัตรเข้าด้วยกันแล้วลดอัตราดอกเบี้ยลง ถ้าสนใจให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร พร้อมกับให้เบอร์โทรไว้ด้วย
และจบด้วยการแจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารไว้ว่าให้โทรแจ้งสถานะบัญชีเป็นระยะๆ ด้วย (จริงๆ ไม่บอกก็โทรถี่ยิบอยู่แล้ว)

จากวันนี้ไปคงเจอกับรูปแบบการทวงหนี้ต่างๆ อย่างที่รุ่นพี่ได้แชร์ไว้ ตอนนี้เริ่มเข้มแข็งบ้างแล้ว....ยังงัยก็ขอกำลังใจจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ด้วยนะคะ มีอะไรก็คงมาขอคำปรึกษา และขอกำลังในนี้...และบอกตัวเองว่าต้องสู้!!!!! ถึงจะหลุดพ้น

รบกวนถามผู้มีประสบการณ์ค่ะ....การเจรจาต่อรอง Hair-Cut ธนาคารจะเป็นผู้ยื่นข้อเสนอให้เรา หรือว่าเราจะต้องสอบถามทางธนาคารเองคะ

เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณ nat 1234 นะคะ ยังไงก็ศึกษาและอ่านปักมุดให้เยอะๆ นะคะแล้วคุณก็จะผ่านไปได้คะ ถือว่าคุณโชคดีนะคะที่ได้เข้ามาเจอเว็บนี้ สักวันคุณต้องหมดนี้แน่นอนคะ ช่วง 1-4 เดือนอาจจะต้องทนรับสายกับพนักงานทวงหนี้คะ ช่วงนี้ก็พยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุดคะ พอหลังเข้าเดือนที่ 5 ก็ชวนปรับโครงสร้างหนี้และก็เริ่มมีส่วนลดให้คะ ถือว่ายอดหนี้ของคุณยังไม่มากเท่าไหร่นะคะ ถ้าเปรียบกับเพื่่อนๆ ในชมรมบางคนเป็นหนี้ ตั้งหลายล้าน ยังหมดหนี้ได้เลยคะ เพราะทำตามวิธีของชมรม และศึกษาข้อมูลให้มากๆคะ ยังไงก็สู้ๆ นะคะ สักวันเราต้องหมดหนี้คะ

nat1234 เขียน: รบกวนถามผู้มีประสบการณ์ค่ะ....การเจรจาต่อรอง Hair-Cut ธนาคารจะเป็นผู้ยื่นข้อเสนอให้เรา หรือว่าเราจะต้องสอบถามทางธนาคารเองคะ

แล้วคุณอยากจะเล่นบทเป็น "ผู้ง้อ" หรือ "ผู้ถูกง้อ" ล่ะครับ?

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=21506&Itemid=64&view=topic

jarunee เขียน: เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณ nat 1234 นะคะ ยังไงก็ศึกษาและอ่านปักมุดให้เยอะๆ นะคะแล้วคุณก็จะผ่านไปได้คะ ถือว่าคุณโชคดีนะคะที่ได้เข้ามาเจอเว็บนี้ สักวันคุณต้องหมดนี้แน่นอนคะ ช่วง 1-4 เดือนอาจจะต้องทนรับสายกับพนักงานทวงหนี้คะ ช่วงนี้ก็พยายามเก็บเงินให้ได้มากที่สุดคะ พอหลังเข้าเดือนที่ 5 ก็ชวนปรับโครงสร้างหนี้และก็เริ่มมีส่วนลดให้คะ ถือว่ายอดหนี้ของคุณยังไม่มากเท่าไหร่นะคะ ถ้าเปรียบกับเพื่่อนๆ ในชมรมบางคนเป็นหนี้ ตั้งหลายล้าน ยังหมดหนี้ได้เลยคะ เพราะทำตามวิธีของชมรม และศึกษาข้อมูลให้มากๆคะ ยังไงก็สู้ๆ นะคะ สักวันเราต้องหมดหนี้คะ

ขอบคุณรุ่นพี่มากค่ะ....โชคดีที่มาเจอเว็บไซต์ของชมรมฯ และต้องขอบคุณทุกๆ คนที่เสียสละเวลามาเขียนกระทู้เพื่อแนะนำไว้ แล้วยังเสียสละเวลามาตอบกระทู้ ให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ จะอ่านกระทู้ปักหมุดบ่อยๆ เพื่อจำให้ขึ้นใจ พร้อมรับสถานการณ์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ จะพยายามเป็นภาระให้น้อยที่สุด....แต่กำลังใจยังต้องการเยอะๆ เลยนะคะ ^ ^

นกกระจอกเทศ เขียน:

nat1234 เขียน: รบกวนถามผู้มีประสบการณ์ค่ะ....การเจรจาต่อรอง Hair-Cut ธนาคารจะเป็นผู้ยื่นข้อเสนอให้เรา หรือว่าเราจะต้องสอบถามทางธนาคารเองคะ

แล้วคุณอยากจะเล่นบทเป็น "ผู้ง้อ" หรือ "ผู้ถูกง้อ" ล่ะครับ?

