- จำนวนโพสต์: 5911
- ขอบคุณที่รับ: 2590
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
kwangtun เขียน: สอบถามค่ะเมื่อกี้เจ้าหน้าที่ยูโอบีโทรมาค่ะ(หลังจากเราขึ้นศาลมา1เดือนพอดี) บอกว่าคำตัดสินจากศาลออกแล้ว ให้เราโทรไปถาม เพราะไม่งั้นถือว่าเราไม่ใส่ใจ พอครบกำหนด เค้าจะต้องอายัด เงินเดือน เลยสงสัยว่า จริงๆแล้วเราต้องเป็นคนโทรไปถามเองเหรอคะ เพราะตอนแรกเข้าใจว่าเดี๋ยวทางทนายของยูโอบีต้องส่งมาให้เรา แล้วถ้าเราได้รับรู้แล้ว ภายใน15วัน ถ้าเรายังเพิกเฉย ศาลถึงจะสั่งบังคับอายัดเงินได้ (ปล
ที่เรายังไม่ไปถามเพราะอยากยื้อเวลาให้นานต่อไปอีกสักพักเพื่อเก็บเงิน เราสามารถทำยั่งงั้นได้เปล่าคะ)
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
kwangtun เขียน: สอบถามค่ะเมื่อกี้เจ้าหน้าที่ยูโอบีโทรมาค่ะ(หลังจากเราขึ้นศาลมา1เดือนพอดี) บอกว่าคำตัดสินจากศาลออกแล้ว ให้เราโทรไปถาม เพราะไม่งั้นถือว่าเราไม่ใส่ใจ พอครบกำหนด เค้าจะต้องอายัด เงินเดือน เลยสงสัยว่า จริงๆแล้วเราต้องเป็นคนโทรไปถามเองเหรอคะ เพราะตอนแรกเข้าใจว่าเดี๋ยวทางทนายของยูโอบีต้องส่งมาให้เรา แล้วถ้าเราได้รับรู้แล้ว ภายใน15วัน ถ้าเรายังเพิกเฉย ศาลถึงจะสั่งบังคับอายัดเงินได้
mamypoko
ถาม : วันนี้ไปศาลมาค่ะ บัตรกรุงไทยและสินเชื่อฟ้องรวมกันสามบัญขี ยอดฟ้อง 2xx,xxx บาท ที่ศาลมีนบุรีค่ะ
ไปถึงประมาณแปดโมงก็ไปดูรายชื่อและห้องพิจารณาคดีของเรา แวะกินข้าว แล้วก็มานั่งรอหน้าห้องประมาณแปดโมงครึ่ง สักครู่ก็มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นทนายของแบงก์ก็เข้ามาแสดงตัว เออลืมบอกไปเผอิญของเรามีบัตรเสริมเป้นชื่อสามีด้วย ทนายก็ถามว่าจำเลยที่สองไม่มาเหรอ เราก็บอกติดธุระมาไม่ได้ เขาก็บอกว่าอ้าวยังงี้ก็ทำยอมความไม่ได้นะ เพราะต้องเซ็นต์สองคน เราก็บอกไม่เป้นไรค่ะ เพราะว่าตั้งใจจะพบศาลและให้ศาลตัดสินแล้วจะคุยกับแบงก์อีกทีค่ะ เขาก็เออ เออ พอประมาณเก้าโมงก็เรียกเราเข้าไปในห้องพิจารณาคดี อืมบรรยากาศดีกว่าที่คิดนะ และวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ คนไม่เยอะมาก เราก็นั่งรอ ทนายแบงก์ก็บอก จะกลับเลยก็ได้นะครับเพราะกว่าศาลจะลงก็คงเกือบสิบโมง เราก็บอกไม่เป้นไรค่ะ รอได้ เขาก็เลยเลิกสนใจเราเขาก็ทำงานของเขาไป เราก็นั่งรอ วันนี้ห้องที่เราอยู่นี่มีทั้งหมด 8 คดี เป็นของกรุงไทย 5 คดี แม่เจ้า เยอะจริงๆ แต่มีจำเลยมาแค่สองคนคือเรากับผู้ชายอีก คน นอกนั้นไม่มาค่ะ
