มือใหม่งดจ่ายมา 3 งวดแล้ว โดนกระหน่ำโทรแทบทุกวันและทั้งวัน

สวัสดีครับ ขอรายงานตัวครับ ได้อ่านบทความของรุ่นพี่แล้ว และโดนตามจิกตามทวงมากว่า 2-3 เดือนแล้ว ครับ ใหม่ๆ ก็ท้อเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มทำใจได้ จากการอ่านของพี่ๆ ครับ อยากเรียนสอบถามดังนี้ครับ

ตอนนี้ผมมีหนี้อยู่หลายใบได้ครับ กว่า 3.5 แสน ครับ แต่บังเอิญมีอยู่บัตรนึง คือ กรุงศรี ที่เป็น VISA และของ HSBC ที่ตอนนี้ได้ควบรวมกับกรุงศรีเดิมแล้ว บัตร HSCB เดิมผมเริ่มหยุดจ่ายตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 ครับ แต่ในขณะที่ กรุงศรี visa เดิม (วงเงินแค่ 30,000 ต้นๆ) ผมยังส่งในอัตรขั้นต่ำได้ ซึ่งทางคนทวงหนี้บอกว่า หากผมไม่จ่ายขั้นต่ำของ HSBC เดิมเข้ามา มันจะมีผลกระทบทำให้บัตรกรุงศรี visa ที่ส่งขั้นต่ำปกติ โดนปิดและระงับไปด้วย จริงหรือเปล่าครับ เพราะผมเองตั้งใจจะปิดเป็นใบๆ ไป เท่าที่ยังสามารถทำได้ เพราะที่ต้องรักษาไว้ ก็มีความจำเป็นในกรณีที่ต้องรักษาพยาบาลตนเอง ฉุกเฉิน หากไม่มีเงินก้อน ก็ยังมีบัตรรูดรักษาไปก่อน

เป็นหนี้บัตรนึงในบริษัทเครือเดียวกันกับอีกบัตรหนึ่ง มันผูกพันธ์ให้ใบปกติมีปัญหาตามได้ด้วยเหรอครับพี่

ผมมีหนี้ 5 บัตรๆ ละ 50000 - 80000 บาท ขณะนี้ผมหยุดจ่ายในแต่ละตัวกว่า 6 เดือนแล้วครับ มีสำนักงานตัวแทนธนาคารโทรมาเสนอส่วนลดให้ 30% - 40% -50 % บ้างก็มี ก็น่าสนใจไม่น้อย แต่เราไม่มีเงินน่ะสิครับ บางแห่งเขาบอกให้หยอดมาก่อนสัก 10% ของยอดหนี้บัตร แล้วถึงจะให้ส่วนลด 50% ก็มี แต่ปัญหาคือเราไม่พร้อมเลย เก็บเงินได้นิดเดียว ยังไงก็ปิดไม่ได้ บอกให้เขารอ เขาก็บอกว่าจะส่งเรื่องเข้าดำเนินการต่อไป มันหมายความว่าเขาจะฟ้องเราแล้วหรือเปล่าครับ แล้วหากว่าเขาฟ้องเรา ยังไงเราก็ไม่ชนะอยู่แล้วใช่หรือป่าวครับ แบบนี้เราต้องยอมความทุกกรณ๊หรือเปล่าครับพี่ แล้วโอกาสที่จะได้ hair cut อีก มันจะมีไหมครับ

เครียดมากครับ ควรทำไงดี ผมพยามเก็บเงินอยู่ แต่กลัวจะไม่ทัน กว่าถั่วจะสุกงาก็จะไหม้เสียก่อนอ่ะครับ เฮ้อออ กลุ้มมมมากครับพี่

ตัวลิ้งส์ต่างๆ ทำไมคลิกแล้วเกิด errors หมดเลยอ่ะครับ เข้าไม่ได้เลย รบกวนตรวจสอบได้ไหมครับ

