ซิตี้จะอายัดเงินเดือนค่ะ ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เหตุเกิดเพราะความไว้ใจและเชื่อใจเพื่อน เพื่อนชวนไปทำงานที่ DCHL แล้วพอไปทำจริงๆมันไม่ได้อะไรเลยแถมจากไม่เคยเป็นหนี้ กลายเป็นคนมีหนี้เพราะเอาเงินมาหมุนช่วงที่ทำ DCHL เป็นค่าห้องค่าบัตร แต่พอรายได้ไม่มีเข้ามาทุกอย่างหยุดชะงักค่ะ เพราะความโลภแท้ๆ
รายการที่เป็นหนี้ทั้งหมดค่ะ

1. ยูเมะพลัส สินเชื่อ 30,800
2. เฟิร์สช้อยส์ บัตรกดเงินสด 20,000
3. อิออน บัตรกด/เช่าซื้อ 20,000
4. พรอมมิส สินเชื่อ 20,000
5. เคทีซี บัตรกด 17,000
6. ซิตี้แอดวานซ์ สินเชื่อ 93,000 โดนฟ้องแล้ว ศาลตัดสินแล้วเมื่อก.พ.56 หนี้อยู่ที่ประมาณ 140,000
ตอนนี้กำลังประสบปัญหาโดนซิตี้แอดวานซ์โทรมา บอกว่าวันนี้จะส่งเรื่องอายัดเงินเดือนแล้ว
ซึ่งตอนที่ไปขึ้นศาลดิฉันกลัวมากเพราะเป็นครั้งแรก แจ้งรายละเอียดต่อหน้าศาลไปว่าเหตุที่ไม่ได้ชำระหนี้เพราะอะไร ทนายของซิตี้แอดวานซ์ก็บอกให้จ่ายขั้นต่ำ 3000/ด. ซึ่งดิฉันตอนนั้นกำลังตกงานแต่บอกไปว่าถ้าดิฉันได้งานทำขอจ่ายเดือนละ1000 ได้มั้ย หลังจากที่ได้งานดิฉันก็จ่ายเข้าไปเดือนละ2000 พัน แต่ก็ยังโดนเจ้าหนี้ทวงตลอด ยอดเงินกู้ตอนแรก 93000 หลังจากขึ้นศาลเสร็จปาเข้าไป 140000 ตัวเลขกลมๆค่ะ จนมาถึงปัจจุบันยอกอยู่ที่ 120000 เมื่อวานบริษัททวงหนี้โทรมาบอกว่าจะอายัดเงินเดือน ลดให้ 67000 ปิดบัญชี แต่ดิฉันก็ยังไม่สามารถจ่ายได้ค่ะเพราะไม่มีจริงๆ ดิฉันก็บอกไปว่าขอจ่ายเป็นงวดละ 1000 ไม่ได้เหรอเพราะไหนจะค่าห้อง ค่ากิน ค่าเดินทางไปทำงาน ค่าเทอมลูก ค่ารถรับส่งไปโรงเรียนของลูกอีก เขาก็บอกไม่ได้อย่างเดียวทั้งตะคอกทั้งเหน็บแนม แต่เบื้องต้นดิฉันคุยกับทางครอบครัวแล้วว่าเกิดปัญหาแบบนี้อยู่นะ แล้วก็แจ้งให้ฝ่ายบุคคลทราบรวมถึงเพื่อนร่วมงานค่ะ ดิฉันควรทำอย่างไรคะเพราะจะโดนอายัดเงินเดือนแล้วขอแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยค่ะ

แล้วคุณกลัวอะไรล่ะ
ถ้าไม่มีเงินก้อนไปทำ haircut เดี๋ยวมันก็มาอายัดเงินเดือน
รายได้เท่าไร รายจ่ายเท่าไร
ถ้าถูกอายัด 30% หรือ 15% แล้ว พอกิน พอใช้ไหม มีทรัพย์อะไรให้ยึดอีกไหม

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=7&id=28147&Itemid=64

ต้องขอขอบคุณ คุณเด็กหญิงส้มโอด้วยค่ะ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 13 มีหนังสือมาอายัดเงินเดือนแล้ว วันนี้ทางฝ่ายบุคคลเรียกเข้าไปคุยแล้วค่ะ ซึ่งตามสลิปเงินเดือน ดิฉันมีเงินเดือน 13,500 บ. ค่าเดินทาง 2,000 ค่าโทรศัพท์ 2,000 บ. ดิฉันมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะมาก พรุ่งนี้จะไปติดต่อสำนักงานกรมบังคับคดีกรุงเทพมหานคร 1 อยู่ตรงตึกช้าง ถ.พหลโยธิน โดยตอนแรกก็กังวลมากๆค่ะ แต่มีคนแนะนำว่าถ้าเรามีภาระค่าใช้จ่ายเยอะให้นำเอกสารที่เป็นชื่อของเราทั้งหมดไปยื่นเรื่องเพื่อขอลดอายัดเงินเดือน ส่วนผลจะเป็นอย่างไรจะอัพเดทอีกทีนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับคำแนะนำที่มีในเว็บบอร์ดนี้ ขอให้ทุกคนสู้ๆเช่นกันค่ะ

