ต้องการปลดหนี้บัตรกดเงินสด สินเชื่อทุกอย่างทำไงดีค่ะ

ตอนนี้ดิฉันเป็นหนี้สินเชื่อต่างๆประมาณแสนกว่าบาทค่ะโดยมีรายละเอียดหนี้ดังนี้
1.อิออน 20000
เฟิสช้อยส์ 32000
อีซี่บาย20000
สปีดดี้แคช20000
สปีดดี้โลน48000
ดิฉันมีเงินเดือนต่อเดือน13000และมีภาระที่ต้องส่งน้องเรียนทำให้ไม่สามารถรับภาระการจ่ายหนี้ไหว ดิฉันเลยคิดว่าจะหยุดการชำระหนี้ เพื่อเก็บเงินให้ได้สักก้อนและทำการHair Cut ดิฉันสามารถทำได้มั๊ยค่ะ และต้องทำอย่างไรบ้างรบกวนให้คำปรึกาาด้วยนะค่ะ เครียดจังเลย

ความรู้เบื้องต้น

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=179&Itemid=2 วิธีแก้ไขหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=8062&Itemid=29 มารยาทในการตั้งกระทู้

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=710&Itemid=29#719 กฏกติกามารยาทที่สมาชิกทุกท่านควรทำ

www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29 นิยามคำว่าแฮร์คัท

หลังจากดิฉันอ่านบทความทั้งหมดและเรียนรู้จากเคสของพี่ๆหลายๆคน ตอนนี้เดือนนี้หยุดจ่ายแล้วค่ะทุกบัตรเลย เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ตามมา ผู้รู้ที่ปรึกษาทุกท่านค่ะโปรดเห็นใจให้คำปรึกาากับคนอยากหมดหนี้อย่างดิฉันด้วยนะ เบื้องต้นปรึกษาครอบครัวแล้วคุณแม่ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่กลัวโดนขึ้นศาล แต่พอดิฉันอ่านๆหลายๆกระทู้ มันนานมากกว่าเรื่องจะถึงขั้นฟ้องศาล ตอนนี้คือมุ่งมั่นเก็บเงินบางส่วนไว้ทำH/Cและใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็น เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ และขอคำปรึกษานะค่ะ กลัวของสินเชื่อสปี้ดดี้แคชและสปีดดี้โลนมากสุด จะส่งฟ้องเร็วมั๊ยค่ะ ใครเคยมีประสบการณ์บ้างขอความรู้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

เข้า google เเล้วพิมพ์
site:consumerthai.org/debtclub ไทยพาณิชย์

ขอบคุณมากนะค่ะคุณเด็กหญิงส้มโอ ดิฉันอ่านและทำความเข้าใจ ตอนนี้พร้อมรับสถานการณ์การทวงหนี้แล้วค่ะ..

ไม่มี ก้หยุดจ่าย
แต่หยุดจ่าย ต้องเข้าใจด้วยว่า แค่ชลอการจ่ายออกไป เพื่อไปจ่ายในวัน เวลา และเงื่อนไขที่เราสะดวก ไม่ใช่หยุดจ่ายแล้วไม่ต้องจ่ายเลยนะครับ

เมื่อหยุดจ่าย เราก็ต้องเก็บเงินที่เราต้องจ่ายทุกเดือน ไว้เจาจาต่อรองเพื่อจ่ายเป้นก้อน หรือที่เรียกว่า h/c กับเค้า

สิ่งที่จะต้องเตรียมตัวคือ
1.ถ้าหยุดจ่ายประวัติคุณเสียในบูโร
2.เตรียมรับมือกับพวกทวงหนี้
3.หลังผ่านไป 3 เดือน เตรียมรับฟังข้อเสนอของแต่ละราย ว่าเค้าจะให้คุณจ่ายอย่างไร H/C ได้แค่ไหน และคุณสามารถ H/C ได้เรื่อยๆ แม้ว่าจะมีคดีและศาลตัดสินตามฟ้องแล้วก็ตาม (อย่าไปถามเค้าว่าเราจะ H/C ได้ไหมเมื่อไหร่ ทำเป้นไม่รู้ไม่ชี้ รอฟังข้อเสนอเค้า แล้วเอาข้อเสนอเค้ามาต่อรองอีกที คุยเหมือนต่อราคาเวลาซื้อของอ่ะครับ ไม่มีอะไรน่าตกใจ)
4.ถ้าคุณยังไม่จ่าย หลังจากนั้นผ่านไป 6-12 เดือนโดยประมาณ คุณจะได้รับหมายศาล
5.หลังจากนั้นจะเป็นกระบวนการทางศาล คุณไปปรึกษากับคุณอาประพัฒน์ ที่สวนลุมครับ ทุกวันอาทิตย์ครับ ว่าจะทำอย่างไร

ระหว่างรอกระบวนการศาล เค้าก็จะติดต่อมายื่นข้อเสนอคุณเรื่อยๆ ครับ ไม่มีอะไรซีเรียสครับ มีสติ และเก็บสตางค์ ทุกอย่างจะผ่านไปครับ