ผมมีหนี้ของ HSBC ที่ตอนนี้บัตรกรุงศรีเทคโอเวอร์ไปแล้ว และโทรมาให้ hair cut ยอดผม คือ 84,000 ครับ เขาลดให้ 42,000 บาท แต่ตอนนี้ไม่มีเงินพอครับ เขาให้ผ่อนได้ 8 งวดๆ ละ 7500 บาท ก็ยังไม่มีปัญญาพอ เพราะติดปิดอีกเจ้านึงอยู่กว่าเดือนละ 8000 อีกสองเดือนก็จะหมดแล้ว แต่ไอ้กรุงศรีมันรอไม่ไหว และบอกให้รอหมายศาล ไปเจอหน้าศาลเลย แบบนี้ เรายังพอมีทาง hair cut ได้อีกไหมครับ ชักท้อๆ แล้วเหมือนกัน ลูกก็ไม่สบาย พ่อกะแม่ก็แก่มากแล้วต้องดูแลท่านอีกครับ เครียดมากๆ เลย บ่อยครั้งที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่เลยครับ แต่เห็นหน้าลูกแล้วอดร้องไห้ไม่ได้ทุกที

ช่วยแนะนำด้วยครับ ธนาคารกรุงศรีที่เงินเดือนผ่านเข้ามาโดนอายัด ถอนไม่ได้เลย ผมติดหนี้บัตรกรุงศรีวีซ่ามา 6 เดือน และบัตร HSBC ที่ปัจจุบันกรุงศรีมาเทคโอเวอร์ แบบนี้ จ้าหนี้บัตรเขาสามารถฮั้วกับธนาคารทำแบบนี้ได้เหรอครับ ทั้งๆ ที่เรื่องยังอยู่ที่สำนักงานกฎหมายแท้ๆ ยังไม่มีการฟ้อง ยังไม่มีหมายศาลใดๆ มาเลย แล้วเขามาอายัดเอาเองได้เหรอครับ

ฝากแนะนำด้วยครับ ตอนนี้ลำบากมากเลย ไม่มีเงินใช้เลย กดก็ไม่ได้ แม่ก็ป่วยด้วยครับ

อยากสอบถามผู้รู้กฎหมายครับว่า หากเราเจรจา hair-cut ปิดได้แล้วก่อนวันขึ้นศาล 10 วันนี่ (เหลืออีก 9 วันแล้ว) เรายังคงต้องไปขึ้นศาลอีกไหมครับ (นัดแรกสืบพยานครับ) ทางบัตร HSBC กรุงศรี มันบอกว่าไม่ต้องไปแล้วเพราะเราปิดหนี้แล้ว แต่พอผมทวงจดหมายรับรองการปิด มันบอกว่าให้รอ 15 วัน และศาลก็ไม่ต้องไปแล้ว เด๋วทนายมันไปถอนฟ้องให้เอง เราสามารถเชื่อใจได้แค่ไหนครับ และเรายังต้องไปศาลอีกตามที่มันบอกไหมครับพี่

รบกวนขอผู้รู้มาให้คำตอบด้วยนะครับ ตั้งแต่ตั้งกระทู้มายังไม่เคยได้รับคำแนะนำจากท่านใดเลยครับผม ขอกราบงามๆ สักครั้งนะครับพี่

พอเมื่อถึงวันนัดสืบพยานใน"นัดที่สอง" ทางทนายฝ่ายโจทก์ก็จะต้องรีบทำการ"ถอนฟ้อง"คดีดังกล่าวออกจากศาลทันที ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการสืบพยานในชั้นต่อไป

มิฉะนั้นจะเป็นการ"ฟ้องเท็จ"ต่อศาล ...เพราะต่างฝ่ายต่างก็หมดหนี้ซึ่งกันและกันแล้ว
.