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=21506&Itemid=64&view=topic

ขอบคุณค่ะ จะพยายามอ่านให้มากขึ้นกว่านี้นะคะ

เมื่อวานได้คุยกับพี่ที่เช่าตึกอยู่ชั้นล่างที่พัก พี่เขาทำร้านเสริมสวยว่าอยากหารายได้พิเศษ เขาแนะนำให้ขายลูกชิ้นปิ้ง...โดยอนุญาตให้ใช้พื้นที่หน้าร้านตั้งขายลูกชิ้นปิ้ง หรือยำที่ทำง่ายๆ โดยไม่คิดค่าเช่าหน้าร้าน นี่คือน้ำใจที่ยังมีอยู่ท่ามกลางปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ วันเสาร์-อาทิตย์นี้จะเตรียมข้าวของค่ะ อาทิตย์หน้าเริ่มต้นขายลูกชิ้นปิ้ง+ยำ (หลังเลิกงาน 16.30น.) เพื่อเพิ่มรายได้ และเพิ่มเงินเก็บรอปิดยอด ไว้จะมารายงานผลให้ฟังเป็นระยะๆ นะคะ

เช้านี้เวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆ

เสียงกริ่งโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานดังขึ้น

Nat : สวัสดีค่ะ
City : สวัสดีค่ะ ขอเรียนสายคุณ Nat ค่ะ
Nat : พูดสายค่ะ
City : สวัสดีค่ะ ดิฉันโทรจากสำนักงาน xxx ได้รับมอบหมายจาก City (นางยังพูดไม่จบ ดิฉันก็พูดแซงขึ้น)
Nat : กรุณาโทรมาหลังเวลาเลิกงานนะคะ
City : เวลากี่โมงหละคะ
Nat : ก็...(คิดนิดนึง) หลัง 16.30 น. นะคะ และ (กำลังจะบอกว่าให้โทรเข้ามือถือ)
City : ....ตู๊ดดดด......

ดีใจจัง...เป็นครั้งแรกที่รับโทรศัพท์แล้วรู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ได้นั่งฟังเขาพูดแล้วเครียด กลุ้มใจจะหาเงินไหน
ไปจ่ายให้ทันเวลา ตามจำนวนที่เขาบอกเหมือนที่เคยผ่านมา....สู้โว้ยๆๆๆ

รายงานความคืบหน้า การหยุดจ่ายบัตรเครดิต+บัตรกดเงินสดพร้อมกัน 9 ใบ ระยะเวลาประมาณ 3-5 เดือน ถือว่าการ
โทรศัพท์ทวงหนี้ (รับบ้าง ไม่รับบ้าง) จากบริษัทรับทวงหนี้ต่างๆ และธนาคารยังไม่เจอชนิดที่โหดๆ ค่ะ มีของธนาคารซิตี้แบงค์
ที่ขู่จะส่งหมายศาลไปที่บ้านแต่คุยด้วยไม่นานก็เปลี่ยนเจ้าหน้าที่เป็นคนใหม่ พูดจาดี อัธยาศัยดี
และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาขอส่วนลด แหล่งที่มาของเงินปิดบัตรคือ เงินกู้สวัสดิการผ่านหน่วยงานของธนาคารออมสิน
จ่ายโดยหักจากบัญชีเงินเดือน ปล่อยกู้ให้ถึงแม้เราจะมีชื่อติดเครดิตบูโร แต่ต้องยังไม่มีการฟ้องร้อง


อันดับแรกที่จ่ายปิด คือ ธนาคารกรุงศรี เจรจาแล้ว ยอดหนี้ 30,994 บาท ให้ชำระที่ยอด 17,000 บาท
ลด 45% แบ่งเป็น 3 งวด (ประทับใจมาก ส่วนลดเป็นที่พอใจ เจ้าหน้าที่อัธยาศัยดี ตอนนี้ชำระงวดแรกไปแล้วค่ะ)

ซิตี้แบงค์ กำลังเจรจา เสนอส่วนลดที่ 30% ของยอดหนี้ เจ้าหน้าที่ขอสำเนาบัตรประชาชน และใบแสดงภาระหนี้ทั้งหมดเพื่อเสนอ
เรื่องขอส่วนลดให้ (แต่จริงๆ อยากได้ส่วนลดเยอะกว่านี้ เพราะเงินกู้มีจำนวนจำกัด ถ้าลดน้อยปิดไม่หมดแน่นอน) วันนี้จะเจรจาต่อรองอีกครั้ง
....มีใครเคยเจรจากับซิตี้บ้างคะ จะมีโอกาสได้ส่วนลดเยอะกว่านี้มั้ย ?????

ธนาคารยูโอบี เสนอส่วนลดแค่ในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยให้ เจรจาแล้วเขาบอกว่าบัญชีบัตรยังไม่ได้ส่งออกข้างนอก (หมายถึงบริษัททวงหนี้ ต้องผิดนัด
ชำระประมาณ 7-8 เดือนถึงจะส่ง) ธนาคารสามารถลดให้ได้แค่นี้.....กำลังจะเจรจาต่อรอง ถ้าลดได้แค่นี้จะปล่อยให้เน่าก่อนค่อยเจรจาอีกครั้ง

กรุงไทย โทรมา คุยดี มีเหตุผล รับฟังดี เมื่อมีเงินในมือจะเจรจาขอส่วนลดอีกครั้ง

กสิกรไทย โทรสอบถามสถานะบัญชี 2 รอบแล้ว เจ้าหน้าที่บอกจะติดต่อกลับ จนป่านนนี้ย้งไม่มีติดต่อกลับมาเลย


----เรื่องที่กังวลคือ การส่งเอกสารบัตรขีดคร่อมเพื่อขอส่วนลดปิดบัญชีบัตร......ไปยังธนาคารโดยธนาคารบอกว่าเพื่อทำเรื่องขอส่วนลดให้
พร้อมเอกสารแสดงภาระหนี้ .... สมควรจะส่งไปให้มั้ย....ตรงนี้มีใครเคยมีประสบการณ์ตรงบ้างคะ ?????