ผมหนี้เยอะกว่าคุณหลายเท่า ผ่านมา 2 ปี ผมก้เลือกจ่ายไปทีละนิดละหน่อย ตามกำลังเงิน เก็บได้เท่านี้ ใครเสนอมาพอดีเงินที่เรามีอยุ่ก็จ่ายๆไป ใครข้อเสนอไม่น่าสนใจ ก้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมายครับ

ถ้าคุณผ่าน 3 เดือนแรกที่จะดดนทวงหนี้หนักๆ ไปได้ หลังจากนั้น จะไม่มีใครดทรมาทวงคุณอีกแล้วครับ

ขอบคุณนะค่ะคุณnaieak1 ดิฉันเตรียมพร้อมรับมือทั้งการทวงหนี้สุดโหด การขึ้นศาล สำหรับการเสียเครดิตในเครดิตบูโรดิฉันไม่กลัวแล้วค่ะ ต่อไปนี้คงจะไม่ไปเป็นหนี้บัตรอะไรหรือกู้อะไรอีก เงินเดือนแค่ไหนจ่ายแค่นั้นเก็บออมบ้าง สองคนสามีคงพอใช้ค่ะ สามีไม่ใช้บริการบัตรของอะไรเลยตอนนี้ดิฉันเก็บออมได้เดือนละ7000-9000ค่ะ ภาระลูกก็ไม่มี บ้านก็ไม่เช่าค่ะ ไม่นานคงหมดหนี้สักที หนี้ทีเกิดขึ้นมันเกิดจากความโง่เขลาของดิฉันเอง จ่ายฟุ่มเฟือยเกินกำลัง ดังนั้นผลที่จะตามมาเป็นยังไงคงต้องยอมรับและค่อยๆแก้ค่ะ เป็นกำลังใจให้ดิฉันด้วยนะค่ะ และขอปรึกษาเพิ่มเดิมค่ะหากมันมาพร้อมกันทุกหนี้ดิฉันจะปิดบางแบงค์และผ่อนปลอดดอกบางแบงค์ได้มั๊ยค่ะ เดี๋ยวให้ผ่านช่วงวิกฤต3เดือนแรกก่อนนะค่ะ ดิฉันจะมาอัพเดท พร้อมสู้แล้วค่ะรบกวนพี่ๆเพื่อนๆทุกคนเป็นที่ปรึกษาเป็นกำลังใจให้ด้วยนะค่ะ

ปล.ดิฉันเพิ่งเก็บได้เดือนแรกหลังจากหยุดจ่ายค่ะ โดยทำบัญชีแยกเลยไว้จ่ายหนี้โดยเฉพาะตามสูตรคนปลดหนี้ค่ะ และขอรักษาวินัยต้องนี้ค่ะจะได้หมดหนี้

อันไหนมา และเงื่อนไขดีสุด น่าสนใจ และเราพร้อมสุด ก็เลือกคุยและจ่ายกับรายนั้นก่อนครับ เคลียร์เป้นรายๆ ไป จะได้ไเม่มีปัญหา ส่วนที่เหลือ ก้ปล่อยไปตามกระบวนการทางกฏหมายครับ เพราะจะช่วยให้เรามีเวลาหายใจได้พอสมควร

ไปศาลไม่มีอะไรน่ากลัวครับ ไปพูดคุย เจรจา ชี้แจง และที่สำคัญ ระหว่างการดำเนินการในศาล กว่าศาลจะตัดสิน เราไม่ต้องไปกังวลอะไร เจ้าหนี้ไม่มาวุ่นวายกับเรา ไม่เสียสุขภาพจิต และที่สำคัญไม่ต้องจ่ายเงินด้วย เป็นเวลาเก็บเงินอย่างเดียว

มีเงินก้อนเมื่อไหร่ ก็รอฟังว่าเจ้าหนี้จะเสนอเงื่อนไขอะไรมา เจ้าหนี้จะโทรมาเสนอเงื่อนไขเรื่อยๆ เช่น ก่อนถึงวันศาลนัด, ก่อนเข้าห้องพิพากษา ง่ายๆ คือทุกครั้งที่เจอเรา เค้าจะเสนอเงื่อนไขให้เราพิจารณาตลอด เราก็มาดูว่า น่าสนใจและมีกำลังพอไหม ถ้าน่าสนใจ เช่น ให้ส่วนลดเยอะ หรือพอมีกำลัง คือดูแล้วส่วนลดพอสมควร แต่เราผ่อนได้ ก็เจรจายอมผ่อนชำระกับเค้า

ใจเย็นๆ ครับ มีปัญหาเรื่องกฏหมาย ก็ไปปรึกษาอาประพัฒน์ที่สวนลุม ทุกบ่ายวันอาทิตย์ได้ครับ ไม่ต้องรอให้ได้หมายศาลก้ไปได้ครับ เราจะได้วางแผน และรู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร และจะเกิดอะไรกับชีวิตบ้าง พอรู้หมดแล้ว เราจะได้หายเครียดครับ มาวางแผนตั้งรับได้เลย ว่าถึงกระบวนการนี้ จะทำยังไง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเราที่สุด

แต่ย้ำนะครับ เราเป็นหนี้ เราก็ต้องจ่าย แต่จ่ายอย่างสมเหตุสมผล และในวัน เวลา และจังหวะที่เราสะดวก ไม่ใช่ต้องโดนบังคับจ่ายโดยเจ้าหนี้ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วครับ