ขอบพระคุณมากครับพี่นกกระจอกเทศ

แสดงว่าเราต้องไปนัดแรกเพื่อใช้สิทธิ์ก่อนใช่ป่าวครับ และนัดสองไม่ต้องไป รอจนกว่าหนังสือรับรองการปิดหนี้ให้สมบูรณ์ก่อน ผมเข้าใจถูกไหมคับ เหะๆ

ปิดตำนานหนี้ 8 ตัว ใน 1 ปีกับอีก 1 เดือน ซะทีครับ เข้ามาขอกราบขอบพระคุณงามๆ ทีมงานกรรมการบอร์ดทุกท่าน รวมทั้งตำนานทุกตำนาน ที่ให้ความรู้ สติ และปัญญาในการประคองตน ประคองสติ ให้สามารถปลดหนี้สถาบันการเงินที่รังควาญมากว่า 1 ปี สักทีครับ

บทเรียนที่ได้คือ คนเราเมื่อพลาดแล้วต้องจำและไม่เดินทางผิดอีก สติในการระงับความอยากที่จะเอาเงินในอนาคตมาใช้ต้องทำงานตลอดเวลา สิ่งที่เรียนรู้คือ หากเราวางใจให้ถูกที่ ความผิดพลาดจะไม่เกิด หรือ หากเกิดมาแล้ว เราต้องแยกแยะให้ออก หนี้ส่วนหนี้ ใจส่วนใจ ไม่เกี่ยวกัน คนจริงใจต้องนิ่งอย่างที่กรรมหารหลายท่านแนะนำ อย่าวิตก อย่ากลัว และทางออกจะมาเองครับ

ผมยอมรับว่าทนทรมานกับโทรศัพท์ตามทวงจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ สงสารพ่อแม่ที่บ้านที่ต้องมานั่งรับสาย (หากเราปิดมือถือ หรือ ไม่รับสายพวกมัน) แต่หากท่านเข้าใจ และ เราเองรักษาสติไว้ให้มั่น ให้กำลังใจตนเองเยอะๆ เก็บเล็กผสมน้อย อยู่ให้ได้ด้วยเงินเดือนตนเอง หากรายได้เสริม ทำนู่น นี่ เก็บไปเรื่อยๆ เราจะปิดหนี้ได้ ปิดทีละตัว หรือ สองตัว มีเงินเก็บคือมีอำนาจในการต่อรอง หรือแม้ไม่มีเงิน ก็มีทางเจรจากับศาลได้ ท่านไม่ได้ใจไม้ใส้ระกำจะขนาดไม่ให้โอกาสเรา แต่เราต้องขายตนเองให้ศาลเห็นใจให้ได้ ว่าไม่หนี ไม่มีเจตนาชักดาบ แต่ไม่มีจริงๆ ท่านจะพิจารณาให้อย่างเป็นธรรมทีี่สุด

ธนาคาร หรือ สถาบันการเงินปัจจุบัน โดยเฉพาะบัตร ยูโอ... นี่เขี้ยวสุดๆ ครับ ส่วนลดน้อยมาก ต่อรองยาก แถมนดยบาย (ที่พ่อมันตั้งเอง) เปลี่ยนไปมาตลอดตามอำเภอใจ ส่วนกรุงศรี ก็จ่ายสำนักกฎหมายที่ outsource จ้างมามากมายหลายเจ้ารุมกันทวง (แยกกันเดิน ร่วมกันตี) จนชนิดที่ว่ากลัวจนหายกลัวแล้ว และพร้อมให้มันฟ้องไปเลย

หากเรามีเงินเก็บพร้อมแล้ว รอให้ได้รับหมายศาล หรือก่อนถึงวันขึ้นศาล ต่อรองกับมันอีกทีก็ยังทันครับ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านเวลานี้ไปได้ทุกคน และพยามขยันอ่านกระทู้ทุกกระทู้ อ่านให้ขึ้นใจ ให้เข้าใจ ให้ซึมซับ และเราจะรู้แนวทางเองครับ อย่าลนลาน อย่ากลัวจนขี้ขึ้นหัว เพราะบางคนเกิดมาไม่เคยเจอพวกทวงหนี้ หากไม่ได้ส่วนลดที่พอใจก็อย่าไปตกลงใดๆ ครับ การ H/C ทำได้ตลอดอย่างที่พี่นกแนะนำจริงๆ