ประมาณเก้าโมงสี่สิบศาลก็มาค่ะ เป็นผู้พิพากษาหญิง หน้าใสปิ้ง ยังเด็กๆอยู่เลยค่ะ เห้นเจ้าหน้าที่ศาลบอกว่าเพิ่งได้รับการโปรดเกล้า ยังไม่ได้ประจำที่ศาลไหน แต่ก็ดูใจดีค่ะ ท่านก็ถามเราว่าคุยอะไรกับแบงก์หรือยัง จะทำยอมความไหม ทนายโจทก์ก็บอกว่าจำเลยให้ท่านตัดสินเลยครับ ศาลก็ถามเรา เราก็บอกค่ะ หใ้ท่านตัดสินให้เลย แต่เนื่องจากจำเลยเองก็ไม่มีความรู้ในเรื่องดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และค่าปรับต่างที่แบงก์แจ้งมาว่ามันถูกต้องหรือไม่ก็อยากจะให้ศาลช่วยพิจาณณาให้หน่อยว่ามีตรงไหนที่จะลดหย่อนได้บ้าง และจำเลยก็จะคุยกับทางแบงก์ในเรื่องการผ่อนชำระอีกที ท่านก็อืม ถ้าให้ศาลตัดสินศาลก็จะออกคำบังคับวันนี้เลยนะ เราก็ ค่ะ ( แต่ก็งงๆว่าคำบังคับนี่มันคืออะไร ) ศาลก็บอกทนายว่าเดี๋ยวถ้าคำพิพากษาออกแล้วทนายก็ส่งไปให้จำเลยเขาด้วยนะ ศาลท่านก็บอกว่าศาลจะให้โจทก์ส่งเอกสารหลักฐาน แทนการสืบพยาน จำเลยขาดการส่งคำให้การ พอเสร็จก็ให้เราเสร็จกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่มีข้อความเหมือนกับที่ท่านอ่านให้เราฟัง เราก็เซ็นต์ และทนายก็ให้เราเซ็นต์ในปึกใหญ่ที่เป็นสำนวนฟ้องด้วย ทนายบอกว่าให้เราอยู่รอคุยกับตัวแทนแบงก์ แต่ก็ตามหาตัวไม่พบ เจ้าหน้าที่ศาลบอกให้เรากลับได้ เราก็เลยกลับค่ะ มีคำถามดังนี้ค่ะ
-ไอ้ที่ว่าคำบังคับออกวันนี้เลยหมายความว่าอย่างไรคะ
-ในปึกใหญ่ๆที่เป็นสำนวนฟ้องที่ทนายให้เราเซ็นต์มันมีข้อความที่ประทับว่าให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน อันนี้หมายถึง 15 วัน นับจากวันที่ตัดสิน หรือว่านับจากวันที่คำพิพากษาจะออกและส่งให้เราคะ
-ถ้าเราต้องการจะขอคัดคำพิพากษาจะมาขอคัดได้ภายหลังจากที่ตัดสินกี่วันคะ
-เราถามทนายโจทก์ว่าเมื่อไหร่ที่คำพิพากษาจะส่งไปถึงเรา เขาก็บอกว่ากว่าจะพิมพ์เสร็จก็ประมาณสองเดือน จริงหรือเปล่าคะ
รบกวนคำแนะนำด้วยนะคะ
ก็ขอฝากให้กำลังใจเพื่อนๆที่จะไปศาลด้วยค่ะ ว่ามันไม่น่ากลัวจริงๆ ค่ะ เพื่อสิทธิของเรา สู้ๆนะคะ
mamypoko
ตอบ : ก็หมายความว่า "จะพิพากษาวันนี้เลยนะ"...ยังไงล่ะถาม : ไอ้ที่ว่าคำบังคับออกวันนี้เลยหมายความว่าอย่างไรคะ
ตอบ : ถ้าตามหลักทฤษฎี ก็หมายถึง...นับจากวันที่จำเลยได้รับทราบคำพิพากษาของศาลแล้ว นั่นแหละครับถาม : ในปึกใหญ่ๆที่เป็นสำนวนฟ้องที่ทนายให้เราเซ็นต์มันมีข้อความที่ประทับว่าให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาภายใน 15 วัน อันนี้หมายถึง 15 วัน นับจากวันที่ตัดสิน หรือว่านับจากวันที่คำพิพากษา
ตอบ : หมายถึงในวันนั้น ท่านจะพิพากษา "ด้วยปากเปล่า" (พิพากษาเป็นคำพูด) และจะมีเจ้าหน้าที่ของศาล ต้องเอาคำพิพากษาของศาลที่พูดเป็นคำพูดนี้ ไปพิมพ์เป็น "หนังสือคำพิพากษา" แล้วจะส่งให้คุณรับทราบต่อไป เพื่อให้สามารถใช้บังคับได้ตามกฏหมายถาม : จะออกและส่งให้เราคะ
ดังนั้น...ตราบใดที่คุณยังไม่ได้ "หนังสือคำพิพากษา" จากศาล...ก็จะยังไม่สามารถบังคับให้คุณต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ (ถึงแม้ว่าศาลจะพิพากษา "ด้วยปากเปล่า" ไปแล้วก็ตาม)
