update 10.09.2018 // ปิดeasy buy//ขอคำปรึกษา (กรณีชำระครบกำหนด สัญญาประนอม) และขอกำลังใจ

Update 10.09.2018 ปิด easy buy ได้เรียบร้อย ด้วยยอด 20,000 บาทครับ รับหนังสือปิดหนี้เรียบร้อย หลังจากจ่ายครบ36งวด ตามข้อมูลด้านล่าง แต่หนี้ก็ยังไม่หมด เลยเก็บเงินก้อนและเจรจาปิด เจรจาหลายครั้ง จนถึงปัจจุบัน สรุปยอด20,000ปิดไปครับ

---

ขอคำปรึกษา (กรณีชำระครบกำหนด สัญญาประนอม) และขอกำลังใจ

ถามว่าหลังจากจากหมด ตามสัญญาประนอมหนี้ (ที่ไปขึ้นศาลมา และประนอมกัน) ควรทำอย่างไรต่อ เนื่องจากจ่ายครบ 36 เดือนแล้ว แต่มูลหนี้ก็ยังไม่หมด (กำลังจะชำระหมด 36 งวดแแล้ว)

1 เคทีซี มีหนี้สินทั้งสิ้น 160000

ปีแรกให้จ่าย 2000 รวม 24000
ปีที่สองให้จ่าย 3000 รวม 36000
ปีที่สามให้จ่าย 3500 รวม 42000

รวมจ่ายหนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 102000 บาท เหลือส่วนต่าง 58000


2 อีซี่บาย มีหนี้สินทั้งสิ้น 155000

ทั้ง 36 งวดให้จ่ายเดือนละ 1000 บาท

รวมจ่ายหนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 36000 เหลือส่วนต่าง 119000


พอคำนวนแล้ว ยังไงก็เหลือหนี้ที่ยังจ่ายไม่หมดอยู่ดี ตอนที่ทำสัญญาประนอมนั้น ถามทางทนายแล้ว ทนายไม่ตอบ ทนายบอกให้จ่ายตามนี้ให้หมดก่อนแล้วกัน ทั้งทนายของ เคทีซี และทนายของ อีซี่บายก็เป็นแบบนี้ เหมือนกัน บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ ว่าส่วนต่างที่เหลือต้องทำอย่างไร

อ้างอิงจากลิงค์พี่แแก้วจ่า
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&view=topic&catid=6&id=822&Itemid=64&limitstart=1020

หน้า52

คงต้องหาเงินก้อนส่วนต่างที่เหลือมาปิดรึไม่ก็เจรจาผ่อนต่อไปจนครบละครับ

ขอบคุณมากๆครับ

แล้วมีทางมั้ย ที่แบงค์จะยกหนี้ที่เหลือให้ครับ เนื่องจาก ยอดของเคทีซีที่จ่ายนั้น รวมๆแล้ว ก็เกือบเท่าเงินต้นเลยครับ

peerapat.hong เขียน: แล้วมีทางมั้ย ที่แบงค์จะยกหนี้ที่เหลือให้ครับ เนื่องจาก ยอดของเคทีซีที่จ่ายนั้น รวมๆแล้ว ก็เกือบเท่าเงินต้นเลยครับ

ไอ้พวกนี้มันเป็น Non Bank นะครับ (สถาบันนายทุน"หน้าเลือด") ที่อยู่ได้ด้วยผลกำไรและการโกงดอกเบี้ย
พวกนี้มันไม่ใช่"มูลนิธิ"นี่ครับ ที่จะมายกหนี้ให้กับลูกหนี้ฟรีๆ ทั้งๆที่ผ่านกระบวนการของศาลมาแล้ว

ถ้ามันยอมยกหนี้ที่เหลือหลังจาก"ยอมความ"บนชั้นศาลให้กับคุณจริงๆ ผมก็ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยล่ะครับ
เพราะคุณจะเป็น"คนแรก"แห่งคดีของ KTC เลยล่ะ...ที่มันยอมขาดทุน"ยกหนี้"ที่เกิดจากการ"ยอมความ"ให้กับลูกหนี้ไปฟรีๆ นับตั้งแต่มันก่อตั้งบริษัทบัตรกรุงไทยขึ้นมาในประเทศไทย


กระทู้: จะถูกบังคับคดี
consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&catid=5&id=30759&Itemid=64&view=topic

ขอบคุณมากๆครับ สำหรับข้อมูล อย่างไรก็ดี หลังจากประนอมและชำระครบ 36 งวดแล้ว ถ้าเขาไม่ยกหนี้ส่วนต่างให้ (ซึ่งเป็นหนี้ในส่วนดอกเบี้ย) ทางผมก็คงขอพักการชำระหนี้ไปก่อนครับ เนื่องจากหนักมากๆ จริงๆในช่วงปีสุดท้ายของหลายๆตัว (อาจขอเขาดีๆ ขอพักชำระ 12 หรือ 24 เดือน) ขอเขาดีๆ เพราะจะได้ มีเวลาหายใจ หายคอบ้าง

ตอนนี้ชำระหนี้ครบ 36 งวดของ easy buy แล้ว ( ตามที่เคยมีการขึ้นศาลไกล่เกลี่ย) แต่หนี้ยังไม่หมด ผ่อนต่อไหวเดือนละ 1,000 แต่มันก็ยังเท่ากับว่าที่จ่ายไปนั้น ยังไม่ได้ค่าดอกเบี้ยเลยที่จะเริ่มคิดใหม่ 15% ต่อปี ของเงินต้อนคงเหลือประมาณ 120,000 บาท ( เริ่มคิดดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งเมื่อเข้างวดที่ 37 เป็นต้นไป )

รายละเอียดยอดหนี้ทั้งหมด 205,258.21 บาท ( ประกอบไปด้วยเงินต้น 106,644.61 ดอกเบี้ย 49,148.88 ค่าธรรมเนียม 42,464.96 ค่าทวงถาม 7000 บาท )

รายละเอียด ณ วันฟ้อง
ยอดหนี้รวม 155,000 (คือเงินต้น106,644.61 +ดอกเบี้ย 15%ต่อปี ส่วนค่าอื่นๆถูกตัดทิ้งไปตอนไกล่เกลี่ย)

ตกลงไกล่เกลี่ยการชำระ 1,000 บาท 36 งวด = 36,000 บาท
และตอนนี้ชำระครบ 36 งวดแล้ว ก็ยังเหลือหนี้ส่วนต่างประมาณ 120,000 บาท แต่ easy buy ให้ผ่อนต่อเรื่อยๆ โดยงวดที่ 37 เริ่มมาคิดดอกเบี้ยไหม่อีกครั้งซึ่งอยู่ที่ 15% ต่อปีครับ

*****อย่างนี้ควรทำอย่างไรต่อดีครับ*****
- เจรจาใหม่ให้เขาหยุดดอกเบี้ยดีมั้ยครับ และรีบผ่อนชำระให้มากกว่าเดิมเป็น 2-3พันบาทเพื่อให้หนี้หมดไวขึ้น
- หรือว่าควรหยุดจ่าย แล้วเก็บเงินก้อนไว้ปิดบัญชีลูกหนี้ดีครับ แล้วระหว่างนี้เขาจะฟ้องใหม่มั้ยครับ หรือจะบังคับคดีเราอย่างไรบ้างครับ ( สัญญาเขียนไว้ว่าเราต้องชำระให้ครบ 36 งวดติดต่อกันห้ามผิดนัดชำระ หากผิดนัดชำระจะบังคับคดี )

- หรือมีข้อแนะนำอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ครับ หรือขอ link case ให้ผมไปอ่าน ไปศึกษาก็ได้ครับ

ขอบคุณครับ
( ขอบคุณเว็บนี้และประธานชมรม สมาชิกชมรมมากๆครับ หนี้ตัวอื่นๆ ผมเบาลงเยอะมากเหมือนกันครับ ในหลายปีที่ผ่านมาปิดไปได้เยอะแล้วครับ )