ผมเห็นใจและสงสารคนหัวอกเดียวกันมาก..คุณไม่ควรกลัวอะไรเกินเหตุนะครับ ปล่อยให้เขายึดเงินเดือนไปนะดีแลัวครับเจ้าต่อไปมาต่อคิวเอา(ยึดได้ที่ละเจ้าครับกำหนด10ปี)แล้วเอาบิลค่ายาค่าเทอมลูกค่าอะไรต่างๆที่เราต้องแบกภาระอยู่ยกเว้นค่าผ่อนรถผ่อนตู้เย็นอะไรทำนองนี้ที่ไม่น่าเกี่ยวกับภาระจำเป็น..เอ งง เอง ไปขอยื่นต่อศาลขอลดจาก30%ให้เหลื่อ15%แี่ค่นี้ก็น่าจะอยู่ได้นะครับแล้วหารายได้เสริมเอา ที่สำคัญอย่าหาหนี้อีก สาธุุ.. ขอเสริมอีกนิดครับถ้ามีเจ้าอื่นทวงอีกก็บอกว่า เค้าโดนอายัดตัวไม่รู้หรอ..อีก10ปีเจอกันนะตัวเอ๊ง..อิ อิ

อัพเดทหลังจากที่เมื่อวานฝ่ายบุคคลเรียกคุยเรื่องอายัดเงินเดือน เช้าวันนี้ดิฉันไปติดต่อกรมบังคับคดีกรุงเทพมหานคร 1 ตรงตึกช้าง ชั้น 15 อาคารบี มาเรียบร้อยแล้วค่ะ ไปถึงก่อน 8.30 น. ได้บัตรคิวที่ 4 โดยเอกสารที่ดิฉันเตรียมไปก็มีหนังสืออายัดเงินเดือนที่กรมบังคับส่งมายังบริษัท และเอกสารที่เกี่ยวกับการเป็นหนี้ทั้งหมดที่ดิฉันมี สลิปเงินเดือนเดือนล่าสุด พร้อมพวกบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเทอมหรือใบเกิดของลูกค่ะ อย่าลืมสำเนาบัตรประชาชนของตัวเองด้วยนะคะ (ต้องถ่ายเอกสารไปให้พร้อมนะคะ เซ็นต์รับรองสำเนาไว้ด้วย) แต่ถ้าไม่ถ่ายไปก็มีเครื่องถ่ายเอกสารไว้ให้บริการค่ะแต่จะทำให้ล่าช้า เพราะมีคนไปติดต่อเยอะพอสมควร
โดยเมื่อไปถึงสิ่งแรกที่ควรทำ ก็คือ
1.เอาแบบฟอร์มการขอลดอายัดเงินเดือนมากรอกข้อมูลก่อนเลยค่ะ แล้วเอาเอกสารไปรับบัตรคิวจากเจ้าหน้าที่
2.นั่งรอเรียกตามคิวค่ะ เจ้าหน้าที่จะขอดูสลิปเงินเดือนกับบิลพวกที่เราเป็นหนี้ แล้วก็ค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟที่เป็นชื่อของเราแนบหมายเพื่อประกอบการพิจารณาอีกที แล้วเจ้าหน้าที่จะให้เรานั่งรอ
3.หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิจารณา คำนวนเสร็จแล้วก็จะออกหนังสือมาฉบับนึงให้เรานำไปยื่นฝ่ายบุคคลที่บริษัทค่ะ
***ตอนแรกหนังสือมาจะอายัด 30% หลังจากไปยื่นคำร้องที่กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือน 15% ก่อนหน้านี้ทำเอากังวลใจมาก แต่พอทำตามที่สมาชิกในชมรมบอกไว้ ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าความรู้สึกกับใจของเราเองค่ะ พอกลับมาถึงห้องที่คอนโดอ้าวมีหนังสือไรสักอย่างแปะไว้หน้าห้อง พออ่านดูก็เป็นหนังสืออายัดเงินเดือนนั่นแหล่ะค่ะ ไม่รู้เข้ามาเมื่อไหร่ตอนไหนทั้งที่ประตูมีคีย์การ์ด ชั้นล่างก็มีตู้ใส่จดหมายของแต่ละห้องแต่ไม่ใส่ไว้ กลับมาแปะประจานไว้หน้าห้องเลย อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ค่ะ

ถือว่าคุณ ariya 2523 โชคดีนะคะ ที่ได้อายัดแค่ 15 % ของเราก็คงใกล้แล้วแหละกับการอายัดเงินเดือน เพราะมีหลายเจ้าหนี้หลายที่เหมือนกัน
ก็เลยปล่อยให้อายัดเงินดดือนดีกว่า ไม่งั้นตายแน่ๆ ถ้าหนังสือายัดเงินเดือนมาก็คงต้องไปที่กรมบังคับคดีเหมือนกันเพื่อจะขอให้อายัดเงินเดือนแค่ 15%
ทีของเราเป็นโสดยังไม่แต่งงาน แต่ละเดือนก็มีค่าใช้จ่ายส่งให้พ่อกับแม่เดือนละ 5,000 บาท ( เพราะที่บ้านไม่ได้ทำงาน พ่อแม่ก็อายุเยอะแล้ว
ทำงานไม่ไหว ) ค่าเช่าห้องเดือนละ 2,000 บาท ค่าโทรศัพท์เดือนละ 7,000 บาท แล้วก็ส่ง กยศ เดือนละ 1,000 บาท ถ้ามีรายละเอียดแค่นี้
ทางกรมบังคับคดีจะยอมอายัดเงินเดือนเราแค่ 15% ไหมคะ รบกวนคุณ ariya 2523 ด้วยนะคะ ก็รู้สึกกังวลใจเหมือนกัน ถ้าโดนหัก 30 % คงแย่แน่เลย
ขอบคุณนะคะ

โฮ..เล่นมีหนังสือมาแปะหน้าห้องเลยหรอ..เล่นแบบนี้ก็ทำหน้งสือร้องเรียนแบงค์ชาติได้เลยครับ..แนวทางทำอย่างไรนั้นผมไม่ค่อยรู้นะครับแนะนำให้ติดต่อขอทราบวิธีการได้ที่.hotline สายด่วน ของคณะกรรมการชมรมเรานะครับ.. สาธุ

สอบถามคุณ ariya นะคะ ตอนโดนฟ้องที่ทางซิตี้ให้จ่าย3000/ด ถ้าจ่ายต้องจ่ายทั้งหมดกี่เดือนคะ พอดียอดใกล้เคียงกันเลยค่ะ นัดแรกวันที่17/1/57นี้ กำลังตกลงยอดปิดอยู ถ้าไม่ได้จริงๆจะปล่อยให้อายัดเหมือนคุณค่ะ เพราะยูก็ฟ้องแล้ว ไม่ยอมลดด้วย ของคุณก็นานมากนะคะกว่าจะอายัด เกือบปีเลย สู้ๆนะคะ

K.Jarunee ทำใจสบายๆนะคะอย่าวิตกกังวลจนเกินไป เพราะAriyaเองช่วงแรกๆเครียดจนร่างกายย่ำแย่ ตั้งสติให้ดี ให้กำลังใจตัวเองด้วยนะอย่าท้อแท้สิ้นหวัง Ariyaไปกรมบังคับคดีมาเมื่อวานสิ่งที่เขียนในใบขอลดอายัดเงินเดือน ได้แจกแจงรายละเอียดภาระค่าใช้จ่ายดังนี้
1.ค่าบัตรอิออน 2.ค่าบัตรเฟิร์สช้อยส์ 3.ค่าบัตรยูเมะพลัส 4.ค่าเงินกู้SCB 5.ค่าเลี้ยงดูบุตร+ค่าเทอม 6.ค่าน้ำ7.ค่าไฟ 8.ค่าเช่าห้อง 9. ค่าเน็ต 10. ค่าเคเบิ้ล 11.ค่าใช้จ่ายในการทำงาน (เลี้ยงชีพ) คร่าวๆของเราประมาณนี้ค่ะ
ส่วนคุณJarunee มีค่าเลี้ยงดูบิดามารดาก็เขียนลงไปเลยค่ะอย่าได้แคร์ อย่าลืมพวกเอกสารการเป็นหนี้ บิลค่าน้ำค่าไฟหรืออื่นๆที่เป็นชื่อเราด้วยนะคะ (ถ่ายสำเนาและรับรอง สำเนาถูกต้องไว้ด้วย) นิติกรที่กรมบังคับคดีไม่ได้น่ากลัวนะคะให้บริการดีมากด้วย