การที่จะบังคับให้คุณต้องปฏิบัติตามนั้น..."หนังสือคำพิพากษา" จะต้องถูกจัดส่งให้คุณรับทราบเสียก่อน
จะด้วยวิธีการ "ให้คุณมา คัดคำพิพากษาด้วยตนเองที่ศาล อีกในสองเดือนข้างหน้า"
หรือจะด้วยวิธีการ "จัดส่งหนังสือคำพิพากษาไปที่บ้านของคุณ (เหมือนกับการส่งหมายศาลฟ้องไปที่บ้านของคุณนั่นแหละ)"
จึงจะถือได้ว่า คุณได้รับทราบคำพิพากษาแล้วโดยสมบูรณ์ และคุณจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาที่คุณได้รับทราบแล้วนี้...ภายใน 15 วัน...หลังจากที่ได้รับทราบแล้ว
ดังนั้น...ถ้าคุณยังไม่ได้รับทราบคำพิพากษา (ตามใน หนังสือคำพิพากษา) คุณก็ยังไม่ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา...เพราะถือว่าคุณยังไม่ได้รับรู้
ตอบ : สามารถมาคัดได้ หลังจากที่ศาลท่าน พิพากษา "ด้วยปากเปล่า" แล้ว(พิพากษาเป็นคำพูด) ประมาณ 2-3 สัปดาห์...แต่ถ้าคุณไปคัดคำพิพากษาด้วยตนเองวันไหน ก็จะถือว่าคุณได้รับทราบแล้ว"โดยทันที" และคุณจะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาที่คุณได้รับทราบแล้วนี้...ภายใน 15 วันถาม : ถ้าเราต้องการจะขอคัดคำพิพากษาจะมาขอคัดได้ภายหลังจากที่ตัดสินกี่วันคะ
ตอบ : จริงๆแล้ว "หนังสือคำพิพากษา" จะใช้เวลาพิมพ์เสร็จ หลังจากที่ศาลท่าน พิพากษา "ด้วยปากเปล่า" แล้ว ประมาณ 2-3 สัปดาห์...ส่วนที่มันบอกว่า "กว่าจะพิมพ์เสร็จก็ประมาณสองเดือน" นั้น...ผมว่ามัน "ขี้เกียจ" รีบไปคัดคำพิพากษาด้วยตัวมันเองซะมากกว่า...ด้วยเหตุผลดังนี้ถาม : เราถามทนายโจทก์ว่าเมื่อไหร่ที่คำพิพากษาจะส่งไปถึงเรา เขาก็บอกว่ากว่าจะพิมพ์เสร็จก็ประมาณสองเดือน จริงหรือเปล่าคะ
คุณสังเกตุไหม?...ที่ศาลท่านบอกกับทนายว่า "เดี๋ยวถ้าคำพิพากษาออกแล้วทนายก็ส่งไปให้จำเลยเขาด้วยนะ"...นั่นหมายความว่า ศาลท่านแอบช่วยคุณแบบเล็กๆแล้วนะเนี่ย...คุณรู้ตัวไหม? เพราะคุณจะได้ประโยชน์ตามนี้
1. ทำให้คุณไม่ต้องเดินทางมาคัดคำพิพากษาด้วยตนเองที่ศาล (ประหยัดตังค์ค่าเดินทาง , ประหยัดเงินค่าถ่ายเอกสารคำพิพากษา , ไม่ต้องเดินทางเสียเวลา , สบายๆ อยู่บ้านเฉยๆ)
2. ถ้าโจทก์มันอยากให้คุณ ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาเร็วๆ...มันต้องรีบกระตือรือร้น ในการคัดคำพิพากษาของคุณแทนตัวคุณ แล้วจัดส่งไปที่บ้านของคุณโดยเร็วไว
3. ทางโจทก์มันต้องควักกระเป๋า จ่ายค่าถ่ายเอกสารคำพิพากษาเอง(แทนที่คุณจะต้องเป็นคนจ่ายเอง) มิหนำซ้ำ...มันยังต้องควักกระเป๋า จ่ายค่าจ้างให้"แมสเซนเจอร์ศาล" มาส่งคำพิพากษาติดไว้ที่หน้าบ้านของคุณอีกด้วย (ค่าจ้างในแต่ละครั้งก็ประมาณ 200 - 300 บาท แล้วแต่ความ ใกล้-ไกล จากศาลมาที่บ้านคุณ)