ไม่มีใครเอาอะไรไปจากเราได้ หากเราไม่ยอมครับ

วันนี้ผมนอนหลับ กินอิ่ม และมีรอยยิ้มให้กับครอบครัวอีกครั้ง ฟ้าหลังฝนมันสุดยอดจริงๆ ผมทำได้ ทุกท่านก็ทำได้เช่นกันครับ ขอให้อดทนกับการรอคอยที่แสนสุข และเอาประสบการณ์สีดำนี้เป็นบทเรียนในการดำเนินชีวิตนะครับ

วันนี้เป็นไทได้เพราะบอร์ดชมรมนี้จริงครับ ผมไม่รู้จะตอบแทนยังไงดีนอกจากโพสเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ประสบชะตากรรมที่เราเดินพลาด ทั้งตั้งใจเพราะขาดสติและการวางใจให้ถูกที่ หรือ ความจำเป็นส่วนตัวอื่นๆ ก็ตามที และขออณุญาตแบ่งปันเท่าที่ตนเองเคยฝ่าดงมรสุมทวงหนี้ ความเครียด น้ำตาของผู้ชายที่ต้องมาเสียกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ (แม้แต่จะเคยคิดจะหนีไปเมืองนอก หย่าร้าง หรือ คิดทำร้ายตนเองมาแล้วก็มี) และ ในที่สุดก็ได้ไปนั่งยิ้มในศาล และแอบสบตามองศาลสาวสวย น่ารัก (สงสัยเพิ่งได้รับโปรดเกล้า) มาแล้ว อิอิ

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ ทุกสิ่งเกิดมา ดำรงค์อยู่ และจากไปทั้งนั้น หนี้เป็นสิ่งสมมุติ และเงินทองในอนาคตที่เราไปหยิบยืมกู้มา มันก้ของสมมุติทั้งนั้น วันนี้ผมยังเป็นหนี้อยู่ คือ หนี้ธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทำให้ผมรู้จักคำว่าปล่อยวางเป็น

พอสติมา ทำให้รู้ว่าเราผิดมาครั้งนึงแล้ว จะไปผิดซ้ำซากด้วยการตกเป็นเหยื่อของความสิ้นคิดกระนั้นหรือ ผมสงสารภรรยา ลูก พ่อ แม่ ของผม สิ่งนี้เอง คือ สิ่งเดียวที่ฉุดสติของความเป็นมนุษย์คนนึงให้ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง ผมเองทำงานกินเงินเดือนแค่สามหมื่นกว่าบาทเอง อยู่หน่วยงาน NGO นึง เงินเดือนก็งั้นๆ มีลูกน้องหลายคน ที่เขาเห็นความเครียด ความเปลี่ยนแปลงของเรา ความซึมเศร้าของหัวหน้าของเขา ผลงานก็ออกมาแย่ครับ

ผมกล้าออกมาขายของ ขายนู่น นี่ นั่น ทั้งที่ไม่กล้า กลัวคนดูถูก อายลูกน้อง แต่พอตั้งสติได้ ก็ไม่กลัวอายอีกแล้ว เพราะผมอายครอบครัวมากกว่าที่ทำให้เขาเดือดร้อนใจ และกลัวเขาลำบากไม่มีกินมากกว่า เลยตั้งสติได้ว่า "พอกันทีโว้ย กับชีวิตแบบเดิมๆ อยู่แบบเซฟๆ" ก็เลยทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ และจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อไอ้พวกทวงหนี้อีกต่อไป และพร้อมแลกกับมันทุกตัว เพราะในขณะที่เราเครียดแทบตาย พวกมันยังทำธุรกิจทำนาบนหลังคนอย่างเป็นล่ำเป็นสัน และหัวเราะชอบใจกับคอมมิสชั่นที่เราหามาเซ่นสังเวยพวกมัน

สู้ๆ นะครับทุกท่าน เสียอะไรก็เสียไป แต่อย่าเสียกำลังใจเด็ดขาด ต้องสู้จึงจะชนะครับ