K.Nunin คะของเราตอนไปศาลทนายโจทย์แจ้งว่าจะต้องจ่ายขั้นต่ำ 3000/เดือนไม่ได้บอกว่ากี่งวด แต่วันนั้นเราไปศาลคนเดียวไม่มีความรู้และยังไม่เจอชมรมนี้ค่ะ ตอนให้การต่อหน้าศาลAriyaก็แจ้งเหตุทั้งหมดว่าทำไมถึงขาดส่ง และขอส่งเดือนละ 2000 ซึ่งแน่นอนทนายโจทย์ไม่ยอมอยู่แล้ว หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาส่งมาที่บ้านAriya ไม่มีจริงๆบางเดือนก็ส่ง 2000 เดือนไหนไหวก็จ่ายไป 3000 ของAriyaศาลมีคำพิพากษามาเมื่อปลายเดือน ก.พ. 56 นับจากนั้นมาทุกเดือนก็จ่ายเข้าไปตามที่แจ้งไว้ แล้วช่วงเดือนสิงหา ได้รับสายบริษัททวงนี้ถี่ขึ้นก็รับปกติอยากพูดอยากทวงก็ปล่อยให้พูดให้ทวงไป ขู่จะส่งเรื่องไปกรมบังคับคดีแล้วนะ แล้วก็หายเงียบไปเป็นเดือน ตุลาโทรมาอีกละจะส่งแล้วนะ Ariyaเลยบอกไปว่าพี่คะหนูพยายามชำระหนี้เข้าไปให้แล้ว แต่ถ้าพี่ขู่หนูตะคอกหนูแบบนี้ก็ตามสบายนะคะ หนูจะอัดเสียงไว้และร้องเรียนพี่เหมือนกัน ถ้าพี่จะส่งเชิญส่งเลยค่ะตอนนี้หนูรอหนังสืออายัดจากกรมบังคับคดีอยู่ พอช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาโดนบริษัททวงหนี้ยื่นข้อเสนอมาว่าจะลดให้เหลือ 67000 ซึ่งเราก็ไม่มีเงินก้อนขนาดนั้น บอกงั้นคุณผ่อนจ่ายมา 3 งวดไหวมั้ยปิดบัญชีเลย Ariyaก็ตอบกลับไปว่าไม่สะดวกหรอกค่ะ เงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท ที่พี่เสนอมาหนูต้องจ่ายถึงงวดละ 2หมื่นกว่าบาทโอไม่ใช่แล้วมั้งคะ ถ้าจ่ายคุณขนาดนั้นจะเอาอะไรกิน ค่าเทอมลูกค่าเลี้ยงดูลูกแต่ละเดือนก็ส่งบ้างไม่ส่งบ้าง นี่ขนาดประหยัดแบบสุดๆเลยค่ะ สุดท้ายโดนบริษัททวงหนี้โทรมาที่ออฟฟิศขอสายเราชบ้าง ขอสายฝ่ายบุคคลบ้าง แต่Ariyaทำใจไว้แล้วแจ้งครอบครัวให้รับรู้ว่าเรามีปัญหา ขอปรึกษากับฝ่ายบุคคลบอกถึงปัญหาเรื่องหนี้เพื่อเตรียมรับมือไว้ (แรกๆก็อายนะคะ แต่ดีกว่าไปยืมเงินนอกระบบหรือหมุนบัตรนี้มาปิดบัตรนั้น) ซึ่งเมื่อถึงวันที่บริษัททวงหนี้ให้คนมาส่งหมายอายัดเงินเดือนก็เป็นเพื่อนๆที่ออกไปรับเอกสาร แถมพูดจาไม่ดีใส่เพื่อนด้วย แทนที่จะยื่นเอกสารให้แบบสุภาพพูดจาดีๆ แต่ทำเหมือนโยนเอกสารมาตรงหน้า แต่โชคดีที่เพื่อนก็รับทราบแล้วว่าเรามีปัญหานี้อยู่เขาเลยไม่สนใจมัน

อ่อ ๆ เข้าใจแล้วค่ะ คือตั้งแต่ได้รับคำพิพากษายังจ่ายตลอด แต่เจ้าหนี้ไม่พอใจยอดที่น้อยกว่าที่มันต้องการ เลยมาอายัดต่อ ช่างมันค่ะ ไว้มีเงินค่อยปิด อายัดก็ดี เจ้าอื่นจะได้ต่อคิว แต่ระวังอีก15%ที่เหลือนะคะ