4. คุณจะมีเวลาในการตั้งตัว "รับทราบคำพิพากษา"ที่นานขึ้น (ประมาณสองเดือนตามที่ทนายมันบอก) แล้วหลังจากที่คุณ "รับทราบคำพิพากษา" แล้ว...ก็ค่อยติดต่อคุยกับทางเจ้าหนี้ ในเรื่องการขอผ่อนชำระอีกที...แต่...ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ก็อาจใช้ยุทธวิธี"หักคอจ่าย"ต่อไป เพื่อป้องกันการถูก ยึดทรัพย์/อายัดเงินเดือน
สุดท้ายนี้...ก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่คุณมีความกล้าหาญ ในการเผชิญหน้าสู้กับปัญหาและความจริง ขอเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ต่อไป และหมดหนี้โดยเร็ววัน
ด้วยความปราถนาดีจาก
นกกระจอกเทศ
ทีมงานคณะกรรมการชมรมฯ (ฝ่ายบู๊)
kwangtun เขียน: (ปล.ที่เรายังไม่ไปถามเพราะอยากยื้อเวลาให้นานต่อไปอีกสักพักเพื่อเก็บเงิน เราสามารถทำยั่งงั้นได้เปล่าคะ)
Hair-cut สามารถทำได้ตลอด
ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว ...ไม่ว่าจะเป็น
- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว และไปขึ้นศาลมาแล้ว โดยไปทำ"สัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ"ที่ชั้นศาลมาแล้ว
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้
เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
kwangtun เขียน: หลังจากไดรับคำตัดสินของศาลแล้ว ดิฉันก็ได้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ของยูโอบี เค้าให้เราจ่ายปิดเป็นก้อน 65000 งวดเดียวจบ เค้าบอกยอดตอนนี้ ประมาณ8หมื่นกว่าแลเว เพราะรวมดอกเบี้ย ตั้งแต่วันฟ้องถึงตอนนี้ แต่ปัญหาคือดิฉันมีเงินก้อนไม่พอ เพราะเพิ่งปิดของแบงค์อื่นไปก่อนหน้านี้ ขอเป็นผ่อนจ่าย และให้เค้าคิดดอกเบี้ยตามที่ศาลกำหนดไปก่อนถ้ามีเงินก้อนเมื่อไหรจะขอปิด แต่เค้าบอกเราว่า ถ้าเราทำผ่อนจ่าย ยังไงก็ต้องโดนบังคับคดีโดยการอายัดเงินเดือนอยู่ดี เพราะถ้าศาลตัดสินแล้วคือเราต้องจ่ายตามที่ศาลตัดสินเป็นก้อน ไม่มีการผ่อนจ่าย จริงรึเปล่าคะ
Hair-cut สามารถทำได้ตลอด
ทุกช่วงเวลาหลังจากที่"หนี้"ของเรา"เน่า"แล้ว ...ไม่ว่าจะเป็น
- ก่อนได้รับหมายฟ้อง (แต่ต้องหยุดจ่ายนานๆ หลายๆเดือนซะก่อนนะครับ)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล
- ขึ้นศาลแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี โดยรอขึ้นศาลอีกครั้งในนัดหน้านัด หรือนัดต่อไป (ศาลยังไม่ได้พิพากษา)
- ได้รับหมายฟ้องแล้ว และไปขึ้นศาลมาแล้ว โดยไปทำ"สัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ"ที่ชั้นศาลมาแล้ว
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว และอยู่ในระหว่าง รอการจ่ายชำระหนี้คืนตามคำพิพากษา
- ถูกศาลพิพากษาแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้จ่ายชำระหนี้คืน จนกระทั่งถูกอายัดเงินเดือน หรือถูกอายัดทรัพย์สินอยู่ในขณะนี้
เห็นไหมล่ะครับ ว่า Hair-cut
สามารถทำได้ตลอดชีพจริงๆ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ก็อย่าไปจ่ายแบบ"ทุเรศ"สิครับ...มันอายัดเงินเดือนของคุณไม่ได้หรอกkwangtun เขียน: ขอบคุณคุณอา ค่ะ ที่จริงหนูอ่านแล้วละค่ะ แต่ยังไม่เข้าใจจริงๆ หนูรบกวนสอบถามนะคะ เท่าที่หนูเข้าใจ การหักคอจ่ายก็คือ อย่างของหนู เค้าต้องการจะให้หนูจ่ายเป็นก้อนเดียวเพื่อปิดจบ แต่หนูไม่มี และตกลงกับเค้าไม่ได้ เพราะเค้าบอกถึงผ่อนจ่ายก็โดนอายัดเงินเดือนอยู่ดี
ถ้าศาลพิพากษาแล้ว ไม่มีไอ้เจ้าหนี้หน้าโง่รายไหน ที่มันยอมให้ลูกหนี้ผ่อนต่อได้อีกหรอกครับ ...ผมก็บอกไปแล้วไงครับkwangtun เขียน: วิธีหักคอจ่ายก็คือ ให้หนูจ่ายเข้าไปเลยใช่มั้ยคะ ไม่ต้องรอว่าเจ้าหนี้เค้าจะต้องการยังไง
คุณก็ใช้วิธีกดเครื่องคิดเลข คิดเอาเองก็ได้นี่ครับ ว่าถ้าจ่ายไปแบบนี้ มันต้องไป ตัดต้น-ตัดดอก เท่าไหร่?kwangtun เขียน: แล้วถ้าเราจ่ายเข้าไปแล้ว เราจะแน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าเค้าจะไปตัดต้นให้เรา
เฮ้ออออ... ไปจ่ายที่"ร้านขายของชำ"ใกล้บ้านก็ได้มั๊งครับkwangtun เขียน: วิธีการจ่าย คือเราไปจ่ายหน้าแบงค์เลยเหรอคะ
แล้วศาลพิพากษาให้คุณ ต้องจ่ายหนี้แยกกัน หรือจ่ายหนี้รวมกันล่ะครับ?kwangtun เขียน: คือยอดฟ้องของหนูมันเป็น2บัตร ฟ้องรวมกัน เวลาหนูจ่าย หนูต้องจ่ายเข้าทั้ง2บัตรใช่มั้ยคะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
kwangtun เขียน: ขอบคุณคุณอาอีกครั้งค่ะ เป็นคำตอบที่ ฮาร์ทคอร์ แต่ก็ทำให้ หนูเข้าใจได้ง่ายจริงๆ ขอบคุณจากใจค่ะ ทั้งคุณอา และพี่ๆ เพื่อนๆในชมรม ทุกคนค่ะ ทุกวันนี้ยังคิดอยู่เสมอเลยว่าเป็นโชคดีของเราจริงๆที่เปิดมาเจอชมรมนี้อย่างบังเอิญ เพราะถ้ายังงมอยู่คนเดียวเหมือนตอนก่อนหน้านี้ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไง ทุกวันนี้ชีวิตดีขึ้นมากค่ะ ไม่ต้องเสียน้ำตาเพราะคำว่า หนี้ อีกแล้ว เมื่อก่อนบางครั้งนั่งอยู่ดีๆน้ำตายังไหลออกมาเพราะความเครียดที่มันถาโถมเข้ามา จนทำให้คนที่เรารักเค้ามองเห็นแล้วต้องทุกข์ใจไปกับเราด้วย ทั้งพ่อ แม่ และน้องๆ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณอา คุณอาและชมรมคือผู้มีพระคุณของหนูจริงๆค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา
ปิ่นปัก เขียน: อยากสอลถามคุณ Kwangtun ว่าตอนนี้ได้ทำการ หักคอจ่าย ไปกี่งวดแล้วคะ ได้ผลมั้ยคะ ปิ่นกำลังจะต้องถึงคราตัดสินคดีเช่นกันค่ะ คิดว่าไม่มีเงินจ่ายต้นทั้งหมดแน่ๆ อาจจะต้องทำแบบนี้บ้าง อยากทราบเป็นตัวอย่างค่ะ
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา